๏ เย็นให้มันชาไป ๚ ยังนึกถึงวันทีเซไม่หาย ๚ .ใครเล่าอยากจะเซ...ใครเล่าอยากจะพลาด ใครเล่าอยากจะพลั้งตกไปใน ห้วงลึกแห่งใจที่ยากจะลุกขึ้นมาสู้ ฉันผลักตัวเองให้เข้าไปอยู่ในถ้ำ ถ้ำอันเยือกเย็นลึกล้ำ..ยากทีใครจะตามเข้าไปทัน ยอมรับว่ามันยังเซใจไม่หาย ใครเล่าอยากจะพลาด กับคนเหี่ยมเหี่ยมเห็นอะไรก็ชาชืดจืดสนิทนี้ยังพลาดได้ รักเอ๋ยมันน่าชากระไร หัวใจมันก็ทรมาณ...อย่ามาถามว่าใจมันไปไหน ฉันเพียงเก็บใจไว้ในธารน้ำแข็งอันเย็นสุดขั้วหัวใจ แช่มันไว้ให้มันหยุดทุกอย่าง อยู่ในถ้ำใจ....ให้มันเย็น...ให้มันเย็น ให้มันเย็นจนชาไปจะดีกว่าใดใดทั้งมวล ทิกิ_tiki จารไว้ ๑๑:๑๑ เช้าพระเสาร์ ๒๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ : ที่มาของภาพ Source of Picture with compliment : http://d21c.com/leprofesseur/reflect/Iceburg.jpg
๏ เย็นให้มันชาไป ๚ ๏ ด้วยพลาดพลั้งรั้งไม่อยู่สุดกู่เหลือ ใจมันเชื่อแรงร้อนกลอนเผาไหม้ จึงตูมโดดให้ลงน้ำเย็นสุดใจ ร้อนกว่าไฟเจอเยือกแข็ง...แรงพอกัน ๚ ๏ ทรมาณ..ตัวตน....คนเหี่ยมเหี่ยม..เข้าไป ทรมาณ..จนที่ไหม้...กลายไปเป็น...เย็นฝัน สุดขั้ว...เจอสุดขั้ว.....มันต้องหาย....เข้าสักวัน คิด....เสีย...อย่างนั้น.....ก็ทรมาณ......ให้สะใจ ๚ ยังนึกถึงวันทีเซไม่หาย ๚ ถึงวันนี้ใจก็ยังเซ มันเซค้างวันค้างคืน มันฝืนใจไม่ได้ มันไม่อยากมีอะไร ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป มันทรมาณปานใด หนอใจ .... ทิกิ_tiki ๑๑:๕๕ วันที่มองหาใดไม่เห็น พระเสาร์ กลางวันร้อนจนใจไม่เร้น เย็นแค่ไหนใจก็ยังไม่เย็น ๒๔ เมษา ๒๕๔๗ ใจยังเหี่ยมไม่พอ ไม่เสร็จ ที่มาของภาพ Source of Picture with compliment : http://www.portmac.com/Private/wallpaper/iceburg.jpg
ฉันเพียงก้มลงวักน้ำเย็นล้างหน้า ขอให้น้ำนี้มันเย็นเข้าไปถึงทรวงอันเหนือยล้า ด้วยความทรมาณของฉัน : 4895 - tiki : 8314 - 24 เม.ย. 47 - 12:22 สุดขั้วต่อสุดขั้วพบกัน ความฝันมันจึงทรมาณ ใจอันเจ็บร้าวราน คือหวานซ๋านแซมขม ฤาใจที่สุดขั้ว ยังไม่พอคารม ยังไม่พอเจ็บตรม ยังไม่ชาชินใจ ทิกิ_tiki 12:26 a.m Sat April 24,2004
๏ ๏ ที่สุดไซร้........นิ่งในธรรม.......เย็นค้ำคน... ๚ะ๛ อีกคำหล่นบนความเย็น ๏ เย็นในธาร...พานเย็นละไม..๚ ๏ ...นิ่งในธรรม.......เย็นค้ำคน....๚ จารจบเมื่อ๑๖:๔๕ พระเสาร์ ๒๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ ๏ รติรส พจน์มาลา๚ ๏ บุปเพหวนแต่เบื้อง................บางไหน รอยก่อรอยกรรมไข......................แต่อั้น เพียงภาพผ่องเพียงใจ..................จะขาด....ฤาอร ใจมิอาจหักกั้น..............................ก่อเกื้อปางบุญ๚ ....ทิกิ_tiki ๘:๐๐ ๏ เป็นกำลังนี่นั้น ในใจ บุญก่อรอยกรรมใด.............ใคร่ค้น บาปตามติดเวรไกล.............ตามก่น...มาฤา ใจย่อมตกแรกล้น...............