ประากยชล - ไอตะวัน 7 จบแล้วนะคะน้องใบหมอน

TANOI_ZA

ตอนที่เจ็ด การเลิกลา การหวนคืน และการเริ่มต้น
ตัดสินใจได้แล้วเหรอ เร็วจังเลยนะ ฉันยังทันได้ทำใจเลย
ผมกับกลอนเราเคยรู้ ฉันเอามือที่มีอยู่เพียงสองข้าง ปิดปากเขาไว้ด้วยอาการที่สั่นไหวไปด้วยแรงน้ำตาที่ส่งมาจากใจ
ไม่!.ไม่ต้องแล้ว ไม่ต้องเล่าแล้วนะ เรารู้แล้วเราไม่อยากฟังแล้ว ฉันสบตาเขาผ่านม่านน้ำตา ที่ตอนนี้กลบแววตาของฉันซึ่งเคยมีความสุขเมื่อครั้งที่เขาบอกรักฉัน เมื่อตอนที่ฉันยังไม่รู้ว่ารักของเขามันโกหก เสียงอ่อนโยนที่ฉันเคยได้ยินจากเขาเป็นเรื่องโกหก ความห่วงใยก็ไม่ใช่เรื่องจริง ทุกอย่างที่ผ่านมันเป็นแค่ฝันอย่างที่ฉันเคยกลัวและไม่ยอมรับรู้
เราได้ยินที่ไอคุยกับกลอนวันเราไม่สบายแล้ว เราก็ว่าจะรีบตัดใจนะ แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วแบบนี้ เราจบกันแค่นี้ก็ได้ เราเข้าใจไอดี ตลกนะวันที่ไอบอกรักเรามันเหมือนเป็นแค่ฝันไปจริงๆ อย่างที่เราคิด และตอนนี้เราก็ตื่นขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว
มันไม่ใช่อย่างที่ชลเข้าใจ ผมวันนั้นผมพูดอย่างนั้น เพราะผมยังไม่เข้าใจตัวเองดี แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว ผมไม่อยากให้ใครมาทำให้ชลมีความสุข นอกจากผมคนเดียว สำหรับกลอนตอนนี้ผมมีแค่ความห่วงใยให้เท่านั้น แต่ถ้าคุณทำใจเห็นผมยังห่วงใยกลอนไม่ได้ เราก็คง
ใช่ฉันทนไม่ได้
แต่ชลผม ผมรักชลนะ ผมไม่รู้จะพูดยังไงให้คุณเข้าใจ
ไม่เป็นไร เราเข้าใจนะ ไออยากให้เรามีความสุขใช่ไหม แต่เราคงทนเห็นไอยังเป็นห่วงคนอื่นไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นไอปล่อยให้เรามีความสุขโดยไม่มีไอดีกว่านะ เราไม่โกรธใครเลย ไม่มีใครผิดทั้งนั้น ตอนนี้เราไม่ไหวแล้วเหนื่อยมากเลยล้าด้วย ถ้าไอไม่มีอะไรแล้วกลับบ้านไปก่อนนะ ขอเราอยู่คนเดียวก่อน เราคงต้องใช้เวลา
ผมระ ก่อนที่เขาจะพูดอะไรที่ทำให้ฉันใจใจอ่อนไปมากกว่านี้ ฉันจึงรีบวิ่งหนีเข้าบ้านโดยไม่ยอมฟังอะไรทั้งสิ้น
