ถ้า..สิ่งนี้เรียกว่ารัก 3
kp1
หลังจากที่ขลุกตัวอยู่ที่ร้านเกือบครึ่งวัน
เห้นทีฉันต้องขอลากลับ..ที่ร้านเด็กที่มาเล่นเกมค่อยๆน้อยลง
เพราะใกล้จะค่ำแล้ว...
ฉันบอกเขาว่าจะกลับเลย เขาทำหน้า รับฟัง
ฉันบอกว่า จะไม่เดินไปส่งหน่อยหรือ ..เขาเลยมาส่งฉันที่ใกล้ๆปากซอย
ฉันลาพี่ที่ร้านแล้วเดินออกมา
ไม่มีบทสนทนาใดๆ ขึ้นมาระหว่างรอรถ
แต่ฉันไม่ชอบบรรยากาศเงียบๆเลย ชวนคุยไปเรื่อยๆ
มีประโยคนึง ที่หลุดพูดไปได้ไงน่ะ ก็ยังไม่รู้....ตกลงว่าเราเป้นเพื่อนกันได้ป่าว....
เขายิ้มๆ คล้ายจะหัวเราะ เป้นฉันก็คงเป็นแบบนั้นหล่ะ
มีอะไรจะพูดเยอะแยะ แต่ดันขุดประโยคนี้ขึ้นมาได้..บ๋องจริงเรา
เขาพยักหน้า แบบผู้ใหญ่ที่กำลังคุยอยู่กับเด็ก ยังไงยังงั้น
รถมาพอดี ฉันเลยขึ้นรถ ..... เขาเดินกลับมาที่ร้าน
.................................
เรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนั้น ยังอดแปลกใจไม่หาย
คนบนโลกมีมากมาย ทำไมต้องเฉพาะไปเป้นนายคนนั้นด้วยน่ะ
....ฉันยังติดต่อเขาเป้นระยะๆ บ้างก็ไปที่ร้าน
ฉันไปที่นั่นอีก 2 ครั้ง
ครั้งแรก....แวะเอาไก่ทอดไปให้ หลังจากที่ฉันไปดูหนังจบ
ที่ร้านเงียบๆ
ครั้งที่ 2 ฉันไปอีก เพราะเรื่องเครื่องคิดเลข ใจจริงคงเพราะอยากไปที่นั่นด้วย
เลยหาเรือ่งไป ที่ร้านกำลังวุ่น เด็กก็เยอะๆ ......ไปนั่งอยุ่เฉยๆ
ยังกับคนไม่มีตัวตน หลังจากบทสนทนาที่ทักทายกัน ก้ไม่มีคำพูดคุยอะไรอีกเลย
ทนภาวะนั้นไม่ไหว อยากจะร้องให้ เวลา 30 นาที แต่ยังกะ 1 ปีแสง
ทำให้ขอตัวกลับ จำการไปรั้งนั้นอย่าไม่มีวันที่จะลืม
อะไรที่ฉันคิดแล้วคิดอีก ว่าจะไม่ไปแล้วกลับไป หรือ ทำไม่ทำ มักจะให้อะไรที่แย่ๆ
กับฉันเสมอเลย ครั้งนั้นก็อีก
แต่ฉันก็ดีใจน่ะ........ที่ฉันได้รุ้จักเขา .....
....................................................
เขาสอนอะไรสอนอะไรฉันเยอะแยะ ....แบบที่เขาไม่รุ้ตัว
เขาเป้นแบบอย่างให้ฉันอีกด้วย..แบบที่เขาไม่รู้ตัว
ฉันห่างหายจากการติดต่อเขาไปสักระยะหนึ่ง......เพราะฉันเริ่มสังเกตว่าตัวเอง
มีอะไรบางอย่างที่ ไม่ใช่ตัวเองที่เคยเป้นมา
ฉันชักไม่แน่ใจเลย.......ต้องสำรวจตัวเองไหม่
แต่สุดท้ายวันนึง...ฉันก็แพ้ตัวเอง
ฉันติดต่อไปหาเขาอีกแล้ว..........วันนั้นฉันดีใจอย่างบอกไม่ถูก
เกินที่จะบอกใครๆได้ว่า ..ฉันรุ้สึกอย่างไรในตอนนั้น
เขาบอกฉันว่า................
สิ่งเกิดขึ้น อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันยิ้ม ได้อีกวันนึง
เรื่องราวจะต้องดำเนินต่อไป.....