ในกลุ่มมีด้วยกันทั้งหมด 5 คน เป็นผู้ชาย 3 คนคือ ต้นกล้า, กวี และเม่น ส่วนผู้หญิงก็มีแค่ทอแสงกับปลายฟ้า ทั้ง 5 คนรู้จักกันตั้งแต่ปี 1 เพราะลงเรียนวิชาเลือกเดียวกัน และอยู่ชมรมเดียวกันคือ ชมรมอาสาพัฒนาชนบทซึ่งปลายฟ้าอีกตามเคยที่ชวนให้ทอแสงเข้าชมรมนี้ แต่ละคนในกลุ่มมีนิสัยและบุคลิกที่แตกต่างกันไป แต่ความผูกพันนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเหมือนหรือความแตกต่าง ต้นกล้าเป็นผู้ชายที่นิ่งและเงียบ เขาแต่งตัวตามสบาย ไม่พิถีพิถันกับการดูแลตัวเอง ชอบวาดรูป ชอบอ่านหนังสือ มีความคิดเป็นของตัวเองและมีอุดมการณ์ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเข้ามาข้องเกี่ยวกับเขา เขาไม่เคยแสดงความสนใจใคร และไม่มีผู้หญิงคนไหนมาแสดงตัวว่าชอบเขาเช่นกัน แต่ทอแสงกับปลายฟ้าเห็นตรงกันว่า ผู้หญิงคงไม่กล้าเข้าหาต้นกล้าเพราะความที่เขาเป็นคนนิ่งและเงียบนั่นเอง ส่วนกวีนั้นเป็นคนหน้าตาดี แต่งตัวสะอาด มีมนุษยสัมพันธ์ และเป็นที่หมายปองของเพศตรงข้าม แต่กวีนั้นไม่เคยคบใครเป็นตัวเป็นตน และไม่สนใจใครจริงจัง กวีพูดเสมอว่าไม่มีใครรักเขาที่ใจ ที่ความเป็นตัวตนแท้จริงของเขา ฉะนั้น เขาจึงไม่คิดว่าความรักมีอยู่จริง เขาเลยไม่เคยให้ความรักใคร ทอแสงไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ของกวี แต่เธอก็รู้ว่าการจะเปลี่ยนความคิดที่ฝังรากลึกของกวีนั้นเป็นเรื่องที่ยากและอาจเป็นไปไม่ได้ ส่วนเม่นนั้น เขาชอบเล่นกีฬา มีน้ำใจ เป็นที่รักของเพื่อนๆ และถ้ารักใครก็จะยึดมั่นในรักนั้นจนบางครั้งดูเหมือนจะมากเกินไป ปลายฟ้ากับทอแสงจึงต้องคอยปรามไม่ให้เม่นจริงจังกับความรักจนเกินไปเพราะกลัวว่าความจริงจังมั่นคงจะกลับมาทำร้ายตัวเอง ทั้ง 5 คนเป็นเพื่อนที่รักกัน ไปไหนก็ไปด้วยกันเสมอจนหลายๆคนคิดว่าที่สุดแล้วต้องมีคู่ใดคู่หนึ่งที่เปลี่ยนสถานะจากเพื่อนเป็นอย่างอื่น แต่ทุกคนไม่เคยใส่ใจกับข้อสมมติฐานนั้น เพราะต่างก็เชื่อในความหมายของคำว่า เพื่อน ว่ามีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใด ในบรรดาเพื่อนในกลุ่ม ทอแสงเป็นห่วงต้นกล้ามากที่สุด ทั้งที่ในสายตาเพื่อนๆแล้ว ต้นกล้าเป็นคนที่ไม่น่าเป็นห่วงแต่ประการใด ถึงจะเป็นคนที่นิ่ง แต่เขาก็เป็นคนเอาการเอางาน เอาจริงเอาจังกับการเรียนและกิจกรรม แต่ด้วยความที่ต้นกล้าไม่ค่อยดูแลตัวเองเท่าที่ควร ทอแสงจึงดูแลต้นกล้าเป็นพิเศษ ตั้งแต่อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์วาดรูป อาหารเช้า ยาแก้หวัด พลาสเตอร์ยา หรือแม้แต่มีดโกนหนวดในวันถัดมาหากวันนี้ต้นกล้าไม่ได้กวนหนวดก่อนออกจากบ้าน แต่ถึงอย่างนั้น ต้นกล้าก็ไม่เคยแสดงออกว่าทอแสงใส่ใจเขา มากเกินไป เขายินดีรับน้ำใจที่เธอหยิบยื่นให้ หากแต่ก็ไม่เคยแสดงความขอบใจจนมากเกินความเป็นเพื่อน ทอแสงวางตัวให้อยู่ในสถานะเพื่อนที่ดี หากแต่ในใจลึกๆแล้ว เธอกลับมีคำถามว่าเพราะเหตุใดเธอถึงใส่ใจในชีวิตประจำวันของเขามาตลอดเวลา 4 ปีที่เรียน และทำกิจกรรมด้วยกัน เวลาทำให้ความผูกพันก่อเกิด ต้นกล้า, กวี, เม่น, ปลายฟ้าและทอแสงไม่เคยไปไหนโดยไม่มีใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ว่าจะไปทำกิจกรรมออกค่ายอาสา หรือไปเที่ยวต่างจังหวัด และไม่เคยมีใครทิ้งปัญหาของอีกคนโดยไม่ยื่นมือและใจช่วยเหลือ ความใกล้ชิดผูกพันทำให้ไม่มีใครอยากให้เวลาปีสุดท้ายหมดไป หากแต่ไม่มีสิ่งใดหยุดหรือยับยั้งการเดินทางของกาลเวลาได้ เวลาที่เหลือในปีสุดท้ายใกล้เข้ามา ขณะเดียวกับที่ทอแสงรู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังจะสูญเสียสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่มีค่าและสำคัญในชีวิตเธอไป ซึ่งเธอไม่อาจรู้เลยว่าคืออะไรจนกระทั่งผ่านวันรับปริญญาไป และวันเสาร์แรกของเดือนธันวาคมได้เดินทางมาถึง
17 กันยายน 2545 10:40 น. - comment id 66404
กาลครั้งหนึ่งนานมา ท้องฟ้าสีฟ้า ทะเลละลอกคลื่นใส ตะวันทอแสงนวลใย วายุพัดไกว แต่ใจฉันมีแต่เธอ ปลายฟ้าพาฝันวันเพ้อ หลงรักละเมอ คิดถึงแต่เธอเสมอมา คืนวารผ่านไปใจชา หนาวหนักนักหนา ทุกคราที่เหงาเศร้าซึม ต้นกล้าฟ้าหม่นคนขรึม เมฆาทึบทึม อึมครึมครั่นคร้ามคร่ำครวญ หยาดฝนหล่นหล้าพารวน จากไปใจป่วน แปลบปลาบวาบวับลับหาย...
19 กันยายน 2545 14:44 น. - comment id 66442
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจ... จะแต่งตอนที่ 4 ต่อไปเมื่อไหร่ดี...น้อ...