เร่งล้ำรตี ๚ ทิกิ_tiki ๑๐:๓๑ ๏ ...นิ่งในธรรม.......เย็นค้ำคน.... ๚ ,มนุษย์เราเมื่อเกิดมา ต่อให้เกิดมาบน กองเงินกองทอง พรั่งพร้อมไปด้วยทรัพย์สินเกียรติยศข้าทาสบริวารมหาศาลปานใด หากไร้ซึ่งสติปัญญาไม่รู้ที่มาที่ไปแห่งจิตวิญญานตน ก็ปานประหนึ่งวานรร่อนเร่อยู่บนกองแก้วแหวนเงินทอง ย่อมผลาญทรัพย์สิน เกียรติยศ ข้าทาส บริวาร มหาศาลเหล่านั้นลงสูญสิ้น ย่อยยับด้วยอวิชาแห่งความประมาทในกรรม และความประมาทในธรรม จึงนั้น เหล่าปราชญ์ผู้มีปัญญาจึงได้ก่นเขียนงานจารไว้ให้เห็นเสมอว่า อัน ความรัก ราคะ ความใคร่ ความหลงอันเร่าร้อนใจนั้น เป็นสัญญานอันตรายในหลงสู่ประตูนรก.. ด้วยเห็นแล้วว่า ในที่สุด บุคคลอันตามืดบอดต่อธรรม ย่อมตกไปสู่การสูญสิ้น ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง เริ่มแต่ปัญญาอันบอดลงเสียด้วยรัก ตามไปด้วยการเสื่อมสิ้นซึ่งเกียรติยศ..... แม้นว่าเคยดูยิ่งใหญ่ อัครฐานน่ากรานกราบไหว้เพียงใด ..ยามเมื่อตกไปอยู่ในบ่วงเล่ห์เสน่หาแห่งเพศตรงข้าม ผู้เจนจัดด้วยเล่ห์กลกาม ฤาด้วยภายใต้เงื้อมมือเจ้าวัยเยาว์เจ้าเล่ห์แห่งศรกามเทพ นั้นก็ดี บัดนี้ ย่อมไม่เปรียบปานกับเจ้าแมวเชื่องๆไร้ฤทธานุภาพเสียสิ้น ย่อมห่อเหี่ยว ไหล่ตก วิ่งตามรักไปกระเซอะกระเซิงดุจบ้าคลั่งฉะนั้น ก็ดังฤา เกียรติยศชื่อเสียงแม้นสั่งสมไว้นานปานไฉน ย่อมกลายให้เด็กวานซืนได้เย้ยเยาะใยไพ แม้นว่าปากนั้นจะสงสารเจ้าปานใด แต่ใจย่อมหัวร่อหุยฮาให้เป็นที่ปรากฎแก่สาธารณชน ย่อมก่นว่ากันสาดเสียเทเสีย ด้วยใจอันไม่รู้จักยับยั้งในเล่ห์กลแห่งราคะจริตอันเกิดด้วยใจประมาทฉันนั้น แม้นเพียงเกียรติยศยังถูกหมิ่นแคลนแล้ว อันใดจะเหลืออยู่คู่กับเจ้าในโลกอันโหดเหี้ยมโหดร้าย ดังฤา แม้นว่าทรัพย์สินเงินทอง ยามมืดหน้าตามัว สมบัติอันพ่อแม่ปู่ย่าตายายสร้างสมไว้ให้เพื่อใช้ในการดำรงชีพสืบสกุล ก็จักหมดสิ้น อาจไปถึงต้องดำรงตนเป็นขอทานเสียแต่ในสังคม ก็นี้ฤา ใช่เพราะเหตุใด .... ด้วยความ หลงมัวเมาในรัก.... ย่อมไม่เปรียบประดูโคถึกอันคึกพิโรธ จะโผดโลดไปเสียแต่ให้ใจปราถนา ใครจะหักจะรั้งจะก่นว่า เจ้าก็จะทำเสียว่าไม่เคยได้ยินได้ยลคนเขาทักท้วงติง ทรัพย์สินเสียก็ประเคนให้ .. จักให้สุดที่รักแห่งเจ้านั้น สบายกายสบายใจ จึงทุ่มนานับประการไซร้ ให้เขานั้นได้เยิรยล โอ้อกเอ๋ยกมล เจ้าก็หล่นเสียแต่ในกาม จึงมิใครจะหักห้าม จะเอ่ยว่าประการใด เจ้าก็โลดแล่นไปเสียที่จะไม่ฟัง แต่ไหนแต่ใดเล่า ผู้ไหนจะห้ามเจ้า ดังฤา จึงภพชาติแห่งเจ้าผู้มัวเมาในรัก จึงไม่แม้นเปรียบเทียบไกลไปจากผู้ตาบอดไปได้ จึงเป็นผู้หลงงมงายอยู่แต่ในกามราคะจริต จึงสมควรให้มิตรต้องเมินหมางระคางในความไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ จึงแม้นได้ผิดพลาดไปเสียแต่แม้ประการใด แห่งใจอันไม่ยับยั้ง จึงราวกับ ทะเลคลั่งที่เรือไร้หางเสือใดย่อมล่มลงสู่ก้นธารเสียเท่านั้น