คนโง่อย่างฉันก็เป็นแบบนี้ แค่โดนกระทบใจก็เหนื่อยอ่อน หมดแรง ฉันอ่อนแอเกินไปที่จะอดทน วันนี้ฉันรับรู้ ... รัก ไม่ใช่ทุกอย่าง... ธัน... สาวน้อยหน้ากลมได้แต่รำพึงกับตัวเอง แต่ไม่ใช่เพราะรักหรือ ที่ธันยอมทำผิดความตั้งใจตัวเองในหลายๆครั้ง ไม่ใช่เพราะรักใช่ไหม ที่ทำให้ธันไม่สามารถบังคับตัวเองให้ขับรถกลับบ้านได้... อย่างน้อยก็ในวันนี้ ปวดหัวจนแทบหมดแรง... แล้วเพราะอะไรกันนะที่สั่งให้ธันกลับไปนั่งพักหลังตึกในโรงจอดรถ... ในที่ที่เคยไปดินเล่นกันกับพี่ลม เมื่อวานไม่มีจระเข้น้อย (สัตว์โลกที่หาได้ไม่ยากในสภา) เดินผ่านเหมือนวันนั้น แสงจากพระอาทิตย์ก็ไม่สว่างเท่า ลม... ไม่ได้พัดเย็นสบาย มีแค่นกน้อยบินหยอก อ่อยเล่นกับหมาน้ำตาลรูปร่างเพรียว น้องหมา... เดินสวยไปมาหลังตึกบนลานจอดรถ ธันยิ้มมองมันอย่างอ่อนแรง ธันแค่เหนื่อย กับสิ่งที่เจอ ในวันนี้... มันคงเป็นความท้อแท้ ความเหนื่อยสะสม ที่ธันเก็บไว้ภายในใจมาเป็นปี สิ่งนั้น... บางอย่างธันพูดไม่ได้ เพราะพูดไป นอกจากจะไม่มีใครเชื่อแล้ว ธันนคงมีสภาพไม่ต่างจากตัวตลก หรือคนที่คอยใส่ร้ายผู้อื่น วันนี้ได้เห็น และซึ้งแล้ว... พี่ลมมีชีวิต แต่ไร้หัวใจ ไร้ความรู้สึก ธันเคยรับรู้จากการกระทำของพี่ลมหลายครั้ง... แต่ไม่ว่าจะเป็นด้วยอะไรก็ตาม ธันจะมีเหตุผลให้การกระทำนั้นๆเสมอ เหตุผลที่มีเพื่อปลอบใจธันเอง... แต่วันนี้... ธันรู้แล้ว และ ธันต้อง เลือกที่จะยอมรับความจริง... เรื่องทั้งหมดมันเริ่มต้นจากการที่ธันก้าวเข้าสู่ที่ทำงานใหม่ ธันไม่มีใครเป็นที่พึ่ง ธันเพิ่งจบจาก รร.นอกเมือง ความรู้หรือ... ก็สู้ใครๆไม่ได้ ธันยังแอบงุนงงตัวเองทุกครั้งว่า เจ้านายที่นี่รับเธอเข้ามาทำงานได้อย่างไร เพราะในวันสัมภาษณ์ เธอตอบคำถามได้แย่มากๆ วกวนอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ทำไงได้ละ... เธอทำตามแม่บอก แม่บอกธัน... อย่ากังวลไป แค่เป็นตัวของลูกเอง เธอเข้ามายืนในที่ทำงานใหม่อย่างกล้าๆกลัวๆ พี่คนหนึ่งเดินนำธันไปยังห้องทำงานที่แยกเป็นแผนกๆ ธันเดินผ่านประตู หากยังไม่ทันพ้น ธันก็เจอเข้ากับชายร่างสูงใหญ่ หน้าตาเคร่งเครียด เธอมองเขาอย่างกลัวๆ ใครก็ไม่รู้ยิ้มให้ก็ทำเฉยๆ แล้วจะเครียดไปถึงไหน... ช่างเถอะ ธันคิด ยังมีอีกมากที่เธอต้องพบเจอ นี่คงเป็นแค่สิ่งเริ่มต้น... ชายคนนั้น คือ พี่ลมของธันในวันนี้ พี่... ที่ทำให้ธันมีความสุขและทุกข์ในเวลาเดียวกัน ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ธันรู้เธอชอบพี่ลมตั้งแต่วันแรกที่เธอเจอ... เธอไม่รู้ว่าหรอกว่าเพราะอะไร อาจเป็นความชอบของเด็ก เด็กโง่ๆที่เวลาเจอคนเก่ง ก็หลงปลื้มเค้ามากมาย จนไม่เคยมองอันตรายที่อาจแอบแฝงมากับสิ่งนั้น... ธันเคยเชื่อและยึดมั่นในความดีเสมอมา เธอเชื่อแค่ว่า หากเราทำดี ไม่คิดร้ายแก่ใคร ความดีที่ทำจะคุ้มครองเราเอง ... วันนี้ธันเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้ว ว่าเธอแค่ถูกทดสอบความดีที่มี หรือเพราะความดีไม่ได้ปกป้องใครได้จริง...
