ความจริงน้ำตาลหวานตั้งใจเขียนเรื่องสั้น เนื่องจากช่วงวันหยุดที่ผ่านมาได้เดินทางไปเขาคิชกูฏมา แต่บังเอิญได้อ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้ จึงเปลี่ยนใจอยากให้ผู้อ่านได้อ่านเรื่องนี้มากกว่า ลองอ่านดูนะค่ะเผื่อจะเป็นประโยชน์ได้บ้างไม่มากก็น้อย อ่านเรื่องซึ้งๆ เรื่อง มีพ่อจนๆนี่มันน่าอายมากเลยหรือ ? วันนี้เลิกงานเร็วเลยพาพี่นุ่มไปซื้อของใช้ที่ห้างแห่งหนึ่ง รอต่อแถวจ่ายตังค์นานเลย เจ้านุ่มก็เริ่ม งอแงๆ ง่วงนอน สังเกตุว่าคิวด้านหน้าเรามากันเป็นครอบครัว มีพ่อแม่ลูกสาววัยประมาณเจ้านุ่ม แล้ว ก็ผู้ชายสูงอายุคนหนึ่ง ที่หนูน้อยเรียกว่า "ปู่" คุยกันยิ้มแย้มแจ่มใสดี ซื้อของใช้ล้นตระกร้าเชียวค่ะ พอแคชเชียร์คิดเงินของครอบครัวนี้จนเสร็จได้ยินคร่าวๆว่า "ทั้งหมดพัน(กว่าๆ)บาทค่ะ...." ผู้ เป็น"ปู่ " เป็นคนเปิดกระเป๋าสตางค์ใบเก่าๆ จะจ่ายเงิน พร้อมทำท่าอ้ำอึ้ง มีลูกชายลูกสะใภ้จ้อง ตาเขม็ง หุบยิ้มทันที " ว่าไงพ่อ จ่ายเค้าไปสิ" ลูกชายบอก คุณปู่ยังทำท่าอ้ำอึ้ง "ไหน ดูหน่อย มีตังค์เท่าไหร่" คุณปู่ยื่นกระเป๋าตังค์ให้ดูข้างใน " อ้าว ไหนว่ามีตังค์เยอะไง แล้วแบบนี้จะชวนมาซื้อของทำไม ไม่มีตังค์จ่ายก็ไม่บอก อายเค้าจริงๆ " ลูกชายลูกสะใภ้พากันมองคุณปู่ด้วยสายตาที่เหมือนดูถูก...รำคาญ ในที่สุดเค้าก็พากันทำสิ่งที่เราไม่อยากจะเชื่อสายตา คืออุ้มลูกเดินหนีไปเลย พร้อมกับโกรธหัวฟัดหัว เหวี่ยง ไม่สนใจลูกสาวที่ร้องว่า "ปู่ๆๆๆ ปู่มาด้วย" คุณปู่ยืนคอตก หน้าเศร้าอยู่หน้าแคชเชียร์ พอเด็กถามว่าจะเอายังไง คุณปู่เปิดกระเป๋าตังค์ให้เด็กดู แล้วบอกว่าให้คิดเงินตามนี้ ได้ของเท่าไหร่เท่านั้น (เด็กนับแล้วมีแปดร้อยบาทค่ะ) ระหว่างรอแคชเชียร์คิดเงินใหม่ ได้ยินคุณปู่เล่าว่า แกบ้านอยู่ต่างอำเภอห่างไปเป็นร้อยกิโล ลูกหลาน ไม่ไปหานานแล้ว แกจึงตัดสินใจรวบรวมเงินทั้งหมดที่มีนั่งรถเข้ามาเยี่ยมลูกหลานในเมือง แล้วชวน ออกมาซื้อของ ลูกแกก็ไม่ถามสักคำว่าเงินมีเท่าไหร่ หยิบของเอาๆ แกก็ไม่เคยรู้ราคาของ เพราะอยู่ บ้านนอกก็ซื้อร้านของชำทีห้าบาทสิบบาท ใครจะจะรู้ว่าของในห้างใหญ่เค้าซื้อกันทีละเป็นพัน เราจ่ายเสร็จเห็นคุณปู่ยังเดินเคว้งอยู่แถวๆนั้น ก็เลยถามแกว่าจะกลับยังไง แกบอกว่าพอขึ้นรถกลับ เป็น ( อ้าว แล้วตังค์ล่ะ เมื่อกี้เห็นจ่ายไปหมดแล้วนี่นา ) แต่ก็ยังลังเลอยู่ กลัวลูกกลับมาตามหาแล้ว ไม่เจอ มือถือก็ไม่รู้เบอร์ เลยตัดสินใจพาคุณปู่ไปที่แผนกประชาสัมพันธ์ประกาศหาลูกค่ะ จากนั้นเราบอกให้รอสักพัก ถ้าลูกไม่มา จริงๆ ให้ไปขึ้นรถที่คิวรถ( ฝากเด็กที่ปชส.ค่ะ ว่าให้ย้ำคุณปู่อีกที) พร้อมกับให้เงินแกเป็นค่ารถไว้ค่ะ จริงๆอยากรอดูสักพัก แต่เจ้านุ่มไม่ไหวแล้วค่ะ งอแงเหลือเกิน คุณปู่น้ำตาคลอบอกเราว่า "มันคงไม่ทิ้งปู่จริงๆหรอกนะ นี่ก็ได้ของไปเยอะเหมือนกันถึงจะซื้อได้ไม่หมด ก็เถอะ นี่มันไม่เคยกลับไปหาปูเลย ก็เพราะปู่มันจน ไม่มีสมบัติอะไรให้ " เราปลอบใจแกไปบอกว่า เดี๋ยวเค้าคงกลับมาน่ะ คงเดินไปดูอย่างอื่นก่อน เดินกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยค่ะ หันหลังกลับไปมองเห็นคุณปู่ยังยืนคอตกที่เดิม ในใจคิดวน เวียนตลอดเวลา .... นี่เค้าทำแบบนี้กับพ่อตัวเองได้ยังไงนะ ... ... พ่อไม่มีตังค์พอเนี่ย มันผิดด้วยหรือ? เค้าไม่รู้หรือไงว่า เงินเท่านี้อาจจะเป็นเงินที่คุณปู่เก็บมาทั้ง ชีวิตก็ได้ (คนชนบทจะไปหาเงินจากไหนล่ะ?) ... ...แล้วเค้าจะสอนลูกให้กตัญญูต่อพ่อแม่ได้อย่างไร ก็ทำพฤติกรรมแบบนี้กับพ่อตัวเองให้ลูกเห็น.... จริงอยู่ พื้นฐานครอบครัวนี้อาจจะมีอะไรลึกซึ้งมากกว่านี้ แต่เป็นเรา เราคงไม่มีวันทอดทิ้งพ่อให้ได้รับ ความเจ็บปวดอับอายจากการที่ไม่มีเงินซื้อของให้ลูกหลานได้พอแบบนี้หรอก เป็นเรา เราคงบอกพ่อว่า " ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อ กลับบ้านเราเถอะ " รักพ่อให้มากๆกันนะคะ เพราะคนตั้งกระทู้ คุณพ่อเสียไปตั้งแต่ยังเด็กเลย....คิดถึงพ่อนะคะ ขอขอบคุณผู้เขียนที่แบ่งปันเรื่องราวมาให้อ่านค่ะ ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต โดย: Airiiz Toney (Facebook)
16 กุมภาพันธ์ 2555 13:33 น. - comment id 128487
เคยอ่านมาเหมือนกันค่ะ อ่านไปก็ตำหนิลูกไป เขาทำกับพ่อได้ยังไงน้อ.. จะดี มี จน ก็พ่อเรา ใครยังมีพ่อก็ดูแลท่านให้ดีนะคะ อย่าทำเหมือนเรื่องสั้นนี้เลย เพราะคุณอาจจะย้อนเวลากลับไปทำไม่ได้ หากท่านจากไป ขอบคุณคุณพิมค่ะที่แบ่งปัน
16 กุมภาพันธ์ 2555 14:01 น. - comment id 128489
เขาคิชกูต ขับรถขึ้นเองได้หรือเปล่าใช้รถโพร์วิลตอนนี้
16 กุมภาพันธ์ 2555 14:28 น. - comment id 128491
พ่ออายกว่า..มีลูกแบบนี้..
16 กุมภาพันธ์ 2555 14:35 น. - comment id 128492
คุณแบม พิมเคยเรื่องนี้นานแล้วและมาเจออีก อยากฝากให้ทุกคนได้อ่านค่ะ พิมเป็นลูกพ่อ ที่รักพ่อมากๆ อ่านแล้วรู้สึกบาปในใจแทน หากเป็นเรื่องจริง
16 กุมภาพันธ์ 2555 14:45 น. - comment id 128493
คุณฤกษ์ เขาคิชกูฏพิมไปเป็นครั้งที่สามแล้วค่ะ ไม่สามารถนำรถขึ้นไปเองได้ด้วยทางที่ขึ้นไป ค่อนข้างสูงชันคดเคี้ยวและไม่ได้ขับตาม กฏจราจรอย่างที่เราขับๆกัน อาจมีชิดซ้าย ชิดขวาตามความเหมาะสมของถนนหากจะขึ้นไป ก็ต้องนั่งรถที่ทางวัดจัดไว้ให้แล้วคุณจะรู้ ว่า ทำไมเขาไม่ให้นักท่องเที่ยวขับรถขึ้นไป เอง รับประกันความมันส์ในการนั่งรถค่ะ ขอให้สนุกและอิ่มบุญกับการขึ้นไปนมัสการ พระบาทพลวง ในครั้งนี้นะค่ะเฮีย...อย่าลืม ขอพรหนึ่งข้อด้วยนะค่ะ จะได้ผลตามที่ขอ
16 กุมภาพันธ์ 2555 14:46 น. - comment id 128494
พี่กุ้ง พิมก็ว่างั้นนะค่ะ น่าอายที่มีลูกแบบนี้
16 กุมภาพันธ์ 2555 16:28 น. - comment id 128496
.......... เคยมีคนส่งเมลล์มาให้อ่านนานแล้วจ้ะน้องพิม แต่เมื่อได้อ่านอีก ก็ยังรู้สึกสะเทือนใจอยู่ดี ไม่น่าเชื่อว่าคนเราจะทำกับบุพการีได้ขนาดนี้ .............
17 กุมภาพันธ์ 2555 08:43 น. - comment id 128498
พี่ดิน พิมอ่านแล้วรู้สึกจุกเลยค่ะ พ่อแม่คือที่สุดของชีวิต หากเป็นเรื่องจริง ก็ไม่รู้ว่าคนที่เป็นพ่อ ในเรื่อง ทำไมจึงทำกับพ่อของตัวเองได้ จิตใจเขา ณ ตอนนั้น เป็นอย่างไรกันนะ ...ขอบคุณค่ะพี่ดิน
17 กุมภาพันธ์ 2555 13:37 น. - comment id 128500
ในภาพน่ารักดีค่ะ พออ่านเรื่องสั้นไปน้ำตาก็ซึมไปด้วยเลย
17 กุมภาพันธ์ 2555 16:15 น. - comment id 128501
พี่ก้าวที่กล้า.. พิมชอบภาพนี้ค่ะ คุณพ่อทหารถักเปียให้ลูกสาว น่ารักอ่ะ เรื่องนี้อ่านแล้วอ่านอีกก็ยังรู้สึกปวดใจของคุณเป็นลูกอย่างเราๆล่ะค่ะ