ใครสักคน

ร. อินทนิล

ใครสักคน
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมากลางดึกที่เงียบสงัดพร้อมกับหัวใจที่เจ็บปวด ใบหน้าของฉันยังชาเย็น ดวงตายังฉ่ำไปด้วยน้ำใสๆที่ออกมาจากระบบการทำงานของต่อมต่อมหนึ่งในร่างกายฉัน ครั้นเมื่อยกมือขึ้นมาจะเช็ดขอบตาก็รู้สึกได้ถึงความสั่นสะท้านของมือข้างนี้ ฉันลุกจากเตียงนอนอันเป็นที่รองรับความเจ็บปวดของฉันมาตั้งแต่ตอนเย็น ค่อยๆยื่นมือบิดลูกบิดประตูและก้าวขาออกมาจากห้อง ย่างเท้าเดินไปอย่างไม่มีจุดหมาย
ถนนกลางดึกคืนนี้มีรถน้อยคันวิ่งผ่าน ค่ำคืนแม้จะมืดดำแต่ก็ยังมีแสงสว่างจากไฟสลัวข้างทาง สายตาฉันมองเห็นแสงสว่างนั่นชัดเจน แต่หัวใจไม่เห็นอะไรเลย มันมืดสนิท
ก้าวแต่ละก้าวของฉันมีแต่ภาพเขากับเธอเดินอยู่ข้างๆกันในส่วนของความจำ ทั้งๆที่ฉันไม่อยากจะจำมันเท่าไหร่ แต่ดูมันจะชัดเจนซะเหลือเกินน้ำตาก็ค่อยๆทิ้งตัวลงมาเป็นสาย ฉันยกมือปาดน้ำตาและเดินต่อไป อีกครั้งที่ความรักทำให้ฉันเจ็บปวด และครั้งนี้ดูจะสาหัสสากรรจ์กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะฉันพูดไปเต็มปากว่ารัก 
ความรักของฉัน มักวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆไม่เคยเปลี่ยน เคยมีบางคน กุมมือไปด้วยกันให้ฉันอบอุ่น แต่แล้วเขาก็ไป เคยมีบางแววตา ที่ฉันมองแล้วสุขใจ แต่ก็แค่นั้น เคยมีใครที่ฉันรักเขามาก รักเป็นชีวิต แต่เขาก็ไม่รักกัน แล้วจะมีไหม ใครสักคน ที่เป็นคนของฉันจริงๆ
ตั๊ก!
ฉันหันขวับไปมองเจ้าของเสียงซึ่งจอดรถขนาบอยู่ข้างๆฉัน
ขึ้นรถเร็ว เพื่อนเอียงตัวจากฝั่งคนขับให้เห็นหน้าฉัน
ฉันยืนนิ่งอยู่ครู่ จนได้ยินเสียงแตรรถด้านหลังตวาดใส่ กลัวเพื่อนจะเดือดร้อนจึงก้าวขาเข้าไปในรถ
เพื่อนไม่ถาม ไม่พูดอะไรสักคำ ไม่เลย ฉันนั่งเงียบ เพื่อนนั่งเงียบ
สะพานพระรามแปดดูจะโรแมนติกสำหรับคู่รักที่มาจูงมือเดินเคียงกันไปบนนี้  แต่สำหรับฉันตอนนี้ล่ะ?  
เพื่อนมายืนอยู่ข้างๆฉัน เพื่อนที่หายไปจากชีวิตฉันเกือบปี วันนี้ เขามายืนอยู่ใกล้ๆ
รู้ไหม ทำไมพามาที่นี่เพื่อนพูดขึ้นโดยไม่มองหน้าฉัน แต่ฉันหันไปมองหน้าเพื่อน ยังหล่อเหมือนเดิม แต่ดูหน้าซีดกว่าแต่ก่อนมาก คงขาวขึ้น ฉันหันกลับไปมองตรงหน้า เห็นเจ้าพระยาทอดยาว และระรอกคลื่นกระทบกับแสงไฟแวบวับ
ทิ้งมันลงไปในนี้เถอะนะ อย่าถือมันไว้อีกเลย เจ็บเปล่าๆ เพื่อนว่า
ขาฉันอ่อนทรุดกองลงกับพื้นและหันหลังพิงราวสะพาน เพื่อนนั่งลงข้างๆเช็ดน้ำตาให้
หายไปไหนมาฉันถามเพื่อน
ถ้าคิดว่าเราหายไปไม่ช้า เราก็อาจจะหายไปอีก
ฉันนิ่งเงียบคิดตามที่เพื่อนพูด แต่ก็คิดไม่ออกว่าเพื่อนหมายถึงอะไรและไม่พยายามจะคิดต่อ รู้ไหมเราเจอกับอะไรบ้าง ฉันพูดประโยคนี้จบ น้ำตาก็พรูพร่างพรายจากใบหน้า ฉันก้มหน้าลงกับแขนที่พาดอยู่บนเข่าซึ่งฉันชันเข้าหาตัว เพื่อนไม่พูดอะไรต่อ เสียงรถคันหนึ่งแล่นผ่านไปกลบเสียงสะอื้นที่หลุดรอดออกมา ฉันพยายามกลั้นมันเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะกลั้นได้ แค่น้ำตาไหลมาอย่างไม่ขาดสายก็น่าอายพอแล้ว ถ้าต้องมีใครเห็น
เพื่อนจับข้อมือฉุดรั้งให้ฉันยืนขึ้น
มองไปข้างหน้านั่น อย่าก้มหน้าลงพื้นเพื่อนพยายามปลอบฉัน พยายามทำให้ฉันหลุดพ้นจากพันธนาการนี้ ฉันกลับยิ่งร้องไห้ น้ำตาไม่รู้หลากมาจากไหนนักหนา แก้มทั้งสองข้างยังไม่มีโอกาสได้แห้งสนิท เสียงสะอื้นค่อยๆชัดขึ้น ชัดขึ้น เมื่อฉันกลั้นมันไม่อยู่ ฉันอยากพูดคร่ำครวญระบายอะไรออกไปบ้างแต่มันก็พูดไม่ออก ไอร้อนที่จุกอยู่กลางลำคอ มันทำให้ฉันพูดไม่ได้ ฉันอยากจะทรุดตัวกองลงกับพื้นเพราะขาฉันมันไม่อาจจะยืนต่อไปไหว ไม่เหลือแล้วเรี่ยวแรง ไม่เหลือแล้วกำลัง ฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะสูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตไป ฉันไม่อยากเดินสู้ ไม่อยากแม้แต่จะยืน ฉันอยากนั่ง อยากนอนไปนิรันดร์เสียเลยด้วยซ้ำ
เพื่อนพยายามจับแขนฉันไม่ให้ฉันนั่ง เมื่อเห็นท่าทีฉันกำลังจะโรยตัวลง เพื่อนโน้มหัวฉันให้ซบอยู่ที่กลางหน้าอกของเพื่อน เสื้อของเพื่อนซับน้ำตาฉันจนเปียกแฉะ เรายืนนิ่งกันอยู่อย่างนั้น จนเวลาผ่านไปไม่รู้นานเท่าไหร่
ฉันยืนจับราวสะพาน มองไปข้างหน้าโดยมีเพื่อนยืนอยู่ข้างๆ
หายไปไหนมายังไม่ยอมบอก  ไม่มีคนรับฟัง ไม่มีคนปลอบใจฉันพูดขึ้น เสียงยังขาดๆหายๆ
เขาว่า ทำไมถึงคิดว่าเราหายไป ก็ยังอยู่ข้างๆนี่ไง นึกถึงเมื่อไหร่ ก็มา
เมื่อไหร่เราจะไม่ต้องเจ็บ เมื่อไหร่จะมีใครที่รักกันจริงๆ จะมีไหม ใครสักคน คนนั้น
ทำไมไม่พูดให้เร็วกว่านี้
ฉันหันไปมองหน้าเพื่อน ขณะที่สายตาเพื่อนมองไปไกลแสนไกล
เพื่อนขับรถพาฉันกลับที่พัก เรานั่งเงียบกันไปตลอดทาง ฉันมองทะลุกระจกไปยังข้างทางที่มืดสนิท แต่หัวใจเริ่มมีแสงสว่างรำไรเล็กๆ ตาฉันยังบวมแดงกล่ำ หูฉันอื้อไปหมด
รู้ได้ไง ฉันเอะใจถามเมื่อผ่านจุดที่เพื่อนจอดรถรับฉัน
รู้อะไร?
เราเป็นแบบนี้ เราอยู่ตรงนั้น
จะไปหา แต่บังเอิญเจอเดินอยู่ข้างทางเข้าซะก่อน
นึกยังไงมาหา หายไปเกือบปี
นึกถึงเราไม่ไช่หรอ บอกแล้วไงว่าไม่ได้หายไปไหน นึกถึงก็มา
แล้วทำไมหายไปเลย ไม่โทรหาเราเลย
โกรธเราไม่ใช่หรอ บอกใครต่อใครว่าเราทำให้โกรธไม่ใช่หรอ
ก็เลยไม่โทรหาเลย ไม่ง้อ งั้นสินะจริงๆก็ไม่ได้โกรธแค่น้อยใจที่ตอนนั้นเพื่อนกัน แต่ทำเหมือนเราเป็นคนอื่น
เพื่อนเลี้ยวรถเข้าไปแล้วจอดตรงหน้าที่พักที่ฉันพักอยู่
ถึงแล้ว เพื่อนพูดขึ้นหลังจากจอดรถ
ฉันก้าวขาลงมาและถามเพื่อนแล้วจะหายไปอีกไหม
เพื่อนไม่ตอบคำถามนั้นแต่พูดอย่างอื่นขึ้นมา
บางทีเราอาจจะเจอใครสักคนที่เราตามหาแล้ว เพียงแต่เรา ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครสักคนคนนั้นของเราก็ได้ มันต้องมีสิใครสักคนที่ว่า สักวันจะเจอถ้าไม่ช้าไปซะก่อน
ฉันยิ้มรับ แล้วจะหายไปอีกไหม ฉันถามซ้ำ
เพื่อนยังคงไม่ตอบได้แต่ยิ้มให้และขับรถออกไป ฉันยืนมองจนรถเพื่อนหายลับไปในถนนใหญ่ 
ฉันตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ คิดทบทวนเรื่องเมื่อคืนก่อนจะลุกจากเตียง เห็นลูกบิดประตูดูเหมือนเมื่อคืนฉันจะลืมล็อกห้อง ฉันเดินไปส่องกระจกเห็นสภาพตัวเองในนั้นแล้วแทบจะไม่อยากออกไปไหน เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นจนฉันสะดุ้งเฮือกก่อนจะเดินไปรับสาย
ว่าไง
จะไปวัดกี่โมง
วัด! วัดอะไร? ไปทำไม?
เผาศพเพื่อนไง นั่นลืมหรือว่าไม่รู้ อย่าบอกนะว่าจะไม่ไป โกรธอะไรมันนักหนา สวดศพสามคืน แกก็ไม่มาสักคืนฮัลโหล ตั๊ก ยังฟังอยู่ไหม ฮัลโหล ตั๊ก  ตั๊ก     
     
บางทีเราอาจจะเจอใครสักคนที่เราตามหาแล้ว เพียงแต่เรา ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครสักคนคนนั้นของเราก็ได้ มันต้องมีสิใครสักคนที่ว่า สักวันจะเจอถ้าไม่ช้าไปซะก่อน
ฉันยิ้มรับ แล้วจะหายไปอีกไหม ฉันถามซ้ำ
เพื่อนยังคงไม่ตอบได้แต่ยิ้มให้และขับรถออกไป ฉันยืนมองจนรถเพื่อนหายลับไปในถนนใหญ่ 
ฉันตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ คิดทบทวนเรื่องเมื่อคืนก่อนจะลุกจากเตียง เห็นลูกบิดประตูดูเหมือนเมื่อคืนฉันจะลืมล็อกห้อง ฉันเดินไปส่องกระจกเห็นสภาพตัวเองในนั้นแล้วแทบจะไม่อยากออกไปไหน เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นจนฉันสะดุ้งเฮือกก่อนจะเดินไปรับสาย
ว่าไง
จะไปวัดกี่โมง
วัด! วัดอะไร? ไปทำไม?
เผาศพเพื่อนไง นั่นลืมหรือว่าไม่รู้ อย่าบอกนะว่าจะไม่ไป โกรธอะไรมันนักหนา สวดศพสามคืน แกก็ไม่มาสักคืนฮัลโหล ตั๊ก ยังฟังอยู่ไหม ฮัลโหล ตั๊ก  ตั๊ก                                                         
                                               
THE END				
comments powered by Disqus
  • )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

    7 กันยายน 2547 06:58 น. - comment id 76760

    สวัสดีครับ
    
    มาอ่านกลอนเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่แสนดี
    
    และจะเป็นกำลังใจให้ต่อไปเรื่อยครับ
    
    
  • หลังคาแดง

    8 กันยายน 2547 12:38 น. - comment id 76809

    ทำไมจบแบบนี้ล่ะ มันเศร้านะ
  • ลอยไปในสายลม

    12 กันยายน 2547 20:17 น. - comment id 76940

    โห ทำร้ายจิตใจกันน่าดูเลยอ่า......
    
    แวะมาอ่านค่ะ แต่งได้ดีค่ะ...

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน