บทที่ [4] แรมรอนโดยลำพัง เวดเดินไปตามทางเพียงลำพัง ... เขาค่อยๆย่างกรายอย่างช้าๆ เพื่อจะหยุดเวลาไว้ชั่วคณะ .... ภาพเหตุการณ์ซึ่งเป็นชนวนให้เขาต้องหนีออกจากบ้านหวนเข้าสู่ภวังค์อีกครั้ง ...เขาเดินมาเรื่อยๆจนกระทั่งถึงปากทางเข้าน้ำตก เขาค่อยๆไต่โขดหินลัดเลาะเพื่อไปยังที่ที่เขาได้เตรียมไว้ก่อนล่วงหน้า ถึงแล้วก็มิรอช้าจัดแจงผูกเต้นท์ หาผ้ารองหลัง สุมไฟ ตอนที่เขายังเป็นลูกเสือสำรอง คุณครูเคยสอนเขาว่า ไฟ คือเพื่อนแท้ ตอนนั้นเขาก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจความหมายสักเท่าใดนัก แต่บัดนี้ภาพลักษณ์นั้น มันแจ่มชัดยิ่งขึ้น...จริงสิ ไฟ..ไฟคือเพื่อนแท้ ...ห่มฟ้าต่างผ้าห่ม กอดลมต่างหมอนข้าง แผ่นหินเย็นเยือกจับสรรพางค์ รองเรือนร่างของข้าไว้ชั่วนิทรา... แล้วเขาก็ค่อยๆล้มตัวลงนอนอย่างโล่งใจ....หลับไปนานเท่าใดก็มิรู้ตัว สะดุ้งอีกครั้งก็เมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องกระทบกับใบหน้าน้อยๆของเขา เขาค่อยๆยันตัวลุกขึ้น วักน้ำในน้ำตกขึ้นลูบน้ำ รู้สึกเย็นสดชื่นไปทั่วร่าง เขาเดินลงไปข้างล่างอีกครั้ง เมื่อเห็นพวกของผู้ใหญ่นุ้ยและชาวบ้านรวมทั้งเถื่อนยืนอยู่ข้างล่าง เขาสะดุดกึก พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนสีหน้าให้เริงร่าและเตรียมตอบคำถามไว้ในใจ ..... ทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดไว้ เมื่อเถื่อนถามว่าทำไมเขายังไม่เปลี่ยนชุดอีก เขาก็ได้แต่อ้ำอึ้งและเฉไฉไปคุยเรื่องอื่นแทน.... ยามรัตติกาลมาเยือนแล้ว เสียงหริ่งหรีดเรไรพากันระงมดังเซ็งแซ่ เงาทะมึนของต้นไม้ใหญ่ช่างดูน่ากลัวราวกับมีพลังลึกลับบางอย่างเหลือเกิน ท้องฟ้ามัว ราวฝนห่าใหญ่ตั้งเค้าเตรียมจะตก แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญของเวด .... มันยังมี แม่ง! ซวยฉิบ หมาไหนเอาบะหมี่กูไปแดกหมดวะ ?? เวดสบถอย่างอารมณ์เสีย .. แน่ล่ะ! สุนัขในแถบๆน้ำตกนั้นได้แอบมาย่องเบาขโมยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เขาซื้อเอาตามรายทาง ตอนนี้เขานึกเพียงแต่ปากท้องของตนเอง ว่าจะผ่านพ้นคืนนี้ไปได้อย่างไรกัน ในเมื่ออาหารยังไม่ตกถึงท้องเลยแม้แต่นิดเดียว แวบหนึ่งของความคิดที่จะกลับไปบ้านของเถื่อนหรือกลับไปหาพ่อ ... มันผ่านมา..ผ่านมาแค่ครู่เดียว ..เราต้องพิสูจน์ความเป็นลูกผู้ชายที่ไม่ยอมให้ใครมาหยามศักดิศรี อยู่กันไม่ได้ก็แยกกันไปเลย... เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ....สักพักหนึ่งน้ำตาของเขาก็ค่อยๆไหลออกมาเป็นทาง ระคนกับเสียงสะอื้นไห้ ของเด็กชายวัย 12 ขวบ ภาพวันวานหวนกลับเข้าสู่ภวังค์ของเขาอีกครั้งหนึ่ง ....พ่..ออ แม่ฝากลูกด้วยนะ ดูแลลูกดีๆ ให้ลูกเรียนสูงๆ จะได้มีการมีงานทำ .. แล้..ว ถ้าพ่อจะมีผู้หญิงใหม่แม่ก็ไม่ว่านะ ให้เขารักพ่อ รักลูกเวด แม่ก็นอนตายตาหลับแล้ว พ่อสัญญากับแม่สิ..สัญญา น้ำเสียงของแม่ที่เปล่งออกมาแม้จะแหบพร่าเต็มที แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่ลึกล้ำ ..จ้ะ แม่ พ่อสัญญา พ่อจะดูแลลูกให้ดีที่สุด เท่าที่ความสามารถของข้าราชการจนๆอย่างพ่อจะมี แม่เชื่อนะว่าวันหนึ่งลูกเราจะได้สวมชุดครุย เหมือนอย่างแม่ไงจ๊ะ.. พ่อกล่าวทั้งน้ำตา ราวกับจะอาลัยอาวรณ์กับความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ - - - - - - - - - - - - - - - - - - - แล้วเครื่องจับชีพจรก็หยุดทำงาน ตามด้วยสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่า ..อนิจจาสังขารา ใดๆในโลกไม่เที่ยง ... ............................................................................................. ................................... เวดหลับไปนานแล้ว... ......................................................... ท้องฟ้าครารัตติกาล มีดาวประดับพร่างพรายและค่อยๆเพิ่มจำนวนมากที่ละดวงสองดวง เสียงแมลงต่างๆมากับร้องระงมดังเซ็งแซ่ มีเสียงประหลาดดังมาจากในป่ามากมาย มันเป็นเสียงที่เวดไม่เคยได้ยิน เพราะเขาเป็นเด็กเมือง เด็กเมืองผู้ซึ่งไม่เคยสัมผัสกับชีวิตธรรมชาติเช่นนี้ มันเป็นเสียงสัตว์ป่า และกับสภาพเช่นนี้ เวดกลัวเสือมากที่สุด ... เขาค่อยๆลืมตาขึ้น เห็นไฟมอดดับไปนานแล้ว เขาจึงควานหาไฟแช็กท่ามกลางความมืด และค่อยๆจุดมันขึ้นมาท่ามกลางความมืด ไฟลุกพรึบ เวดค่อยๆหากิ่งไม้มาสุมไฟ จนกระทั่งไฟลุกโชนเขาจึงรามือ ไฟทำให้เขารู้สึกอบอุ่นทั้งกายและใจขึ้นมาอย่างประหลาด หลายๆคนบอกเขาเกี่ยวกับสัจธรรมของไฟว่า ไฟให้ความเป็นเพื่อนอย่างยิ่งใหญ่ เปลวไฟส่ายไหวดูราวกับมีชีวิตจิตใจ แสงสว่างของเปลวไฟทำให้เวดรู้สึกเหมือนมีกำแพงอันแข็งแกร่งคอยปกป้องอันตรายให้เขาด้วย พื้นหินที่เวดนอนอยู่ค่อยๆลดอุณหภูมิลง ความเยียบเย็นค่อยๆซึมเข้าแทนที่ทีละน้อย เสียงน้ำตกที่ไหลเป็นจังหวะอยู่ตลอดไม่มีคำว่าพัก ดังก้องสนั่นหวั่นไหวราวกับจำนวนน้ำที่ไหลลงมาเพิ่มมากขึ้น เสียงน้ำในลำธารเบื้องล่างรินไหลลดเลี้ยงหลบโขดหินระริกๆได้ยินชัดเจนขึ้นตามลำดับ เวดคิดถึงแม่ แม่ชอบพาเวดไปเที่ยวน้ำตกมากกว่าทะเล เพราะแม่ชอบความร่มเย็นที่เป็นธรรมชาติของมันมากกว่า เป็นบางสิ่งบางอย่างที่ช่วยปลุกพลังชีวิตได้อย่างประหลาด แม่บอกแก่เวดเช่นนั้น ส่วนน้ำทะเล เดี๋ยวนี้ก็ไม่สะอาดเหมือนแต่ก่อน อาบน้ำเค็มเสร็จก็ต้องอาบน้ำจืดอีก ... เวดมองทะลุผ่านม่านน้ำที่ทิ้งตัวละลิ่วลงจากผาเบื้องหน้า ..หลังม่านน้ำนี้จะมีอะไรหนอ.. เสียงแม่ดังแว่วมาจากม่านน้ำนั้น ...ไม่รู้สิฮะ.. เสียงเจื้อยแจ้วของเด็ก 6 ขวบในวันวานดังขึ้นหลังจากแว่วแผ่วสำเนียงเสียงของแม่ ... แท้แล้วมันเป็นเสียงของเขานั่นเอง ...หลังม่านน้ำตกนั้นนะ เป็นทางไปสู่เมืองลึกลับ ซึ่งเล่ากันว่าถ้าใครที่เข้าไปในนั้นแล้วสามารถกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย แสดงว่าเป็นผู้ที่สร้างแต่บุญดี เอ่อ! บุญดีก็เช่นว่า แบ่งขนมให้เพื่อนเอย สอนการบ้านเพื่อนเอย แต่ถ้าใครที่ออกมาไม่ได้ ต้องถูกกักขังทรมาน แสดงว่าไม่เคยทำความดีอะไรเลย อาจจะชอบแกล้งเพื่อน อย่างนี้ เวดเข้าใจนะลูก.. .......ไม่มีใครคาดการณ์มาก่อน ฝนห่าใหญ่เทกระจาดลงมาอย่างไม่น่าเชื่อ ..... เวดนอนตัวสั่นเทากอดกระเป๋าใบเดียวติดกาย ไฟที่เคยลุกโชติช่วงดับมอดหมดแล้ว เขารู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที อีกทั้งสงครามในกระเพาะอาหารก็อุบัติขึ้น เวดรู้สึกเหมือนจะขาดใจ เขาปวดเมื่อยตามแข้งตามขา เหน็บชาตรงปลายนิ้ว .... เขาร้องไห้คิดถึงพ่อและแม่ ... แต่แล้ว.......... ..เวด เวดอยู่ในนี้มั้ยลูก กลับบ้านกับพ่อเถอะลูก พ่อมารับลูกแล้ว ไม่มีใครรักลูกเท่าพ่อแล้ว...เวด เวดเอ้ย ยกโทษให้พ่อเถอะ .....แม้เขาจะปวดหัวมากเพียงใด แต่ก็ยังจำสำเนียงได้ว่าเป็นเสียงของพ่อ เวดดีใจมาก เขาเห็นพ่อค่อยๆย่างกรายเข้ามาที่เขา...เขาอยากจะลุกโผไปกอดพ่อ แต่เพราะร่างกายที่เหนื่อยล้าเขาก็ไม่สามารถทำอย่างใจได้ ..แต่ภาพที่เห็นตรงหน้า .... ดวงตาของพ่อกลมโตและค่อยๆพองขึ้นเรื่อยๆและเขียวปั้ด ขนคิ้วที่เคยดกดำอยู่แล้ว ยื่นยาวหยาบกร้านแข็ง ฟันเขี้ยวค่อยๆงอกยาวลงมาจากปาก มันแหลมคมมาก มากพอที่จะทำร้ายชีวิตใครบางคนได้ เล็บนิ้วที่ได้รูปกลับกลายเป็นแข็งกระด้างราวกับเล็บเหยี่ยว พ่อค่อยๆโถมถลาเข้ามาหาเขา .... พ่ออ้าปากหัวเราะดังลั่นก้องหุบเขา ฮ่าๆๆๆๆ ฮะ ฮะ ... ไอ้เด็กโง่ แกไม่มีวันหนีข้าพ้นหรอก
ค่ำคืนดื่นดำ...รัตติกาล แสงจากวันวาน...ไป่แล้ว +++ ได้แค่นี้แหละ +++
12 เมษายน 2547 09:36 น. - comment id 72813
เล่าเรื่องได้แยบยลมากครับ สลับกันไปมา เนื้อเรื่องชวนให้ติดตามเป็นอย่างยิ่งครับ
12 เมษายน 2547 09:51 น. - comment id 72819
เขียนได้ดียิ่ง มีเวลาอ่านด้านนี้หน่อยเช้านี้ จะตามต่อไปไม่ต้องกังวล เขียนดีมาก ตอนช่วงกลอนดีมาก ลองใส่สีเข้าไปหน่อยก็ดีนะคะ ถ้าทำสีไม่ถนัด ไป ค้อปี้ทิกิมาได้ที่หน้า2 http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=tiki&topic=218&page=2 เลือกใช้ได้ทุกสีเขียนไว้ ให้ง่ายๆค่ะ
13 เมษายน 2547 23:18 น. - comment id 72960
น่าสงสารจังงะ ตาลน้ำตาไหลเลย มันเเย่มากเลยนะ ใครที่เจอเหตุการณืยังงี้อะ