เช้าวันต่อมา ฉันออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ เพื่อที่เขาจะได้มารับฉันไม่ทัน เลยต้องลำบากตาเค้กที่ต้องมานั่งหลับบนรถเพราะความเอาแต่ใจของฉัน เชื่อไหมคะว่าเมื่อคืนนี้ฉันไม่ได้หลับเลย เอาแต่นอนคิดว่าจะจัดการกับความรู้สึกตัวเองอย่างไรดี แล้วตอนนี้ฉันก็ได้คำตอบแล้ว
เมื่อถึงที่ทำงาน ฉันก็เข้าไปบอกลาเจ้านาย และเพื่อนๆร่วมบริษัท ที่อุตส่าห์ทนความซุ่มซ่ามและเปิ่นจนทุกคนต้องเป็นห่วง และยังเรื่องที่ฉันทำข้าวของในบริษัทเสียหายอยู่บ่อยครั้ง และในที่สุดไอตะวันก็มาถึงที่ทำงาน เขาเรียกฉันเขาไปพบในห้อง จึงเป็นโอกาสที่ฉันจะยื่น ซองขาว
คุณไม่น่าทำแบบนี้ ผมต่างหากที่ไม่ดี
คุณไม่ผิดเลย ฉันบอกแล้วว่าไงไม่มีคนผิด ฉันฝืนยิ้มให้เขาอย่างเต็มที่ แต่ยิ่งฝืนมันก็ยิ่งเจ็บที่ใจ น้ำตาที่ภายนอกไม่มีใครสามารถมองเห็นก็พาลจะไหลทะลักออกมาภายนอก
ผม..ผม
ช่วยเซ็นอนุมัติด้วยค่ะ เขานั่งนิ่งเฉย เหมือนไม่ได้ยินที่ฉันพูด
ถ้าคุณผิดแล้วคุณจะทำยังไง ฉันบอกคุณว่าฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณแล้ว คุณจะไปจากที่นี่อย่างนั้นเหรอ เขานั่งคิดอยู่นานจนฉันเริ่มทนไม่ได้ 
ดังนั้นกรุณาอย่าทำร้ายจิตใจฉันไปมากกว่านี้อีกเลย กรุณาเซ็นอนุมัติให้ด้วยค่ะ เขาจึงค่อยๆ เซ็นอย่างเชื่องช้า 
เมื่อเขาเซ็นให้เสร็จเรียบร้อย ฉันจึงเดินออกมาจากห้องอย่างสิ้นหวังกับโอกาสที่ตัวเองเพิ่งตัดไป และเริ่มเก็บข้าวของ ขับรถไปยังที่ที่ฉันบอกรักเขา เพื่อซึมซับความรู้สึกที่ผ่านมา ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราสองก็ตาม แต่ที่ผ่านมาเขาก็ทำให้ฉันมีความสุขอย่างล้นใจ ถึงแม้จะเป็นเรื่องหลอกลวงก็ตาม ถึงตอนนี้ฉันก็ยังรักเขาอยู่มาก แต่ฉันก็ทนเห็นเขาเป็นห่วงคนอื่นด้วยความรักไม่ได้ ดังนั้นให้ฉันออกมาอยู่ห่างๆเขาดีกว่าเห็นเขาเป็นห่วงคนอื่น
หลังจากวันนั้น ผ่านมาครึ่งปีแล้วที่ฉันไม่ได้เจอเขา แต่ฉันยังคงยินข่าวคราวของเขาเรื่อยๆ จากปากของยายกลอนและไอเมฆ ตอนนี้ไอเมฆตัดใจจากฉันได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว เพราะเขาได้พบคนที่เขาสามารถรักได้มากกว่าฉันแล้ว ส่วนยายกลอนแต่งงานกับคุณกวี หลังจากที่ฉันลาออกจากที่นั่นไม่นาน 
ทั้งไอเมฆและยายกลอนต่างก็บอกให้ฉันยอมรับใจตัวเอง กลับไปหาไอตะวันซะ แต่ส่วนลึกในใจฉันยังกลัวอยู่ ฉันกลัวว่าจะมี กลอน2 กลอน3 เข้ามาในชีวิตฉันอีก ตัวฉันเองตอนนี้ก็เริ่มไม่เจ็บกับเรื่องตอนนั้นสักเท่าไร (ถ้าไม่มีใครพูดถึง แต่ถ้าพูดขึ้นมาสักนิด ทุกคนก็จะเห็นน้ำตาของฉัน ซึ่งคงเป็นที่ชื่นชอบของยายกลอนและไอเมฆมั้งถึงได้ขยันพูดเรื่องนั้นกันจัง)
โอ๊ย!! สายอีกแล้ว เจ้านายทุบหัวแบะแน่เลย โธ่เอ้ย!! ทั้งๆที่รู้ว่ามีประชุมเช้าแล้วยังอุตส่าห์เล่นเกมส์ซะดึก ไม่น่ามั่นใจในตัวเองเล้ย เอ้า!! แล้วลิฟท์ทำไมช้าอย่างนี้เล่า โอ้ย! เดินก็ได้วะ (ยังไม่แก่เลย ทำไมอารมณ์เริ่มเข้าวัยทองแล้วละ) ฉันต้องวิ่งขึ้นบันไดถึง 5 ชั้น เพื่อที่จะไปประชุมให้ทันเวลา 
เอ้า! แล้วห้องไหนวะเนี้ย อ้อ! ใช่ๆๆ เจ้านายบอกว่าห้องที่ติดกับบันได
ห้องที่ติดกับบันได้? ห้องที่ติดกับบันได? เจอแล้ว
แอ๊ด.!! ปัง!
ขอโทษที่มาสายค่ะ พอดีลูกชายไม่สบาย 
ขอโทษนะเค้ก ขอเอามาช่วยหากินหน่อยไม่งั้นแม่ตกงานแน่ๆ เลย แล้วฉันก็ค่อยเดินลัดเลาะไปตามผนังห้อง เพื่อไปนั่งที่ข้างเจ้านาย 
คุณๆ คุณเข้าห้องผิดหรือเปล่าครับ คือ.. ฉันไม่ทันได้ฟังอะไรก็มุ่งหน้าไปนั่งที่ๆ ว่างอยู่ข้างๆ ที่นั่งประธานทันที 
เมื่อนั่งเรียบร้อยแล้วฉันจึงเริ่มมองหน้าผู้ร่วมเข้าประชุม จึงได้รู้ว่า ค่ะ! อย่างที่ทุกท่านคิด เข้าห้องผิดค่ะ ได้โปรดเถอะ ทำไมฉันถึงซุ่มซ่ามไม่รู้หายแบบนี้นะ คราวนี้กลางที่ประชุม ใครจากแผนกไหนบ้างก็ไม่รู้ สงสัยคนทั้งบริษัทนี้ต้องรู้จักฉันทั้งที่ฉันเพิ่งเข้าทำงานที่นี่ได้ 3 อาทิตย์แน่ๆ เลย
ฮะ.เฮ้ย!! ไม่จริ๊ง!.! อีกแล้วเหรอเนี้ย โอ๊ย! ยายเปิ่น ยายบ๊อง ขอโทษทุกคนนะคะ.
ปัง!!ทุกคนในห้องร่วมทั้งฉันด้วย หันไปมองที่ต้นเสียงพร้อมกัน
ชล!!
ไอ!! ไม่จริง ก็เจ้านายฉันไม่ได้มีประชุมกับบริษัทคุณนี่นา แล้วทำไม ? .อ้อ! ลืมไปฉันเข้าห้องผิด งั้นทุกคนคะ ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะที่เข้าห้องผิดและสร้างความวุ่นวายให้ ฉันคงต้องไปแล้วละค่ะ ฉันรีบวิ่งออกมาจากที่นั่น ใจเต้นแรงด้วยความดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้ง ฉันรู้ได้เลยทันทีว่าฉันยังเหมือนเดิมและเขาก็สักพักเสียงประตูห้องนั้นก็ดังตามฉันมาติดๆ
ชล รอผมด้วย
ฉันยังไม่อยากเจอคุณตอนนี้ คุณอย่าเพิ่งมายุ่งกับฉันเลย (เอ้า! ปากหนอปาก ทำไมพูดไปแบบนั้นเล่า เขาอุตส่าห์วิ่งตามออกมานะ)
เย็นนี้ผมจะรอ.ผมจะรอที่ที่คุณบอกรักผม ผมจะรอจนกว่าคุณจะมา สีหน้าที่จริงจังของเขา ทำเอาฉันปากอ่อนตอบรับเขาไป (ใจน่ะ อ่อนมาตั้งเห็นหน้าแล้ว) แต่ด้วยความรู้สึกที่เคยถูกทำร้ายอย่างแสนสาหัส ทำให้ฉันถามเขาไปว่า
 เราจะไปหาไอที่นั่น แต่ไอจะมารอแน่เหรอ จะไม่เบี้ยวนัดเราแล้วจริงเหรอ
ไปซิ! ผมไปแน่ๆ ผมจะรอนะ
เวลาในวันนั้นช่างผ่านไปช้าเหลือเกิน แค่เสี้ยววินาทีที่เดินก็นานเหมือนชั่วโมง แต่พอใกล้ถึงตอนเวลาเลิกงาน ฉันกลับรู้สึกว่า เวลาทำไมถึงเดินเร็วจนฉันเตรียมใจไม่ทัน
ฉันขับรถไปรถตาเค้ก พาไปกินข้าว ส่งและพาไปส่งที่บ้าน ทำให้ฉันไปถึงที่นั่นช้า ช้าแบบที่ฉันนึกว่าเขาคงไม่รอฉันแล้ว หรือไม่เขาก็คงยังไม่มา 
เมื่อฉันไปถึงที่นั่นประมาณ 4ทุ่มครึ่งแล้ว แต่เขายังนั่งรออยู่ ความดีใจความตื่นตันสร้างน้ำตาไหลลงอาบสองแก้ม จนฉันเริ่มมองไม่เห็น มันเลือนรางจนทำให้ฉันสะดุดก้อนหินก้อนที่แบบว่าถ้าใครสามารถจับโยนใส่เครื่องบินได้ เครื่องบินก็จะตกทันที
ตูม!!.ซ่า!!
ชล!!
ตูมซ่า..เราสองคนอีรุ่งตุงนังกันอยู่ในน้ำกันสักพักจนกระทั่งขึ้นมาบนบก และคุณผู้อ่านอย่าหวังเลยค่ะ (คือจริงๆ แล้วคนที่หวังก็ฉันนี่แหละ) ว่าเขาจะช่วยฉันแบบที่พระเอกในละครช่วยนางเอกตอนตกน้ำ (อุ้ย! ไม่เรียกว่าตกน้ำดีกว่าดูไม่ดีเลย เรียกว่าลงไปเล่นน้ำแต่ดันลืมว่าตัวเองว่ายน้ำไม่เป็นดีกว่า ดูดีกว่าตั้งนิดนึง) วิธีที่เขาใช้ช่วยฉันจากน้ำถูกต้องตามแบบวิธีช่วยคนจมน้ำเลย คือเข้าด้านหลังแล้วเอาแขนเหนี่ยวคอฉันไว้ 
โอ้แม่เจ้า!! เค้าทำแบบนี้แล้วฉันจะเอาเสียงที่ไหนไปบอกเขาละ ว่าฉันว่ายน้ำเป็น กับอีแค่ฉันสะดุดก้อนหินลูกเท่าเครื่องบิน ไม่ได้ทำให้ฉันพิการสักหน่อย แต่ก็ช่างเขาเถอะ เพราะที่เขาทำไปแบบนั้นก็เพราะว่าเป็นห่วงฉันมากจนไม่ทันได้คิดถึงอะไรนอกจากจะช่วยชีวิตฉัน แต่ถึงอย่างไรมันก็ไม่ดีอยู่ดีนี่ถ้าเขาว่ายน้ำไม่เป็นแล้วจะทำยังไรต่อละฉันไม่ต้องช่วยเขาแทนหรอกเหรอ 
คุณผู้อ่านต้องได้เห็นสีหน้าตอนที่เขาเห็นฉันพุ่งราวลงแม่น้ำที่มีระดับสูงแค่เอวนะคะ ยิ่งกว่าเขารู้ว่าไฟไหม้บ้านอีก เมื่อขึ้นมาได้ ขั้นตอนต่อไปเป็นอันรู้กันนะคะ เบสิกมากๆ ปั๊มหัวใจ ทั้งๆที่ฉันก็ไม่ได้สลบเลย ก็แค่สำลักน้ำเฉยๆ ตาไฮเปอร์นี่ก็เตรียมผายปอดทันที โอ๊ย! คนอะไรกันเวลาตื่นเต้นนี่บ้าได้ขนาดนี้เชียวเหรอ
แค่กๆ นี่นี่แค่กๆ..ไอตะ แค่ก ฉันไม่เป็นอะไรมากเลยฉัน แค่กๆ แค่สำลักน้ำเฉยๆ นะ ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ได้สติพอที่จะฟังฉันพูด
โอ๊ย อะไรจะขนาดนี้ ฟังฉันมั่งสิ
นี่ไอตะวันฉันไม่ได้เป็นอะไร ได้ยินไหมว่าฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันว่ายน้ำเป็น แล้วน้ำในแม่น้ำมันก็แค่เอวฉันเอง คุณจะตื่นเต้นไปถึงไหนกัน เขาหยุดมองหน้าฉันนิ่ง 
เอ่อ ฟังสักที นึกว่าจะตายเพราะตานี่ซะแล้ว คนอะไรวะ ตื่นเต้นได้แตกตื่นมากเลย เขายังนิ่งมองฉันอยู่ และในที่สุดปฏิกิริยาแรกที่ตอบสนองฉันคือ มือสั่นๆ ของเขาค่อยลูบแก้มฉันอย่างแผ่วเบา สีหน้าที่บอกถึงความโล่งใจและดีใจ ตามมาด้วยอ้อมกอดที่อบอุ่น (ถ้าไม่คิดว่าเราสองคนเพิ่งลงไปเล่นน้ำกันมาเมื่อกี้) ที่รัดรอบตัวฉันไว้แน่นอย่างกับว่าฉันกำลังจะหนีเขาไปในที่ที่เขาตามฉันไปไม่ถึง 
ผม.นึกว่าจะไม่มีโอกาสได้ตามหัวใจตัวเองซะแล้ว
นี่คุณ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากนะ ไม่ได้เจอหน้ากันมาตั้งครึ่งปี พอเจอหน้าก็จะแช่งกันเลยเหรอ
ผมรู้สึกผิดมาตลอดกับความเห็นแกตัวของผม ผมเคยคิดว่าผมจะปล่อยคุณไปเจอคนที่เขาเอาใจใส่คุณ ห่วงคุณได้คนเดียว แต่ผมเพิ่งรู้วันนี้เอง ตอนที่เราเจอกันที่บริษัทคุณ ผมปล่อยคุณไปไม่ได้ 
ใจเย็นๆนะ คุณฟังฉันบ้าง ฉันก็เหมือนคุณ ฉันก็เพิ่งรู้ว่าฉันตัดใจจากคุณไม่ได้ก็วันนี้เอง ที่ผ่านมาฉันเอาแต่กลัวอนาคตที่มันยังมาไม่ถึง แต่ตอนนี้อนาคตถ้าคุณจะไปจากฉันอีก ฉันก็ไม่สนใจแล้ว
ไม่อีกแล้ว ผมไม่มีที่ไหนจะไปอีกแล้วนอกจากคุณ ผมตัดสินใจไปตั้งแต่วันที่เราเลิกกันแล้ว คุณรู้ไหมวันที่เราเลิกกัน ผมตั้งใจจะไปสารภาพกับคุณและขอให้คุณให้เวลาผมตัดใจบ้าง แต่คุณก็ไม่ฟังอะไร ผมเลยต้องยอมรับและปล่อยคุณไปตามทางของคุณ
