ชายวิปลาส

สุชาดา โมรา

เอาเลยสิ ! ข้าขอร้อง ข้าปรารถนามันมานานแล้ว ข้าขอร้อง ทำไมล่ะ...ทำไมท่านถึงไม่ยอมสนองตอบคำวิงวอนจากข้า กับผู้ที่ไม่เคยปรารถนาท่านกลับหยิบยื่นให้ ทั้งที่พวกเขายังอาวรณ์กับชีวิต แต่กับผู้ที่ต้องการจะปลดปล่อยตนเองให้เป็นอิสระจากขื่อคาพันธน าการแห่งชีวิตอย่างข้า ผู้ที่ไม่เคยแยแสในคุณค่าของลมหายใจ ท่านกลับเหนี่ยวรั้งเอาไว้เพื่อสิ่งใดกัน ! 
ท่านต้องการอะไรจากข้ากันแน่...ความเจ็บปวดทุกความเจ็บปวดที่ข้ าจ่ายไปยังไม่สาแก่ใจท่านอีกหรือ เจตจำนงที่แท้จริงของท่านคือสิ่งใด ไยจึงต้องกระทำต่อข้าเยี่ยงนี้ ได้โปรดเถอะ...ข้าขอร้อง ข้าขอคุกเข่าลงตรงเบื้องหน้าท่าน ข้าขอวิงวอนต่อท่าน ได้โปรดรับฟังเสียงกู่ตะโกนอันเงียบสนิทนี้ด้วยเถิด ข้าจะไม่แข็งขืน ข้าจะไม่ต่อสู้ ข้าจะไม่ดิ้นรนแสวงหาสัจจะอีกต่อไปแล้ว ข้าเหนื่อยเหลือเกิน 
หลังจากการเดินทางตรากตรำทางจิตวิญญาณอันยาวนาน คมดาบแห่งกาลเวลาทิ่มแทงข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ข้าเหมือนหลับตาเดินไปในความมืด บุกฝ่าดงหนามอันแหลมคมแห่งการแสวงหา มันเกี่ยวบาดข้าครั้งแล้วครั้งเล่า มันทิ่มแทงผิวกายข้าลึกไปถึงในกระดูก...เจ็บปวดเหลือเกิน เลือดข้าหลั่งริน ข้ากระหาย ไร้ทางเลือกใด นอกจากก้มลงไปดื่มกินหยาดโลหิตของข้าเอง เค็มคาวฝาดเฝื่อน ข้าสำรอกเลือดชั่วของตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า 
ข้ากระหน่ำฟันจอบลงไปในใจ ข้าขุด ข้าคุ้ยจิตใต้สำนึกของข้า ข้าต้องการเห็นข้าในมุมมืด ข้าปรารถนาจะกระชากหน้ากากของมันออกมา ข้าอยากจะเอาชนะความต้องการของตัวเอง เอาชนะข้อจำกัดของตนเอง ข้าต้องการอยู่เหนือกฎแห่งสัญชาตญาณดิบทุกข้อ แต่แรงกายแรงใจและความพยายามทั้งหมดที่ทุ่มเทลงไปช่างดูไร้ค่า. ..ข้าเห็นตัวเองเป็นเพียงหอยทากที่กำลังคืบคลานไปบนใบมีดโกนอย่ างเชื่องช้า ค่อยๆ ฝังเนื้อของตัวเองเข้าไปในคมมีดอย่างไม่มีทางเลือก เพียงเพื่อจะพบกับความทุกข์ทรมานอันไม่มีที่สิ้นสุด ท้ายแล้วสิ่งที่ข้าได้กลับคืนมาในทุกครั้งก็คือความว่างเปล่าอั นไร้สาระไร้แก่นสาร 
ข้าหมดเรี่ยวแรงและกำลังใจที่จะเดินทางเพื่อแสวงหาอีกต่อไป วัยหนุ่มอันร้อนแรงของข้าปรารถนาจะหลุดพ้น แต่จิตวิญญาณชราของข้าล้าเกินกว่าจะทำอะไรได้ สัจจะช่างแห้งแล้งดั่งทะเลทราย ข้าสงสัยนักว่าท่านให้เจตจำนงเสรีแก่ข้ามาทำไม หรือข้าเป็นเพียงสายพันธุ์ที่ถูกสาป ทำไมท่านถึงได้จงเกลียดจงชังพวกข้านัก จึงปล่อยให้พวกข้าทนทุกข์ทรมานอย่างโดดเดี่ยว เคว้งคว้าง ไร้ที่พึ่งใด ท่านสาปให้พวกข้าเป็นสายพันธุ์เดียวที่กระดูกสันหลังตั้งฉากกับ พื้นโลก ท่านสาปให้พวกข้ามีมันสมองที่ใหญ่ที่สุด แต่กลับโง่ ท่านให้ข้าตื่นในขณะที่ข้ายังหลับ ท่านให้ตาที่สามแก่พวกข้า แต่กลับแกล้งปิดมันไว้ ท่านขังข้าไว้ในคุกของความคิด คุกที่อับชื้น มืดสนิทและไร้ทางออก ท่านสนุกนักหรือไงกับการนั่งมองพวกข้าพายเรืออยู่ในอ่าง... 
ท่านเป็นโรคจิตหรือไงถึงได้มีความสุขอยู่บนความทุกข์ของผู้อื่น !
