กระดาษ....ลายชีวิต ((บทที่2))
เสือยิ้มมุมปาก
บทที่ [2] ย้อนรอย
..เถื่อน กลับมาแล้วเหรอ อ้าว! แล้วนั่นใครล่ะลูก เห็นมายืนด้อมๆมองๆอยู่ เข้ามาก่อนสิ เวดนึกขำตัวเองอยู่ในใจ คุยกับเด็กชายตัวโตมาก็หลายคำ แต่ยังมิได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเขาเลย พึ่งจะรู้เดี๋ยวนั้นเองว่า เด็กชายตัวโตที่รูปลักษณ์ภายนอกอาจจะดูไม่น่ามอง น้ำเสียงอาจจะแข็งกร้าวไปบ้าง แต่จิตใจอ่อนโยน ผิดกับชื่อและลักษณะของเขาจริงๆ ..เถื่อน..เอ๊ะ! แล้วทำไมต้องชื่อเถื่อนด้วย พ่อแม่เขาคงจะมีเหตุผลบางอย่างที่อาจจะลึกซึ้งก็ได้ และไม่นานนัก เวดก็เดินตามหลังเถื่อนต้อยๆเข้าบ้านไปอย่างว่าง่าย แนะนำตัวกับพ่อแม่ของเถื่อนพอเป็นพิธีจากนั้นก็จัดแจงอาบน้ำแล้วเข้านอน เด็กทั้งสองนอนคุยกันในเรื่องสัพเพเหระ เถื่อนเล่าให้ฟังว่า เหตุไฉนพ่อของเขาจึงตั้งชื่อให้เขาว่า เถื่อน เขาบอกว่า พ่อตั้งชื่อว่าเถื่อนเพื่อจะได้เป็นเครื่องเตือนสติตน เวดฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจนัก เถื่อนจึงอธิบายต่อพร้อมด้วยแจงถ้อยสาธกว่า หากตัวเขาชื่อเถื่อน พฤติกรรมเถื่อนๆ คนจะดูถูก ย่ำยีเอาได้ว่า ไอ้นี่ ชื่อเถื่อนยังทำตัวเถื่อนอีก หรืออะไรทำนองนี้ ... เวดพอจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง ด้วยการพูดจาที่เป็นกันเองของเถื่อนทำให้เขาค่อยๆลืมเรื่องราวเศร้าๆของตัวเอง และทั้งสองก็ผล็อยหลับไปพร้อมๆกับห้วงแสงแห่งรัตติกาล
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
อุ้ย! สวยจังเลย พร้อมๆกับเสียงนั้นมือน้อยๆก็หยิบกระถางเพ้นท์ลายซึ่งยังคงหมาดอยู่มาดูอย่างตื่นเต้น กระถางใบนั้นตั้งอยู่บนโต๊ะไม้เก่าคร่ำครึซึ่งแม่ของเวดเป็นคนให้ไว้ เวดรักโต๊ะตัวนี้มาก เวลาที่เขารู้สึกมีปัญหาหรือถูกแม่เลี้ยงด่าว่า เขามักจะมานั่งที่โต๊ะตัวนี้ มันทำให้เขารู้สึกอบอุ่นเหมือนได้อยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของแม่ เวดเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นด้วยเสียงอันนุ่มนวลว่า
วางลงเถอะนะ แก้ว ขอร้องเถอะคนดีของพี่ งานยังไม่เสร็จสมบูรณ์เสียทีเดียว ................
ดูเหมือนแก้วจะไม่ใส่ใจกับคำพูดของพี่ชายนัก เธอยังคงชื่นชมกับกระถางใบนั้นต่อไป ... เธอประคองกระถางใบนั้นพร้อมกับเดินไปทางหน้าห้องน้ำ จงใจจะละมือจากกระถางให้ตกลงมา ... เร็วเท่าความคิด เสียงดัง เพล้ง ก้องกังวานขึ้น พร้อมๆกันกับแก้วซึ่งล้มกลิ้งอยู่หน้าห้องน้ำอย่างไม่เป็นท่า เธอแผดเสียงร้องไห้จ้าเต็มที่ หวังจะให้แม่ของหล่อนได้ยิน จริงดังที่คิด หญิงสาวท่าทางเปรี้ยวจี๊ดคนนั้น เดินเข้ามาตบใบหูของเวดอย่างจัง รู้สึกได้ถึงความชาไปเพียงครู่...ตามมาด้วยเสียงสบถพจนาอีกมากมาย คำพูดที่แม่เลี้ยงของเขาพูดยังคงก้องอยู่ในโสตประสาท ... แกคอยดู ทำลูกแก้วของฉันเจ็บ ฉันจะบอกพ่อแก ให้ตีแกให้ตายเลย...
...แกไปทำอะไรหนูแก้วเขา ถ้าน้องหัวร้างค่างแตกจะว่าอย่างไร ฮะ?? แกมันไอลูกเนรคุณ อิจฉาได้แม้กระทั่งน้อง ... มานี่เลยมา มาให้ข้าลงโทษเสียดีๆ .... เท่านั้นยังไม่พอ เสีงแก้วตะโกนมาแต่ไกลจากในบ้าน ..ตีไอเวดเลยพ่อ ตีมันเลย มันผลักหนูล้ม แค่นี้ทำขี้เหนียว ขอดูดีๆก็ไม่ได้ ผลงานของตัวเองสวยตายหล่ะ คิดว่าเขาอยากดูนักเหรอ โธ่เว้ย ผลงานห่วยๆ ซังกะบ๊วยที่สุด... เสียงเจื้อยแจ้วแฝงด้วยความรั้นแกมอิจฉาดังมาเป็นชุดๆอย่างไม่ขาดสาย
...เงียบเดี๋ยวนี้นะ... ดูเหมือนเวดจะอดรนทนไม่ไหว...นานเท่าไหร่ไม่ทราบได้...เวลาผ่านไป เวดรู้สึกอื้ออึงอย่างบอกไม่ถูก เขาวิ่งกลับเข้าไปในบ้านกระชากเสื้อผ้าสองสามชิ้นจากไม้แขวน เงินติดตัวห้าสิบบาท แล้ววิ่งโร่ออกจากบ้านไปอย่างเร่งร้อน....ได้ยินเสียงแม่เลี้ยงของเขาตะโกนไล่หลังดังแว่วๆ ฟังดูแล้วน่าน้อยใจยิ่งนัก ... เชอะ! ไปซะได้ก็ดี
...เชอะ! ไปซะได้ก็ดี ..... - - - - - - - คำพูดนี้ยังคงก้องอยู่ในภวังค์ความคิดของเวด ....
...ไม่อยู่แล้ว คนผิดสัญญา ... พร่ำบอกตนเองเช่นนั้นเรื่อยไป