แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในเต้นท์ที่เย็นยะเยือกเพราะพิษน้ำค้างเมื่อคืน ทำให้ผมมีอาการเจ็บคอขึ้นมาบ้างแล้ว ผมลุกขึ้นนั่ง บิดขี้เกียจไปสองสามทีพอเป็นพิธีแล้วค่อยๆคลานมาโผล่แค่ใบหน้าที่ด้านหน้าของเต้นท์ลายสก็อตหลังเล็กที่กางไว้พอให้นอนได้แค่นั้นเอง " ตื่นแล้วเหรอ " พี่เต้ ช่างซ่อมบำรุงอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ กำลังอุ่นน้ำร้อนในกาน้ำร้อนปิกนิค กล่าวทักเป็นคำแรกหลังจากที่เมื่อคืนนอนขุดขู้อยู่ในเต้นท์แคบๆกับผม " ตื่นเช้าจังเลยพี่ " ผมค่อยๆ พยุงตัวเองออกมาจากเต้นท์ แล้วมาทำท่าทางซู๊ดปาก เอามืออังไฟที่กำลังจะมอดดับ เหลือเพียงเถ้าถ่าน และไฟแดงๆอยู่แค่นั้น "กาแฟหน่อยมั๊ย " พี่เต้ยื่นแก้วให้ผมด้วยมือที่สั่นเทา อากาศที่นี่เย็นจัดมาก เมื่อคืนไม่มีใครได้อาบน้ำกันสักคน "ไม่อาวววพี่ ผมไม่ดื่มกาแฟ ผมดื่มเป็นแต่แอลกอฮอร์ครับ " ผมพูดปนตลกก่อนจะลุกขึ้นยืนมองพระอาทิตย์ที่กำลังโผล่พ้นขอบฟ้า "หนุ่มไม่เอากล้องวีดีโอมาถ่ายพระอาทิตย์ตอนเช้าหน่อยเร้อ เดี๋ยวจะพลาดความสวยงามของทัศนียภาพบนเขาใหญ่นี่หรอก " พี่เต้ เอ่ยขึ้นหลังจากที่จ้องมองภาพวิวที่สวยงามนี่อยู่ก่อนแล้ว "แบ็ตเตอรี่ หมดแล้วพี่ เมื่อคืนตอนอยู่บนเครื่องผมเล่นระบบไนท์ช็อตถ่ายภาพวิวของภูเขาลูกโน้นจนหมดเกลี้ยง " ผมพูดขณะแกะถุงขนมปังออกมาเคี้ยวตุ้ยๆ กอรปกับสายตาที่กวาดไปรอบๆบริเวณ และหยุดจดจ้องอยู่ที่ เครื่องเฮลิคอปเตอร์ 6 ที่นั่ง เอนสตรอม ของโรลสรอยด์ ต้นแบบของอังกฤษซึ่งจอดสงบนิ่งอยู่ข้างหลัง เหตุการณ์เมื่อคืน ทำให้ผมต้องกลืนน้ำลายผสมขนมปังลงคออย่างฝืดๆ เราต้องตัดสินใจแลนดิ้งกระทันหัน ทั้งหมดไม่อยู่ในแผน การบินทดสอบเครื่องที่ถูกส่งมอบมาจากบริษัทอากาศยานยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ วันนี้เป็นวันที่สองของการบินในภาระกิจเที่ยวกลางคืนบนความสูง 3,500 ฟิต เจ้าหน้าที่ทั้ง 6 คน รวมทั้งผมด้วย ได้รับคำสั่งจาก ผบ.กองบินฝึกหัวหินให้เข้าร่วมทดสอบเครื่อง หลังส่งมอบแบบไม่เป็นทางการอีกครั้งหนึ่งก่อนเซ็นสัญญาซื้ออย่างเป็นทางการ ภาระกิจในครั้งนี้ เราได้นักบินหลักจากกองทัพอากาศ และนักบินสำรองจากศูนย์ฝึกการบินหัวหิน ลูกเรือก้อมี พี่เต้ซึ่งมีตำแหน่งเป็นวิศวกรเครื่องยนต์เฮลิคอปเตอร์ พี่อีกสองคนเป็นช่างเรดาร์คอนโทรลและวิทยุสื่อสารการบิน และสุดท้าย ผมในตำแหน่งช่างอิเล็คทรอนิกส์การบิน1 ดูแลรับผิดชอบระบบนำร่องที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ทุกคนจะมีเครื่องมือในการตรวจสอบของตัวเองในแต่ละหน้าที่ ผมเองก็มีคอมพิวเตอร์โน็ตบุ๊คญี่ห้อดังที่มีไว้คอนเน็คกับฮาร์ดแวร์ในเครื่องควบคุมระบบการบินบนความสูงในสถานการณ์จริง ซึ่งโปรแกรมต่างๆนี้ พี่ๆในทีมงานของศูนย์สารสนเทศการบินได้ตระเตรียมและซักซ้อมการติดตั้งและตรวจเช็คให้กับผมมาจนชำนาญแล้ว ก่อนจะผลักให้ผมเป็นตัวแทนเสี่ยงตายของพวกเขา อีกอย่างงานนี้ก็เป็นงานที่ผมเริ่มทำตั้งแต่เข้ามาทำงานที่นี่ใหม่ๆ อีกทั้งผมยังเป็นตากล้องวีดีโอจำเป็นให้กับการปฎิบัติภาระกิจในครั้งนี้ด้วย หลังจากที่พวกเราทำการบินเหนือยอดเขา ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ใกล้ๆเขตแดนที่ติดกับจังหวัดสระบุรีด้านทิศตะวันตก เครื่องยนต์ทุกอย่างดูปรกติ แต่สเกลน้ำมันลดลงมากกว่าที่ควรจะเป็นเมื่อคำนวณคร่าวๆแล้ว อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมีค่าน้อยลง นั่นหมายความว่าเครื่องยนต์ที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่ ซดน้ำมันเหมือนรถยนต์ที่เพิ่งถอยมาจากอู่ไร้ชื่อข้างถนน นักบินแจ้งไปยัง ATF CONTROLขออนุญาติลงจอดฉุกเฉินระดับสอง เพื่อตรวจเช็คกันใหม่ทั้งระบบ พื้นที่ระแวกนี้ จากแผนที่ทางอากาศ พวกเราไม่รู้หรอกว่ามีความลาดเอียงแค่ใหน ฐานสกีของเครื่องเฮลิคอปเตอร์ อาจจะลื่นไหล ทำให้ใบพัดหลังหรือเทลโรเตอร์ตัดกับกิ่งไม้ได้ทุกเวลา อีกทั้งเป็นการบินระยะต่ำเลี่ยพื้น เฉียดใบไม้แค่ไม่กี่ฟุตเท่านั้น แสงสว่างจ้าของสปอตไลน์ที่ติดอยู่ที่ใต้จมูกของเครื่องเอนสตรอม ส่องแสงกวาดไปทั่วบริเวณ ผมเห็นนกแตกรัง บินว่อนอยู่ข้างล่าง เมื่อต้นไม้รอบๆไหวโบกเพราะแรงลมที่กระทำจากใบพัดเมนโรเตอร์ ตัดอากาศขนาดใหญ่ นักบินหลักและผู้ช่วยนักบินช่วยกันโยกคันบังคับ ฉุดเยื้อแย่งฟัดเหวี่ยงกับเจ้าเอนสตรอมที่กำลังสั่นและโคลงเคลงเชิดหน้าหน้าสลับกับยกแพนหาง คล้ายเล่นไม้กระดานชิงช้า เพื่อให้ลงจอดอย่างสงบและปลอดภัยที่สุด ความสูงลดลงทีละน้อยๆ เสียงของใบพัดเมนโรเตอร์ตัดอากาศดังพับๆ ยิ่งทวีคูณมากขึ้นเมื่อเครื่องเอนสตรอมอยู่ใกล้พื้นลงไปเรื่อยๆ ทันทีที่ฐานสกีของเครื่องแตะพื้น ผมซึ่งนั่งอยู่ที่นั่งด้านซ้ายตอนกลางติดกับประตูกระจกสำหรับมองวิวเพื่อเก็บภาพถ่ายทางอากาศของห้องผู้โดยสาร ร้องบอก " เคลียร์ " ให้ทุกคนรับทราบ มันเป็นธรรมเนียมปฎิบัติ ของคนที่มองเห็นวิวด้านหลังชัดเจนที่สุด หลังจากเครื่องแตะพื้นได้อย่างปลอดภัยแล้วนั่นเอง นักบินลดรอบของเมนโรเตอร์ ตรวจเช็คมาตรวัดต่างๆ และดับเครื่องยนต์ลงในที่สุด ผมเปิดประตูลื่นของห้องผู้โดยสารออกมาเป็นคนแรก ตามด้วยคนอื่นๆ ที่ได้ทยอยก้มศรีษะให้ต่ำเข้าไว้ แล้วออกมายืนรวมกันให้ห่างจากตัวเครื่องมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ผมบันทึกภาพวีดีโอด้วยม้วยเทป 8 มิล ที่ใช้ระบบไนท์ช็อต สำหรับบันทึกภาพตอนกลางคืน ผมบันทึกวีดีโอไปรอบๆบริเวณ โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยแสงไฟจากสปอตไลน์ของเจ้าเอนสตรอมซึ่งกำลังหรี่แสงลง เพราะเครื่องยนต์ได้ดับไปแล้ว แต่ใบพัดก็ยังหมุนอยู่เพราะแรงเฉื่อย ทันใดนั้นเองผมได้มองเห็นอะไรบางอย่างในความมืดกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ๆพวกเราทีละนิดๆ ลักษณะคล้ายมนูษย์ ที่สำคัญไม่ได้มีแค่คนเดียว ลัษณะที่เห็นเป็นเงาตะคุ่มๆขาวดำ ในช่องเลงภาพของกล้องวีดีโอของผม ผมต้องผงะและถอยออกมายืนไม่ห่างจากเครื่องเฮลิคอปเตอร์ที่เพิ่งลงจอดเมื่อไม่กี่นาทีมานี้เท่าใดนัก พี่เต้เป็นคนแรกที่สังเกตุเห็นสีหน้าของผมในตอนนั้น คนอื่นๆก็มีทีท่างุนงง และคงอยากถามว่าเห็นอะไรอยู่ในดงป่าไม้ข้างหน้า ผมไม่พูดอะไร รู้แต่ว่าความกลัวมันแล่นเข้ามาสุดขั้วหัวใจ พอได้สติ ผมก็กดปุ่มย้อนภาพวนเล่นกลับหลังไปสักครึ่งนาที แล้วส่งให้พี่เต้ดูภาพเคลื่อนไหวในกล้องวีดีโอที่ผมเพิ่งถ่ายได้เมื่อครู่ พวกเราทุกคนพร้อมใจกันถอยห่างออกมาหลังจากที่รู้ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล อยู่หลังหมู่ต้นไม้น้อยใหญ่ข้างหน้า นักบินหลักที่มียศทางทหารอากาศว่าอะไร ผมเองก็จำไม่ได้แล้ว ได้ถอดปืนพกออโตเมติกออกมาจากซองกระเป๋าฉุกเฉิน ใต้เก้าอี้นักบิน เขาเล็งปืนไปในความมืดข้างหน้า พร้อมกับสั่งให้ลูกเรือที่เหลือคนอื่นๆรีบขึ้นไปรอดูเชิงในเครื่องเอนสตรอม นักบินคนที่สองสตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้งหลังจากได้รับคำสั่งจากหัวหน้าทีม ใบพัดหมุนตัดอากาศแล้วเริ่มมีเสียงดังมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อความเร็วของเมนโรเตอร์ได้ที่ นักบินคนที่สองก็ดันคันบังคับให้แสงสปอตไลน์หน้าเครื่องหันไปยังฝูงอาคันตุกะผู้อยู่ในความมืด ภาพที่ปรากฎทำให้พวกเรารู้สึกโล่งอกและหัวเราะท้องขดท้องแข็งไปตามๆกัน เพราะพวกมันคือ " ฝูงลิง " สัตว์ผู้น่ารักและขี้สงสัยบนเขาใหญ่นั่นเอง เฮ้อ!!!!!
17 กุมภาพันธ์ 2547 21:40 น. - comment id 71084
น่าหนุกดีเนอะ
17 กุมภาพันธ์ 2547 21:41 น. - comment id 71085
เราจ้องความมืดอยู่แค่คนเดียว
18 กุมภาพันธ์ 2547 03:33 น. - comment id 71094
น่ากลัวจัง
16 กันยายน 2555 20:15 น. - comment id 130303
ผมคือ Et มนุษย์ต่างดาว อ่ะ ลืม user name และ password กะจะโพสต์เรื่องต่อไป ไม่ได้แล้ววว