เหตุการณ์ปฏิวัติดอกมะลิในอียิปต์ ปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 25 ม.ค. ปี 2011 ประชาชนได้ลุกฮือขึ้นมาเพื่อต่อต้านรัฐบาลเผด็จการของฮอสนี มูบารัก จนเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลและประชาชน ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 850 ราย และบาดเจ็บถึง 6,000 คน หลายสัปดาห์ต่อมา วันที่ 11 ก.พ. นายมูบารัก ทนแรงกดดันไม่ไหว และประกาศลาออกจากตำแหน่ง และเข้ารับการไต่สวนครั้งแรกในวันที่ 3 สิงหาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ว่า ศาลแห่งประเทศอียิปต์ ตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิตแก่ ฮอสนี มูบารัก อดีตประธานาธิบดีอียิปต์ ซึ้งถูกโค่นอำนาจเมื่อที่แล้วก่อน ฐานมีส่วนร่วมในการเข่นฆ่าเหล่าผู้ประท้วง กว่า 850 คน ในระหว่างการลุกฮือต่อต้านรัฐบาลเผด็จการของโลกอาหรับ หรือ การปฏิวัติดอกมะลิ นายมูบารัก ในสภาพอิดโรยสวมแว่นตาดำ ถูกเปลพยาบาลหามเข้ามาในชั้นศาล และนั่งฟังคำพิพากษาบนรถเข็น เบื้องหลังกรงขังร่วมกับจำเลยคนอื่นๆ ขณะที่ ประชาชนจำนวนมากที่มารวมตัวกันหน้าศาล และติดตามฟังข่าวจากหน้าจอโทรทัศน์ โห่ร้องยินดีหลังทราบบทลงโทษของนายมูบารัก และจุดพลุฉลองเป็นการใหญ่ สำหรับประเทศไทย คนสั่งการเข่นฆ่าประชาชน 102 ศพะ(มีตายเพิ่ม) และบาดเจ็บอีกเกือบ 3000 ยังลอยนวลและมาลอยหน้าลอยตาคัดค้านอยู่ในสภาได้อีกเมื่อไรกรรมถึงจะตามทัน ท่านอุกฤต มงคลนาวิน ได้บอกวิธีฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศไว้ในการให้สัมภาษณ์แล้วรัฐบาลน่าจะดำเนินการ อย่าปล่อยให้ ประชาชนอังกฤษ คนนี้มาเข่นฆ่าคนไทยได้อีก
5 มิถุนายน 2555 07:52 น. - comment id 129460
เปลว สีเงิน 23 May 2555 - 00:00 อะไรกัน...แค่ผมไปเที่ยวเมืองจีน ๑๐ วัน กลับมา...ไม่ว่าไปทางไหน ได้ยินแต่เสียง "คนเสื้อแดง" ก่นด่าทักษิณที่พวกเขาเคยเคารพและยกเป็นบิดาคนที่สองกันขรม เหตุมาจาก "วิดีโอลิงค์ ๑๙ พฤษภา ๕๕" กลางดงชุมนุมแดงที่สี่แยกราชประสงค์ในโอกาสครบรอบ ๒ ปี "เผาบ้าน-เผาเมือง" เมื่อคืนเสาร์นั่นแหละ ทักษิณไปพูดอีท่าไหนเข้าล่ะถึงได้ผิดหู-ผิดใจกลายเป็น "ไอ้พ่อเนรคุณ" ไปขนาดนี้? ก็สงสารคนป่วยที่ "เก็บอาการ" สุดกลั้น ในขั้นสุดท้ายกันหน่อยเถอะ...พี่น้อง! อะไรๆ ที่เขาต้องการ เขาก็ได้ตามต้องการอยู่แล้ว อยากได้อำนาจรัฐ-ก็ได้แล้ว, อยากมีอำนาจเหนือรัฐ-ก็มีแล้ว, อยากมีรัฐธรรมนูญเป็นของโคตรเหง้าตัวเอง-ก็กำลังมี, กระทั่ง อยากเป็นผู้อยู่เหนือกฎหมาย-เหนือกฎกติกาบ้านเมือง ก็กำลังจะได้เป็น! เพราะยิ่งลักษณ์-น้องสาว กำลังลงไม้เรียวรัฐสภา ให้รีบๆ ปั๊มกฎหมายล้างโทษให้ หลังโหวตผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๙๑ ในวาระ ๓ วันที่ ๕ มิ.ย.นี่แหละ ดังนั้น ในช่วงที่จำเป็นต้องรักษาอำนาจเพื่อใช้บริหารรัฐ และสั่งการสภาฯ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งต้องการผ่านคราบประชาธิปไตย ทักษิณไม่ต้องการให้พวกเสื้อแดงเคลื่อนไหว หยิบเรื่องที่พวกตัวเองผูกปมลวงใช้ถล่มรัฐบาลก่อนไว้มา สร้างความหนักอก-หนักใจต่อให้กับรัฐบาลน้องสาว เพราะนั่น อาจส่งผลให้ขบวนการล้างโทษ-ล้างผิดตัวเขาต้องสะดุดหรือล่าช้าออกไป แล้วแผนขั้นสุดท้ายคือ "ยึดประเทศ-เปลี่ยนระบอบ" ที่ซุกซ่อนอยู่ในใจก็จะ "ผิดแผน" ไปทั้งหมด ก็จะทำให้ ตาย-อย่างเก่งก็ได้เผาแค่....เมรุวัดเทพฯ อดเผา "กลางสนามหลวง" แน่?! ฉะนั้น พูดง่ายๆ ตอนนี้ พวกเสื้อแดงที่เขาหลอกใช้มาระยะหนึ่ง เมื่อเรืออำนาจถึงฝั่ง ทัศนะทักษิณต่อพวกเสื้อแดงตอนนี้ก็คือ เกะกะ-รกมือ-รกตีน อยากให้ไปพ้นๆ เพราะหมดความจำเป็นต้องพึ่ง-ต้องใช้เพื่อการหลอกให้ไปตายแทนแล้ว! พวกระดับรากหญ้าที่ "หลอกมาตาย-หลอกมาเจ็บ" ในรอบ ๒-๓ ปีที่ผ่านมา นั่น...เงินเยียวยาก็ให้รัฐบาลน้องสาวจ่ายให้แล้ว พวกขบวนการเผาบ้าน-เผาเมือง ก็ตกรางวัลแถมโบนัสให้แล้ว คนละตั้ง ๗.๗๕ ล้าน พวกแกนนำ-แกนนอน และพวกหัวหน้าคิวที่ไปหลอกชาวบ้านมาเข้าโครงข่ายเสื้อแดง แต่ละคนก็ได้เลื่อนขั้นจากไพร่ข้างถนนขึ้นเป็นอำมาตย์ไพร่บ้าง ระดับรองบ้าง ยัดทานเงินเดือนหลวงคนละหลายๆหมื่น บางคนหนังหนา-หน้าด้าน รับวิ่งเต้นเรื่องนั้น-เรื่องนี้ ฟันเปอร์เซ็นต์ ฟันหัวคิวเป็นลำไพ่พิเศษ มีบัญชีเงินฝากกันระดับเลข ๘-๑๐ หลัก สบายกันไปแล้ว! ส่วนระดับแดงลูกมือ-ลูกตีนที่เรียกว่ารากหญ้า ก็มีงบกองทุนหมู่บ้านเสื้อแดงบ้าง งบเฉพาะแดงหญิงที่เรียกว่ากองทุนพัฒนาสตรีบ้าง กระจุก-กระจิกอีกต่างๆ นานา สุดแต่จะจิกจากหลวงมาให้ทะลวงกันตามจังหวะจะใช้งาน เรียกว่าแดงรากหญ้าเวลานี้ ไม่ต้องทำการ-ทำงานอะไร เวลาเขาต้องการให้ยกขบวนไปชูป้าย ไปตะโกน ไปไล่ตี ไล่ทุบใครที่ไหน...ก็ไป แค่นั้นก็สบาย มีกิน-มีใช้ เป็น "ไพร่ศักดินา" ในเรือนทักษิณ แต่เบี้ยหลวง!? เพราะอย่างนี้กระมัง เมื่อมาถึงจุดหมดความจำเป็นต้องพึ่งพิงเสื้อแดงระดับรากหญ้าอีกต่อไป ในกลางวงชุมนุมแดงที่ราชประสงค์เมื่อ ๑๙ พ.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางฝนห่าใหญ่กระหน่ำหลายห่า เหล่าเสื้อแดงที่ตากทั้งแดด ตากทั้งฝน จึงได้ยินประโยคนี้จากวิดีโอลิงค์ทักษิณ ผมหวังว่าการกล่าวสปีชของผมในต่างแดนครั้งนี้ เนื่องในวันครบรอบที่รำลึกถึงการสลายการชุมนุมครั้งนี้ คงจะเป็นครั้งสุดท้าย ..... .....วันนี้ความเข้าใจผิดกันต้องยุติ ต้องเลิกจิตปรุงแต่ง ต้องหันกลับมาว่าจะสร้างชาติ สร้างอนาคตลูกหลานอย่างไร!? นั่นคือ "ทักษิณตัดหางปล่อยวัด" คนเสื้อแดงที่หลอกมาใช้หลังบรรลุเป้าหมายที่เขาต้องการแล้วนั่นเอง ทักษิณเปลือยสันดานเดิมแท้ให้เห็นแล้วว่า หาได้มีความจริงใจอย่างที่เคยปากเคยหวานใส่ตลอดมาไม่ พอหลอกใช้สำเร็จกิจก็ถีบหัวส่ง "ถีบหัวส่ง" ยังไง? ตอนแรกผมก็ยังไม่เห็น ต่อเมื่อได้อ่านแต่ละถ้อย แต่ละคำที่ทักษิณวิดีโอลิงค์ถึงเสื้อแดงคืนนั้นแล้วจึงเห็น เห็นทักษิณ "เอาตัวรอดคนเดียว" หลอกใช้ทุกคน เพื่อตัวเองได้อำนาจ-ได้พ้นผิด ครั้นพอได้แล้ว และเห็นช่องที่จะได้ต่อไปแล้ว ก็ตีค่าเสื้อแดงเหมือนนั่งร้านก่อสร้าง เสร็จ...ก็รื้อทิ้ง! ก่อนได้อำนาจรัฐจากการเลือกตั้ง จนได้เป็นรัฐบาลเพื่อไทย ทักษิณและข้าทาสไพร่ระดับหัวแม่ตีนซ้าย-ขวา ต่างพูดจาทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ เป็นเสียงเดียวกัน "ไม่มีปรองดอง พี่น้องเสื้อแดงจะไม่มีใครเจ็บฟรี ตายฟรี ติดคุกฟรี ๙๑ ศพจะได้รับการทวงถาม จะต้องสู้เพื่อให้ได้รับความยุติธรรมจนถึงที่สุด ต้องเอาตัวคนฆ่า คนสั่งฆ่ามาลงโทษให้ได้ การปรองดองจะเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด ถ้าพวกพี่น้องเสื้อแดงยังไม่ได้รับความเป็นธรรม" และคงจำกันได้ ตอนยังไม่ได้อำนาจ ยังต้องพึ่งพาปริมาณแดงรากหญ้าข่มขู่บ้านเมือง "ลุงนวมทอง ไพรวัลย์" ก็ถูกยกเป็นฮีโร่ติดปาก ๖ ศพ และ "น้องเกด" ที่วัดปทุมฯ ก็ถูกยกอ้างอิงทุกลมหายใจ นักข่าวอิตาลี-ญี่ปุ่น ซึ่งการตายของคนข่าวในสนามข่าวก็เหมือนทหารตายในสนามรบ ก็ยังไม่วายถูกพวกแกนนำแดงฉวยใช้เป็นอาวุธทิ่มแทงหวังพังชาติตัวเอง แต่ตอนนี้ ทักษิณได้อำนาจรัฐแล้ว! ทั้งนายตู่ นายเต้น นายเหวง นายตวักกระบวยอะไรทั้งหลาย เหมือนมีบั้นท้ายเท้ายัดปาก เงียบกริบ! ทั้ง ๙๑ ศพ ทั้งน้องเกด ทั้งลุงนวมทอง ทั้งใครต่อใคร ไม่มีแดงตัวพ่อ-ตัวลูกรายไหนยกขึ้นมาอ้างเพื่อต่อสู้พิสูจน์ความจริงอีก พลิกพูดใหม่คำเดียวว่า ให้ลืมๆ กันไป เพื่อเดินหน้าปรองดอง อะไรคือปรองดอง และปรองดองเพื่อใคร? นี่ไม่เพียงสุจริตชนทั่วไปถาม กระทั่งคนเสื้อแดงตอนนี้ก็ถาม เพราะการที่ไพร่พลิกเป็นอำมาตย์เขาไม่สงสัย แต่ที่ไพร่พลิกบทบาท-ท่าที-คำพูดจากหน้ามือ เป็นหลังตีนอย่างนี้นี่ซี พวกเขาสงสัยกันจริงๆ ปรองดองในความหมายและเจตนาของรัฐบาลเพื่อไทยก็คือ การนิรโทษกรรมให้ทักษิณคนเดียวเป็นหลักใหญ่นั่นเอง ไม่ได้มีเจตนาว่าตอนนี้คนไทยลืมเรื่องหลัง เข้าอก-เข้าใจ อภัยกันแล้ว หันหน้ามาจูบปากกัน เพื่อชาติ-เพื่อสามัคคี พร้อมเดินไปข้างหน้า ตามความหมายแท้จริงของคำว่าปรองดองก็หาไม่! เพราะเหตุนี้ เสื้อแดงจึงได้ยินคำพูด "หน้ามือเป็นหลังตีน" จากปากทักษิณ ผ่านวิดีโอลิงค์คืนนั้นว่า.... "ถามว่าอยากปรองดองไหม ผมต้องถามกลับว่า ถ้าไม่อยากปรองดองก็ไม่เป็นไร ผมก็อยู่เมืองนอกของผมต่อไป เพราะตอนนี้อยู่จนชิน........... .........