ข้าไม่รู้ว่าท่านเป็นใคร ข้าไม่รู้ว่าท่านชื่ออะไร ข้าไม่รู้ว่าท่านอยู่ที่ไหน ข้าไม่รู้ว่าท่านมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ ข้ารู้แต่ว่าข้าไม่ชอบขี้หน้าท่าน ! ข้ารู้แต่ว่าข้าเกลียดท่านยิ่งนัก ! ท่านมันไอ้โรคจิต ! ข้าเกลียดท่าน ! อย่าให้ข้าได้เจอ ถ้าข้ามีโอกาส ข้าสาบานว่าข้าจะฆ่าท่านด้วยมือของข้าเอง ! 
ข้าจะปลดปล่อยมวลมนุษยชาติให้เป็นอิสระจากพันธนาการทั้งปวง ข้าจะใช้อำนาจของท่านเปิดดวงตาแห่งปัญญาให้กับพวกเขา ให้พวกเขายุติการดิ้นรนไขว่คว้าทั้งปวง ให้พวกเขารู้ว่าชีวิตนั้นแสนสั้นนัก...เกินกว่าที่จะเกลียดกันต ลอดไป ให้พวกเขาเลิกทำร้ายกันด้วยความไม่รู้ เลิกเอารัดเอาเปรียบกัน ให้พวกเขารักกัน 
แล้วข้าจะฆ่าท่าน ! ฆ่าท่านให้ตายอย่างช้าๆ ให้ทุกข์ทรมานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ข้าจะแปรเปลี่ยนความเกลียดทั้งปวงในใจให้เป็นพลังเพื่อสยบท่าน ! เพื่อทรมานท่าน ! ให้มันสาสมกับที่ท่านกระทำกับพวกข้าไว้ ข้าจะใช้ขวากหนามแห่งการแสวงหาพันธนาการท่านไว้ ข้าจะใช้ดาบแห่งกาลเวลาค่อยๆ แล่เนื้อเถือหนังท่านทีละนิด แล้วกระหน่ำแทงท่านสักร้อยครั้งพันครั้ง ! ข้าจะใช้มืออันต่ำต้อยของข้า ควักหัวใจท่านออกมาดู ข้าอยากจะรู้นักว่ามันทำด้วยอะไร ข้าจะบั่นคอท่านต่อหน้าชนทั้งปวง แล้วเอาเลือดของท่านมาใช้ล้างตีนให้มันสาแก่ใจ !
แต่ไม่นะไม่ไม่ใช่ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น ข้าขอโทษ ข้าไปไกลเกินไป ข้าขออภัย ข้าไม่ได้หมายความอย่างที่ข้าคิดได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วยข้ายอมแล้ว ข้าขอหมอบศิโรราบอยู่ใต้ฝ่าตีนของท่าน ข้าขออภัยที่ความเขลาทำให้ข้าเคยแหงนหน้ามองฟ้าแล้วตะโกนด่าท่า น ข้ารู้ว่าข้าไม่สามารถปิดบังท่านได้ ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำอีก ข้าจะไม่แข็งขืนกับท่านอีกต่อไปแล้ว ข้าจะหมอบอยู่ใต้ฝ่าตีนของท่านตลอดไป 
แต่แต่ข้ายังสงสัยยิ่งนัก ข้าสงสัยว่าท่านให้มันสมองที่ใหญ่โตแก่พวกข้ามาทำไม ถ้ามันไม่ได้ทำให้พวกข้าแตกต่างไปจากสัตว์ ข้าเห็นคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะใช้มันนัก ข้าเคยดูถูกผู้คนที่ไม่สนใจแสวงหาสัจจะ พวกที่มีลักษณะประนีประนอมในทุกสิ่ง พวกที่สนใจแต่ในเรื่องของวัตถุ ข้าปฏิเสธทุกสิ่ง ข้าหันหลังให้กับพวกเขาแล้วเริ่มเดินทางแสวงหาสัจจะ... จนถึงวันนี้ ข้าถึงได้เข้าใจว่าในอีกนัยหนึ่งแล้ว พวกเขาก็เหมือนผู้บรรลุแล้ว...ที่หมกมุ่นอยู่แต่ในโลกของผัสสะ เพราะในอีกด้านหนึ่งที่ปวงปราชญ์แสวงหา...ก็เจอแต่ความว่างเปล่ า หรือว่าสมองเป็นเพียงอวัยวะที่ถูกสาปมาให้คู่กับมนุษย์จริงๆ เช่นเดียวกับความว่างเปล่าและเสรีภาพ 
โอ...ได้โปรดเถอะ ข้ายอมแล้ว ข้าขอยอมแพ้แก่ท่าน ข้าขอหมอบศิโรราบอยู่ใต้ฝ่าตีนของท่าน ข้าขอกราบกรานต่อท่าน ได้โปรดเถอะ...ข้าเหนื่อยล้าเหลือเกิน ได้โปรดเอามันออกไปจากหัวของข้า ข้าต้องการที่จะยุติการเดินทางอันยาวนานในหัวสมองเสียที มันช่างทรมานเหลือเกิน...ได้โปรดเถอะ ข้ายอมแล้ว ข้าขอหมอบศิโรราบอยู่ใต้ฝ่าตีนของท่าน ได้โปรดหยิบยื่นมันให้กับข้าด้วยเถิด...ความตายอันแสนสุข...ข้า ปรารถนามันยิ่งนัก ได้โปรดเถอะ...ก่อนที่ข้าจะเปลี่ยนใจ งับหัวแม่ตีนของท่าน !				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน