ประากยชล - ไอตะวัน 4
TANOI_ZA
ตอนที่สี่ รอคอย
เช้าวันต่อมา เขามารับฉันที่บ้านแต่เช้า ด้วยสีหน้าที่ปกติเหมือนกับว่าเมื่อคืนไม่มีเรื่องอะไรที่น่าเครียดเลยสักนิด พอเราสองแม่ลูกขึ้นไปนั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว ตาเค้กก็ถามคุณไอขึ้นมาทันทีว่า
ทำไมวันนี้น้าไอถึงมารับเราสองคนแต่เช้าได้ละ คนบ้านนี้เขาไม่มีใครบ้าออกจากบ้านก่อน 6 โมงครึ่งหรอกนะครับ
เราคนเดียวน่ะสิ เสร็จช้ากว่าคนอื่นเขาเลย ส่วนคนอื่นเขาเสร็จกันตั้งแต่ 6 โมงเช้าแล้วจ้ะ
ก็ตัวเองอยากปลุกเขาช้าทำไมกันล่ะ
แหม!..พูดอย่างกับว่าถ้าแม่เราตอนตี 5 ครึ่ง แล้วจะยอมตื่นขึ้นมาอาบน้ำ ล้างหน้าอย่างนั้นแหละ นอนก็นอนก่อนคนอื่นเขาเลยนะเราน่ะ ยังจะขี้เกียจลุกแต่เช้าอีก
ก็ทำไม ไม่.....
พอเหอะครับ! ทั้งสองคนเลย อากาศเช้านี้กำลังดี อย่าทะเลาะกันเลย"
"ฉันไม่ได้เริ่มก่อนนะคุณ ตาเค้กนั่นแหละเริ่มก่อน"
"ไม่ต้องเลย ชลนั่นแหละที่เป็นฝ่ายเริ่ม ก็แค่เรื่องเขานอนตื่นสายเอง"
"ก็เราอยากตื่นสายเองนี่ หรือเค้กไม่ได้ตื่นสายอย่างที่แม่พูด"
"อะแฮ่มๆ!! คือ....ชลครับผมว่าเมื่อกี้นี้ คุณเป็นคนเริ่มก่อนนะครับ"
"แบร่.......! เห็นไหมน้าไอยังเข้าข้างเขาเลย น้าไอนี่ก็นิสัยดีใช้ได้เหมือนกันนะครับ" เค้กหันมาแล่บลิ้นปลิ้นตาใส่ฉันอย่างน่าหมั่นไส้ แล้วไอตะวันก็หันไปพูดกับตาเค้กต่อว่า
"เค้กครับ ที่คุณแม่เขาไม่ปลุกเราตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง ก็เพราะว่าเขาอยากให้เราพักผ่อนให้เต็มที่ จะได้แข็งแรงและก็ฉลาดเหมือนน้าไอไงครับ
ว๊ายๆ!! ขี้ตู่ ใครเขาอยากแข็งแรงเหมือนนายกัน ไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย เขาจะแข็งแรงเหมือนแม่เขาต่างหาก
เราสองคนหันมาสบตากันอย่างรู้ทันตาเค้ก ว่าที่ตาเค้กพูดจาเสียมารยาทไปเมื่อกี้นี้ เป็นการแก้เขินที่ ได้รู้ว่าฉันรักเขามากและดูแลเขาเป็นอย่างดี
เมื่อเราไปส่งตาเค้กที่โรงเรียนเรียบร้อย จึงเหลือแค่เราสองคนอยู่ในรถ แล้วฉันก็ถามเขาด้วยความเป็นห่วง ที่เมื่อคืนนี้มีเรื่องด่วนเข้ามาตอนเที่ยงคืน แต่ไม่มีคำตอบใดๆออกมาจากปากของเขา ในตอนแรกฉันนึกว่าเขาคงไม่ได้ยิน แต่ฉันก็ต้องแน่ใจว่าเขาได้ยินเพราะคราวนี้ฉันสะกิดเขาและถามเขาอีกรอบว่า
เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นคะ บอกฉันไม่ได้เหรอ แล้วก็ไม่มีคำตอบใดๆออกมาให้ฉันสบายใจ แต่ฉันก็เข้าใจว่ามันอาจจะเป็นความลับของบริษัท ที่เขายังไม่สามารถบอกคนที่เพิ่งเป็นแฟนเขาเมื่อคืนนี้ได้ ฉันจึงเปลี่ยนคำถาม
เมื่อคืนเหนื่อยไหมคะ เช้านี้กินอะไรหรือยัง แล้วเมื่อคืนนี้ได้นอนหรือเปล่า
ไม่เหนื่อยแล้วล่ะครับ ก็ผมมีคุณคอยห่วงอยู่นี่ไง ผมไม่มีทางเหนื่อยหรอก ส่วนข้าวผมก็ยังไม่กินเลยหิวมากๆเลย แต่อยากจะหาอะไรกินที่ชั้นใต้ดินของบริษัทพร้อมกับคุณ ก็เลยยังไม่กินอะไร
แหม มิน่าล่ะ มารับฉันแต่เช้าเชียว เอ้อ!! เมื่อเช้านี้ ยายกลอนมันโทรมาบอกฉันว่ามันจะเลิกกับแฟน คู่นี้ทะเลาะอะไรกันหนักหนาก็ไม่รู้ ฉันละอยากรู้จักจังเลย ไอ้คนทสามารถี่ทำให้อารมณ์ยายกลอนแปรปรวนได้ขนาดนี้น่ะ
อีกไม่นานเดี๋ยวก็ได้รู้จักเองแหละครับ
'เอาอีกแล้ว ชอบพูดอะไรแปลกๆ เหมือนกับว่า...โอ๊ย! ช่างมันเหอะ'
คู่นี้รู้สึกจะรักกันนานแล้วนะคะ แถมระยะทางยังห่างไกลกันอีก ฉันเองก็อยากให้คู่นี้จบลงด้วยดี ฉันว่าหายากนะคะ ผู้ชายที่จะรักมั่นคงขนาดนี้ ไม่มีความคิดเห็นใดๆจากเขา มีแต่สีหน้าที่ดูเศร้าจับใจฉัน มันเหมือนสีหน้าของคนที่หมดหวังในบางสิ่งบางอย่าง ฉันไม่อยากรับรู้และไม่อยากจะพูดอะไรออกมาอีก เราสองคนจึงนั่งนิ่งจนมาถึงที่ทำงาน แล้วเราสองคนก็แยกย้ายกันไปทำงานตามปกติ
อีก 2 วันข้างหน้าจะเป็นวันเกิดเขาแล้ว เราสองคนคุยกันว่าจะไปกินข้าวกันที่ร้าน ริมทะเล ซึ่งเป็นร้านที่ฉันเคยไปกับครอบครัว ครอบครัวฉันได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นครั้งสุดท้ายก็ที่ร้านนี้ มันเป็นวันสุดท้ายที่ฉันได้เห็นหน้าพี่ชายและพี่สะใภ้ของฉัน และหลังจากนั้นครอบครัวของฉันก็ไม่เคยมาที่นี่อีกเลย
แต่วันนี้ฉันอยากจะมาสร้างความทรงจำใหม่ที่ดีๆให้กับที่นี่ เพราะจะว่าไปแล้ว ตอนที่พี่ชายของฉันยังอยู่ เขาก็ชอบร้านนี้ที่สุด เพราะว่ามันเป็นร้านที่ตั้งโต๊ะอาหารไว้ที่ลานหินที่ไม่มีหลังคาปกคลุม เวลาตอนกลางคืนที่มานั่งกินข้าวกันก็จะสวยมากและระเบียงไม้กว้างสีขาวแต่มีหลังคา บรรยากาศที่นั้นชวนเพ้อมากๆเลย แต่ครอบครัวของเรามักจองที่ตรงลานหินเพราะจะได้ดูดาวไปกินข้าวไปด้วยพร้อมกัน
เย็นวันนั้นฉันไม่ได้ไปพร้อมกับไอ เพราะเขามีงานที่ยังสะสางไม่เสร็จ ฉันก็เลยไม่ต้องหาข้อแก้ตัวที่จะไม่ไปพร้อมเขาเลย เพราะจริงๆ แล้วฉันก็มีแผนอยู่ในใจแล้วเหมือนกัน ว่าจะแยกกันไปเพื่อที่จะไปเตรียมพร้อมกับพนักงานในร้านและหาของขวัญให้เขาด้วย ส่วนเรื่องตาเค้กวันนี้ พ่อฉันอาสาไปรับให้แล้ว เนื่องจากอยากยกลูกสาวให้คนรวยมาตั้งนานแล้ว เลยสนับสนุนเต็มที่
เมื่อออกจากที่ทำงานได้ ฉันก็ตรงดิ่งไปที่ร้านริมทะเลทันที เพื่อ ไปบอกให้พนักงานในร้านว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรและต้องทำอะไรบ้างเมื่อฉันส่งสัญญาณ แล้วฉันก็ต้องรีบไปเอาของขวัญที่ฉันเอาไปใส่กรอบไว้ มันไม่ใช่ของขวัญที่มีราคาแพงอะไรเลย เพียงแต่ว่าฉันใช้ความสามารถของฉัน ทำมันออกมาเองกับมือมันคือ ข้อความที่ฉันเขียนอธิบายความรู้สึกของฉันที่มีต่อเขาบนรูปที่ถูกขยายขนาดให้ใหญ่ มันเป็นรูปเมื่อครั้งที่ฉันและเขาไปเที่ยวด้วยกัน แล้วก็กลับไปแต่งตัวให้งามๆ หวังจะให้เขาตะลึงและบอกฉันว่า
ซาตานตนใด (เอ้ย! ไม่ใช่) นางฟ้าตนใดจำแลงกายมาให้ผมได้เห็นกันเนี้ย (ลิเกซะ)
ฉันออกจากที่ร้านอาหารนั้นเกือบจะ 6 โมงแล้วล่ะ แล้วเรื่องมันก็เกิด เพราะว่าฉันรีบใช่ไหมคะ กลัวว่าจะมาถึงที่ร้านนี้ก่อนเขามาไม่ทัน ไหนฉันจะต้องไปเอาของขวัญ แล้วก็ไปอาบนํ้าแต่งตัวใหม่ให้สวยได้ใกล้เคียงกับนางฟ้าที่สุดอีก (เรื่องความสวยน่ะ แบบว่าแค่แต่งให้สวยทัดเทียมกับบรรดาสาวๆที่มาให้ท่าเขาทุกวันยังทำไม่ได้เล้ย) ฉันก็เลยอยากจะลองใช้ทางลัดที่พี่เคยบอกว่า ไปทางนี้จะใกล้กว่านะ รถก็ไม่ค่อยเยอะด้วยสะดวกดี
ฉันก็เลยตัดสินใจไปทางนั้นทันที โดยไม่ได้คิดหน้าคิดหลังอะไร ปรากฏว่าตอนแรกเลยรถเสีย วิ่งอยู่ดีก็กระตุกอย่างกับเป็นลมบ้าหมูอย่างนั้นแหละ (ที่พูดนั่นรถใช่ไหม ไม่ใช่คนนะ?) ฉันก็ไม่รู้จะทำไงกรี๊ดลั่นรถอย่างเดียวเลย (TANOI_ZA: เฮ้อ!! ผู้หญิงก็อย่างนี้แหละน้า..ตกใจทีไรก็ทำอะไรไม่ถูกทุกที ทำได้อยู่อย่างเดี๋ยว กรี๊ด ประกายชล: คุณ TANOI_ZA ก็ผู้หญิงเหมือนกันไม่ใช่เหรอคะ TANOI_ZA: แป่ว.! เอ่อลืมไป) กรี๊ดรอตั้งนานกว่าจะมีคนมาช่วย (พอมาคิดๆ ดูแล้ว มันอาจจะเป็นเพราะฉันกรี๊ดก็ได้ ถึงไม่มีใครกล้าเข้ามาช่วย) ขับไปได้สักพักก็ยางแตก (TANOI_ZA: ก็ดันไม่ดูสังขารไอ้กระป๋องน้อยของตัวเองเล้ย...ว่าแก่ขนาดไหนแล้ว ดันพาขับออกมาซะไกลขนาดนี้ ไม่ยกเครื่องใหม่ก็บุญแล้ว) ฉันก็เลยต้องรอคนมาช่วยอีก แล้วพอขับไปได้สักพักก็เจอทางแยก แต่เท่าที่จำได้พี่ฉันบอกว่า จะไม่มีทางแยกอีกแล้วถ้าพ้นจากศาลเจ้าริมทางมา เท่านั่นแหละฉันถึงได้เริ่มรู้ตัวว่า หลง เอาเข้าไปโคตรซวย
เฮ้อ...ทำไมฉันจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ ฉันก็หน้าตาก็ออกจะบอกว่าโชคดี แต่มีเรื่องแบบนี้ทีไรซวยทุกที (TANOI_ZA: ก็ซุ่มซ่ามเองนี่ จะโทษใครอีกล่ะแม่คุณ)
'ทีเมื่อกี้มีคนอยู่ด้วยดันไม่ถาม มั่นใจตัวเองขนาดหนัก ความรู้น้อยแต่ความมั่นใจเต็มเปรี่ยม' คราวนี้ไม่มีคนให้ถามก็ต้องรอคนมาช่วยอีก ฉันนั่งรอในรถเป็นชาติกว่าจะมีคนมาช่วย แล้วเขาก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหนหรอก เพราะว่าฉันคุ้นหน้าเขา และเขาก็ดูเหมือนว่าจะรู้จักฉันด้วย เพียงแต่ว่าฉันจำเขาไม่ได้เท่านั้นเองว่าเป็นใคร TANOI_ZA: ยังจะมั่นใจอีกว่ารู้จักกัน ที่มั่นใจเมื่อกี้จนตัวเองหลงทางยังไม่พอใช่ไหม ยายเปิ่น แล้วเขาก็บอกให้ฉันขับรถตามเขาไป เพราะว่าเขาก็จะไปเข้ากรุงเทพเหมือนกัน
เมื่อถึงกรุงเทพ เราก็แยกย้ายทางใครทางมัน แต่ตอนที่ไปถึงมันแค่ 3 ทุ่มเองนะ TANOI_ZA: แค่ 3 ทุ่มอย่างนั้นเหรอใจเย็นไปม้าง ฉันก็รีบไปแวะไปเอาของขวัญและดิ่งไปเปลี่ยนชุดที่บ้าน แต่ยังไม่ได้เข้าบ้านหรอกเพราะว่าเข้าบ้านไม่ได้ พ่อกับแม่พาตาเค้กไปเที่ยวข้างนอก ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นานๆห่างถึงจะทำกัน (แต่ไม่รู้ว่าวันนี้อะไรดลใจพ่อกับแม่ฉัน ให้เกิดอยากแสดงความรักต่อหลานชายจอมซ่าจนถึงขั้นพาออกไปข้างนอกวันนี้ เลยทำให้ฉันเข้าบ้านไม่ได้ TANOI_ZA: ไม่ต้องไปโทษคนอื่นเลยยายเปิ่น อยากไม่เอากุญแจไปด้วยทำไม ใครเขาจะอยู่เฝ้าบ้านรอเธอกลับมาได้ตลอดเวลาล่ะ) ฉันก็เลยจำใจต้องกลับไปที่ร้านริมทะเลสภาพ....(บรรยายไม่ถูกให้นึกเอาเองแล้วกันว่า ฉันต้องช่วยเขาซ่อมรถน่ะคะ เขาให้ช่วยยกอะไร ทำอะไรก็ต้องทำ แบกนู่น ขนนี่ และก็ตอนที่หลงทางอีก ฉันคงไม่ต้องบรรยายแล้วนะคะ)
พอฉันไปถึงที่นั้นก็เป็นเวลา 4 ทุ่มครึ่งได้ สายไปตั้ง 1 ชั่วโมง ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องนั่งรอฉันอยู่ด้วยความรู้สึกกระวนกระวายอยู่แน่ๆ เพราะว่าเขารู้นิสัยฉันดี (ว่าฉันซุ่มซ่ามเกินเยียวยาขนาดไหน) กลัวอยู่อย่างเดียว กลัวว่าเขาจะโกรธฉันได้แต่ภาวนาให้เขาจะยกโทษและเข้าใจสาเหตุที่ฉันมาสาย (เป็นเหตุผลที่น่าอายอีกแล้ว แต่ถ้าเขาฟังก็คงจะอารมณ์ดีขึ้นมาเลยแหละ) ซึ่งมันก็จริงอย่างที่ฉันภาวนา เขาไม่โกรธฉันเลยสักนิด ก็เขาจะโกรธฉันได้ไงละ ก็เขายังมาไม่ถึงเลยนี่นา ดูยังไงก็ยังมาไม่ถึงแน่ๆ โต๊ะที่จองไว้ก็มีคนมานั่งแทนไปแล้ว เพราะว่าฉันไม่ได้โทรมาเลื่อนเวลา ก็ฉันนึกว่าไอตะวันจะมานั่งรออยู่แล้ว สักพักพนักงานคนหนึ่งก็วิ่งมาบอกฉันว่า
ตกลงที่เตรี๊ยมกันไว้ เอาไงต่อพี่จะย้ายโต๊ะแล้วทำตามแผนเดิมเลยไหม
ยังไม่มาเลยเหรอ คนที่พี่บอกลักษณะไว้น่ะ
ไม่เห็นมีใครลักษณะเหมือนเทวดาอย่างที่พี่บอกเลย
พี่ไม่ได้บอกว่าเหมือนเทวดาสักหน่อย
มันก็ใช่ที่พี่ไม่ได้บอกผมว่าเหมือนเทวดา แต่ไอ้ลักษณะที่พี่บอกมา ใครได้ฟังเขาก็ต้องคิดว่า คนที่พี่พูดถึงต้องเป็นเทวดาแน่ๆเลยนะพี่
เออๆ ก็นั่นแหละไม่เห็นเลยเหรอ
ครับไปไม่เห็นเลยครับ
ถ้าอย่างนั้นย้ายโต๊ะก็ได้ เลือกที่อยู่กลางแจ้งหน่อยนะ จะได้เห็นดาวเห็นทะเลชัดๆหน่อย ส่วนที่เรื่องที่เตรียมไว้เหมือนเดิมเฉพาะอาหาร แต่อย่างอื่นถ้าพี่ไม่ส่งสัญญาณก็ไม่ต้องทำ โอเคนะ
ครับได้เลย
พอฉันได้ที่นั่งปุ๊บสมองของฉันมันก็คิดพิศดารปั๊บ แทนที่จะนั่งรอเขาอยู่อย่างสงบให้สมกับเป็นกุลสตรี ดันอยากเป็นทหารพรานคิดอยากไปซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้ที่อยู่ติดกับโต๊ะที่ฉันจองไว้ใหม่ เพื่อตอนที่เขาไปถึงฉันจะได้ออกมาจ๊ะเอ๋เขาพร้อมของขวัญ และแหม วันนี้อากาศก็ช่างเป็นใจเหลือเกิน ลมเย็นสบาย ทำให้ไม่มียุงกัดฉันเลย แต่ลางสังหรณ์ก็บอกฉันว่า เรื่องที่อากาศเป็นใจน่ะฉันคิดไปเองเพราะว่าไม่นานนักดาวที่มีอยู่บนฟ้าก็ถูกบดบังด้วยเมฆดำก้อนมหึมา เม็ดฝนเริ่มโปรยปรายลงมา เหมือนกับจะช่วยร้องไห้แทนฉัน ที่ไอตะวันยังไม่มาตามที่เรานัดกันไว้ (แต่ฉันไม่ต้องการ!! แค่ลมพัดไล่ยุงแบบเมื่อกี้ก็ดีอยู่แล้ว ฝนไม่ต้องตกด้วยก็ได้)
ในตอนแรกฉันคิดจะวิ่งเข้าไปหลบฝนที่ในร้านเหมือนกัน แต่ฉันก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะถ้าเขามาถึงตอนนี้แผนก็แตกพอดี ครั้นจะเอารูปไปเก็บที่รถก็กลัวว่าจะเจอกันกลางทางแผนก็จะแตกอีก จึงจำใจต้องถอดเสื้อคลุมที่ใส่มาเอาคลุมรูปเอาไว้
มีครั้งหนึ่งที่พนักงานในร้านบอกให้ไปนั่งที่โต๊ะก็ได้ เพราะว่าเขาเอาร่มมากางไว้ให้แล้ว แต่ฉันก็ปฏิเสธไปอย่างมั่นคง จนเขาต้องยอมแพ้เปลี่ยนใจเอาร่มมากางให้ที่พุ่มไม้แทน แต่ฉันก็รีบปฏิเสธทันทีแถมยังไล่ให้ไปที่อื่นอีก เพราะกลัวว่าถ้าไอเขาเห็นร่มแล้วมันจะผิดสังเกต คนบ้าที่ไหนจะเอาร่มมากางให้ต้นไม้ที่โตเต็มที่แล้วละคะ และในที่สุด 1 ชั่วโมงผ่านไป เวลาที่ฉันรอคอยก็มาถึง ฝนหยุดตกสักที (TANOI_ZA: เอ้า! ไม่ได้รอไอตะวันมาเหรอ) แต่ฉันก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะมาสักนิด แล้วพนักงานในร้านก็เอาผ้าเช็ดตัวมาให้พร้อมกับพูดว่า
ร้านปิดแล้วพี่ อาหารที่ทำไว้ เอาไงละครับ
เอาให้ไอ้ด่างมันไปเลย ฉันไม่เอาแล้ว แล้วเดี๋ยวเอาไวน์มาให้สองขวดด้วยนะ เอาแบบที่กินแล้วไม่เมา แต่ลืมได้น่ะมีไหม
ยังไม่ได้กินก็เมาแล้วนะพี่ อย่างนี้ผมว่าพี่ไม่ต้องกินก็ได้นะ
แล้วตกลงมีไหม
ไม่มีครับพี่ มีแต่เมาแล้วไม่ลืม
เมาไม่ลืมหรืออะไรก็เอามาเหอะ พี่จะกิน
เมื่อพนักงานในร้านคิดเงินให้และเอาไวน์มาให้ฉัน 3 ชวด เอ้ย! 3 ขวด โดยบอกว่าอีกหนึ่งขวดแถม (เขาคงสงสารฉันมั้ง) ในระหว่างที่เดินมาที่รถ ฉันก็คิดไปต่างๆนานา ทำให้ฉันยิ่งโกรธเขาและน้อยใจเขา
คอยดูนะถ้ามาถึงเมื่อไหร่ละก็ จะ..จะจะไม่ยอมคุยด้วยเลย จะปล่อยให้ง้อให้ตายไปเลย (เข้าใจทำโทษเขาจังเลยนะคะฉันเนี้ย ไม่คุยด้วย ไอตะวันคงกลัวหรอก แถมยังจะให้เขาง้ออีก สำคัญตัวเองผิดไปละมั้ง)
ไม่นานนักคนที่ฉันกำลังโกรธอยู่ ก็โผล่มาเคาะกระจกรถด้วยสีหน้าและท่าทางที่รู้สึกผิดมากๆ ฉันรีบเปิดประตูรถและกระโดดกอดเขาพร้อมกับน้ำตา ที่เอ่อทะลักออกมาจากความรู้สึก ฉันเหมือนกับเด็กหลงทางในที่ๆ ตัวเองไม่รู้จัก และตอนที่ตัวเองเริ่มหมดหวังที่จะใครอีกแล้วก็ได้เจอพ่อกับแม่ของตัวเอง
ไอ ทำไม ฮึก!....ทำไม ไอถึงมาช้าแบบนี้ ไอไม่เคยผิดนัดชลเลยนะ เรารออยู่นานมากเลยรู้ไหม นานจนนึกว่าเราตื่นจากฝันซะแล้ว เรานึกว่าไอจะไม่มาหาเราอีกแล้ว เรา ฮึก เรา ฮึก เราฮือๆ. ไอกอดฉันแน่นซะจนฉันเริ่มรู้สึกตัวและค่อยๆ สงบลงบ้าง ทำให้พอมีสติจำเรื่องที่เขาบอกเมื่อเย็นนี้บ้าง
ฮึกๆ ไอ ทำไมถึงมาช้า งานเยอะมากเลยเหรอ ฉันถามเขาอย่างเพิ่งนึกได้ ว่าเมื่อเย็นเขาบอกว่าจะมาช้าเพราะเรื่องงาน
อะ อืมใช่ เขากอดฉันแน่นมากกว่าเดิม
งั้นไม่เป็นไร เรายกโทษให้นะ
อย่ายกโทษให้ผมเลยผมผิดนัดคุณ ทั้งๆ ที่นัดคุณไว้ก่อน
ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ยังไงๆเรื่องนั้นมันต้องสำคัญกว่าเราอยู่แล้ว เบี้ยวนัดเราก็ไม่เป็นไรหรอก นี่เราไม่ได้ประชดไอเลยนะ ไม่มีคำพูดใดๆออกจากปากฉันจนกระทั่งฉันรู้สึกว่าหน้าไอมี10หน้า พื้นเริ่มไม่เท่ากัน
โปรดติดตามตอนต่อไป (ด้วยนะคะ อิๆ )
ฟ้าสวยใสครั้งนี้อยู่กับเธอได้ไม่นานเลย ฟ้าหม่นหมองก็เข้ามาทาบทับซะแล้ว ตอนนี้หัวใจของประกายชลอาจจะยังไม่เปียก แต่ว่ามันไม่ใช่แค่นี้แน่ๆ ตอนต่อไป หัวใจเธอจะเริ่มเปียกแล้วนะคะสิ่งที่ในใจลึกๆของเธอสงสัยอยู่กำลังจะเฉลย แล้วมาติดตามกันว่าเธอจะจัดการอย่างกับหัวใจที่เริ่มเปียกของเธอ
TANOI_ZA