คดีนี้ต้องไม่แพ้ ไอ้นพย้ำ เพราะมันหมายถึงอนาคตหน้าที่การงานของกูด้วย ก็มันแพ้เขาแหงๆ ต่อให้เอาเทวดามาว่าความให้ก็แพ้ เอาเหอะ มึงขึ้นมาช่วยกู เพราะกูเองไม่มีปัญญาทำอะไรแล้ว และนัดคราวนี้ศาลก็กำชับไม่ให้ขอเลื่อนคดีแล้ว แต่กูบอกมึงก่อนนะว่ากูมีเงินแค่ซื้อตั๋วรถไฟไป-กลับให้มึง แล้วมึงจะเสียตังค์โดยใช่เหตุทำไมวะ กูบอกแล้วไงว่าโอกาสชนะเป็น 0 ผมไม่วายทักท้วงมันก่อนที่จะยอมทำตามคำขอร้องของมัน ผมเพิ่งรู้จักไอ้นพได้ไม่นานนัก ตอนที่ผมเดินทางไปว่าความที่สงขลา แล้วบังเอิญว่ามันโดยสารรถไฟขบวนเดียวกับผม โดยเพื่อนร่วมทางของผมเป็นผู้แนะนำให้รู้จักกัน ความที่วิชาการที่จำเป็นในการว่าความของมันค่อนข้างอ่อนแอ ทำให้มันต้องเอางานที่มันได้รับมอบหมายมาปรึกษาผมอยู่เนืองๆ จนกระทั่งมันตัดสินใจกลับไปตายรัง คือกลับไปทำมาหากินที่เชียงใหม่ แล้ววันหนึ่ง มันก็โทรศัพท์ทางไกลมาหาผมเพื่อปรึกษาคดีที่มันรับมา ก็แค่คดีแพ่งที่ฟ้องเรียกเงินตามเช็ค จำนวนเงินตามเช็คแค่ห้าหมื่นบาท แถมเป็นทนายความฝ่ายจำเลยด้วย แบบนี้มันจะได้ค่าจ้างว่าความไม่กี่พันบาทหรอก หลังจากที่ลงทุนเสียค่าโทรศัพท์ทางไกลเพื่อปรึกษาผมได้ไม่กี่คร ั้ง มันก็ตัดบทเอาดื้อๆว่าให้ผมเดินทางไปเชียงใหม่เพื่อว่าความคดีน ั้นแทนมัน จากข้อมูลที่ไอ้นพมันบอกมา จำเลยในคดีดังกล่าวคือพระภิกษุรูปหนึ่งซึ่งขณะนั้นกำลังมีชื่อเ สียงขจรขจายเล่าลือกันว่าท่านเทศนาได้ไพเราะจับใจคนฟังจนเป็นที ่ศรัทธาของบรรดาญาติโยมทั่วประเทศไทย ส่วนเช็คฉบับที่ถูกฟ้องเป็นเช็คผู้ถือ หมายถึงเช็คที่สั่งธนาคารจ่ายเงินให้แก่ใครก็ตามที่นำเช็คฉบับน ั้นมาเรียกเก็บเงิน เช็คแบบนี้หากจะโอนเปลี่ยนมือก็เพียงแค่ส่งมอบเช็คให้กันไปโดยไ ม่ต้องมีการสลักหลังให้ยุ่งยาก ซึ่งถ้านำมาฟ้องร้องทางแพ่งแล้ว ฝ่ายโจทก์มีภาระการพิสูจน์เพียงแค่นำสืบให้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่ายในเช็คฉบับนั้นๆ และเมื่อได้นำเช็คไปเรียกเก็บเงินหรือที่ภาษาชาวบ้านพูดกันสั้น ๆว่า ขึ้นเงิน แล้ว ธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน ส่วนฝ่ายจำเลยมีหนทางเดียวที่จะเอาตัวรอดได้คือต้องหาพยานหลักฐ านมาแสดงให้ศาลเชื่อว่าโจทก์ได้รับเช็คมาโดยไม่สุจริต แต่หนทางเดียวที่ว่านี้เป็นทางตันเพราะในทางปฏิบัติแล้วเป็นเรื ่องที่เป็นไปไม่ได้ เกือบตลอดระยะทางบนรถไฟเที่ยวนั้น ผมนึกถึงแต่ภาพยนตร์โทรทัศน์ชุดหนึ่งมีชื่อภาษาไทยว่า ขบวนการพยัคฆ์ร้าย แต่ชื่อภาษาอังกฤษสิ Mission impossible แปลเป็นไทยว่าภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ มันช่างเหมาะเจาะกับสภาพภารกิจที่ผมกำลังเดินทางไปปฏิบัติเสียจ ริงๆ หลังจากไปถึงเชียงใหม่ ไอ้นพก็โอดครวญให้ผมฟังว่ามันคงไปไม่รอดในวิชาชีพทนายความแล้ว เพราะนอกจากมันจะไม่แม่นข้อกฎหมาย และไม่ค่อยรู้จักใครแล้ว มันยังเสือกไม่มีใจรักที่จะเป็นทนายความด้วย และตอนนั้นมันเพิ่งจะได้เป็นลูกจ้างชั่วคราวของมหาวิทยาลัยแห่ง หนึ่ง โชคดีที่ได้รู้จักอาจารย์ชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่จะสามารถสนับสนุ นให้มันเลื่อนฐานะเป็นลูกจ้างประจำและข้าราชการประจำไปในที่สุด ได้ และอาจารย์คนนี้เป็นคนหนึ่งที่เลื่อมใสศรัทธาพระภิกษุรูปนี้ และติดต่อให้มันเป็นทนายความต่อสู้คดีให้พระ รวมทั้งเป็นคนกำหนด เงื่อนไขของการแพ้ไม่ได้ให้กับมันด้วย ตอนนั้นผมก็ยังอ่อนเยาว์ทั้งในฐานะทนายความและต่อโลก เลยนึกไม่ออกว่ามันมีความจำเป็นอะไรที่พระภิกษุจะแพ้คดีชาวบ้าน ไม่ได้ โดยเฉพาะในเมื่อพิจารณาทั้งจากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายโดยละเอี ยดแล้วก็ไม่มีหนทางใดๆ ที่จะพลิกแพลงรูปคดีได้เลย จนกระทั่งไอ้นพพาผมไปพูดคุยกับอาจารย์คนนี้แหละผมถึงได้รับรู้ว ่าการพ่ายแพ้คดีนั้นอาจหมายถึงการเสื่อมศรัทธาของคนทั่วไปที่มี ต่อพระด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่พระจะยอมเสี่ยงไม่ได้อย่างเด็ดขาด ผมหายแปลกใจแล้วว่าทำไมไอ้นพถึงไม่เชื่อฟังตอนที่ผมแนะนำให้มัน ขอประนีประนอมด้วยการขอลดยอดหนี้หรือขอผ่อนชำระให้แก่โจทก ์ ซึ่งเป็นวิธีการง่ายๆ ที่ทำกัน แต่ที่ไม่หายไปซ้ำกลับพอกพูนขึ้นก็คือความอึดอัดใจ ภาระของไอ้นพที่ตอนนั้นถูกโอนมายังผมทั้งหมดแล้วมีเป้าหมายที่ม ืดแปดด้านจริงๆ จนแม้คืนนั้นผมจะลองนอนคิดอีกทั้งคืนก็ยังมองไม่เห็นช่องทาง เช้าวันรุ่งขึ้น เราออกเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปยังอำเภอพร้าว เพราะสมัยนั้นยังมีการส่งผู้พิพากษาจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ไปนั ่งพิจารณาคดีที่นั่น โดยอาศัยสถานที่ของที่ว่าการอำเภอพร้าวทำเป็นห้องพิจารณา และเรียกเป็นภาษาราชการว่า ศาลเคลื่อนที่ประจำอำเภอพร้าว เราแวะกินข้าวมื้อเช้าที่บ้านโยมของพระก่อนที่จะไปศาล ที่นั่นทำให้ผมยิ่งเครียดกับภารกิจที่ได้รับนั้นมากขึ้นเพราะมี ชาวบ้านมาคอยต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง แถมไอ้นพดันเสือกบอกกับคนพวกนั้นว่าผมเป็นทนายความฝีมือดีที่มั นจุดธูปเชิญมาจากกรุงเทพฯ เสียอีก ตอนรถแล่นออกจากบ้านนั้น