บนทางวันเวย์
อาภาภัส
บนทาง วันเวย์
สายลมและฝนที่ซัดกระหน่ำราวกับให้โลกถล่มทะลาย แม้นหนักสักเพียงไหน ก็มิอาจเท่าใจของเรายามนี้
ฟ้าสีสวยที่มิจำเป็นต้องมองเห็นในยามตื่นเท่านั้น แต่ยามหลับ จิตใจที่สุขสันต์ก็เห็นฟ้างามทอแสงสกาว มาบัดนี้ฝุ่นธุลีที่คละคลุ้งตามแรงพายุและแรงลมมันกลบหน้ากลบตาและกลบรอยใจให้ฟ้าสาดสีเทา งามในมุมขื่น ชื่นที่โบยบิน
ชีวินที่ถูกฟาดด้วยแส้แห่งทะเลชิวหา จะเหลือรอยว่างกลางฟ้าเป็นสีฟ้าสักนิดไหมนะ
นกน้อยบินเดี่ยวเดียวดาย ปีกที่เริ่มหลุดร่วงเนื่องจาก ต้องต้านลมแรง
มันช่างดูยับย่น และไร้รูป แรงที่ตก และกำลังตก ตกอยู่กับห้วงมืดแห่งสวรรค์
จะหาคอนอันใดเกาะในความแรงแห่งมายาธรรมชาติ ที่ต่างทำให้ยิ่งกว่าธรรมชาติ คอนใดหนอที่พอจะเกาะและหยุดพัก
มองผ่านราตรีลงเบื้องต่ำทางยาวที่เห็น แสงเรืองรองที่ฉายฉาดสาดแสง
มันมิอาจแรงทะลุ ความหม่น หนาว และเยือกเย็นที่กำลังเกิด
จริงสินะ ดับโลกแห่งเวลาฟ้าดำยังทำได้ มันใช้ความมืดแผ่คลุม และขับเลื่อนแสงสว่าง ...คงเป็นจังหวะที่ดูเหมือนจากธรรมชาติ
...........หยิบฟ้าใส่กระเป๋าได้ไหม..หรือหยิบคว้าใส่กระเป๋า....อะไรล่ะ
ความว่างเปล่า ..สะสมนานนัก ก็ ได้น้ำหนักมากกว่าเดิม ตั้งชื่อว่า คุณทุกข์สวย
มันช่างขยันแต่งตัว แล้วเต้นระบำกระโดดเกาะ ด้วยหลากลีลา...
หยิบฟ้ามาปั้นใหม่ ปั้นเป็นรูปตุ๊กตาชีวิตในดวงใจ จะสร้างค่าแต่ตุ๊กตาดีๆ จะยืมเอาวาจาสิทธิ์แห่งพระร่วงเจ้า เคล้าปั้นแต่ความงดงาม
หากบนทางวันเวย์ไร้รถ แสดงว่า ทางสร้างยังไม่เสร็จ หรือสร้างเสร็จแล้วแต่ถนนยังไม่ได้ใช้ ทางมันสิ้นสุดที่ใดเหลือจะคาดเดา จะต้องแสงเท่าใด
ใช้ดวงใจเท่าใดจึงจะพอ.....บนทางวันเวย์