โรงเรียนกินคน
ภูแก้ว ชมพูแก้ว
ณ. โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนเป็นโรงเรียนธรรมดาทั่วไป แต่หารู้ไม่ว่าโรงเรียนที่ตอนกลางวันมีเด็กนักเรียนเรียนกันเต็ม
ทุกคนมีความสุข เป็นศูนย์รวมการพบปะเพื่อนๆ ในตอนกลางคืนนั้น โรงเรียนนี้จะร้างผู้คน แม้แต่ยามรักษาความปลอดภัยก็ไม่มีประจำเพื่อทำหน้าที่ เนื่องมาจากมีอำนาจลึกลับบางอย่างแฝงตัวอยู่ในตัวตึก ๗ ชั้น
ซึ่งเป็นเพียงตึกเดียวในโรงเรียนแห่งนี้ ที่ใช้ในการเรียนการสอน ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และตอนปลาย โดยเมื่อข่าวนี้แพร่ออกไปให้คนภายนอกได้ทราบ ก็ได้มีการ ลองของ วัดใจ กันเกิดขึ้น
และผู้ที่เข้าไปท้าทายความกล้าทั้งหลาย ก็ไม่เคยได้กลับออกมาอีกเลย ซึ่งเดือดร้อนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าไปตรวจสอบเพื่อค้นหาผู้ที่สูญหาย และหลังจากเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบไม่นาน
กลุ่มไทยมุงทั้งหลายก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากในตัวอาคารเรียนทำให้กลุ่มไทยมุงวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น และในเช้าวันถัดมาในโทรทัศน์ ก็ได้มีการแถลงข่าวจากกลุ่มผู้บริหารประเทศว่าได้สั่งปิดโรงเรียนแห่งนี้ชั่วคราวเนื่องจากมีการวิเคราะห์กันว่าอาจเป็นไปได้ว่าในเวลากลางคืนได้มีกลุ่มโจรหรือไม่ก็เป็นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดเข้ามายึดโรงเรียนแห่งนี้เพื่อที่จะใช้เป็นสถานที่ในการซื้อขายยาเสพติด
และทั้งนี้ยังได้มีการจับกุมตัวผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้พร้อมทั้งกล่าวหาว่าผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้มีส่วนรู้เห็นในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ด้วย และจะมีการส่งกำลังทหารเข้าไปตรวจสอบและขับไล่กลุ่มที่เข้ายึดโรงเรียนแห่งนี้ในยามวิการด้วย และก่อนหน้านั้นก็ได้มีการสั่งปิดล้อมพื้นที่เพื่อไม่ให้คนร้ายหลบหนีออกไปได้ เมื่อเวลา ๐๘:๐๐ น. ก็ได้มีการนำกำลังเข้าไปเพื่อที่จะจับกุมกลุ่มคนร้ายนี้ แต่เมื่อเข้าไปกลุ่มทหารก็ไม่พบร่องรอยอะไรที่จะบ่งบอกได้ว่ามีคนได้เข้ามารุกล้ำสถานที่แห่งนี้เลย
แม้แต่ศพขอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาปฏิบัติงาน หากจะพบก็แต่เพียงอาวุธปืนซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ในการปฏิบัติงานตกอยู่
ทางผู้บัญชาการเมื่อได้รับทราบข้อมูลก็ได้มีการสั่งการลงไปอีกว่าให้ลองเข้าค้นหาอีกครั้งในเวลากลางคืน โดยคำสั่งนี้เป็นความลับ ไม่เปิดเผยให้บุคคลภายนอกรับรู้ และเมื่อเวลา ๒๒:๐๐ น. ก็ได้มีการส่งกำลังทหารร่วมร้อยนายเข้าไปเพื่อตรวจสอบสถานที่อีกครั้งและเหมือนกับตอนที่ส่งกำลังตำรวจเข้าไป คือมีเสียงยิงต่อสู้ และมีเสียงกรีดร้องอย่างโหยหวน เหตุการณ์ เกิดขึ้นทุกๆ 5 นาที จากชั้นบนสุด ลงมาเรื่อยๆจนเหตุการณ์มาสงบที่ชั้นสอง
โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนได้มีโอกาสกลับออกมาอีกเลย
หลังจากนั้นความสนใจทั้งหมดก็ตกมาอยู่ที่ผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งนี้เนื่องจากว่าได้มีรายงานว่ามีผู้พบเห็นผู้อำนวยการคนดังกล่าวได้ออกมาจากโรงเรียนดังกล่าวตอนเช้ามืด ซึ่งพอจะเดาได้ว่าผู้อำนวยการคนดังกล่าวอาจอยู่ในตัวอาคาร ในช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตกดินไปจนถึงช่วงก่อนเช้ามืด
แต่จากการสอบสวนผู้อำนวยการคนดังกล่าวก็ไม่ได้ข้อมูลอะไรมากนัก ผู้อำนวยการคนดังกล่าวได้บอกแต่เพียงว่าในโรงเรียนมีวิญญาณสิงสู่อยู่ และใครก็ตามที่ลุกล้ำอาณาเขตของพวกมันเข้าไปก็จะถูกพวกนั้นกัดกินร่างกายและต้องกลายเป็นพวกมันทุกคน แต่เขาก็ไม่ยอบเปิดปากบอกว่าเขาสามารถอยู่ในโรงเรียนหลังจากพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างไร เขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับจนกระทั่งวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของเขา
และโรงเรียนแห่งนั้นก็ถูกสั่งให้ทำลายทิ้ง แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำลายโรงเรียนดังกล่าวได้โดยทุกครั้งที่จะมีการทำลายโรงเรียนแห่งนั้น จะต้องมีปัญหาเกิดขึ้นทุกครั้งไป เช่นเครื่องจักรไม่ยอมทำงานเมื่อมีการทุบตึกหรือระเบิดกว่า ๒๐๐ ลูก ด้านพร้อมกัน เมื่อมีการวางระเบิดโรงเรียนเพื่อให้ถล่มลงมา
แม้แต่การเผาโรงเรียนเพื่อให้พระเพลิงผลาญให้วอดวายก็ทำไม่ได้เนื่องจากเกิดฝนตกขึ้นมากะทันหันจนทำให้ผู้บริหารประเทศหมดหนทางต้องสั่งล้อมรั้วรอบโรงเรียนให้สูงถึง 5 เมตร และมีการปิดตายประตูหน้าโรงเรียนเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าไป เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นตามมา และหลังจากนั้นผู้คนก็กล่าวขานเรียกโรงเรียนอาถรรพ์นี้ว่า
โรงเรียนกินคน
เนื่องจากผู้ที่เข้าไปในตอนกลางคืนไม่สามารถกลับออกมาได้อีกเลย ด้วยเหตุนี้บริเวณรัศมี ๑๐๐ รอบโรงเรียนมีอันต้องร้างไปด้วยเนื่องจากชาวบ้านหวาดกลัวและย้ายหนีออกไปจนหมด โดยชื่อเสียงของโรงเรียนแห่งนี้ก็ยังคงอยู่ในจิตใจของผู้คนไปอีกนานหลายปี