สายตาหลายคู่ที่แสดงการฝากความหวังทั้งหมดไว้กับผมทำให้ผมแอบอธ ิษฐานขอให้มีเครื่องบินสักลำบินมาตกใส่รถที่ผมนั่งอยู่นั้นเสีย แต่คำอธิษฐานของผมไร้ผล ขณะที่รถค่อยๆแล่นผ่านประตูรั้วของที่ว่าการอำเภอพร้าวเข้าไป ไอ้นพชี้ให้ผมดูรถเบ๊นซ์ 300 ป้ายแดงซึ่งจอดอยู่พร้อมบอกผมว่าฝ่ายโจทก์มาถึงก่อนเราแล้ว แสงแห่งความหวังเจิดจ้าขึ้นมาในความคิดของผมทันที ผมรีบบอกให้ไอ้นพชี้ตัวโจทก์ให้แล้วโอนภาระงานธุรการเกี่ยวกับก ารติดต่อกับศาลทั้งหมดให้มันก่อนที่จะเข้าไปยกมือไหว้ทักทายคู่ ความฝ่ายตรงข้าม พ่อเลี้ยงครับ ผมเอ่ยทักก่อนที่จะแนะนำตัว ผมขอรบกวนคุยกับพ่อเลี้ยงสักนิด คือผมคิดดูแล้วว่าคนระดับพ่อเลี้ยงไม่น่าจะลงทุนขับรถมาจากน่าน เพื่อฟ้องคดีนี้เลยนี่ครับ ผมต้องการพิสูจน์ว่าตุ๊ตนนี้บ่ดี พ่อเลี้ยงตอบเสียงเครียด ไม่ดียังไงบ้างครับ ผมก็ไม่รู้จักหรือสนใจอะไรท่านมาก่อนหรอก คดีนี้เพื่อนมันขอให้ผมมาช่วยผมก็มา ยังไม่รู้เรื่องอะไรในคดีนี้มากด้วยซ้ำ ได้ผลแฮะ พ่อเลี้ยงระบายความอัดอั้นใจให้ผมฟังเสียยืดยาว ซึ่งผมก็ฟังด้วยความเห็นอกเห็นใจ พ่อเลี้ยงคงไม่มีโอกาสทำอย่างที่ตั้งใจหรอกครับ ผมติงหลังจากพ่อเลี้ยงเล่าความเป็นมาจบแล้ว ในศาลนี่เราไม่ได้มีโอกาสให้การนอกเรื่องนอกราวตามใจเรา อย่างคดีนี้ประเด็นมีแค่ว่าเช็คนี่พระลงชื่อสั่งจ่ายแล้วก็มีคน เอาไปจ่ายค่าวัสดุก่อสร้างที่ซื้อจากพ่อเลี้ยง เรื่องอื่นๆที่พ่อเลี้ยงเล่าให้ผมฟังนี่มันนอกประเด็นนะครับ ผมพักหายใจหายคอบ้าง ผมเชื่อว่าพ่อเลี้ยงไม่ได้โกหกผม แต่พ่อเลี้ยงก็น่าจะเชื่อผมบ้างว่าพ่อเลี้ยงไม่มีโอกาสเอาเรื่อ งนอกประเด็นมาพูดได้มากขนาดนั้นหรอก ถึงตอนนี้พ่อเลี้ยงอึ้งไป คดีนี้พ่อเลี้ยงชนะแน่นอนครับ แต่พ่อเลี้ยงจะไปยึดทรัพย์พระถึงในวัดเชียวหรือ แล้วทรัพย์สินเหล่านั้นก็มาจากศรัทธาชาวบ้านทั้งนั้นด้วย ตอนท้ายนี่ผมอาศัยความรู้ว่าชาวล้านนามีความเชื่อเคร่งครัดเรื่ องไม่ควรเอาของวัดมาเป็นของตน ได้มาเท่าไหร่ผมก็จะเอาไปทำบุญทั้งหมด พ่อเลี้ยงตอบไม่ทันขาดคำเจ้าหน้าที่ศาลก็เรียกให้รีบเข้าห้องพิ จารณาเพราะผู้พิพากษากำลังจะขึ้นนั่งบนบัลลังก์ เมื่อเข้าไปในห้องพิจารณาซึ่งอยู่มุมสุดของอาคารชั้นล่าง ผมมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นชาวบ้านยืนกันสลอน ลองกะประมาณด้วยสายตาก็คงสักสองร้อยคนขึ้นไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชาวบ้านเหล่านี้คอยเอาใจช่วยฝ่ายไหน ทันทีที่ศาลเริ่มดำเนินกระบวนพิจารณา ผมรีบแถลงต่อศาลว่าผมได้คุยอะไรกับพ่อเลี้ยงมาบ้าง