กลางดึกคืนหนึ่ง โทรศัพท์ในห้องของฉันดังขึ้น ฉันลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความหงุดหงิด ใครกันนะที่โทรมาดึกๆดื่นๆแบบนี้ นี่มันตีสองกว่าแล้วนะ แต่แล้วเมื่อฉันได้ยินเสียงจากปลายสาย ความหงุดหงิดที่มีก็หายไป กลายเป็นความตกใจเข้ามาแทนที่ เมื่อคนที่อยู่ปลายสายคือเพื่อนของฉันที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายจนพูดเกือบไม่เป็นภาษา หลังจากที่คุยกันสักพักฉันก็รู้ว่า สาเหตุที่ทำให้เพื่อนของฉันร้องไห้ก็คือผู้ชายเพียงคนเดียวที่กำลังเดินออกไปจากชีวิตของเธออย่างไม่แยแส ผู้ชายที่ได้ทุกอย่างไปจากเธอแม้แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผู้หญิง เพื่อนของฉันเล่าให้ฉันฟังอย่างยากลำบาก ทุกครั้งที่ก้อนสะอื้นมันมาจุกที่คอคือทุกครั้งที่ความเจ็บปวดมันมาจุกอยู่ที่ใจ แล้วมันก็กลายเป็นความเศร้าใจที่ติดตามมาที่หัวใจของฉัน และคำพูดคำหนึ่งที่ทำให้ฉันไม่นึกว่าเธอจะพูดออกมาก็คือ เธออยากตาย สำหรับฉันแล้ว ฉันไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ หากเพื่อนฉันอยากจะตายเพื่อลบลืมความเจ็บปวดทุกอย่าง เพียงแต่ฉันคิดว่ามันต้องเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ที่สุดหากเธอจะทำลายชีวิตตัวเองในขณะที่มีคนอีกหลายล้านคนกำลังดิ้นรนเพื่อที่จะมีชีวิตรอด และมันก็เป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดถ้าเธอจะทำลายหัวใจพ่อแม่เพียงเพราะผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นเพียงคนแปลกหน้า ผู้ชายที่ไม่ได้เป็นคนยิ้มยินดีในวันที่เธอเกิด ผู้ชายที่ไม่เคยอดตาหลับขับตานอนเลี้ยงดูเธอจนเติบโต หรือแม้กระทั่งกอดเธอด้วยความรักที่แท้จริงแม้สักครั้ง... ไม่ใช่ฉันไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกเหล่านี้ ฉันก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องการความรัก และเคยแสวงหาความรัก แน่นอน...ฉันต้องเคยเจ็บปวดกับความรักด้วย แต่ฉันจะบอกกับตัวเองเสมอว่า ความรักต้องตั้งอยู่บนสติ และหากครั้งใดที่เรารู้สึกเจ็บปวดเพราะความรัก นั่นเป็นเพราะรักของเราไม่ใช่รักที่แท้จริงต่างหาก ความรักที่แท้จริงนั้นจะต้องสร้างความสุขให้เราได้เสมอถ้าคนที่เรารักมีความสุข...แม้เราจะต้องสูญเสียก็ตาม... คืนนั้น...ฉันวางโทรศัพท์ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก มันเหมือนกับฉันได้ฟังโศกนาฏกรรมเรื่องหนึ่งที่มันเกิดขึ้นจากความพลาดพลั้งและความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ฉันก็ดีใจที่เธอเลือกจะโทรมาหาฉันก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร อย่างน้อยน้ำเสียงสุดท้ายขอเธอก็ทำให้ฉันสบายใจขึ้นว่าเธอจะไม่ทำอะไรโง่ๆอีก... ฉันเชื่อว่าอีกไม่นานนักหรอกที่ชีวิตของเธอจะกลับมาสู่ความสดใสอีกครั้ง แม้มันจะเปื้อนรอยมลทินจากอดีต แต่ทุกครั้งที่เธอมองเห็นรอยนั้นเธอจะรู้ว่า เธอได้ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายนั้นมาแล้ว และมันจะไม่เกิดอีกเป็นหนที่สอง และฉันก็หวังว่าสักวันเธอจะรู้ว่า ความรักที่โลกใบนี้สร้างขึ้นมานั้นมันมีให้เธอตั้งแต่เธอเกิดแล้ว เพียงแต่มันไม่ได้เป็นของผู้ชายมักง่ายคนหนึ่งเท่านั้น...
12 กรกฎาคม 2545 19:21 น. - comment id 65798
ค่ะชีวิตมีวันพรุ่งนี้ สู้สู้ค่ะฉันเองก็จะสู้เพื่อวันพรุ่งนี้เพื่อคนที่เลี้ยงฉันมาทั้งชีวิตเหมือนกันค่ะ
12 กรกฎาคม 2545 21:46 น. - comment id 65799
สู้เค้านะคะ เอาใจช่วยจ้าฝันหวาน
12 กรกฎาคม 2545 23:45 น. - comment id 65801
ใช่จ๊ะ...วันพรุ่งนี้ยังมี
13 กรกฎาคม 2545 02:57 น. - comment id 65810
เอาใจช่วยจ้า.....
15 กรกฎาคม 2545 16:17 น. - comment id 65844
เย้ พี่หวาน เอาใจช่วยๆ เห่ะๆ พยายามต่อไปนะค่ะ จารออ่านบทความดีๆของพี่หวาน ^______________^
19 กรกฎาคม 2545 10:49 น. - comment id 65898
เห็นด้วยค่ะ คนเห็นแก่ตัว เราอย่าได้เอามามีอิทธิพลเหนือชีวิตเราเลย เดินออกมาจากตรงจุดนั้นได้ เราถือว่าโชคดีแล้ว และเราจะไม่มีวันพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง อยากจะบอกว่าสิ่งที่เราได้รับนั้นเป็นบทเรียนราคาแพง เมื่อเคยเจอเหตุกาณืแบบนั้นแล้ว คราวต่อไป จะทำให้เราดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท และระมัดระงวังมากขึ้น ไม่นาน เรื่องเลวร้ายนั้นจะจืดจางไป แม้ไม่มีวันลบเลือนก็ตาม ยังมีคนอีกมากที่เจอแบบนี้ สู้ต่อไปค่ะ อย่าท้อ O_O
19 กรกฎาคม 2545 21:45 น. - comment id 65910
น้ำค้าง พี่จะพยายามเขียนมาอีกนะ คุณ j&j ขอบคุณมากค่ะ
24 สิงหาคม 2545 13:19 น. - comment id 66202
พี่หวานคะ นุ้ยก้เป็นคนนึงที่เคยรู้สึกอย่างนี้ เคยคิดอย่างนี้ เพียงเพราะผู้ชายคนนึงเดินออกไปจากชีวิตเรา เคยพยายามฆ่าตัวตาย ทำมาทุกอย่างแล้ว ผ่านตรงนั้นมาได้ ย้อนกลับไปมอง รู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจ แต่ไม่ใช่ว่าทุกวันนี้นุ้ยจะเลิกรักเค้าได้นะ แต่แปลกที่เหมือนกับว่าเวลาได้สอนให้เรารู้จักที่จะรักตัวเองไปพร้อมๆกันด้วย ตอนนี้ก็ยังรักเค้าอยู่ แต่ไม่ได้อยากให้เค้ามารักเราเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว นุ้ยคิดว่าตอนนี้ความสุขที่สุดของนุ้ย คือการได้เห็นเค้ามีความสุข