ความมืดของชีวิต
สายลมกับหญิงสาว
ความมืดของชีวิต
ฉันไม่อยากรู้ว่าวันเวลา และทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นอย่างไร โลกจะหมุนไปนานเท่าไร ใครจะเป็นยังไงฉันไม่อยากรู้และสนมัน บางคนก็คิดว่ามันเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัว ใช่แล้วมันคือความคิดที่เห็นแก่ตัว ก็ทำไงได้ละในเมื่อคนส่วนใหญ่มักไม่สนใจกับคนรอบข้างเลย "ใครจะเป็นไงก็ช่างไม่ใช้เรื่องของฉันฉันไม่สน"
อะไรทำนองนี้แหละ มีน้อยคนที่จะเอาใจใส่กับคนรอบข้างน้อยคนนักที่จะเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่ใช่คนที่ดีอะไรหรอกนะ ก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น จะเป็นหรือตายไม่มีใครสนอยู่แล้วนิ ฉันมักจะถูกคนรุมด่าเสมอเป็นจำพวกสังคมรังเกียจพวกคนรวยส่วนใหญ่มักจะจมอยู่ในกิเลสตันหาเหมือนในหนังน้ำเน่า แต่ถามหน่อยนะว่าในชีวิตจริงมีบ้างไหม? บางคนคิดว่ามีบางคนก็คิดว่าไม่ มันก็ถูกทั้ง2อย่าง ในโลกของเราไม่มีอะไรแน่นอนเสมอไป มีทั้งถูกและผิด ชั่วและดี ปะปนกันไปในสังคมที่โสโครกนี้ ไม่มีใครเกิดมาแล้วดีกันหมดทุกคน ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้หลายคนต้องเป็นหนี้เป็นสิน อยากถามคุณว่าเป็นหนี้ทำไม? คำตอบคืออะไรมันก็คงอยู่ในหัวสมองของคุณ ส่วนฉันคิดว่า1 ปัจจัย4 ถ้าเราขาดปัจจัยเหล่านี้คงอยู่ไม่ได้ 2 สนองกิเลสตันหาของตนเอง ถ้าเป็นคุณคุณจะเลือกข้อไหน? คำตอบคงอยู่ในใจของคุณแล้วละ คนเราถ้าจมอยู่ในกิเลสตันหา ชีวิตก็คงจะมืดมน แต่ก็อย่างว่านะแหละไม่มีใครดีเสมอไป ไงๆสะก็หนีจากมันให้ได้ละถ้าคิดว่าหนีได้ ก็ขอแนะนำให้หนีสะชีวิตจะได้มีความสุข
รู้อะไรไหมว่ากิเลสอยู่ด้วยอะไร? กิเลสอยู่ได้ ความละโมบ,อยาก, ลุ่มหลงฉันเชื่อว่าหลายคนคงมีความรู้สึกแบบนี้บ้างแหละ ฉันก็เหมือนคนเหล่านั้น มีกิเลสตันหาเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่ใช่คนที่ดีเหมือนนางเอกในหนังน้ำเน่า
ถึงได้เขียนบทความนี้ขึ้น เพราะความประสงค์ที่ดีไม่อยากให้ใครเป็นแบบฉัน หวังว่าหลายคนคงจะคิดได้
อยากให้ตื่นจากความฝันที่เกิดจากกิเลส ความฝันที่ไม่มีทางเป็นจริง