เงาดาว ...แสงแดดยามสายที่จัดจ้าน กับเสียงแจ้วๆเหมือนแม่ค้าในตลาดของเจ้านกกระจอกตัวน้อยๆ ที่กำลังเสวนากันภาษานก คงเป็นเวลาป้อนอาหารเจ้าลูกน้อยที่อยู่ในรังตรงชายหลังคาบ้านของสองแม่ลูก เสียงก๊อกแก๊กผสมเสียงเบียดของกระดานไม้ดังมาจากครัวในบ้านหลังน้อยนี้ "ดาวเอ้ย!...เสร็จรึยัง...สายแล้วนะลูก เดี๋ยวไปเรียนไม่ทันนะ " เสียงหญิงวัยห้าสิบกว่าๆตะโกนจากหลังครัวบ้าน ด้วยน้ำเสียงเคลือๆในคอ มะพร้าวห้าวที่ขูดไว้ในกระละมัง ชั่งขาวโพลนเหมือนหิมะที่อยู่บนยอดเขาทางขั้วโลกเหนือไม่มีผิด เธอเตรียมไว้ทำขนมขายในวันนี้ชิดเป็นหม้ายผัวตายมาสามสิบกว่าปีแล้ว เธออาศัยอยู่กับลูกสาวที่บ้านเล็กๆท้ายซอยในเมือง ด้วยฐานะที่ไม่ค่อยจะดีนัก ดาวผู้เป็นลูกซึ่งเรียนอยู่มัธยมปลาย เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อช่วยแม่ทำขนมก่อนไปโรงเรียนทุกวัน อันรายได้ที่มีก็พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องสองแม่ลูกเท่านั้น "เสร็จแล้วจ๊ะแม่!.." เสียงสาวแรกรุ่น วัยพอดอกไม้แย้มบาน หน้าตาจิ้มลิ้มปากนิดฉมูกหน่อย ผิวนวลขาวเหมือนหยวกกล้วยถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครเชื่อเป็นแน่ว่าเป็นลูกแม่ค้าขายขนม ทรวดทรงองค์เอวบ่งบอกถึงวัยอันย่างก้าวแห่งความสาวของเธอ "วันนี้กลับบ้านเร็วหน่อยนะลูกนะ..จะได้ช่วยแม่ขายขนม.. ช่วงนี้ขนมขายไม่ค่อยดีเลย...เพราะพิษเศรษฐกิจมันทำแท้ๆ " แม่ชิดคุยมือพรางทำขนมไป เสริมกับใบหน้าอันไม่ค่อยสบายใจนัก ดาวเอ้ย! วันนี้ลูกซื้อถุงกระดาบที่ใช้ห่อขนมมาให้แม่ด้วยนะ ของเก่ามันหมดแล้ว จ๊ะแม่ ..เดี๋ยวหนูซื้อมาให้ รู้สึกว่าแถวร้านหน้าโรงเรียนจะมีขายนะ " แม่ค่ะ แล้วหนูจะรีบกลับมาช่วยแม่ขายขนมนะ หนูไปล่ะนะแม่ หวัดดีจ๊ะแม่!" ดาวจัดแจงใส่ถุงเท้ารองเท้าเสร็จสรรพ คว้ากระเป๋านักเรียนเดินออกจากบ้านด้วยความเร่งรีบ แม่ชิดมองดูดาวจากด้านหลัง หัวใจเธอเต้นผิดปกติเหมือนจะห่วงลูกมากกว่าทุกวัน เธอเดินออกมาหน้าบ้าน ทอดสายตาจนดาวเดินไปสุดปากซอย .. . ต้นมะขามใหญ่ยืนสง่าอยู่โดดเดี่ยวกิ่งก้านแผ่กว้างเป็นร่มเงาให้แก่บรรดารถจักยานยนต์รับจ้าง ที่นั่งจับกลุ่มสุมหัวกันมุงดูการดวลหมากรุกของมิตรสหายที่หน้าปากซอย แต่ชายร่างผอมสูงวัยกลางคน ไอ้เดช กับ ไอ้สิงห์ ปลีกตัวมานั่งห่างๆ สายตาของมันทั้งสองคนจับจ้องอยู่กับสาวน้อยแรกรุ่นที่กำลังรี่ออกไปยืนรอรถเมย์ใกล้ๆปากซอย "โอ้โอ...อีดาวมันยิ่งโตยิ่งสวยจริงๆว่ะ" ไอ้เดชพูดสายตามองดาวที่ยืนรอรถด้วยสีหน้าอันบ่งบอกสันดานชั่วช้ามันได้อย่าชัดเจน "กูก็ว่างั้นละไอ้เดช ...แต่กูชวนคุยทีไร อีดาวไม่เคยคุยตอบสักครั้งเลย แถมมันยังไม่เคยนั่งมอเตอร์ไซรับจ้างที่นี่เลย บ้านมันก็อยู่ทั่งท้ายซอย มันเดินอยู่หลายปีแล้วนะเนี๊ยะ" ไอ้สิงห์พูดเอียงหน้าไปทางไอ้เดช "กูว่ามันต้องใช้ไม้เด็ดว่ะ " ไอ้เดชพูดเบาๆพร้อมมือลูบนวดลงริมปาก "น่าจะดีนะ...เด็กๆแน่นๆอย่างนี้ แถมขาวสวยอีกต่างหาก ถ้างาบสักครั้งจะไม่ลืมประคุณเลยว่ะ.แต่กูไม่ยากติดคุกเหมือนมึง!นี่ มึงไม่ต้องห่วงหรอกไอ้สิงห์ กูจัดการได้ มึงติดคุกสามปี ยังไม่เข็ดอีกหรือว่ะ ไอ้เดช" "ก็คนมันเงี้ยนนี่หว้าทำไงได้.. นี่ถ้ากูปาดคออีผู้หญิงคนนั้นทิ้งเสียตั่งแต่วันนั้น กูคงไม่ต้องติดคุกข้อหาข่มขืนอยู่หลายปีหรอกโว้ย!" ไอ้เดชพูดกัดฟัน มันเคยมีคดีข่มขืนเมื่อห้าปีที่แล้ว แต่ตอนหลังโดนตำรวจตามจับได้ที่บ้านเกิด เพราะพยานจำหน้ามันได้ดี รวมเบ็ดเสร็จต้องโทษแค่สามปี ตอนนี้มันออกมาจากคุกได้สามเดือนแล้ว แต่สันดานมันยังไม่เปลี่ยนเลย โลกมักหยิบยื่นทั้งสิ่งดีและไม่ดีให้ชีวิตคนเราเสมอ และดาวสาวน้อยร้อยชั่งคนนี้ กำลังจะตกเป็นเป้าหมายไอ้สัตว์นรก ที่มันมีเพียงร่างกายเท่านั้นที่เป็นคน แต่หัวใจหยาบช้าหาที่เปรียบมิได้ แสงตะวันเริ่มอ่อนแรง แม่ชิดกำลังขายขนมอยู่แถวบ้านไม่ไกลไปจากปากซอยเข้าบ้านเท่าไรหนัก ข้างๆเป็นร้านแผงลอยขายกล้วยทอดของแม่สายใจ "ขนมวันนี้ก็ตามเคย ขายไม่ออกอีกแล้ว..." แม่ชิดบ่นพึมพัม "เหมือนกันล่ะหว้า แม่ชิดเอ้ย! ฉันก็ขายไม่ค่อยได้เหมือนกัน ขาดทุนมาหลายวันแล้ว.." แม่สายใจพูดเสียงอ่อนถอนหายใจ "เออ...แล้วดาวลูกแกล่ะแม่ชิด! วันนี้ไม่เห็นเลย...ปกติเย็นๆแบบนี้มันจะมาช่วยขายขนมด้วยไม่ใช่หร่อะ?.." "อืม...นี่ก็รออยู่เหมือนกัน ไม่รู้ทำไมมาช้าจังวันนี้ ปกติมันไม่เคยเหลวไหลเลยนี่นา แถมโรงเรียนก็ไม่ได้ไกล ผ่านสามป้ายรถเมล์นี่เอง หรือว่าไปหาซื้อของอยู่ก็ไม่รู้ " แม่ชิดพูดชะเงื้อมองไปตามข้างถนนอย่างเป็นห่วง "..เอ๋ ...แปลกนะวันนี้รถมันติดจังบนถนนสายนี้" แม่สายใจบ่น "มันก็อย่างนี้แหละ ปกติมันก็ติดอยู่แล้ว ยิ่งเปิดเทอมใหม่ๆ เด็กนักเรียนก็เยอะ รถมันก็เยอะตาม" แม่ชิดตอบ ....ตกค่ำแสงไฟสลัวในซอย ดึงดูดเจ้าแมลงน้อย ให้บินว่อนเข้าหาแสงไฟนวลจันทร์ ไอ้เดช กับ ไอ้สิงห์ นั่งซดสุรากันลำพังสองคน นัยน์ตาของพวกมันเคลิ้มจนได้ที่ ด้วยริษยาโรยหน้าเหล้าก็เป็นอันครบเครื่อง เนื่องจากเริ่มจะดึกแล้ว ผู้คนเริ่มหายความเงียบเข้าครอบงำ ยิ่งหยั่งลึกไปในซอยแสงสว่างยิ่งเลือนหายพ่ายแพ้ต่อราชินีแห่งรัตติกาล คืนนี้เห็นท่าไอ้เดชกับไอ้สิงห์คงมีแผนชั่วเป็นแน่ "ไอ้เดช มึงจะเอาจริงหรอว่ะ!...กูไม่อยากติดคุกนะโว้ย " "ไอ้ปอดแหก!...มึงจะกลัวอะไรว่ะคุกอ่ะ กูเคยไปอยู่มาแล้ว อีกอย่างเราจัดการมันเสร็จก็ฆ่าทิ้งโพงหญ้าไปเลยไม่มีใครรู้หรอก" ไอ้เดชกระซิเสียงแข็ง "เอาก็เอาว่ะ มันขาวเสียขนาดนั้นกูจะทนได้ยังไง" ไอ้สิงห์กลืนน้ำลายเฮือก สักพักก็มีเสียงเดินมาไม่ใช่ใครที่ไหน ดาวสาวน้อยลูกแม่ชิดนั่นเอง เธอเดินเอากระเป๋าพร้อมถุงกระดาษพับห่อขนมซุกไว้กับอก สายตาสาดต่ำไปมาเหมือนกลัวๆ ไอ้เดชเห็นดาวเดินมาคนเดียวก็ได้โอกาส มันเดินเข้าไปหาดาวทันที ไอ้สิงห์ก็ไม่รอช้าตามไปติดๆ เหมือนเสือเจอเนื้อทราย ไม่วายจะตายเพราะเนื้อมือแห่งนักล่า "ดาวจ๋า ทำไมวันนี้กลับค่ำจังล่ะจ๊ะ ให้พี่สิงห์กับพี่เดชไปส่งไหม?" ไอ้เดชพูดไม่ทันขาดคำมือมันเร็วนักไปจับแขนของดาวอย่างกำหนัด ดาวสะบัดมือพร้อมพละออกจากไอ้เดชทันที ไอ้สิงห์เข้าข้างหลังและไม่รอช้า โผเข้ากอดดาวไว้แน่ ดาวดิ้นสุดแรงแต่ไม่ทันจะได้อ้าปากร้องขอความช่วยเหลือ กำปั้นไอ้เดช ก็จุกเข้าที่หน้าท้องของเธอเสียแล้ว เธออ่อนแรงทันที ไอ้สิงห์กับไอ้เดชลากเธอเข้าไปในโพงหญ้าข้างซอยอันแสงไฟไม่อาจสาดส่องถึง ไอ้เดชลงมือถอดชุดนักเรียน ถกกระโปรงบานของสาวน้อยผู้อาภัพออก เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจ เธอหมดแรงต่อสู้ทุกๆทาง ได้แต่นอนน้ำตาไหลพรากอาบทั้งสองหน้าอันอ่อนเยาว์ จะร้องก็ร้องไม่ออกเพราะโดนหมัดไอ้เดชเข้าอย่างจังแถมมีอุ้งมือสัตว์ร้ายปิดปากแน่น โอ...อีดาวมึงขาวสุดยอดจริงๆ...คืนนี้กูจะเป็นผัวมึง ฮ่าๆ..แล้วอย่าร้องนะมึงไม่งั้นกูปาดคอมึงทิ้งแน่ อีดาว... ไอ้เดชขู่พลางเปลือยกายร่างอันขาวโผลนของดาวจนเกลี้ยง ไอ้สิงห์กับไอ้เดช ผลัดกันทำระยำอัปรีย์ เหมือนจะย่ำยีดอกไม้ที่เพิ่งผลิบานให้แหลกลงคามือ เที่ยงคืนดึกสงัดไม่มีแม้แต่เงาดาวดวงใจของแม่ชิดโผล่มาให้เห็น เธอชะเง้อมองหาลูกอันเป็นดวงใจหนึ่งเดียวอยู่นาน จนไม่มีวี่แววว่าจะกลับมา เธอเริ่มน้ำตาคลอเบ้า จะไปตามหาก็ไม่รู้จะหาที่ไหน จะไปแจ้งตำรวจก็ดึกมากแล้ว หากลูกกลับมากลัวจะไม่เห็น เธอนั่งรอลูกสาวอยู่หน้าบ้านตั่งแต่ตอนค่ำ มองดูเจ้านกกระจอกในรังก็ยังมีลูกให้เห็น แต่ลูกสาวเธอล่ะยังไม่โผล่มาเลย ด้วยความเหนื่อยหล้าทั้งกายทั้งใจ แม่ชิดเผลอนั่งหลับพิงฝาหน้าบ้านจนถึงเช้า "แม่ชิดๆ! ตื่นเร็วเข้า!" เสียงแม่สายใจแม่ค้าขายกล้วยทอด วิ่งกะหืดกระหอบมาแต่เช้า แม่ชิดตกใจผวาตื่นทันที เธอแทบลืมไปว่ามาหลับอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร "มีเรื่องอะไรหรอแม่สายใจ? " แม่ชิดถามเสียงสั่น "คือ...คือ...ตำรวจเขาตามหาบ้านแม่ชิดอยู่ เขาว่าจะมาหาญาติของนางสาว ดาวทิพย์แนะ!" แม่ชิดได้ยินดังนั่นก็สะดุ้งทันที ใจเธอสั่นระรัว ในใจเธอหวังว่าขออย่าเป็นดั่งที่เธอคาดคิดเลย "แล้วเขาตามหาฉันทำไมหรอ? หรือว่า...ดาวลูกฉัน.." แม่ชิดถามอย่างร้อนใจ "คืออย่างนี้ แม่ชิดทำใจดีๆนะ ฉันจะเล่าให้ฟัง ตำรวจเขาบอกฉันว่า มีเด็กนักเรียนหญิงโดนรถยนต์ชนเสียชีวิตเมื่อเย็นวานนี้ ที่หน้าร้านขายของ ไม่ไกลจากโรงเรียนสักเท่ารัย ในมือเธอถือถุงกระดาษที่ไว้ห่อขนมมากหมาย ตำรวจตรวจสอบดูปรากฏว่า ชื่อ นางสาวดาวทิพย์ มีใจ มันก็คือ ยายดาวนั่นไงแม่ชิด! " แม่ชิดได้ยินดังนั้นเหมือนโลกหยุดนิ่ง หัวใจเธอแทบสลายเมื่อหัวใจดวงเดียวที่มีอยู่ของเธอ ได้จากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ โอ...ดาวลูกแม่...อือ...อือ...ๆ เธอร้องไห้เหมือนน้ำตาจะเป็นสายเลือด จนเป็นลมพับไปกับที่ ไม่กี่ชั่วโมงด้านไอ้สิงห์รู้ข่าวเข้า เลยวิ่งรี่คาบไปบอกไอ้เดช ทันที หา....อีดาวมันตายแล้วหรอไอ้สิงห์ กูกับมึงขื่มขืนมันเฉยๆเสร็จแล้วมันก็นอนอยู่ที่โพงหญ้านี้นี่นา กูไม่ได้ฆ่ามันสักหน่อยนิ! ออ..ซิว่ะ เขาว่ามันโดนรถชนตายตั่งแต่เย็นวานนี้แล้วโว้ย! แล้วไอ้ที่เราเจอเมื่อคืนมันอีดาวนี่หว่า โดนเข้าแล้วไหมล่ะไอ้เดชเอ้ย! ไอ้สิงห์กับไอ้เดชหน้าซีดเผือด รีบวิ่งไปที่โพงหญ้าที่มันข่มขืนดาวเมื่อคืน แต่แล้วมันไม่มีแม้แต่รอยหมาเดิน ไอ้เดชกับไอ้สิงห์หันมาสบตาพร้อมกัน........ มีนาคม 2547
14 กรกฎาคม 2547 16:24 น. - comment id 75435
ยินดีที่ได้รู้จัก คงมีโอกาสได้เจอกันบ่อยขึ้น เขียนดีครับน่าอ่าน
15 กรกฎาคม 2547 13:55 น. - comment id 75450
เขียนได้ดีค่ะ
16 กรกฎาคม 2547 11:45 น. - comment id 75483
ผมชอบตอนที่มาหักมุมตอนท้ายนี่แหละ แต่ถ้าถามผมนะในเรื่องส่วนประกอบโดยรวมแล้วผมว่า สิ่งที่ขาดไปสำหรับช่วงท้ายๆ คือมันขาดความเป็นไปได้ในแง่ที่ว่า ทำไมดาวถึงเป็นผีมาให้พวกไอ้เดชข่มขืนหละ บรรายได้เยี่ยมนะครับ สามารถสะกดให้ผมนึกภาพของเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างง่าย จุดนี้นี่แหละที่ผมคิดว่าคือจุดขายของพี่
16 กรกฎาคม 2547 13:13 น. - comment id 75490
ชั่วดีขอรับไว้ ขอรับทุกท่าน ขอขอบคุณมากๆที่ติชม เพราะการติชมคือกำลังที่ทำให้เราพัฒนา...