ข้าฯนี้ได้เห็นเหตุแห่งกรรมซึ่งหล่นมาคาดคั้นให้ปราชญ์ได้เสียคน มาหักสะบั้นโภชน์ผลในตนก็ด้วยฤทธิ์แห่งกาม มาเงื้อง่ามงงงันให้ปัญญามันหาย มาทะลวงทะลายซึ่งทรัพย์สินแม้นแผ่นดินจะไม่มีกลบหน้า โอ้ว่าอนิจจาเอ๋ยเจ้าเชยสมรเจ้าละอ่อนเจ้าทารกเอ๋ย คำของข้าฯ นี้นิดเจ้าจะได้เข้าใจเลยก็หาไม่ ต่างเร่ร่อนบินร่ายเข้ากองไฟแห่งดนูรติทิวาราตรี อกเอ๋ยเจ้าก็ลิ้มรสเสน่หายวนยีอันเร่งรี่เผาผลาญใจ แล้วเจ้าก็ม้วนไขตกหล่นเสียแต่วัยเยาว์อันเขลาทึมสีดำ บัดเดี๋ยวดลยลเสียให้พอใจ.. แล้วเจ้าจงจากไปผลักใจให้ห่างกรรม ให้เจ้านั้นระเริงยลทุกเงื่อนงำ ให้สำนึกซ้ำว่า กรรมนั้นรอยเกวียน ให้แล่นเรียบแม้นทางเตียนและทางรกชัฏระดะตา สิ่งใดเล่าหนาจะตัดกรรมมิให้ซ้ำซากเคืองใจ ก็ด้วยสำนึกในวงกรรมวงเกวียน ให้หลบเสี้ยนคาใจเสียให้ดี ให้รู้รอบระบอบวิธียกจิตพิจาณานี้แต่ในธรรม ขอความสุขสวัสดีมีชัยในรติการ พึงมีแต่วิญญูชน ให้ไกลหม่นความขัดระเคืองเรื่องเศร้าหมอง ให้เจ้าหลายได้ประคองใจไว้เนิ่นนาน ไม่พลาดพานผ่านพาลอันกรายมาแต่ในรติรักแห่งรสใจ ขอให้เจ้าทั้งหลายได้มองเห็นเช่นข้าฯได้เห็นเป็นสาระแห่งกรรม อดีตเจ้าทำไว้อย่างไร จึงหวั่นไหวกันได้ถึงเพียงนั้น ให้เดินทางด้วยความระมัดระวังกันไว้ ให้สดชื่นรืนเริงใจเสพสนานเยาว์วัยของเจ้าด้วยดี ทิกิ_tiki จารจบเมื่อ ๘ : ๔๕ พระอาทิตย์ ๒๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ : ที่มาของภาพ Source of Picture with compliment : http://d21c.com/leprofesseur/reflect/Iceburg.jpg ๏ รติรส พจน์มาลา๚
@ เบิกฟ้าเมษา ฯ . ๏ ชมฟ้าเมษระย้า..........เรืองแสง รวิสาดส่องแทง.....................ทั่วหล้า แสงธรรมสู่แสดง...................ใครจัก...คิดฤา วันหนึ่งวันเบิกฟ้า..................เร่งพ้นวันใด๚ ฟ้าเอยงามอร่ามนักถักทอฝัน ยามเมื่อจันทร์เบือนหลบซบน่านฟ้า ตะวันยอนซอนซอกออกเมฆา จรัสแสงเรืองฟ้าประกายยล ช่างสวยงามยามฟ้านภาทัศน์ งามจำรัสเคียงธารามาสถล งามจากฟ้าทอดตาดินรินสายชล คือธรรมชาติอันลุล้นสาดแสงธรรม ทิกิ_tiki จารเมื่อ ๙:๑๐ นาฬิกา พระอังคาร ๒๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ ๏ งานงามงามพิศพ้น เพียงใจ ธรรมหลั่งกระแสไหล ไป่แล้ว งามธรรมดึ่งกลอนไทย ดอกเด่น แก้วเอย รินธาตุธรรมเพริดแพร้ว มุ่งล้วนธรรมธาร๚ ทิกิ_tiki งานตอบข้อธรรม..http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=dokgaew13&topic=1211
24 เมษายน 2547 12:22 น. - comment id 73519
ฉันเพียงก้มลงวักน้ำเย็นล้างหน้า ขอให้น้ำนี้มันเย็นเข้าไปถึงทรวงอันเหนือยล้า ด้วยความทรมาณของฉัน
24 เมษายน 2547 19:21 น. - comment id 73564
....คุณทิกิ เฃียนเหมือนจริงเลย เอ้าเร็วเร็วจ้ะ ยิ้มสักนิดนะคะ แล้วพระก็ช่วย
24 เมษายน 2547 20:00 น. - comment id 73566
-ขอบคุณคุณอาภาภัสค่ะ