ถ้ามีการปรองดองเมื่อไหร่ ผมก็ได้มีโอกาสกลับไปตอบแทนพี่น้อง แต่ถ้าบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องตอบแทน ไปเถอะอยู่เมืองนอกเถอะ สู้กับมันต่อไป ผมก็ไม่ว่าอะไรจริงๆ แต่ว่าพี่น้องต้องหยุดตั้งสติคิดว่า แล้วใครได้ แล้วใครเสีย อย่างที่ผมบอกว่า ถ้ารบกันต่อไป พ่อค้าอาวุธได้ประโยชน์อย่างเดียว ในที่นี้คือ ผู้ที่ได้ประโยชน์จากความขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่าย คือ ทั้งฝ่ายเราและฝ่ายเขา" "..............วันนี้เราเป็นรัฐบาล อย่างน้อยความเป็นธรรมก็ดีกว่าตอนที่เราเป็นฝ่ายค้านแน่นอน ถึงแม้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างนอกเหนือการควบคุม แต่ก็ทุกอย่างมันมีกติกา...............เพราะฉะนั้น วันนี้เราจะต้องผนึกกำลังกันมากกว่าการที่จะยืนกรานต่อไปว่า เอากันให้ตายไปข้างหนึ่ง .............วันนี้เราต่อสู้เหนื่อยแล้ว จะสู้ต่อไปหรือจะหันหน้าเข้าหากัน โดยที่ยอมให้รัฐบาล หรือยอมให้ทางฝ่ายแกนนำทั้งหลายได้ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่บ้านเมือง ต่อประเทศไทย เหตุการณ์มันเปลี่ยน พัฒนาการมันเปลี่ยน ก็หวังว่าพี่น้องจะเข้าใจว่า ......... เราได้ทำหน้าที่ของเรามาสุดทางแล้ว" "...............วันนั้น ผมบอกได้เลยว่า ประเทศไทยจะเจริญและก้าวหน้าอย่างมหาศาล เพราะศักยภาพเรามีมาก แต่เรากดตัวเราเองไว้ เพราะว่าความบาดหมางและความขัดแย้งในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ถ้ามองย้อนกลับไปแล้ว อยากเรียกว่าปัญญาอ่อนก็ว่าได้ และหวังว่าพี่น้องหลายคนอาจจะโกรธผมบ้าง เชื่อว่าเพราะไม่เข้าใจอาจจะโกรธแค้นอยู่ ดังนั้น พี่น้องกลับไปทบทวนดีๆ" นี่ไงล่ะ...ทักษิณ คนที่ยอมทรยศต่อคนเสื้อแดงตลอดกาล ดีกว่ายอมให้เสื้อแดงเกาะเพื่อแทะกันเป็นทอดๆ ตลอดกาล คงเลียนแบบโจโฉผู้ถือสุภาษิต "ทรยศโลกดีกว่าให้โลกทรยศ" นั่นแหละ! ไม่มีใครที่คิดร้อยครั้งจะถูกทั้งร้อยครั้ง ทักษิณก็เช่นกัน เขาตีค่าความรู้-ความเข้าใจเรื่องโลกและการเมืองของคนเสื้อแดงไว้ต่ำ พูดง่ายๆ คือ ทักษิณคิดว่าพวกเสื้อแดงโง่เหมือนควาย หลอกง่าย-จูงจมูกใช้งานได้ง่าย การวิดีโอลิงค์ "ถีบหัวส่ง" ที่เขาบอก "เป็นครั้งสุดท้าย" คืนนั้น จึงเป็นการทำลายรัก-ทำลายศรัทธาด้วย "หลอกลวง" ที่เสื้อแดงจับได้คาหนัง-คาเขา เรียกว่าทักษิณ "ฆ่าตัวตาย" ก่อนตายจริงมาเยือนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ชนิด "พระจีวรแดง" ก็ยังเมินนิมนต์!
6 มิถุนายน 2555 10:34 น. - comment id 129474
จาตุรนต์ ชี้ อำนาจประชาชนถูกปล้น- ชนชั้นนำ ไม่อยากปรองดอง - คาดเกิด ยุบพรรค อีกรอบวันที่ 03 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เวลา 14:36:00 น. เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ที่โรงแรมอมารีเอเทรียม ถนนเพชรบุรี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แถลงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้สภาผู้แทนราษฎร ระงับการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 นายจาตุรนต์ กล่าวว่า วันนี้เป็นการแถลงครั้งแรกหลังได้รับสิทธิพลเมืองกลับคืนมา และรู้สึกว่าการเมืองต้อนรับแบบดุเดือดพอสมควร ในฐานะพลเมืองชั้นสอง ไม่มีสิทธิเป็นคนมา 5 ปี ขณะนี้ มีสิทธิได้เท่ากับพลเมืองทั่วประเทศ แต่พบว่าสิทธิประชาชนทั่วประเทศ กำลังถูกปล้นไปอีกครั้ง ขณะนี้มีข่าวลือว่าจะมีการรัฐประหาร ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องทำรัฐประหาร โดยผู้นำกองทัพ เพราะ จริงๆ แล้วเกิดรัฐประหารโดยกระบวนการตุลาการภิวัฒน์ขึ้นแล้ว ฉะนั้น ใครคิดต่อต้าน รัฐประหาร โดยคิดว่า ต้องระวังกระทั่งเกิดการรัฐประหารแล้วค่อยออกมาต่อต้าน ก็ขอให้เข้าใจว่า การรัฐประหารได้เริ่มขึ้นแล้ว ฉะนั้นการต่อต้านควรจะกระทำได้แล้ว นายจาตุรนต์กล่าว นายจาตุรนต์ กล่าวตอนหนึ่งว่า คาดอยู่แล้วตั้งแต่ต้นว่า ชนชั้นนำคงไม่ยอมให้แก้รัฐธรรมนูญนี้อย่างง่ายๆ แต่นึกไม่ออกว่าจะใช้วิธีไหน ตอนแรกคิดว่า รอให้ผ่านวาระ 3 ไปก่อน แล้วค่อยไปยื่นให้ศาลตีความ แต่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจวินิจฉัย เมื่อร่างรัฐธรรมนูญพิจารณาเสร็จ จึงมาใช้ช่องทางรัฐธรรมนูญมาตรา 68 จริงๆ ไม่ใช่ช่องทางที่ใช้ได้เลย แต่เมื่อกล้าใช้ช่องนี้แสดงว่าต้องกล้าล้ม เมื่อถามว่า ชนชั้นนำ หมายถึงคนกลุ่มใด นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ชนชั้นนำ ก็คือชนชั้นนำ คือคนที่ยังมีอำนาจทั้งหลาย หรือคนที่ยังมีอำนาจแฝงอยู่ตามรัฐธรรมนูญนี้ คนที่คิดจะล้มอำนาจรัฐบาลที่มาจากประชาชน เหมือนเคยล้มรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ล้มรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พอคราวนี้จะแก้รัฐธรรมนูญโดยสภา ก็คิดจะล้ม เรื่องนี้ อาจจะนำไปสู่การยุบพรรครอบใหม่อะไรอีกสารพัด ก็เป็นได้ ทั้งๆ ที่กระบวนการทุกอยย่างดำเนินตามรัฐธรรมนูญ จึงถือว่า เป็นการกระทำที่ร้ายแรงมาก เมื่อถามว่า รัฐบาลนี้ ถูกหลอกเกี่ยวกับการปรองดองหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า รัฐบาลเองคงไม่ได้โดนหลอกอะไร เพราะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับกระบวนการทั้งหลาย แต่นี่แสดงให้เห็นว่า ไม่มีความพยายามที่จะปรองดองใดๆ เลยจากชนชั้นนำในประเทศนี้ มีแต่พยายามรักษา อำนาจตัวเองไว้และมีแต่จะทำลายกระบวนการที่จะทำให้บ้านเมือง เป็นประชาธิปไตยทุกวิถีทาง ชัดเจน โดยไม่คำนึงถึงวิกฤตใดๆที่จะตามมาถือเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวอย่างยิ่งของกระบวนการนี้ นายจาตุรนต์ กล่าวถึงเหตุผลที่มองสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการรัฐประหารโดยตุลาการภิวัฒน์ว่า ขณะนี้เกิดการร่วมกันของกระบวนการหนึ่งที่เคยใช้มาในการ ล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก่อนหน้านี้ หรือเป็นกระบวนการต่อเนื่องจากการรัฐประหารนั่นเอง คือ เกิดการร่วมมือกันเคลื่อนไหวโดยพรรคการเมือง ในกลุ่มการเมืองที่ไม่คำนึงถึงกฎกติกาบ้านเมือง ประชุมสภาไม่คำนึงถึงรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ การชุมนุม ไม่คำนึงถึงการปฏิบัติตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน มีความร่วมมือเผด็จศึกทำนองเดียว กับที่เกิดในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แต่ครั้งนี้ จะมีผลมากกว่านั้น คือเปลี่ยนแปลงเนื้อหา รัฐธรรมนูญแล้วสกัดกั้น ปิดโอกาส ประชาชนในการแก้รัฐธรรมนูญ ผ่านกลไก รัฐสภา นายจาตุรนต์กล่าวว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับไต่สวน ร้องว่ามีการกระทำล้มล้างระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครอง โดยวิธีการมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ หรือรับไต่สวนตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 68 และมีคำสั่งไปยังประธานรัฐสภาให้ชะลอการพิจารณา รัฐธรรมนูญวาระ 3 นายจาตุรนต์กล่าวว่า การมีมติรับไต่สวนก็ดี การสั่งให้ชะลอการลงมติ ของรัฐสภาก็ดี เป็นการกระทำขัดต่อรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญเนื่องจากรัฐธรรมนูญ กำหนดว่าอำนาจบัญญัติกฎหมาย รวมทั้งแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจสภา ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจวินิจฉัยรัฐธรรมนูญ เพราะมีอำนาจวินิจฉัยเพียงพระราชบัญญัติ ฉะนั้นในขั้นที่พิจารณายังไม่เสร็จ ไม่รู้รัฐสภาจะมีมติอย่างไร ศาลรัฐธรรมนูญ ยิ่งไม่มีอำนาจพิจารณา "ผมเห็นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่เข้าข่าย มาตรา 68 และศาลรัฐธรรมนูญ กำลังละเมิด หลักการ แบ่งแยกอำนาจ กระทำการขัด รัฐธรรมนูญ เสียเองเป็นการล้มการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เท่ากับยึดอำนาจแก้ไขกฎหมาย แก้ไข รัฐธรรมนูญ ไปจาก ประชาขน นอกจาก นำไปสู่การล้มการแก้รัฐธรรมนูญแล้วจะมีผล ห้าม ไม่แก้รัฐธรรมนูญขนานใหญ่ เท่ากับได้ทำลายช่องทางที่ประชาชน จะทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ปิดช่องทางที่สังคม จะใช้แก้ปัญหาความขัดแย้ง แตกต่างทางความคิดโดยกระบวนการทางประชาธิปไตย"นายจาตุรนต์กล่าว นายจาตุรนต์กล่าวอีกว่า สังคมไทยขัดแย้ง 2 เรื่องคือ 1 ใครควรเป็นรัฐบาล และ 2 รัฐธรรมนูญ ควรเป็นยังไง ข้อแรก ประชาชนตัดสินไปแล้ว และ กำลังจะตัดสินผ่านรัฐสภา ว่า รัฐธรรมนูญ ควรเป็นอย่างไร แต่ศาลรัฐธรรมนูญ กำลังใช้อำนาจนอกเหนือ รัฐธรรมนูญ มาล้มกระบวนการนี้ เป็นการผลักประเทศสู่วิกฤต ครั้งใหญ่ ปิดช่องแก้ความขัดแย้ง ทำให้ ประเทศอยู่ในภาวะล่อแหลมเผชิญหน้า เป็นวิกฤต ร้ายแรงยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ นายจาตุรนต์กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจ ประชาชน ว่าเกิดรัฐประหารแล้ว เกิดการกระทำขัด รัฐธรรมนูญ เป็นภัยร้ายแรง ต่อประชาธิปไตย ประเทศ ต้องสกัดกั้น กระบวนการนี้ต่อไป ผู้ร่วมกระบวนการนี้ เป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัยร่างรัฐธรรมนูญ ถ้าไม่ต่อต้าน ไม่แสดงความเห็นเชิงหลักการที่หนักแน่นเพียงพอยากทัดทานกระบวนการโดยกระบวนการตุลาการภิวัฒน์ "เฉพาะหน้า ผมเสนอว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งชะลอการพิจารณาของ รัฐสภา ผมเสนอว่า รัฐสภา ไม่บังควรที่จะ ปฎิบัติตาม คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ เพราะคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ สิ่งที่ผูกพันองค์กรอื่น ไม่เหมือนคำวินิจฉัยซึ่ง ผูกพันคณะรัฐมนตรีและ รัฐสภา รัฐสภา จึงจำเป็น ต้องทำตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 291 คือพิจารณา ลงมติ วาระ 3 เมื่อพ้นกำหนด 15 วัน หลังผ่านวาระ2 ประชาชนควรรณรงค์ อย่างจริงจังเพื่อ ถอดถอน ตุลาการส่วนใหญ่ เพราะ เนื่องจากกระทำการขัดรัฐธรรมนูญเอง นอกจากนั้น ก็มาตั้งหลัก รับมือกระบวนการ รัฐประหารครั้งนี้ เพื่อผลักดันบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย" นายจาตุรนต์กล่าว นายจาตุรนต์ กล่าวว่า สำหรับกระบวนการยื่นถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้ดำเนินการ แต่มาแสดงความเห็นด้วยว่าควรจะทำ ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้รับสิทธิทางการเมืองแล้ว จะเข้าชื่อถอดถอนหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ขณะนี้มาปลุกระดม ยุยง ส่งเสริมดำเนินการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ส่วนจะลงชื่อด้วยหรือไม่ต้อง ขอดูก่อนว่าจะถูกบิดเบือนอะไรหรือเปล่า การดำเนินการของประชาชน ทั้งการรณรงค์ และการยื่นถอดถอน ทำภายใต้กฎหมาย จึงไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหา แต่การดำเนินการครั้งนี้ เท่ากับสร้างวิกฤต ครั้งใหญ่ที่สุด ตั้งแต่หลังรัฐประหาร ปี 2549 เป็นต้นมา และจะเป็นปัญหายืดเยื้อยาวนานต่อไป นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่าว่า การแก้ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จะทำให้ อำนาจกลุ่มองค์กรและชนชั้นนำถูกลดลง ฉะนั้น การขัดขวางแก้ รัฐธรรมนูญเกิดจากการ ไม่ยอมรับอำนาจ ประชาชนและรักษาอำนาจชนชั้นนำ ซึ่งเป็นส่วนน้อยมากของสังคม
7 มิถุนายน 2555 08:30 น. - comment id 129510
Thai E-News ข่าว-บทความ ล่าสุด เก็บตกภาพขำขัน: ตลก ประชาสัมพันธ์งานเสวนา: "Rhetoric and Dissent: Where to next for Thailand's lèse majesté law?" จดหมายเปิดผนึก 2 ฉบับ ถึงศาลรธน. จับปชป.คาป้าย!ใส่ร้ายเพื่อไทยหมิ่นสถาบันทั่วกรุง การใช้สิทธิของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยในการร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลในองค์กรการเมืองที่กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ TOP10ข่าวที่มีสถิติผู้เข้าชมสูงสุด กูบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ใครข้องใจเจอได้ทุกเวลา..พวกมึงไม่รู้สำนึกยังหน้าด้านอยู่ประเทศไทยทำไม เสื้อแดงปวดตับยิ่งลักษณ์กราบว.วชิรเมธีวันวิสาข แสลงใจเทศน์ก่อน10เมษา53'ฆ่าเวลาบาปกว่าฆ่าคน' ถ่อยช็อตต่อช็อต จิรายุระทึกอันธพาลรัฐสภาขย้ำคอ หม่อมปลื้มจัดหนัก: "ทักษิณต้องรุกแล้ว" บทความ: อำมาตย์เอาแล้วยุบเพื่อไทยแน่ อ้างเรื่องจตุพร จับปชป.คาป้าย!ใส่ร้ายเพื่อไทยหมิ่นสถาบันทั่วกรุง แม้วโฟนอินเวที3เกลอร้องรู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก จดหมายเปิดผนึก 2 ฉบับ ถึงศาลรธน. ประชาไท: อดีตคณบดีนิติ มธ. ชี้ ตุลาการ รธน. ละเมิดรธน. เสียเอง เสนอเข้าชื่อถอดถอน โพลล์ไทยอีนิวส์: หากพันธมิตรฯกับปชป.เล่นนอกเกมจนเลยเถิด ท่านจะ? เปิดจองพร้อมกันทั่วโลก หนังสือต้องอ่าน โดยนักเขียนต้องห้าม "แรงงานอุ้มชาติ"โดยจรรยา ยิ้มประเสริฐ เปิดมุมมืดประเทศไทยผ่านมิติด้านแรงงาน เล่มละ300บาท และค่าจัดส่ง30บาท ชำระผ่านบัญชี ประเวศ ประภานุกูล ธ.กสิกรไทย สาขาบิ๊กซีรามอินทรา เลขที่864-2-07040-2 (คลิ้กรูปอ่านเรื่อง) เกาะติดความคืบหน้าหนังนวมทอง เปิดใจทีมผู้สร้างหนังนวมทองคลิ้กอ่านรายละเอียด) หรือคลิ้กติดตามความก้าวหน้าโครงการที่หน้าเพจ โครงการสร้างหนังนวมทอง ปีมหามงคลประชาชนไทยร่วมใจฉลอง80ปี2475-100ปีร.ศ.130 ปี 2555 นี้เป็นวาระมหามงคลของประชาชนชาวไทย ในโอกาสครบรอบ 80 ปี ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 และวาระครบ 100 ปีกบฎร.ศ.130 แม้เหตุการณ์สำคัญยิ่งนี้จะถูกทำให้พร่าเลือนลืมหลง ประชาชนไทยพึงรู้่เถิดว่า"ประวัติศาสตร์ยังตื่นอยู่เสมอสำหรับชนชั้นหลัง"(คลิกภาพอ่านเอกสารหายากที่เพิ่งค้นพบ) ลากไส้สื่อเหี้ย..มประจานทุกขด กระชากโฉมหน้าฐานันดรสี่ ทุกสื่อทุกค่ายทุกเม็ดเผ็ดมันส์..เจาะรายตัวคนอ่านข่าวหน้าจอพวกเขากับเจ้าหล่อนมีกำพืดอย่างไร?!(คลิ้กรูปอ่านเรื่อง) สารคดีโลกตลึงซับใหม่ใสแจ๋ว 2ปีต่อมา 19พฤษภา53:ความยุติธรรมใต้กระบอกปืน คลิ้กอ่านรายละเอียด ดูหนังMAY18พากษ์ไทยต้นจนจบ MAY18เมื่อเสธ.แดง-น้องเกด-น้องเฌอ-พระ-แท็กซี่และวีรชนราชประสงค์โลดแล่นอยู่ในหนังเกาหลี...คลิ้กชมพากษ์ไทยตั้งแต่ต้นจบจบ You've a got a friend Blognone เว็บข่าวไอทีอิสระ สรุปงาน "New Dimension of Google Maps": Google Maps ออฟไลน์บนแอนดรอยด์, Google Earth สามมิติแบบใหม่ [Computex] Acer โชว์แท็บเล็ตแอนดรอยด์ใหม่ 2 รุ่น Iconia Tab A110 และ A210 Twitter ปรับโลโก้ใหม่เป็นรูปนกสีฟ้าเพียงอย่างเดียว PETA เปิดตัวเว็บ PETA.xxx [Computex] ยอดขาย Windows 7 ทะลุ 600 ล้านชุดแล้ว JuSci.net มินิรีวิวครั้งแรกของ JuSci กับหลอดไฟ LED อัพเกรดสู่ Drupal 7 Ray Bradbury ผู้เขียนเรื่อง Fahrenheit 451 เสียชีวิตแล้ว เครื่องบินพลังแสงอาทิตย์ ลงจอดถึงปลายทางที่ Morocco ยารักษาเบาหวานก็ทำให้เป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้ MEconomics Menlo Park อนุญาตให้ Facebook ขยายขนาดสำนักงานแล้ว รองรับคนได้มากสุด 6,600 คน ปรากฎการณ์ Facebook กระทบหุ้น Twitter ปรับตัวลงด้วย แม้ยังไม่เข้าตลาด Qantas คาดปีนี้กำไรหด 90% ออสเตรเลียชิงปรับลดอัตราดอกเบี้ย กลัวเศรษฐกิจหดตัว สเปนส่งสัญญาณให้ประเทศอื่นช่วยอุ้มระบบธนาคาร Siam Intelligence Unit ความซื่อตรงในมุมมองนักเศรษฐศาสตร์: ประสบการณ์จากอนุกรรมาธิการด้านตรวจสอบเรื่องการทุจริตฯ (ตอนที่1) พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ชนศาลรัฐธรรมนูญ บอกกระบวนการผิดมาตรา 68 กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์ บอกศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัยตามมาตรา 7 นิติราษฎร์: แถลงการณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ รู้ใช้เข้าใจเงิน: ทำความเข้าใจการลงทุนหุ้นท่ามกลางวิกฤตการเงินยุโรป ประเทศไทยอยู่ตรงไหน ? เงินร้อยบาทในกระเป๋าคุณมาจากไหน? ภาษีสุราและการบริโภค พระโคแรกนาขวัญกับวันฝนตก กรุงเทพร้อนขึ้นจริงหรือ? ไทย และ รางวัลปาล์มทองคำ ihere dot TV ข่าวรั่วคั่วเทนนิสToyota iSudd THE FREEDOM ข่าวรั่วคั่วToyota League 2012 AroundME Life is Nothing ชีวิตไม่มีเหี้ยไรเลย Teaser iSudd The Freedom ดราม่าเอยจงซับซ้อนยิ่งขึ้น ต่อยแม่งเลย!! ฝรั่งม่ายเข้าจาย!! แท็กซี่คนจน!! ฉิ่งฉับทะยานฟ้า!! ลูกชายฉุนขาด!! FAIL.in.th - รวมภาพ/คลิปขำๆ เท่านี้ก็ไม่มีคนกล้าเข้าละ ลุยเลยลุง พุ่งลงน้ำ! คาวบอยปะทะนายฮ้อย มาซะได้มาตรฐานเลยนะ พบแดงจำนวนมากชุมนุมหน้าศาล ศัพท์การเมืองไทยร่วมสมัย เจริญสติ ตุลาการภิวัตน์ เผาบ้านเผาเมือง คณะกรรมการนอนหลับทับสิทธิมนุษยชน ไม่มีกระดูกสันหลัง DeepSouthWatch ระเบิดทหารหมวกแดงเจ็บ 5 นักศึกษาม.อ.ตานีชุมนุม ชวนคนใต้บุกสตูลต้านท่าเรือปากบารา รายงาน: รัฐประเดิมสอนอักษรยาวี ลบข้อหา "ทวิภาษา" กลืนอัตลักษณ์? ประกบยิงผู้ใหญ่บ้านปัตตานี ตาย 1 เจ็บ 4 ศอ.บต. เตรียมทำป้ายไทย-อังกฤษ-มลายูในสถานที่ราชการ อาชญากรรมน่าสนใจ ตร.ปากน้ำรวบแก๊งโจ๋ฟันเหยื่อชิง จยย.-สร้อยคอ ปคม.จับแม่เล้ารีสอร์ต จ.เลย ค้ากามเด็กสาว จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเงินทหารเกษียณชาวอังกฤษจนฆ่าตัวตาย! ภ.7 จับเครือข่ายทนายความค้ายาเสพติด ของกลาง มูลค่ากว่า 120 ล. สหรัฐฯ เผยผู้นำอันดับที่สองของเครือข่ายอัลกออิดะห์ถูกสังหาร Cofspeed channel ตรงไปตรงมา 6 6 2012 wake up thailand 6 6 2012 ที่นี่ asia update 5 6 2012 hot topic เหตุผลการเสนอคำร้อง ให้ชะลอการแก้รัฐธรรมนูญ 5 6 2012 the daily dose 5 6 2012 Prainn2011 channel ปฏิญญาหน้าศาล-3 มิ.ย. 55 รัฐประหารโดยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญขัดรัฐธรรมนูญ รุมขอแบบฟอร์มถอดถอนตุลาการศาลรธน. แถลงการณ์ ครก.112 จะยังไม่สลายตัว fazhi2006 Channel ตาสว่าง กับ อ.สุนัย thairedunion 17-04-55 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร Hot Topic 17-04-55 ที่นี่ความจริง อ.ตุ้ม อ.หวาน 17-04-55 the daily dose หม่อมปลื้ม 17-04-55 ข่าวค่ำ DNN 17-04-55 Speedhorsetv Channel 111 35 53 2ทศวรรษ พฤษภาทมิฬ 2ปี พฤษภาเลือด Part2 35 53 2ทศวรรษ พฤษภาทมิฬ 2ปี พฤษภาเลือด Part1 4 รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน 12 5 2012 3 รัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน 12 5 2012 Wake Up Thai RED USA 2012 06 03 What's Up - กิ๊ก วารุณี + เนื้อร้อง 2012 06 06 เวค อัพ ไทย แลนด์ 2012 06 05 เดอะ เด ลี่ โดส 2012 06 05 ดี ว่า คา เฟ่ 2012 06 05 เวค อัพ ไทย แลนด์ Nemster1980 Channel ณัฐวุฒิ จัตุรัสข่าว 03พค55 ชูธง 03พค55 The Daily Dose 03พค55 Wake Up Thailand 03พค55 ข่าวค่ำDNN 02พค55 Tuxillaplanet Channel 2012 06 02 DNN อดีตคณบดีนิติฯ พนัส ถีบหน้าศาลรธมแม่งมั่ว ปชชฟ้องร้องได้ 2012 06 02@1144 สรยุทธตอบโต้ไอ้ถ่อยวรงค์ สสปขป ทำข่าวเป็นกลาง 2012 06 01 มาร์ครับปชปเหี้ยได้ใจจริงๆ 2012 05 31 จิรายุแฉ ถูกไอ้เถื่อนธานีเทือกสุบรรณสสปชป ล๊อคคอตีเข่า 2012 05 31 ไอ้ถ่อยวรงค์สสปชป ปากระดาษใส่หน้าปธสภา Maysahaway Channel รึ"คุณทักษิณ"จะถูกหลอก(อีกแล้ว)05-06-12 นายแน่มาก01มิถุนายน55 เตรียมตัวได้แล้วเพื่อน31พค55 ท่านดร.พระมหาโชว์30พค55 ความอัปยศของ ปชป.กลางสภา 30พค55 Thai political prisoners ปฎิญญาหน้าศาล ปิยบุตร ตอนที่ 7 ปฎิญญาหน้าศาล ปิยบุตร ตอนที่ 6 ปฎิญญาหน้าศาล ปิยบุตร ตอนที่ 5 ปฎิญญาหน้าศาล ปิยบุตร ตอนที่ 4 ปฎิญญาหน้าศาล ปิยบุตร ตอนที่ 3 Thailand Democracy Watch DEMOCRACY AND CRISIS IN THAILAND : Welcome Speech Q&A: Social Movements Pinkaew Laungaramsri: Red Shirts and the Making of Rural Democracy Somchai Phatharathananunth: The Politics of Postpeasant Society Q & A: Monarchy and Democracy PrachataiTV ความ(ไม่)รู้เศรษฐศาสตร์ของนิธิ ปรากฏการณ์ 112 ริกเตอร์ : ครก.112 บรรยากาศงาน 7 ปี ที่มีประชาไท ปาฐกถา 7 ปีประชาไท: วรเจตน์ ภาคีรัตน์ Core Respondence : จอม เพชรประดับ-จักรภพ เพ็ญแข MrREDJAPAN Channel ชูธง 5 มิถุนายน 2555 ประชุมแกนนำ นปช. 5 มิถุนายน 2555 ที่นี่ความจริง 5 มิถุนายน 2555 ที่นี่ความจริง 4 มิถุนายน 2555 ชูธง 01มิถุนายน 2555 Matichontv2011 Channel ส.รัฐศาสตร์ มก.แถลงการณ์ต่อมติศาล พธม.รอ 2 เงื่อนไขรวมพล ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ท่านมุ้ย ปชป. ยื่นหนังสือต่อนายกฯ อัยการแถลง สถิติผู้อ่านThai E-news ดูสถิติจำนวนผู้อ่านย้อนหลัง ตู้บริจาค Thai E-News - ประกาศขอรับบริจาคเพื่อใช้ในการดำเนินงาน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ดูรายการทั้งหมด เรายินดีที่คุณนำข่าวของเราไปเผยแพร่ต่อ แต่โปรดให้เครดิตเราด้วย Thai E-news is licensed under a Creative Commons Attribution 3.0 Thailand License. ค้นหาบล็อกนี้ สนับสนุนโดย คลังบทความของบล็อก ▼ 2012 (633) ▼ มิถุนายน (25) เก็บตกภาพขำขัน: ตลก ประชาสัมพันธ์งานเสวนา: "Rhetoric and Dissent: Wher... จดหมายเปิดผนึก 2 ฉบับ ถึงศาลรธน. จับปชป.คาป้าย!ใส่ร้ายเพื่อไทยหมิ่นสถาบันทั่วกรุง การใช้สิทธิของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยในการร้องท... วรพล พรหมิกบุตร:การถ่วงดุลอำนาจศาลรัฐธรรมนูญด้วยหล... โพลล์ไทยอีนิวส์: หากพันธมิตรฯกับปชป.เล่นนอกเกมจนเล... go6: "ปิยบุตร" ย้ำ "นี่คือ การเข้าแทรกแซงอำนาจสถาป... บทความ: อำมาตย์เอาแล้วยุบเพื่อไทยแน่ อ้างเรื่องจตุ... หม่อมปลื้มจัดหนัก: "ทักษิณต้องรุกแล้ว" เสื้อแดงปวดตับยิ่งลักษณ์กราบว.วชิรเมธีวันวิสาข แสล... นิติราษฎร์แถลงชัด "คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญไม่ชอบด... ย้อนรำลึกวิสาขบูชาปี53 โพลล์ไทยอีนิวส์ : คุณเห็นด้วยหรือไม่กับพรบ.ปรองดอง... Return of the Jedi(s) - หลังตุลาการภิว้ฒน์ strike ... ปากคำอดีตหัวหน้าพรรค:ประชาธิปัตย์สิ้นเกียรติ อารมณ์ขันชาวเน็ตว้อนท์บัวขาวนั่งเก้าอี้ท่านประธานส... แม้วโฟนอินเวที3เกลอร้องรู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก ประชาไท: อดีตคณบดีนิติ มธ. ชี้ ตุลาการ รธน. ละเมิด... อิศรา: "รัฐสภา" ปฏิเสธคำสั่ง "ศาลรัฐธรรมนูญ"ได้หรื... มติชน: จับตา! เสื้อแดงชุมนุม 2 มิถุนายน ฟื้นรายการ... VoiceTV: แถลงข่าวต้านรัฐประหาร ฉบับ บก.ลายจุด โคตรเท่ห์ ปรองดองได้จริง อะไรจริง คำถามตัวโตๆต่อรัฐบาลนี้:เมื่อไรผู้ก่อการร้ายยึดสนา... ถ่อยช็อตต่อช็อต จิรายุระทึกอันธพาลรัฐสภาขย้ำคอ ► พฤษภาคม (149) คลิปประจานปชป.ถ่อยขว้างประธาน-ขย้ำคอพท.สื่อนอกตอกย้ำแบรนด์พธม.โจรยึดสนามบินฟื้นชีพชมภาพประวัติศาตร์ The Lady - ออง ซาน ซูจี พบแรงงาน...เก็บตกเรื่องวุ่นวายในสภาเมื่อวานนี้รอยเตอร์:อดีตม็อบยึดสนามบิน3500ต้านปรองดองทักษิณวีดีโอลิงก์งานบ้านเลขที่111 30พค55ศาลตัดสิน ผอ.ประชาไท ผิดคดีตัวกลาง สั่งจำคุกแต่ใ...เก็บตกเรื่องขำขัน: ม๊อบพันธมิตรฯ vs ผู้ศรัทธาในนาง...ควันหลง2ปีรำลึก19พ.ค.: แดงยุโรปชุมนุมที่ปารีส และค...สองบทความจากชำนาญ: นิธิกับแนวคิดทางการเมือง, การใ...สมศักดิ์เจียมฯ สรุปย่อ 4 ร่าง พรบ.ปรองดองแฟนๆ 'The Lady - ออง ซาน ซูจี' เตรียมเฮ - เธอจะมาไ...ACT4DEM ร่อนจดหมายเปิดผนึกค้านพรบ. ปรองดองฉบับโจรศ. ชาญวิทย์ นำทีม ครก 112 ยื่นร่างแก้ไข 112 ที่สภา...คุณทักษิณ, คุณจะทำอะไรเพื่อพวกเขา(เหล่าผู้ติดตามที...บันทึกการเสวนา "ปรากฏการณ์ 112 ริกเตอร์ : ครก.11"คำพิพากษา 5 คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (มาตรา 112) สั...โพลล์: ทักษิณเรียกร้องให้ลืมอดีต หันมาปรองดอง ประเ...ด่วนที่สุด แจ้งต่อเพื่อทราบคึกคัก กลุ่มปฏิญญาหน้าศาลเดินขบวนสมทบเวที ครก.112...ครก. 112' เตรียมยื่น 3 หมื่นชื่อต่อรัฐสภาอังคารน...พรบ. ปรองดองฉบับโจร 2549 ทำรัฐประหารอีกรอบในสภา 25...ฉากจบลิ้ม:ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกลา ไม่ต้องให้อำมา...ศิริโชคโต้กับจอนคูฯ "งบปี54ที่หายไป" - "เซิร์ฟเวอร...ทัศนะคนไม่ใช่พันธมิตรฯ ต่อการชุมนุมของพันธมิตรฯวัน... ► เมษายน (100) ► มีนาคม (135) ► กุมภาพันธ์ (103) ► มกราคม (121) ► 2011 (1581) ► ธันวาคม (113) ► พฤศจิกายน (145) ► ตุลาคม (135) ► กันยายน (134) ► สิงหาคม (140) ► กรกฎาคม (148) ► มิถุนายน (160) ► พฤษภาคม (135) ► เมษายน (123) ► มีนาคม (134) ► กุมภาพันธ์ (106) ► มกราคม (108) ► 2010 (1390) ► ธันวาคม (95) ► พฤศจิกายน (99) ► ตุลาคม (105) ► กันยายน (104) ► สิงหาคม (85) ► กรกฎาคม (93) ► มิถุนายน (117) ► พฤษภาคม (171) ► เมษายน (161) ► มีนาคม (147) ► กุมภาพันธ์ (115) ► มกราคม (98) ► 2009 (1664) ► ธันวาคม (89) ► พฤศจิกายน (122) ► ตุลาคม (155) ► กันยายน (124) ► สิงหาคม (147) ► กรกฎาคม (149) ► มิถุนายน (102) ► พฤษภาคม (98) ► เมษายน (179) ► มีนาคม (153) ► กุมภาพันธ์ (168) ► มกราคม (178) ► 2008 (2103) ► ธันวาคม (219) ► พฤศจิกายน (208) ► ตุลาคม (221) ► กันยายน (229) ► สิงหาคม (162) ► กรกฎาคม (242) ► มิถุนายน (207) ► พฤษภาคม (166) ► เมษายน (133) ► มีนาคม (108) ► กุมภาพันธ์ (82) ► มกราคม (126) ► 2007 (1031) ► ธันวาคม (140) ► พฤศจิกายน (99) ► ตุลาคม (84) ► กันยายน (108) ► สิงหาคม (47) ► กรกฎาคม (75) ► มิถุนายน (120) ► พฤษภาคม (123) ► เมษายน (57) ► มีนาคม (33) ► กุมภาพันธ์ (37) ► มกราคม (108) ► 2006 (167) ► ธันวาคม (57) ► พฤศจิกายน (110) บล็อกนี้ ลิงก์จากที่นี่ บล็อกนี้ ลิงก์จากที่นี่ วันพุธ, มิถุนายน 06, 2012 เก็บตกภาพขำขัน: ตลก ภาพจากสื่อออนไลน์ - ขอบคุณผู้จัดทำที่ไม่ได้เอ่ยนาม ณ ที่นี้ เรื่องที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม Posted by editor01 at 6/06/2012 11:35:00 หลังเที่ยง Share on Facebook ประชาสัมพันธ์งานเสวนา: "Rhetoric and Dissent: Where to next for Thailand's lèse majesté law?" "Rhetoric and Dissent: Where to next for Thailand's lèse majesté law?" 7th June 2012 Thursday.7:00pm until 10:00pm A panel discussion featuring: PROF. BENEDICT ANDERSON Best known for his celebrated book Imagined Communities and scholarship which has been translated into over 20 different languages in some 400 publications globally, Prof. Anderson is widely regarded as an senior authority on the questions of nationalism, authority and society. Prof. Anderson serves most recently as Emeritus professor of International Studies, Government and Asian Studies at Cornell University. PRAVIT ROJANAPHRUK One of Thailand's most esteemed journalists and as senior writer for The Nation, Mr. Pravit Rojanaphruk has proved, over the course of his long-standing career, both meticulous and prolific in his coverage of political affairs. Mr. Rojanaphruk has often withstood great political pressure in order to document human rights abuses across the country, no less the plight of political prisoners and prisoners of conscience. His work continues to set new standards in ethical and independent Thai media coverage. ANDREW MACGREGOR MARSHALL Andrew MacGregor Marshall is a freelance journalist based in Asia who work speaks to politics, human rights, political risk and media ethics. In his long-standing career at Reuters Mr. Marshall covered political conflicts from over thirty-six countries, in places as diverse as Iraq, Afghanistan and the Palestinian Territories, to Cambodia, Thailand and East Timor. In June 2011 Mr. Marshall resigned from Reuters in order to publish what he considered one of Thailand's most important and necessary stories. This has since become the epic 'Thai Story: A Secret History of Modern Thailand', an online publication since banned from publication in the Kingdom. The material draws upon an extensive collection of diplomatic cables ('Cablegate') released to Wikileaks in 2010, and an impressive array of historical and contemporary sources to produce one of the country's most illuminating - and, in some cases, condemning - assessments of contemporary Thai political affairs. As a result of Thailand's harsh lèse-majesté, defamation and computer crimes laws, which criminalize the pursuit of truth regarding some of the country's most powerful figures, Mr. Marshall will be unable to join us in person for this discussion. Instead, he joins us via Skype from Singapore, where he is now based. AJARN SULAK SIVARAKSA Sulak Sivaraksa is a prominent and outspoken Thai intellectual and social critic. He is a teacher, a scholar, a publisher, an activist, the founder of many organisations, and the author of more than a hundred books and monographs in both Thai and English. LISA GARDNER (MODERATOR) Lisa Gardner is an Australian freelance journalist based in Bangkok. Her extensive reports speak to key political events in light of a new and innovative era for online media, particularly in the pursuit of free expression and human rights. Her well-regarded reports are published widely on Asian Correspondent, Prachatai, World Pulse, Global Voices Online and elsewhere. Posted by editor01 at 6/06/2012 12:49:00 หลังเที่ยง Share on Facebook จดหมายเปิดผนึก 2 ฉบับ ถึงศาลรธน. ความ อยุติธรรม ณ. ที่ใดก็ตาม คือภัยคุกคามต่อความ ยุติธรรม ทุกที่ไป - มาร์ติน ลูเธอร์คิง จาก "RED USA" เรื่อง "ขอให้ลาออกทันทีทั้งคณะ ก่อนที่ประเทศชาติจะเสียหายเพราะพวกท่านไปมากกว่านี้" Open publication "เมื่อความอยุติธรรมกลายเป็นกฏหมาย การต่อต้านจะกลายเป็นหน้าที่" จาก "คณะทำงานเครือข่ายประชาธิปไตย" เรื่อง "พิจารณาทบทวนการสั่งสภาให้ระงับในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ในมาตรา 291" Open publication Posted by editor01 at 6/06/2012 12:07:00 หลังเที่ยง Share on Facebook จับปชป.คาป้าย!ใส่ร้ายเพื่อไทยหมิ่นสถาบันทั่วกรุง ที่มา เว็บไซต์go6tv (วันที่ 4 มิถุนายน 2555, go6tv) เมื่อเวลา 21.00น. กองบรรณาธิการ go6TV ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบเห็นการลักลอบติดป้ายใส่ร้ายพรรคเพื่อไทย โดยมีการลักลอบติดป้ายดังกล่าวบน ถนนสาธุประดิษฐ์ และถนนจันทร์ และขณะได้รับรายงานนั้น ตำรวจได้ดักจับรถดังกล่าว และพาไปยังสถานีตำรวจยานนาวา ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. โดยทีมงานไม่น้อยกว่า 4 คน ขับรถกระบะ หมายเลขทะเบียน ถช 906 ได้ทยอยติดป้ายริมถนนสาธุประดิษฐ์ มาเป็นระยะ นักข่าวภาคสนามได้ติดตามรถดังกล่าวอยู่ประมาณ 30 นาที และทางตำรวจได้ติดต่อวิทยุสื่อสารดักและจับคนขับพร้อมทีมงานติดป้ายในข้อหาติดป้ายบนถนนสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อทีมงานลึกลับที่ติดป้ายดังกล่าวโดนจับได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้ว่าจ้างคือ นายธวัชชัย ปิยนนทยา (สก.เขตสาทร หลายสมัยติดต่อกัน) เมื่อทีมงานติดป้ายได้มาถึงโรงพักสักครู่ นายธวัชชัย ปิยนนทยา ได้เดินทางมาถึง สน.ยานนาวา พร้อมแสดงตนว่าเป็นผู้ให้ติดป้ายทั้งหมดดังกล่าว โดยทางตำรวจ ได้ช่วยไกล่เกลี่ยและขอร้องให้เก็บป้ายทั้งหมดบนรถกลับไป และไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆ นายธวัชชัย ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่า "ตนเป็นคนมาติดเท่านั้น เมื่อประชาชนเขตสาทรไม่ต้องการให้ติด ก็ยินดีขนป้ายกลับไปทั้งหมด แต่สำหรับเขตอื่นนั้น นายธวัชชัยบอกว่าไม่สามารถห้ามได้ และยืนยันว่า ป้ายดังกล่าวเป็นป้ายของพรรคประชาธิปัตย์จริง" เครดิตภาพ น้องลูกปลา Posted by Independent Correspondent at 6/06/2012 08:33:00 ก่อนเที่ยง Share on Facebook วันอังคาร, มิถุนายน 05, 2012 การใช้สิทธิของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยในการร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลในองค์กรการเมืองที่กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ โดย รองศาสตราจารย์ ดร. วรพล พรหมิกบุตร นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตยและสันติวิธี กรณีที่ประชาชนทั้งประเทศสามารถใช้สิทธิร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้พิจารณาเพื่อดำเนืนคดีบุคคลในองค์กรการเมืองต่าง ๆ ที่กระทำการอันส่อว่าอาจเป็นความผิดทางอาญาและเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ อาจแจกแจงได้ดังนี้ ; ๑, การร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญาต่อแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่จัดการชุมนุมประชาชนแต่มีการปิดกั้นขัดขวางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนมากรวมทั้งเจ้าพนักงานประจำรัฐสภาจำนวนหนึ่งไม่ให้เดินทางเข้าปฏิบัติราชการในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พรบ. ว่าด้วยการปรองดองแห่งชาติ ๔ ฉบับ การกระทำดังกล่าวอาจมีเจตนาต้องการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๘ มีระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ๒. การร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญาต่อสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จำนวนหนึ่งซึ่งขี้นไปยื้อยุดฉุดตัวประธานสภาผู้แทนราษฎรบนบัลลังก์เหนือการประชุมสภาผู้แทนราษฎรขณะกำลังปฏิบัติราชการในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ การกระทำของนักการเมืองกลุ่มดังกล่าวมีพฤติกรรมส่อว่าอาจมีเจตนาขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของประธานสภาผู้แทนราษฎร การขัดขวางดังกล่าวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๘ นอกจากนั้นยังอาจเป็นการข่มขืนใจโดยใช้กำลังประทุษร้ายต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังอาจเป็นความผิดเพิ่มเติมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๙ มีระวางโทษจำคุกไม่เกินสี่ปีหรือปรับไม่เกินแปดพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ [1] ๓. การร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีอาญาต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเฉพาะรายที่ร่วมกันมีมติให้ออกหนังสืออันมีลักษณะเป็นการใช้อำนาจกดดันหรือสั่งการให้ระงับการประชุมรัฐสภาซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินกระบวนการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช ๒๕๕๐ การใช้อำนาจดังกล่าวอาจเป็นการกระทำผิดทั้งตามประมวลกฎหมายอาญาและอาจเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ด้วยเหตุผลโดยสังเขป ดังนี้ ; ๓.๑ การประชุมพิจารณาคำร้องขอให้ระงับการประชุมรัฐสภาที่จะพิจารณาเพื่อลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว อาจเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันที่มีเงื่อนไขให้ผู้ร้องยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย ขณะที่อัยการสูงสุดยังไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีอำนาจพิจารณาก่อนหน้ากระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงชองอัยการสูงสุด[2] ในกรณีดังกล่าวนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจรับคำร้องไว้ในระบบงานของศาลรัฐธรรมนูญแต่ยังไม่มีอำนาจประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าวก่อนการตรวจสอบข้อเท็จจริงของอัยการสูงสุดจะดำเนินการ รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมิได้ให้อำนาจสิทธิขาดเป็นเอกเทศในเรื่องดังกล่าวแก่ศาลรัฐธรรมนูญและศาลรัฐธรรมนูญเป็นเพียงองค์กรการเมืององค์กรหนึ่งที่ต้องใช้อำนาจภายใต้รัฐธรรมนูญ มิใช่สามารถใช้อำนาจเหนือกว่าบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ การกระทำของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๗ มีระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปีหรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะอาจเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐสภาและประชาชน ๓.๒ การส่งหนังสืออันมีลักษณะเป็นการใช้อำนาจกดดันหรือสั่งการถึงเจ้าพนักงานรัฐสภาเพื่อให้แจ้งผู้มีอำนาจหน้าที่ให้ชะลอการประชุมรัฐสภาที่จะพิจารณาลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว อาจเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาในการประชุมเพื่อใช้อำนาจนิติบัญญัติโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญกระทำการดังกล่าวในขณะที่ยังไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่[3] อำนาจวินิจฉัยสั่งการของศาลรัฐธรรมนูญจึงยังไม่เกิดเนื่องจากยังไม่มี กฎหมาย ที่เป็นประเด็นขัดแย้งให้วินิจฉัย[4] การดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีนี้จึงอาจเป็นการใช้อำนาจอย่างฝ่าฝืนหรือละเมิดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเสียเอง ซึ่งอาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๘ และ ๑๕๗ นอกจากนั้นยังอาจเป็นการใช้อำนาจที่เป็นปฏิปักษ์อย่างร้ายแรงต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ซึ่งหากสมาชิกรัฐสภาผู้มีศรัทธามุ่งมั่นพิทักษ์รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวเป็นผู้มีความซื่อสัตย์ต่อตำแหน่งหน้าที่ของตนอย่างแท้จริงก็สมควรร่วมกันริเริ่มกระบวนการถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวโดยเร็วเพื่อป้องกันภัยพิบัติร้ายแรงอันอาจเกิดขึ้นกระทบต่อศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรการเมืองอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป คำแถลงท้ายบทความ กระบวนการยุติธรรมของไทยถูกเพ่งเล็งวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องโดยมีทั้งข้อเท็จจริงและเหตุผลรองรับว่าถูกบิดเบือนความเป็นธรรมโดยผู้มีอำนาจแบบเผด็จการ การใช้สิทธิของประชาชนในประเด็นทั้งสามที่กล่าวถึงข้างต้นจะเผชิญกับปัญหาอุปสรรคในกลไกอันยืดยาวต่อเนื่องของกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ อัยการ ศาลยุติธรรม) แต่มีความจำเป็นที่ประชาชนทั่วประเทศจะต้องระดมกันใช้สิทธิแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน (ตำรวจ) เพื่อแสดงให้เห็นว่าประชาชนยังยืนยันว่าตนเองเป็น เจ้าของอำนาจอธิปไตย ที่แท้จริงของประเทศและจะไม่ยินยอมให้องค์กรการเมืองใดใช้อำนาจอย่างบิดเบือนความเป็นธรรมหรือใช้อำนาจในทางที่เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเพื่อพิสูจน์ด้วยตนเองให้เป็นที่ประจักษ์ว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยสามารถอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างตรงไปตรงมาและทันท่วงทีต่อสถานการณ์ที่เป็นอันตรายต่อประชาชนในระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ ผลการพิสูจน์เรื่องนี้จะมีความสำคัญยิ่งยวดต่ออนาคตของประเทศและสวัสดิภาพทางการเมืองของประชาชนโดยส่วนรวม ในการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนนั้นประชาชนไม่จำเป็นและไม่ควรผูกมัดตนเองเป็นโจทก์ผู้กล่าวหาโดยตรง เนื่องจากอาจถูกอำนาจส่วนใดส่วนหนึ่งของบุคคลากรในกลไกอันยืดยาวของกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบือนกลับมาทำร้ายทางกฎหมายต่อประชาชน แต่ประชาชนสามารถแจ้งความร้องทุกข์ในฐานะผู้ให้เบาะแสข้อเท็จจริง (เช่น ข้อเท็จจริงจากรายงานข่าวทางสื่อมวลชนต่าง ๆ ประกอบกัน) แล้วแจ้งความจำนงให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไปตามอำนาจหน้าที่ทางราชการโดยไม่ชักช้า ประชาชนสามารถติดตามทวงถามความคืบหน้าในการดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตามลำดับเวลาอันเหมาะสมและไม่เนิ่นช้าจนสถานการณ์ลุกลามบานปลายเป็นโทษต่อประชาชนในระบอบประชาธิปไตย ในอนาคตอันใกล้ภายใน ๑-๒ สัปดาห์อาจมีความพยายามต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาของกลุ่มการเมืองที่เป็นปฏิปักษ์กับอำนาจรัฐบาลปัจจุบัน ในอันที่จะใช้สถานการณ์ต่าง ๆ ยกระดับการเผชิญหน้าสร้างความรุนแรงทางมวลชนให้เพิ่มมากขึ้นเพื่อหลอกล่อต่อไปให้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและเพื่อเปิดทางให้กองทัพกลับเข้ามีอำนาจในการถืออาวุธปราบปรามอีกครั้ง หากคณะรัฐมนตรีมีการประชุมเพื่อลงมติให้นายกรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฉบับดังกล่าวจะเป็นเสมือนคำสั่งประหารอายุราชการของรัฐบาลเองและจะกลายเป็นคำสั่งที่ก่อปัญหาร้ายแรงให้แก่กระบวนการประชาธิปไตยของประชาชนเสียงส่วนใหญ่ของประเทศที่ได้เสียสละทุ่มเทตนเองใช้ความเพียรพยายามในการทำให้พรรครัฐบาลปัจจุบันได้รับการเลือกตั้งเป็นเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภา ผู้บัญชาการทหารบกให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาปฏิเสธข่าวการรัฐประหารและกล่าวว่าทหารปัจจุบันมีหน้าที่ขุดคลองตามคำสั่งรัฐบาล ทหารปัจจุบันควรทำหน้าที่พัฒนาสร้างสรรค์ประเทศทำนองนั้นต่อไป ขณะที่ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศในปัจจุบันอย่างมากที่สุดควรเป็นหน้าที่การป้องกัน แก้ไข ปราบปราม และดำเนินคดีโดยอำนาจหน้าที่ของตำรวจและหน่วยงานราชการที่ไม่ใช่กองทัพ ข้ออ้างที่อาจมีการระบุในอนาคตว่าสถานการณ์ได้ยกระดับความรุนแรงเกินกำลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นข้ออ้างที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลมากกว่าจะเป็นการค้ำจุนรัฐบาลให้ดำรงตำแหน่งงครบสี่ปีตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ในสถานการณ์ดังกล่าวนี้ประชาชนในระบอบประชาธิปไตยจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางมวลชนที่จะกลายเป็นการช่วยสร้างความรุนแรงตาม ความต้องการของกลุ่มพลังอนาธิปไตยที่เป็นพันธมิตรกับระบอบเผด็จการ ทั้งนี้ ประชาชนในระบอบประชาธิปไตยยังสามารถแสวงหาวิธีการร่วมกันทั้งประเทศในการประกาศตนร่วมกันว่าต่อต้านอำนาจที่เป็นปฏิปักษ์กับระบอบประชาธิปไตยซึ่งกำลังดำเนินการเคลื่อนไหวผ่านกลุ่มพลังมวลชนและองค์กรการเมิองต่าง ๆ ในการยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ การแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ประชาชนซึ่งต้องการระบอบประชาธิปไตยต้องร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ผลักดันดำเนินการอย่างสันติวิธีทั้งประเทศให้รัฐสภาสามารถดำเนินการอย่างต่อเนื่องตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไปไม่ให้สะดุด ข้อกล่าวอ้างเหตุผลว่าพรรคแกนนำรัฐบาลควรยับยั้งหรือชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียก่อนเป็นการชั่วคราวเพื่อมิให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลายกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลนั้นอาจสมเหตุสมผลในสถานการณ์ที่พรรคแกนนำรัฐบาลไม่มีเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรช่วยรองรับสนับสนุน หากพรรคแกนนำรัฐบาลในสภาผู้แทนราษฎรไม่ดำเนินการคืบหน้าต่อไปในการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่างหากที่จะกลับกลายเป็นการบั่นทอนเสถียรภาพของรัฐบาลและทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคแกนนำรัฐบาลว่าไม่มีความสามารถดำเนินการตามที่ประกาศในนโยบายหาเสียงกับประชาชน พรรคฝ่ายค้านที่ร่วมมือกับกลุ่มและองค์กรต่าง ๆ ในการสร้างอุปสรรคขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่างหากที่จะได้ประโยชน์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวทางการเมืองหากพรรคแกนนำรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการเร่งรัดผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จต่อไปตามที่ได้ริเริ่มดำเนินการไว้แล้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพรรคแกนนำรัฐบาลปัจจุบันอยู่ในสถานการณ์ที่ดีที่สุดกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ เนื่องจากมีประชาชนจำนวนท่วมท้นเป็นเสียงส่วนใหญ่ของประเทศที่พร้อมจะสนับสนุนและปกป้องแม้แต่จะต้องออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารหากจะเกิดขึ้นอีกครั้งในปีพุทธศักราช ๒๕๕๕ การเผชิญหน้าต่อสู้กันระหว่างพลังผลักดัน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐ กับพลังต่อต้านการแก้ไชรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวได้ทวีความตึงเครียดมากขึ้นตามลำดับ แต่ก็มีข้อบ่งชี้ถึงภาวะจนตรอกของกลุ่มอำนาจที่มีรากฐานมาจากการรัฐประหาร ๒๕๔๙ ด้วยเช่นกัน วันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๕ -------------------------------------------------------------------------------- [1] นอกจากนี้ การขัดขวางมิให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญยังเป็นการกระทำที่เป็นปฎิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ หากสมาชิกรัฐสภาที่เชื่อมั่นศรัทธาปกป้องรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองอย่างแท้จริงก็ควรริเริ่มกระบวนการถอดถอนบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่กระทำการอุก
7 มิถุนายน 2555 08:45 น. - comment id 129512
วสันต์ ย้ำศาล รธน.มีอำนาจรับเรื่องเหตุมีข้อกล่าวหาล้มการปกครอง ปัดก้าวล่วง เตือนสภาฯ ลงมติต้องรับผิดชอบเอง ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ยันมีอำนาจไต่สวนข้อกล่าวอ้างที่ระบุว่าร่างแก้ รธน.ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย จึงได้รับคำร้องไว้พิจารณาตาม ม.68 และเสนอความเห็นไปยัง ปธ.รัฐสภา เพื่อขอให้ชะลอการลงมติวาระ 3 ไม่ใช่เป็นการก้าวล่วงฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ เพราะยังไม่มีคำวินิจฉัย อีกทั้ง 9 ตุลาการไม่ใช่มนุษย์ทองคำ แต่หากสภาฯ จะเดินหน้าลงมติก็ต้องไปรับผิดชอบกันเอง วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยทีมโฆษกสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นำโดยนายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ นายสมฤทธิ์ ไชยวงค์ ได้แถลงชี้แจงถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้พิจารณาวินิจฉัยและมีคำสั่งให้สภาฯ ชะลอการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ออกไปก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย โดยนายพิมลแถลงว่า คำร้องที่มีการยื่นคณะตุลาการให้ความสำคัญในการพิจารณาอย่างรอบครอบโดยดูไปถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 50 ที่มีรากฐานมาจากรัฐธรรมนูญ 40 ซึ่งในการพิจารณาของ ส.ส.ร.ปี 40 เกี่ยวกับสิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญ มาตรา 63 เดิมผู้ร่างมีเจตนาที่จะให้ผู้รู้เห็นการกระทำที่เป็นการกระทำเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีสิทธิเสนอเรื่องต่ออัยการสูงสุดแล้วเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเพื่อดำเนินการวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว แต่ต่อมามีผู้ขอแปรญัญติโดยพูดถึงถ้อยคำต่อจากการให้สิทธิยื่นอัยการสูงสุด โดยเพิ่มเติมว่าผู้ใดที่รู้เห็นการกระทำฯ ย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาได้ จนกลายมาเป็นมาตรา 63 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญปี 40 และยกทั้งบทบัญญัติดังกล่าวมาบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 50 เปลี่ยนเพียงคำว่า ผู้รู้เห็นการกระทำ มาเป็นผู้ทราบการกระทำ ศาลรัฐธรรมนูญจึงวินิจฉัยว่า การดำเนินการตามมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ สามารถทำได้ 2 ช่องทาง คือ ยื่นผ่านอัยการสูงสุด และยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ การใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญไม่ได้ดูเพียงมาตรา 68 เพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูประกอบมาตรา 69 ที่ให้อำนาจบุคคลย่อมมีสิทธิต่อต้านการกระทำใดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศที่ไม่เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และมาตรา 70 ที่บัญญัติว่า บุคคลมีมีหน้าที่พิทักษ์ รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉะนั้น การตีความรับคำร้องของศาลไม่ใช่ดูเฉพาะการมุ่งใช้สิทธิอย่างเดียว แต่หมายรวมถึง การกำหนดให้บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งระบอบการปกครอง ซึ่งอยากทำความเข้าใจว่าศาลมีอำนาจในการรับคำร้องไว้พิจารณาเท่านั้น จะต้องมีการไต่สวนให้ได้ข้อเท็จจริงว่ามีการดำเนินการตามคำร้องจริงหรือไม่ จึงไม่อยากให้นำประเด็นทางการเมืองมาโยงกับประเด็นข้อกฎหมาย นายสมฤทธิ์กล่าวว่า ส่วนกล่าวอ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปก้าวล่วงฝ่ายนิติบัญญัติกรณีมีหนังสือให้ชะลอการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 นั้น ยืนยันว่าการประชุมตุลาการฯ ได้คำนึงถึงการใช้อำนาจอธิปไตยของฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ที่ศาลจะไม่เข้าไปก้าวล่วง เนื่องจากเป็นองค์กรหนึ่งที่ใช้อำนาจอธิปไตยเช่นเดียวกัน ที่ศาลมีหนังสือถึงสำนักเลขาฯ ก็เพราะเป็นหน่วยงานของรัฐที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญมาตรา 213 ที่ศาลจะมีคำสั่งไปถึงได้ เพื่อให้กราบเรียนประธานรัฐสภาทราบว่าศาลได้รับคำร้องไว้พิจารณา และเพื่อให้กระบวนการไต่สวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อำนวยความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย จึงขอให้รอการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ หากหลังการไต่สวนแล้วศาลพบว่าไม่มีความผิดตามคำร้อง กระบวนการต่างๆ ที่ได้ระงับไว้ก็จะเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการตามปกติ ซึ่งศาลได้เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวชี้แจง อย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ ซึ่งตามหลักสุจริตหากผู้ถูกกล่าวมีเจตนาสุจริต ย่อมต้องยินดีเข้ามาพิสูจน์ข้อเท็จจริงในกระบวนการพิจารณาของศาลว่าไม่คิดที่จะกระทำใดๆ ที่ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ การตรวจสอบเบื้องต้นของศาล อาจทำให้ถูกมองว่ากระบวนการต่างๆ สะดุดหยุดลง แต่ถ้าคิดถึงผลที่จะได้จาการตรวจสอบโดยศาล จะสร้างความเชื่อมั่นไม่เฉพาะกับคนไทยทุกคน แต่ยังจะสร้างความเชื่อมั่นกับอารยประเทศว่าประเทศไทยเคารพกฎหมาย การถ่วงดุล การใช้อำนาจทั้งสามฝ่ายอย่างเหมาะสม มีหลักนิติธรรมในการบริหารประเทศ จากนั้น นายวสันต์ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนซักถาม โดยกล่าวว่า ตามคำร้องอ้างว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นผลให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 50 ทั้งฉบับ ซึ่งเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ ให้เป็นการปกครองอย่างอื่น ข้อกล่าวหาอย่างนี้ใหญ่พอให้ศาลพิจารณาไหม เรื่องจะพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน เปลี่ยนแปลงการปกครอง จะให้เป็นอำนาจของอัยการสูงสุดเพียงอย่างเดียวหรือ และขณะนี้ยังอยู่ในชั้นของการรับคำร้อง ซึ่งศาลไม่ได้ไปสั่งให้รัฐสภาหยุดการพิจารณาแต่มีหนังสือแจ้งไปยังสำนักเลขาฯ ที่เป็นหน่วยงานของรัฐ ว่าขอให้แจ้งประธานสภาฯ ส่วนสภาจะดำเนินอย่างไรก็เป็นเรื่องของสภา หากเกิดอะไรขึ้นสภาฯ จะต้องรับผิดชอบ สำหรับการที่เลขาสภาฯ ระบุว่า หนังสือขอให้ชะลอการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีผลผูกพันรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 216 ประกอบมาตรา 213 นายวสันต์กล่าวว่า ก็เป็นความเห็นทางกฎหมายที่นักกฎหมายตีความกันไป เก่งกันทั้งนั้น ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ศาลฎีกา มีคำพิพากษาก็บอกว่าไม่ใช่เหลือแต่ศาลเจ้า ดังนั้นจะเห็นอย่างไรก็ตามใจเขา เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่าศาลรัฐธรรมนูญทำเกินอำนาจ จะทำให้เกิดการรวมตัวของมวลชนกดดัน ถอดถอน และกลายเป็นปัจจัยให้นำไปสู่เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงทางการเมืองเร็วขึ้น นายวสันต์กล่าวอย่างติดตลกว่า จินตนาการมากไปหน่อย กรุณาอย่าทานของเสาะท้องก่อนนอนเพราะจะทำให้ฝัน จริงๆ แล้ว จะใช้สิทธิอะไร จะถอดถอนก็ทำไป แต่ที่ว่าจะมีอะไรทำนองนั้นคงไม่ใช่ ยืนยันไม่มีใครมาสั่ง ชี้นำเราได้ เราระวังมากกับการเข้าไปแตะต้องก้าวล่วงอำนาจบริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการทั้ง 9 คน เราไม่ใช่มนุษย์ทองคำ เรารู้ตัวดี ว่าเราไม่มีอำนาจอื่นใด นอกจากรัฐธรรมนูญให้อำนาจไว้ ตอนที่พิจารณาพระราชกำหนดเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม 4 ฉบับ คนภายนอกก็จะคิดว่าศาลจะไม่ผ่านให้ ซึ่งความจริง ศาลรู้ดีว่าดุลพินิจการออกพระราชกำหนดเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร แต่เมื่อรัฐธรรมนูญให้อำนาจศาลในการตรวจสอบว่าการออกมีการตุกติกอะไรหรือเปล่า เมื่อเราตรวจสอบแล้ว ไม่มีอะไรก็ผ่านให้ทุกครั้ง แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เขากล่าวหามาว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้วจะให้ศาลรัฐธรรมนูญเพิกเฉย ซึ่งเท่ากับว่าจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนไป อย่างนั้นได้หรือ มันก็ต้องไต่สวนทวนความกันก่อน ซึ่งหากสภาฯ จะให้ความร่วมมือเลื่อนพิจารณาไปซักเดือนเศษก็ไม่เห็นเป็นอะไร เพราะคณะตุลาการก็คาดการณ์แล้วว่า 1 สัปดาห์หลังการไต่สวนจะมีคำวินิจฉัยได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายมองว่าศาลรัฐธรรมนูญตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง นายวสันต์กล่าวว่า เข็มขัดสั้นไปหรือเปล่า (หมายถึงคาดไม่ถึง) พร้อมกับย้อนถามว่าจะเป็นเครื่องมือของใคร ฝ่ายไหน เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า การรับคำร้องถูกมองว่าเป็นเครื่องมือของอำมาตย์หรือคนชนชั้นสูง นายวสันต์ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่า ใครเป็นอำมาตย์ และใครเป็นหัวหน้าอำมาตย์ คนที่เป็นอำมาตย์ตัวจริงคือนายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจสูงสุดของประเทศไทย ความจริงถ้าผู้ร้องยื่นร้องมาก่อนหน้านี้ เราก็จะมีเวลาในเรื่องของเวลาทำงาน แต่เขาก็มายื่นในสถานการณ์ขณะนี้ มันก็ทำให้ค่อนข้างวุ่นวาย ทุกประเด็นที่มีการกล่าวหาศาล คณะตุลาการฯ ได้คุยไว้ก่อนหน้านี้ไว้หมดแล้ว ว่าจะมีการโต้แย้งอะไรบ้าง ตามที่เขากล่าวหา ศาลก็เห็นว่ามันก็อาจเป็นไปได้ที่จะเป็นการล้มล้างการปกครองฯ ไปสู่ระบอบอื่น ซึ่งเราก็ต้องฟังผู้ถูกกล่าวหาก่อน สื่อเชื่อหรือไม่ว่าผู้ถูกกกล่าวหาจะสารภาพว่าจะเปลี่ยนแปลงการปกครองจริง แต่คิดว่าเขาคงไม่รับก็ให้ปฏิเสธมา แต่ถ้าผู้ถูกร้องแอนตี้ ไม่มีการต่อสู้คดี จะให้ศาลฯ รับฟังว่าอย่างไร สมมติว่าเขาฟ้องว่าคุณเป็นหนี้แล้วคุณก็เฉยๆ จะให้ศาลฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ตุลาการทุกคนเป็นห่วงบ้านเมือง ไม่มีใครอยากให้สถานการณ์ที่ทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้น แต่ทุกคนต้องช่วยกันมาเข้าสู่กติกากันดีกว่ามาชี้แจงตามที่ศาลเปิดช่องทางให้อย่าคิดว่าตุลาการมีอคติ คนเป็นผู้พิพากษา ตุลาการ เขาถูกสอนมาแต่ดึกดำบรรพ์ว่าอย่าพิจารณาโดยอคติ ซึ่งเราไม่เคยทำอย่างนั้น แต่เราก็มักจะถูกมองในด้านที่มีอคติ เมื่อถามว่า ถ้ารัฐสภาเดินหน้าประชุมพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ศาลฯ จะยังคงไต่สวนในวันที่ 5-6 ก.ค.หรือไม่ และคำวินิจฉัยของศาลฯ มีสภาบังคับย้อนหลังได้หรือไม่ รวมถึงบทลงโทษกับผู้ที่กระทำการล้มล้างเป็นอย่างไร นายวสันต์กล่าวว่า สิ่งที่ถามเหตุการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องอนาคตยังไม่เกิดขึ้น ถ้ามีการประชุมสภาพิจารณาวาระ 3 คณะตุลาการฯ ก็ต้องคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไรกันต่อไป และถ้าเดินหน้าไต่สวนแล้วมีคำวินิจฉัยจะมีผลย้อนหลังได้หรือไม่ ส่วนโทษหากพบว่ามีการกระทำล้มล้างฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 กำหนดว่า ให้ศาล สามารถสั่งให้หยุดการกระทำนั้นและอาจมีคำสั่งยุบพรรคการเมืองหรือไม่ก็ได้ ซึ่งก็เป็นดุลพินิจ ส่วนจะยุบพรรคการเมืองที่เป็นผู้เสนอร่างแก้ไข หรือพรรคการเมืองที่ ส.ส.ยกมือโหวต ก็ต้องพิจารณากันอีกที นายวสันต์ยังได้กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2540 ที่มีการตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมาดำเนินการ เหมือนกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญในฉบับนี้ แต่กลับไม่มีการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าเป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ว่า เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญในขณะนั้นใช้รัฐธรรมนูญ ปี 34 มาเป็นฐานในการแก้ไข ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 34 ไม่มีศาลรัฐธรรมนูญ มีแต่ตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่รัฐธรรมนูญ 34 บัญญัติให้มีหน้าที่เฉพาะวินิจฉัยบทบัญญัติของกฎหมายขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และไม่มีบทบัญญัติในเรื่องของสิทธิประชาชนในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องดังกล่าวมามีอยู่ในรัฐธรรมนูญ ปี 40 รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญ 50 ก็ได้นำบทบัญญัติดังกล่าวมาบัญญัติไว้ด้วย เมื่อถามว่า คิดหรือไม่ว่าสถานการณ์อาจจะมีความรุนแรง จนอาจจะไม่ได้อยู่ไต่สวนในวันที่ 5-6 ก.ค.นี้ นายวสันต์กล่าวว่า ไม่น่ามีอะไรเกิดขึ้น คงไม่มีอะไรมาทำแบบนั้น และถ้าทำอย่างนั้นถือว่าเป็นการใช้อำนาจนอกระบบหรือไม่ ก็ไหนว่าไม่อยากให้มีอำนาจนอกระบบเข้ามาทำอะไร แล้วทำไมไม่เข้าสู่กติกา มาชี้แจง ตุลาการไม่ต้องไปทำอะไร แต่ละคนก็อายุมาก วันหนึ่งก็ตายแล้ว นายวสันต์กล่าวและว่า ต่อไปจะไม่พูด ไม่ให้สัมภาษณ์อีก เพราะไม่ใช่เด็กน้อยที่จะมาทะเลาะด้วยเป็นรายวัน
26 มิถุนายน 2555 01:20 น. - comment id 129649
5 กรกฎาคม 2555 14:18 น. - comment id 129718
อ่านแล้วค่ะ