ใครจะไปรู้ละ ฉันได้ยินโทรศัพท์วันนั้นมันก็ทำร้ายฉันมากพอแล้ว ใครเขาอยากจะฟังจากปากเจ้าตัวเองเลยละ เราสองคนมองสบตากันอยู่นานเหมือนกันกว่าเขาจะพูดขึ้นว่า
ดีใจจังเลย ผมมีหลายๆ อย่างที่เคยคิดว่าจะทำให้คุณและทำร่วมกับคุณ ถ้าคุณให้อภัยผมและกลับมารักกัน
ก็ค่อยๆ ทะ เขาเอามือปิดปากฉันอย่างเบามือ
จุ๊ๆๆฟังก่อน ขอได้ไหมอยากหอมแก้ม อยากจูบ อยากกอด 
ต๊าย!! ยินดีมาตั้งนานแล้วค่า ไม่ขอก็อยากถวาย ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าด้วยความเขิน เขาจึงค่อยๆ ใช้มือช้อนคางฉันขึ้น แล้วเริ่มบรรจงจูบลงที่เปลือกตาอย่างแผ่วเบา ตามมาด้วยสัมผัสเบาๆ ที่แก้ม และจึงค่อยประทับจูบลงเบาๆ ที่ริมฝีปาก มันไม่ใช่จูบแบบในฝันที่รอคอยจากเจ้าชายสูงศักดิ์ แต่มันยิ่งกว่านั้นการจูบของเรามันถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆ ที่ผ่านมา ทั้งตอนที่เราคบกัน เลิกกัน และช่วงเวลาที่ไม่พบเจอกัน จนฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ทันทีที่น้ำตาหยดแรกหล่นลงอาบแก้ม มือเขาก็ซับให้ทันที ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว ตอนนี้ฉันรู้สึกได้ว่าเขาเป็นห่วงฉันจากใจจริง
เต้นรำกันเถอะ ผมอยากเต้นรำกับคุณ ไม่ต้องเปิดเพลงก็ได้ แค่มีคุณอยู่ตรงนี้ เสียงฟ้าร้องก็ยังเป็นทำนองที่โดนใจได้เลย 
ปากหวานจังเลยนะ รู้สึกว่าเวลาครึ่งปี ทำให้คุณกล้าพูอะไรแบบนี้ได้โดยไม่เขินเลยนะ
แหม! เขินน่ะเขิน แต่ว่ามันอยากพูดมากกว่านี่ ผมอยากทดแทนช่วงเวลาที่ผ่านมา ตกลงคุณจะยอมเต้นรำกับผมอีกครั้งไหมไหม
เต้นสิ! เต้น! กับไอเมื่อไหร่เราก็เต็มใจเสมอ
งั้น! ถ้าจะไม่แค่ขอเต้นละ เราขออย่างอื่นอีกได้ไหม
ปากหวานอย่างเดียวไม่พอ ยังโลภมากอีกนะท่านประธาน
ขอเป็นผมได้ไหมคนที่จะดูแลคุณไปตลอดชีวิต ผมไม่อยากปล่อยคุณให้ใครแล้ว ดูสิขนาดตอนที่เรายังไม่เลิกกันไอ้เมฆมันยังมาตกหลุมรักเลย นี่ถ้าปล่อยไปไม่รู้จะมีไอ้หน้าไหนเข้ามายุ่งกับคุณอีก
ทีอย่างนี้ ทำเป็นหวง ทีตอนนั้นไม่ยอมบอกน้องตัวเองว่าเราเป็นแฟนกัน
ใครไม่บอกกัน!?? ผมบอกทุกคนในครอบครัวผมนะว่าเราเป็นแฟนกัน ตอนที่ผมให้มันไปรับเค้กที่ร.ร. ผมยังบอกมันเลยว่าไปรับลูกของแฟนผมให้หน่อย ไอตะวันรีบพุอธิบายแก้ข้อเข้าใจผิดของฉันเป็นการใหญ่
งั้น!? อย่างนี้ก็แสดงว่า ไอ้เมฆมันจะแอบขโมยหัวใจคุณตอนที่ผมไม่อยู่ละสิเนี้ย แผนสูงจังเลยนะไอ้น้องชาย!!! 
