1 เขาและเธอ เคยไหม ที่บางครั้งคุณเคยรู้สึกเหมือนตัวเองว่างเปล่าทั้ง ๆ ที่คุณอยู่ท่ามกลางความวุ่นวายกลางที่ชุมชน และคุณเคยไหมรู้สึกว่ามันเงียบงัน ทั้ง ๆ ที่รอบตัวคุณมีแต่เสียงกรึ๊ดร้องของผู้คนมากมายในงานคอนเสิร์ต นั้นละความรู้สึกของผมตอนนี้ ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าทุกอย่างมันว่างเปล่าและโลกมันเหมือนกับหยุดหมุน ชีวิตของผมเหมือนกับว่าเป็นเพียงแค่อากาศ ที่กำลังถูกปลดปล่อยออกจากลูกโป่ง ที่มันกำลังทะลักทลายออกมาอย่างไร้ทิศทาง ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเป็นเช่นนั้น และเหตุนี้เอง ที่ทำให้ผมขึ้นมาสงบสติอยู่บริเวณยอดตึกแห่งนี้ ชีวิตฉันมันช่างวุ่นวายเกินทนเสียจริง ตั้งแต่เช้าจดเย็น ผู้คนที่ผ่านมาช่างน่าปวดหัวเสียเหลือเกิน ทำไมตัวฉันถึงไม่เหมือนคนอื่นละ อาจจะเป็นเพราะฉันเป็นศิลปินอย่างนั้นหรือ แต่ก็ไม่นิ ชีวิตส่วนตัวของฉันวุ่นวายทุกวินาที ทุกเวลา มีแต่ความสับสน ทำให้บางทีฉันรู้สึกว่าฉันเหนื่อยกับความวุ่นวายเสียเหลือเกิน ทุกๆ วันฉันต้องไปนู้นไปนี้ ทั้ง ๆ ที่ฉันไม่อยากจะไป ฉันต้องไปเสแทร้งทำเป็นสนุกทั้ง ๆ ที่ในใจของฉันมันว้าวุ่นมากเสียเหลือเกิน ถึงแม้ฉันจะทำให้หลาย ๆ คนมีความสุข แต่ฉันหละ ฉันเมื่อมีคำสาปที่คอยหลอกหลอนฉัน ที่ทำให้ฉันไม่เป็นตัวของตัวเองเสียเลย ชีวิตมันช่างน่าเบื่อเสียจริง อยากมากฉันก็ได้แต่นั่งบนกับตัวหนังสือที่ฉันได้เขียนนี่หละ รู้ไหม บางทีฉันอาจจะหลบหนีไปไกล ถึงความฝันที่ฉันเคยฝันว่าอยากจะมี ฉันคิดว่าบางทีสิ่งที่ฉันต้องการทั้งชีวิตอาจไม่ใช่ชื่อเสียง หรือความโด่งดัง ณ จุดนี้ก็เป็นได้ ฉันเป็นเพียงแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ที่ทำตามฝัน ทำตามความต้องการ และดูเหมือนว่าฉันค้นหาอะไรบางอย่างนะ ฉันว่า สำหรับผม การที่นั่งอยู่ในที่สูง ๆ อย่างนี้ เวลาค่ำคืนผมว่ามันสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้ผมอย่างประหลาด แสงไฟตามตึกต่าง ๆ ช่วยผ่อนคลาย เสียงลม เสียงจากความวุ่นวายมันช่างบางเบา ทำให้รู้สึกดี นอกจากแสดงจากตึกต่าง ๆ แล้ว สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขในยามค่ำคืนก็อาจจะเป็นพระจันทร์ ที่ประดับอยู่บนท้องฟ้า ดูไปพระจันทร์ที่ส่องแสง สร้างความสวยงามบนท้องฟ้า ที่ไม่มีความแน่นอนในตัวเอง เปลี่ยนแปลงไปตามวิธีต่าง ๆของโลก คงจะเหมือนกันกับคนที่จะต้องเดินไปตามสภาพแวดล้อมอันไม่แน่นอน ถ้าดวงจันทร์ทำหน้าที่คล้ายกับดวงอาทิตย์ความสวยงามยามค่ำคืนอาจจะน่าเบื่อจำเจ และอาจไม่มีกวีเกี่ยวกับดวงจันทร์ก็เป็นได้ ซึ่งผมก็ดีใจที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของมันในทุก ๆ ค่ำคืน มันทำให้ผมต้องตั้งตารอดูความเปลี่ยนแปลงถึงแม้มันจะเปลี่ยนแปลงก็อาจจะไม่มาก แต่ละวัน แต่ละวัน เหมือนคนที่รู้จักกัน แต่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ไม่มีวันที่สิ้นสุด ดวงจันทร์หรือ ฉันแทบจะไม่ได้เห็นดวงจันทร์เป็นเวลานานเท่าไรแล้ว เมื่อหัวถึงหมอนฉันก็หลับเป็นตาย งานที่ฉันได้ทำก็หนักเสียจนไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง แสงแดดที่สาดส่องผ่านหน้าต่างนั้น เป็นการกระตุ้นเตือนให้ฉันมีพลัง สู้ต่อในวันใหม่ หลาย ๆ ครั้งที่ฉันคิดว่าดวงอาทิตย์ช่างมีพละกำลังล้นเหลือ มากเพียงพอที่จะเพื่อแผ่ให้กับหลายๆ คนได้รับความอบอุ่นและพลังต่าง ๆ ให้กับสิ่งมีชีวิต ถึงแม้บางครั้งอาจจะร้อนแรงแต่บางครั้งก็สร้างความสวยงามบนความร้อนแรงนั้น อาจสัมผัสถึงความสวยงามยามที่แสงทอลงมา เมื่อเวลาที่ฉันเดินทางไปต่างจังหวัด ดวงอาทิตย์ที่ก็เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ฉันคุ้นเคย แม้หลายๆ ที่แสงของดวงอาทิตย์จะสาดส่องมาไม่เหมือนกัน แต่อย่างน้อยฉันก็รู้สึกดีและมีกำลังใจมากขึ้น ในการต่อสู้ ฉันรอคอยวันใหม่อยู่เสมอ รอแสงอาทิตย์ที่จะขึ้นจากริ่มขอบฟ้า แสงอาทิตย์ที่ริมหน้าต่างของฉัน มันช่วยปลุกพละกำลังที่มีอยู่น้อยนิดของฉันให้ก้าวต่อไปและทำให้ฉันรักที่จะให้ชีวิตดำเนินต่อไป เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วมากเสียเหลือเกินจากค่ำคืนสู่กลางวัน ความเหงาเข้าครอบงำผมอีกครั้ง แต่นั้นหละทำให้ผมปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ เผื่อหนีความเหงาที่ต่างเข้ามารุมเร้าผม การเดินทางทำให้ผมมีความสุขเพราะความเหงามันตามผม ไม่ค่อยทัน หรืออาจเพราะไม่มีเวลามานั่งเหงาบรรยากาศสองข้างทางมักจะเป็นเพื่อนผมอยู่เสมอ ๆ จุดหมายปลายทางของผมจะทำให้ผมมีความสุขกับการเดินทางจนบางครั้งผมลืมไปเลยว่าผมเคยมีความเหงา แม้อาจจะเหนื่อยไปบ้างกับการเดินทาง แต่ผมก็รู้สึกดี เพราะการเดินทางจะสร้างสิ่งใหม่ ๆ ให้กับเราสม่ำเสมอ ให้ความรู้ และความตื่นตาตื่นใจทุกครั้ง โดยเฉพาะธรรมชาติให้ความรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก เหมือนได้อยู่ในที่ๆ ผมควรจะอยู่ ผมคิดอย่างนั้น แต่การเดินทางสำหรับฉันมันมักจะมาพร้อมความเหนื่อยล้า และปัญหาต่าง ๆ เสียมากกว่า ความฉุกละหุกและความวุ่นวายต่างประดังเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน ถึงแม้ฉันเข้มแข็ง และสู้เพียงใด ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ยังถาโถมเข้ามาอยู่ร่ำไป จนบางทีฉันอาจต้องนั่งเสียใจอยู่เงียบ ๆในมุม ๆ หนึ่ง ความเข็มแข็งที่ฉันมีหมดไปภายในพริบตา ความเหนื่อยละท้อค่อยตีบตันจนจุกคอหอย ทำให้ฉันอยากกรีดร้องออกมา แต่ทว่า มันคงเป็นไปได้ยาก ฉันไม่อาจปรับระบบความคิดของฉันได้เลย แต่การเดินทางของฉันแม้จะไม่ค่อยได้สัมผัสกับกลิ่นไอธรรมชาติเท่าไรนัก แต่บรรยากาศสองข้างทางยังพอให้ฉันหลุดพ้นจากวิถีชีวิตเมืองไม่น้อย แม้แค่เป็นช่วงสั้น เพราะการเดินทางของฉัน คือการเดินทางจากเมืองหนึ่งไปสู่อีกเมืองหนึ่งแค่นั้น เวลาในหนึ่งวันฉันหมดไปกับการอยู่บนรถ การเก็บตัว การเตรียมตัว เพื่อทำงานของฉันแค่สอง ถึงสามชั่วโมงเท่านั้น หลาย ๆ ครั้งฉันอึดอัดและสับสนจนอยากจะหนีไปให้พ้น แต่มันคงทำไม่ได้ เพราะหน้าที่และความรับผิดชอบของฉันที่มีต่อผู้ร่วมงาน สำหรับฉันธรรมชาติเป็นสิ่งที่ฉันคิดถึงและใฝ่หา มันเหมือนสิ่งที่อยู่ใกล้ๆ แต่ไปไม่ถึง
17 มีนาคม 2547 21:39 น. - comment id 71851
ดีนะคะ
17 มีนาคม 2547 21:57 น. - comment id 71853
น่าติดตามค่ะ.....อยากรู้จังตอนจบจะเป็นอย่างไร...
18 มีนาคม 2547 12:09 น. - comment id 71865
แต่งได้ดีมากเลยค่ะ ว่างๆก็มาเยี่มเยียนโอปอลบ้างนะ แวะมาทักทายค่าาาา
18 มีนาคม 2547 12:37 น. - comment id 71868
ชักอยากอ่านต่อแล้วสิ
18 มีนาคม 2547 14:32 น. - comment id 71880
ขอบคุณครับ ทุกคน ที่เป็นกำลังใจ ตอนที่สองเสร็จแล้วหละกำลังเกลาอยู่ครับ
19 มีนาคม 2547 12:33 น. - comment id 71900
เขียนได้ดีและน่าติดตามค่ะ จะอ่านตอนต่อไปนะคะ
19 มีนาคม 2547 14:41 น. - comment id 71916
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากค่ะ
20 มีนาคม 2547 11:07 น. - comment id 71948
ชีวิตไม่สิ้น ต้องสู้ต่อไปครับ