23 ธันวาคม 2555 22:05 น. - comment id 131421
ความรัก อืม... ชักจะลืมไปเสียแล้วว่าหน้าตามันเป็นอย่างไร เพราะสิ่งที่เจอมีแต่ความหลงเข้าข้างตัวเอง คิดเองว่าเค้ารัก... จริงๆนะคำพูดแต่ละคำ แต่ละประโยค หากพูดในสถานะที่แตกต่างกัน เวลาแตกต่างกัน หากใช้สติพิจารณา ย่อมให้ผลที่แตกต่าง อย่างคาดไม่ถึง แต่เสียดาย คนมีความรักมักจะตาบอด ของข้าม หรือเลยจุดเล็กๆนี้อย่างไม่น่าให้อภัย เอาง่ายๆ แค่คำว่า "ความรักผมย่อมอยู่ในใจชั่วนิรันดร์ รักเสมอ" ถ้าเป็นชายโสด... (คิดได้หลายแง่) คุณแมนมากคะ หรือ ฮึ ดีแต่พูดอะสิ น้ำเน่า! ถ้าเป็นชายแต่งงานแล้ว... (พูดกับภรรยา) คุณเป็นชายที่เข้าใจผู้หญิง (พูดกับผู้หญิงอื่น) คุณมันน่ารังเกียจ!!! คนที่เชื่อ ถ้าไม่หลงจนโงหัวไม่ขึ้น ก็คงเป็นพวกโลกสวยนั่นแหละ ถ้าเป็นชายไม่แท้... อ้า...คุณ คุณ จะเชื่อเขาไหม? ... แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน คำพูดไม่เคยมีค่าและสำคัญเทียบเท่าการกระทำ...
4 กุมภาพันธ์ 2556 15:28 น. - comment id 131577
ธันมั่นใจในสิ่งที่ธันเชื่อจริงๆ หรือ? หรือบางทีความรู้สึกบางอย่างของธัน อาจจะเป็นความรู้สึกประเภท “แค่คิดก็ผิดแล้ว” จริงๆ แล้ว ธันอาจจะถูกทดสอบว่า ความดีที่เธอเข้าใจว่าเธอมี... เธอเคยมีจริงรึเปล่า ? และถ้าอยากรู้ว่าความดีปกป้องใครได้จริงหริอไม่ ก็ให้ดูคนที่เค้าเป็นคนดี คิดดี พูดดี ทำดี จริงๆ เป็นตัวอย่าง แต่ปัญหาของธันก็อาจจะมีอีกว่า เธออาจจะ “แยกแยะไม่ออก” ว่าอะไรคือ “ความดี” ความดีไม่ใช่แค่ทำแล้วตัวเองรู้สึกดี แล้วก่อให้เกิดทุกข์แก่ผู้อื่นจากการกระทำของตน ถ้าเข้าใจว่าความดีเป็นแบบนั้น ก็ขอแนะนำให้คิดใหม่ หยุดโลกสวย ตื่น แล้วยอมรับความจริง คนเราทำผิดกันได้ สำนึกต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญ เพราะคนที่เค้าเชื่อมั่นในความดี เค้าต้องมี “สามัญสำนึก” ที่ถูกต้อง ไม่ใช่บอกว่ายึดมั่นในความดี แต่พฤติกรรมตรงกันข้าม…