และเน้นว่าไม่อยากเห็นคดีนี้ลงเอยอย่างน่าอเน็จอนาถต่อความรู้ส ึกของชาวพุทธ ปิดท้ายด้วยการเสนอขอให้โจทก์เอาเงินจำนวนนั้นทำบุญกับวัดที่จำ เลยจำพรรษาโดยไม่ต้องไปทำบุญที่อื่น โจทก์จะว่าอย่างไรล่ะ ศาลว่าที่ทนายจำเลยเขาเสนอมานี่ก็ดีนะ ผู้พิพากษาซึ่งมีความเห็นคล้อยตามผมช่วยไกล่เกลี่ย ผมไปทำบุญที่อื่นดีกว่าครับ เพราะถ้าทำที่นี่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอาเงินผมไปทำอะไร ทำไมจะต้องคิดมากขนาดนั้นล่ะ ผู้พิพากษาติง คนเราทำบุญมันสำคัญตรงได้ทำ ทำแล้วก็อิ่มเอิบใจ ไม่ต้องเก็บมาวิตกวิจารณ์อะไรหรอก ผมกลัวว่าเงินจำนวนนี้จะไม่เข้าวัดจริงน่ะสิ พ่อเลี้ยงไม่วายอิดเอื้อน เรื่องนี้หมดห่วงได้เลยครับ ผมได้โอกาสพูดบ้าง วัดทุกแห่งต้องอยู่ในการดูแลของกรมการศาสนา ต้องทำบัญชี ถ้าพ่อเลี้ยงยินดีตามที่ผมเสนอแล้วทางวัดก็จะต้องออกใบอนุโมทนา บัตรให้เป็นหลักฐาน แบบนี้พ่อเลี้ยงก็มั่นใจได้เลยว่าเงินต้องเข้าวัดแน่ ถึงตอนนี้พ่อเลี้ยงหันไปสบตาทนายความของตนในเชิงขอความคิดเห็น ก่อนที่จะยอมถอนฟ้องคดีนั้น แลกกับการที่มีผู้ที่ศรัทธานับถือพระออกเงินบริจาคเท่ากับทุนทร ัพย์ของคดีแล้วให้วัดออกใบอนุโมทนาบัตรให้แก่พ่อเลี้ยงเพื่อเป็ นหลักฐานยืนยันว่ามีเงินเข้าบำรุงวัดตามจำนวนนั้นจริง ผมเดินออกจากห้องพิจารณามาอย่างยิ้มย่อง ในที่สุดคดีนี้ฝ่ายจำเลยก็ไม่ได้แพ้ ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ฝ่ายตรงข้ามสามารถกินเลือดกินเนื้อได้เลย ถ้าตัวจำเลยโผล่หน้ามาให้เห็น แต่ตอนนี้เขาถอนฟ้องไปแล้ว และถ้าผมเดินออกไปถึงกลุ่มชาวบ้าน พวกเขาคงจะรุมล้อมแสดงความชื่นชมยินดีกับผม ชาวบ้านกำลังสลายกลุ่มทยอยกันกลับ แต่ไม่มีใครสักคนให้ความสนใจผม ไม่มีแม้แต่รอยยิ้มหรือการสบตาทักทาย ผมรู้สึกเก้อกับสถานการณ์ตอนนั้น งุนงงด้วยความแปลกใจจนกระทั่งได้ยินชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์ถึงเห ตุการณ์ทั้งหมดที่เพิ่งผ่านพ้นไปตามความรู้สึกของพวกเขา และคนหนึ่งพูดว่า บารมีตุ๊แต๊ๆ เปิ้นตึงยอมถอนฟ้อง หรือว่าไม่จริง อิ ๆ ๆ ๆ ๆ.................................? ใช่มะ.........................................?
20 ตุลาคม 2547 22:17 น. - comment id 78203
แม้ว่าไม่มีใครเห็นแต่ ในใจ ท่านทราบดี ขอให้กำลังใจคุณ ทำต่อไป สักวัน ท่านจะได้ยินกับหูท่านเองว่า เพราะบารมี ทนายแท้ๆๆๆ
20 ตุลาคม 2547 22:17 น. - comment id 78204
แม้ว่าไม่มีใครเห็นแต่ ในใจ ท่านทราบดี ขอให้กำลังใจคุณ ทำต่อไป สักวัน ท่านจะได้ยินกับหูท่านเองว่า เพราะบารมี ทนายแท้ๆๆๆ