ซอง(ตอนที่2)

สุชาดา โมรา

 เป็นอย่างไรบ้างครูทศธาร สบายดีใช่ไหม 
 ครับ สบายดีครับ ขอบคุณครับที่ท่านเป็นห่วง เขาตอบ รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
 แล้วการเรียนการสอนล่ะเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรบ้างไหม 
 ก็...ทุกอย่างก็เรียบร้อยดีครับท่าน เด็กๆ ที่นี่ส่วนใหญ่แล้วน่ารักดี ว่านอนสอนง่ายแล้วก็หัวไว ปฏิภาณไหวพริบดี ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรนี่ครับ 
 คุณสอนวิชาอะไรบ้างนะ 
 ผมสอนจริยธรรมกับวิชาแนะแนวครับ 
 อืมม์...คุณสอนที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว 
 หกเดือนครับ 
 ที่โรงเรียนเก่าล่ะ 
 ประมาณสองปีครึ่งครับ 
 แล้วทำไมคุณถึงได้ทำเรื่องขอย้ายซะล่ะ 
 คือว่ามันมีปัญหานิดหน่อยน่ะครับ 
 คุณพอจะบอกผมได้ไหมล่ะว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร 
 เอ่อ...คือว่า มันเป็นเรื่องของความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันน่ะครับ ระหว่างตัวผมกับท่านผอ.ของโรงเรียนเก่า คือว่าท่านไม่เห็นด้วยกับวิธีการสอนของผม 
 อืมม์...เรื่องนั้นผมก็เคยได้ยินมาบ้างแล้ว...เอาล่ะ คุณทศธาร คุณพอจะรู้ไหมว่าที่ผมเรียกคุณมาพบในวันนี้เพราะเรื่องอะไร ถึงตรงนี้สีหน้าและน้ำเสียงของท่านผอ.ดูเคร่งเครียดและจริงจังมากขึ้น
 ม...ไม่ทราบจริงๆ ครับท่าน เขารู้สึกว่าตัวเล็กลีบลงไปอีกครั้ง ท่านผอ.นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ยต่อ
 ผมขอพูดตรงๆ เลยแล้วกันนะ ก็เรื่องเกี่ยวกับวิธีการสอนของคุณนั่นแหละ 
 ทำไมหรือครับท่าน 
 มีหลายคนมาบอกกับผมว่าคุณสอนนักเรียนแบบแปลกๆ ไม่เหมือนกับที่ครูคนอื่นๆ เขาสอนกัน 
 แปลกยังไงหรือครับท่าน 
 คุณทศธาร...ในชั่วโมงจริยธรรมของชั้นป.6 คุณเคยเบิกโทรทัศน์กับเครื่องเล่นวิดีโอเทปไปจากห้องโสตฯ ใช่ไหม 
 ใช่ครับท่าน 
 จริงหรือเปล่าที่ว่าคุณเอามันไปเปิดหนังการ์ตูนเรื่องอุลตร้าแม นให้เด็กนักเรียนในชั้นดู 
 จริงครับท่าน 
 นั่นยังไงล่ะ 
 ทำไมหรือครับท่าน 
 ยังมีหน้ามาถามอีก ก็ไอ้ที่คุณเอาอุลตร้าแมนไปฉายให้เด็กๆ ดูในชั่วโมงจริยธรรมนั่นยังไม่แปลกพออีกหรือไง มีครูคนไหนบ้างในประเทศนี้ที่เขาทำอย่างคุณกัน ท่านผอ.เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่ห้วนขึ้นเรื่อยๆ 
 อ๋อ...ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง ผมก็นึกว่าเรื่องอะไรเสียอีก แปลกไหม ? ผมว่าก็คงแปลกมั้งครับ ส่วนจะมีครูคนไหนบ้างในประเทศนี้ที่ทำอย่างผม อันนี้ผมก็จนปัญญาที่จะตอบเพราะไม่รู้จริงๆ ครับท่าน...แต่ท่านผอ.ครับ ที่ผมทำไปอย่างนั้นไม่ใช่เพราะว่าผมขี้เกียจสอนหรอกนะครับ หากแต่ว่าการ์ตูนเรื่องอุลตร้าแมนนั้นเป็นส่วนหนึ่งของสื่อการส อนของผม เขาตอบออกไปตามจริง