แต่ฉันก็ปฏิเสธไปแล้วนี่ แล้วตอนนี้น้องคุณก็มีแฟนไปแล้วด้วย
คุณรู้ได้ไง!? นี่คุณยังติดต่อกับมันอยู่อีกเหรอ?
ทำไม? หึงเหรอ? 
ก็นิดนึง แต่ผมเชื่อใจคุณ
ใช่! ฉันน่ะไว้ใจได้อยู่แล้ว และต่อไปนี้ฉันก็จะเชื่อใจคุณด้วย
ไม่มีอะไรอยากบอกผมเหรอ เขาถามฉันด้วยสายตาอ้อนวอนและเจ้าเล่ห์
ฉันรักคุณค่ะ ฉันตอบเขาด้วยความหนักแน่น สายตาที่สบกันเต็มไปด้วยความจริงใจ
ผมก็รักคุณ งั้น เอ่อ.อ่า.คุณ..เอ่อ.ว่าไงถ้า.เอ่อ
โอ๊ย..เอ่อๆอ่าๆอยู่นั่นแหละ จะขอแต่งงานใช่ไหมละ จะขอก็รีบขอสิ
ทีเมื่อกี้ละ พูดนู่น พูดนี่คล่องเชียว พอจะขอแต่งงาน ทำเป็นอึกๆ อักๆ เอ่อๆ อ่าๆ อยู่นั่นแหละ
"ตกลงแต่งงานกับผมนะ ขอโอกาสให้ผมได้ดูแลคุณคนเดียว ผมอยากเป็นคนแรกที่ทุกคนต้องนึกถึงถ้าพูดถึงคุณ
ตกลงค่ะ ต้องให้แม่นำล่องเองก่อนอยู่เรื่อยเลย ตาคนนี้ขี้เก๊ก ขี้อายค่ะ ถ้าฉันไม่พูดออกมาอีก10 ปีข้างหน้าจะได้แต่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ 
และนั่นคือเรื่องราวต่างๆ ก่อนการเริ่มตนชีวิตใหม่ร่วมกันของเรา ฉันเองยังไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะมีวันนี้ได้ ตอนนี้เราสองคนก็มีความสุขมากเลย ไอตะวันกลายเป็นคุณพ่อลูกสาม (อีกหนึ่งคนกำลัง อ้อแอ้ๆ อยู่ในท้องฉันนี่) ติดลูกน่าดูเลย แต่เห็นติดลูกแบบนี้ก็มีหึงลูกหึงงานเหมือนกันนะคะ หาว่าฉันเอาแต่ดูแลลูกเอาแต่ทำงานไม่เห็นดูแลเขาเลย ขี้น้อยใจมากเลยคนอะไรก็ไม่รู้ ความรักของฉันยังไม่จบลงหรอกนะ ตอนนี้เขาอาจจะยังซื่อสัตย์กับฉันอยู่แต่ไม่รู้จะออกลายเมื่อไหร่
ชลๆ ผมหิวข้าวแล้วนะ ยังเขียนเรื่องสั้นส่งสำหนักพิมพ์ไม่เสร็จอีกเหรอจ้ะ 
'นั่นไงมาแล้วค่ะ'
ก็เกือบแล้วละค่ะ
งั้นขอจูบมัดจำก่อนนะ คิดถึงคุณด้วย ไม่ได้เห็นหน้าตั้งหลายนาทีแล้ว
ไม่ได้ๆ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว ถ้าคุณจูบฉันตอนนี้ก็กลายเป็นฉากเลิฟซีนพอดีน่ะสิ นี่มันหนังรักโรแมนติคนะ
แม่....... ผมหิวข้าว
รอแป๊บนึงนะเค้กนะปังปอนด์ แม่จะเขียนเสร็จแล้ว
งั้นขอกอดมัดจำหน่อยสินะ ไม่ได้เจอแม่ตั้งนาน คิดถึงแม่จะตายอยู่แล้วนะ กอดๆ ผมอยากกอดแม่นะ นะๆๆ จะกอดๆ
อะไรกันหนักกันหนา เหมือนกันทั้งพ่อทั้งลูก เดี๋ยวกอดเดี๋ยวจูบ เอาเข้าไป
ไม่ได้พ่อขอก่อน คนอื่นต้องรอ ถ้าไม่รอพ่อก็ไม่ให้กอดแม่
มากไปแล้วมั้งพ่อ เค้กเป็นลูกนะ เด็กกว่าด้วย พ่อเป็นผู้ใหญ่ต้องเสียสละให้เค้กกับปังก่อน
ใช่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พ่อต้องยอม
นั่นคราวนี้ตาปังร่วมด้วยแล้วเหรอ
ไม่ได้ ต้องพ่อก่อน
เค้กกับปังก่อน
โอ๊ย!!ก็ไม่ได้ทั้งหมดนั่นแหละ แม่จะทำงาน มัวแต่เถียงกันแบบนี้ วันนี้จะได้กินข้าวไหมเนี้ย! ห้ะ! ไปเถียงกันที่อื่นเลยไปทั้งหมดนั่นแหละ
ครับ 
'เงียบกันหมดเลยค่ะคราวนี้'
อืม! ดีๆๆ งั้นไปนั่งรอกันสงบๆ ที่ห้องดูทีวีเลยไป 
ไปได้สักที จะได้ทำงานต่อ นี่แหละความสุขง่ายๆ ที่คนเราตามหากันทั้งชีวิต การที่คนเราตามหานู่น ตามหานี่ ไขว่คว้าอะไรต่อมิอะไรอย่างบ้าระห่ำแต่ในที่สุดก็ยังไม่เจอความสุข ฉันอยากให้คุณลองคิดทบทวนดีๆ ความสุขมันอาจจะอยู่ใกล้เราแค่เอื้อม เพียงแต่ว่ามันเป็นความสุขที่แสนจะเรียบง่ายและไม่หวือหวาจนสะดุดใจเรา แต่เมื่อไรก็ตามที่เรามีมันอยู่ ก็จะมีความสุขอย่างเปี่ยมล้นได้อย่างแน่นอน แค่การที่เรานั่งกินข้าวในบ้านกันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก อาจจะเป็นความสุขที่เรากำลังบ้าระห่ำหากันมาตลอดชีวิตก็ได้นะคะ
ขอบคุณจริงๆ นะคะสำหรับคนที่ติดตามผลงานของ TANOI_ZA มาตั้งแต่ต้น เป็นความฝันที่สวยงามมากเลยตอนนี้ เรื่องต่อไปจะเป็นความรักใครก็ลองติดตามกันต่อไปนะคะ ทุกกำลังใจที่ส่งมามีค่าหมดเลยนะคะทั้งคะแนนทั้งกระทู้ ทำให้มีตอนที่เจ็ดออกมาจน ขอบคุณจริงค่ะ
TANOI_ZA				
comments powered by Disqus
  • ..สีน้ำฟ้า..

    13 ธันวาคม 2546 13:34 น. - comment id 70454

    จบได้อย่างแฮปปี้ก็ดีใจด้วย
    และขอให้.. มีกำลังใจเขียนเรื่องต่อไปนะจ้ะ
  • TANOI_ZA

    13 ธันวาคม 2546 22:56 น. - comment id 70465

    ขอบคุณมากค่ะคุณสีนํ้าฟ้า มีกำลังใจแล้วค่ะก็ได้จากคุณสีนํ้าฟ้ากับน้องใบหมอนนี่แหละค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน