นัยย์ตาอ่อนโยนคู่นั้นมีแววของความโศกเศร้าอยู่เบื้องลึกที่ถูกกลบเกลื่อน ด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เธออาศัยอยู่บนภูเขาแห่งดอกไม้นั้นเพียงลำพัง จนกระทั่ง มีเจ้าชายแห่งความเหงา เดินทางมาพบภูเขาลูกนี้โดยบังเอิญ สีสันของดอกไม้หลายๆดอก ทำให้เจ้าชายหยุดอยู่ที่นี่ ราวกับถูกมนต์สะกด เจ้าชายมองเห็นเจ้าหญิง ผ่านดอกไม้กลีบใสๆ ทันทีที่พบกับเจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว เจ้าชายรู้สึกรักเธอตั้งแต่แรกพบ หากแต่เจ้าหญิง มิได้รู้สึกเฉกเช่นเดียวกับเจ้าชาย เธอกลับรู้สึกว่า เขาเป็นใครเหตุใดจึงมาพบ ภูเขาแห่งนี้ได้ และด้วยสายตาคู่นั้น ยิ่งทำให้เจ้าหญิง ไม่คิดจะไว้ใจ ชายคนนี้เลย เจ้าชายแห่งความเหงา ตะโกนบอกเจ้าหญิงว่า เราจะไม่มาทำความรู้จักกันหน่อยหรือ เจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหวเมื่อได้ยินคำดังกล่าว จึงเดินตามเสียงตะโกนนั้นไป หลังจากที่ได้รู้จักกันแล้ว เจ้าชายแห่งความเหงา ตัดสินใจได้ทันทีว่าเขาพร้อมที่จะหยุดการเดินทางที่ภูเขาแห่งนี้ การสนทนาของคนทั้งคู่ทำให้พวกเขาผูกพันกันมากขึ้น เจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว เริ่มมีใจให้กับเจ้าชาย จนกระทั่งเธอลืมดูแลดอกไม้ทั้งมวล ดอกไม้บนภูเขา พากันล้มตาย เจ้าหญิง เอาใจใส่ เพียงแค่เจ้าชายคนรัก เจ้าชายแห่งความเหงา เริ่มเฉยชากับเจ้าหญิง เมื่อหล่อนไม่คิดจะทำอะไรนอกเสียจาก การได้พูดคุย หรือการได้รักตน เจ้าชายแห่งความเหงา จึงรู้สึกได้ถึงความอึดอัด ความเหงาได้ แผ่ซ่านขึ้นมาในใจของเจ้าชายอีกครั้ง ... เจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว รู้เพียงแต่ว่า ผู้ชายคนนี้คือ คนที่พร้อมจะดูแลเธอ พูดคุยกับเธอ และ อยู่กับเธอบนภูเขาแห่งนี้ คนสองคน ใจสองใจ เป็นความต่างที่ไม่ลงตัว ความรักของเจ้าชายที่เคยเต็มเปี่ยมในใจ วันนี้เหลือเพียงแค่ความรำคาญอึดอัดใจ ความรักของเจ้าหญิงที่ไม่เคยมีในใจ วันนี้กลับเปี่ยมล้นไปด้วยความรัก เจ้าชายแห่งความเหงาเฉยชา กับ เจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว ไม่มีการพูดคุย ไม่มีการมองตา ไม่มีการจับมือเหมือนเคย เจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว แอบร้องไห้เพียงลำพัง ทางด้านหนึ่งของภูเขา เจ้าชายยืนอยู่อีกด้านหนึ่งเช่นกัน ความเงียบ ความแห้งแล้ง เดียวดาย สายลมร้อน ได้พัดผ่านภูเขาลูกนี้ ราวกับจะกลั่นแกล้งเจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหวให้ชาชินกับความรู้สึกเดียวดาย วันนี้ เจ้าชายแห่งความเหงาตัดสินใจ เดินทางจากไป ไม่มีแม้คำอำลา เจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว ไม่พบแม้ใครบนภูเขาแห่งนี้ เธอร่ำไห้ อย่างน่าอาดูร น้ำตาของเธอไหลรินมากมายเหลือเกิน จนทำให้มวลดอกไม้ที่ล้มตาย ฟื้นกลับคืนมายืนต้นอีกครั้ง หล่อนจึงดำเนินชีวิตอย่างเคย ทำเหมือนไม่เคยมีใครเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตหล่อน แต่ความเศร้า ก็พร้อมที่จะทำร้ายหล่อนได้เสมอ เมื่อคิดถึงหรือนึกถึงเจ้าชายแห่งความเหงา เธอพึมพำกับมวลดอกไม้ เบาๆว่า "ความรักของฉันอยู่ไหน" เจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว ยังคงคิดถึงเจ้าชายแห่งความเหงาอยู่เสมอ หากเธอก็ไม่โทษว่า เขาผิด เฝ้าโทษตัวเองว่า เหตุใดเราจึงไม่รักเขาอย่างพอเหมาะ เขาเป็นเพียงแค่ผู้ชายขี้เหงาคนหนึ่ง ที่วันนึงเขาผ่านเข้ามาทำให้เราได้รู้จักรัก ได้รักให้เป็น เขาเป็นเพียงแค่ผู้ชาย ผู้ชายไม่รักผู้หญิง เอาแต่ใจเฉกเช่นหล่อนนักหรอก การเฝ้าปลอบใจตัวเองของเจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว คือบทเรียนของความรัก เพียงอยากให้ผู้หญิงทุกคนรู้ว่า ผู้ชายก็เป็นเพียงแค่มนุษย์ขี้เหงา มีเพียงความเหงาในหัวใจ ความรักของเขาไม่เคยจีรัง อย่าไปให้หัวใจของเราทั้งหมดแก่เขาเพราะเขาอาจดูแลได้ไม่ดีเท่าเราดูแล จงดำเนินชีวิตอย่างปกติอยุ่ร่วมกับความรักด้วยความพอดี อย่าลืมดูแลดอกไม้ของเราด้วย (ดอกไม้ในเรื่องนี้ฉันนิยามมันให้เป็นตัวตนของผู้หญิงทุกคน) จงมีความสุขกับความรักและพร้อมที่จะยอมรับความจริง ว่าเขาพร้อมที่จะจากเราไปทุกเมื่อ จง เป็น ปกติ รักด้วยความพอเหมาะ รักให้เป็น ใครเคยกล่าวไว้ว่า การเริ่มต้นรักของผู้ชายมากมายนักด้วยรัก การเริ่มต้นรักของผู้หญิงน้อยค่านัก หากเมื่อเวลาผ่านไป ค่าของความรักในใจก็เปลี่ยนไป รักของผู้หญิงมากขึ้น แต่กลับกัน รักของเธอ มัน ไม่เหลือเลย คงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนไหว และผู้ชายขี้เหงา การเริ่มต้นและการสิ้นสุดของความรักนั้นจึง ต่างกันอย่างสิ้นเชิง ฉันก็แค่ผู้หญิงอ่อนไหวเธอก็แค่ผู้ชายขี้เหงา ความ รัก แค่ ลม ร้อน วูบ หนึ่ง ที่ ผ่าน มา ทำ ให้ ใจ อ่อน ไหว อบ อุ่น บาง คราว มัน ก็ กรีด หัว ใจ เรา ให้ ด้าน ชา และ แห้ง ผาก
13 พฤศจิกายน 2546 21:40 น. - comment id 70169
ตอนแรกๆๆก็หนุกดี โรแมนติกมากนะ แต่เราอ่านไม่จบทีหรอก แต่เราว่าน่าจะสนุก *-* พยายามแต่งนะคุณนักเขียน
14 พฤศจิกายน 2546 22:43 น. - comment id 70184
เขียนได้ดีค่ะ อ่านแล้วถ้าไม่เข้าข้างใคร มันก็เป็นความจริงอย่างหนึ่งของชีวิต การเริ่มต้นรักของผู้ชายและผู้หญิงต่างกันอย่างที่คุณว่า ตัวดิฉันเองปัจจุบันก็เป็นเหมือนเจ้าหญิงแห่งความอ่อนไหว ให้ใจกับเจ้าชายขี้เหงาไปจนหมดใจ ได้รับก็แค่เพียงความเจ็บช้ำ และยังไม่ได้รับอิสระจากเจ้าชายขี้เหงาด้วย