 ก๊าก ก๊าก ก๊าก...ห้า ห้า ห้า...ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมอยากจะหัวเราะเสียให้ฟันร่วง คุณไปเอามาจากไหนกันฮ้า ! คุณทศธาร ไหนคุณลองบอกผมหน่อยซิว่า มันอยู่ในหลักสูตรการสอนฉบับไหนกัน ไอ้อุลตร้าแมนเนี่ย ผมไม่เห็นจะเคยได้ยินเลย 
 ใช่ครับท่านผอ. มันไม่มีบรรจุอยู่ในหลักสูตรการสอนฉบับไหนหรอก แต่ท่านผอ.ครับ ในฐานะที่ผมเป็นครูผู้สอน ผมย่อมมีสิทธิ์ที่จะสอดแทรกเนื้อหาใดๆ ก็ตามที่เห็นว่ามีความเหมาะสมได้ รวมถึงการใช้สื่อประกอบการสอนในรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความเข้าใจในเนื้อหาของรายวิชานั้น ๆ ได้ดียิ่งขึ้นไม่ใช่หรือครับ ในเมื่อวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของวิชานี้ก็คือ เพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจในหลักของจริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม และมโนธรรม ว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไร มีที่มาจากไหนและมีความจำเป็นต่อระบบสังคม ต่อการดำรงชีวิตอยู่ของพวกเขาอย่างไร... ลึกๆ แล้วเราหวังว่าระบบการศึกษาจะช่วยปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ลงในหัวใจ ของพวกเขา ให้มันค่อยๆ หยั่งรากลึกลงไปในจิตใจ เพื่อที่วันหนึ่งข้างหน้าพวกเขาจะได้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที ่มีคุณภาพ...ที่ไม่ใช่เพียงแค่เป็นคนฉลาด เรียนจบสูงๆ ได้ปริญญาหลายๆ ใบ ทำงานได้เงินเดือนเรือนหมื่นเรือนแสน มีหน้ามีตาในสังคม แต่พร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งในสิ่งที่ตนเองต้อง การโดยไม่คำนึงถึงวิธีการว่าจะถูกหรือผิด ดีหรือเลว จะชั่วช้าต่ำทรามหรือสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นสักเพียงไหน... หากแต่เราหวังว่าพวกเขาจะเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณธรรม มีศีลธรรมในหัวใจเข้าอกเข้าใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่เอาแต่ได้เห็นแก่เพียงประโยชน์ส่วนตนแต่เพียงอย่างเดียวโดยไ ม่คำนึงถึงผู้อื่น เราหวังว่าพวกเขาจะเติบโตขึ้นมาเป็นคนดีไม่ใช่หรือครับ... แต่ท่านผอ.ครับ ท่านลองมองไปรอบๆ ตัวทุกวันนี้สิครับ แล้วท่านจะเห็นว่าสังคมของเราทุกวันนี้มันเปลี่ยนแปลงไปมากมายข นาดไหน รอยยิ้มบนใบหน้าของคนไทยค่อยๆ จางหายไป พร้อมๆ กับน้ำใจที่ค่อยๆ แห้งเหือดไปในเวลาเดียวกัน เดี๋ยวนี้กลายเป็นต่างคนต่างอยู่ ต่างทำมาหากิน ต่างเหยียบหลังกันขึ้นไป สังคมมีแต่การแก่งแย่งแข่งขันชิงดีชิงเด่น ผู้คนเร่งรีบกันเสียจนหลงลืมคุณค่าบางอย่างไป ทั้งที่มันเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่อย่างที่ทำให้เราแตกต่างไปจาก สัตว์ เดี๋ยวนี้คุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรม กลายเป็นขั้วตรงกันข้ามกับคำว่าความอยู่รอด คนเรามักจะเอ่ยอ้างเหตุผลเพื่อความอยู่รอดมาเป็นข้ออ้างในการกร ะทำสิ่งที่ผิดต่อหลักคุณธรรม ศีลธรรม และจริยธรรม กลายเป็นว่าถ้าต้องการที่จะอยู่รอดในสังคมก็ต้องทำเป็นแกล้งหลง ลืมสิ่งเหล่านี้ไปเสีย... 
เขาหยุดพูดเพราะไม่แน่ใจว่าท่านผอ.ยังสนใจฟังอยู่หรือเปล่า
 อืมม์...พูดต่อไปสิ ผมกำลังฟังอยู่ ท่านผอ.เริ่มมีท่าทีเปลี่ยนไป
 แล้วก็แน่นอนครับท่านผอ. ว่าจะต้องมีปัจจัยและตัวแปรที่เกี่ยวข้องมากมายที่ทำให้สังคมเป ลี่ยนแปลงไปขนาดนี้ ทั้งวัฒนธรรมการบริโภควัตถุ กระแสของค่านิยมตะวันตกที่หลั่งไหลเข้ามา และอีกหลายๆ อย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่สามารถจะปฏิเสธได้ก็คือความล้มเหลวของระบบ ครอบครัว ระบบสังคม รวมทั้งระบบการศึกษาด้วย ที่ไม่สามารถปลูกฝังคุณค่าทางศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรมลงในจิตใจของผู้คนได้สำเร็จ...โดยปกติแล้วสำหรับคนทั่วไป เรื่องของจริยธรรมก็เป็นเรื่องที่น่าเบื่อในตัวของมันเองอยู่แล ้วในความรู้สึกของผู้คน ยิ่งมาบวกกับรูปแบบการเรียนการสอนที่น่าเบื่อ ล้าหลัง ไม่มีการพัฒนาไปตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยแล้ว นั่นยิ่งทำให้เด็กนักเรียนรู้สึกเบื่อและง่วงเหงาหาวนอนมากขึ้น ไปอีกเมื่อเข้าเรียนวิชานี้ ผมจึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราควรจะหันมาปฎิวัติรูปแบบการเรียนก ารสอนเสียใหม่ ให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อะไรก็ตามที่จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ เห็นคุณค่าของการทำความดี และอยากที่จะเป็นคนดี สิ่งที่จะช่วยกระตุ้นให้เด็กๆ ตื่นตัวที่จะแสดงความคิดเห็น สนใจที่จะวิพากษ์วิจารณ์และแลกเปลี่ยนทัศนะระหว่างกัน โดยมีครูผู้สอนคอยดูแลชี้แนะให้คำปรึกษา แทนที่จะเป็นการเขียนกระดานดำแล้วให้นักเรียนจดตามเพื่อกลับไปท ่องเป็นนกแก้วนกขุนทอง หวังผลระยะสั้นเพียงแค่สอบผ่านให้ได้คะแนนดีๆ แล้วก็ลืมเลือนมันไปโดยที่ไม่เคยเข้าใจอะไรอย่างแท้จริง...ในขณะเดียวกัน ผมคิดว่าก็ถึงเวลาแล้วเช่นกันที่คนที่เป็นครูควรจะหันมาสำรวจตร วจสอบตนเองเสียใหม่ การเป็นครูที่ดีนั้นใช่เพียงการเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ จบปริญญาโท ปริญญาเอกหรือมีพรสวรรค์ในการถ่ายทอดเท่านั้น หากแต่ยังควรที่จะเป็นครูทางจิตวิญญาณด้วย คือสามารถที่จะช่วยชี้แนะ กระตุ้นให้เด็กนักเรียนได้คิด ได้ค้นคว้าหาความหมาย ได้ทำความเข้าใจกับบทบาทและสถานะของตัวพวกเขาเองที่มีต่อครอบคร ัว ต่อสังคมและผู้คนรอบข้าง ต่อประเทศชาติไปจนถึงต่อโลก รวมทั้งช่วยชี้แนะให้พวกเขาได้เข้าใจถึงคุณค่าของการดำรงอยู่ ความหมายของชีวิต วิถีทางที่จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข ตลอดจนกระตุ้นให้พวกเขาได้ค้นหาเส้นทางของตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้หาใช่เป็นหน้าที่ของครูวิชาแนะแนวหรือครูคนใดค นหนึ่งไม่ หากแต่เป็นหน้าที่ของ  ครู ทุกๆ คนที่จะต้องช่วยกันทำต่างหาก... 
 ........ ท่านผอ.ยังคงนิ่งฟังมองจ้องตรงมายังเขา เขาจึงตัดสินใจพูดต่อ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน