บ้านฉันอยู่แถบแถวบางกะปิ ซึ่งอยู่ในแนวคันกั้นน้ำ ดังนั้นน้ำจึงยังไม่ท่วม แต่เนื่องจากเป็นเขตชานเมือง ไม่ใช่กรุงเทพฯชั้นใน จึงใจตุ๊มๆต่อมๆ เกรงน้ำท่วมบ้านอยู่เหมือนกัน ในละแวกบ้านมีพื้นที่ว่างๆ มีต้นไม้รกเรื้อย เป็นกระหย่อมๆ แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้เคยเป็นท้องนา แม้ปัจจุบันนี้บางกะปิจะเจริญมาก แต่ก็ยังมีที่ว่างลักษณะนี้ให้เห็นอยู่ทั่วไป ฉันมองออกไปที่พื้นที่ว่างนั้น วันนี้มีปริมาณน้ำสูงกว่าเมื่อวาน จะรอดจากน้ำท่วมไหมหนอ และแล้วฉันก็เห็น.ตัวอะไรไม่รู้ กำลังตะกายขึ้นจากน้ำ มันพยายามกระโดดเกาะต้นไม้ใหญ่ แต่ก็ไม่สำเร็จ ตกลงมาทุกครั้ง ในระยะไกล ฉันเขม้นมอง จึงเห็นว่ามันมีลักษณะเหมือนจรเข้ หรือจะเป็นตัวเงิน ตัวทอง แต่ถ้าขืนปล่อยให้มันทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ สงสัยคงขาดใจตายไปเสียก่อน ฉันคิดขณะเดินออกจากบ้าน ไปเรียกจันทร์ ซึ่งเป็นแม่ค้าขายส้มตำในซอยบ้าน จันทร์เป็นคนอิสาน น่าจะคุ้นเคยกับสัตว์ชนิดนี้ พอจะช่วยเหลือมันได้ เมื่อทราบเรื่องจากฉัน ทั้งจันทร์และสามีพากันเดินมาดู จันทร์เรียกมันว่า ตัวแลน สามีของจันทร์ทำบ่วงคล้อง ลากมันเข้ามา เมื่อเห็นในระยะใกล้ ตัวมันใหญ่มาก มันพยายามดิ้นรนให้พ้นจากบ่วงที่กลายเป็นเชือกรัดมันไว้ แต่ดูว่ามันยังอิดโรยอยู่ ทั้งจันทร์และสามีดูจะดีใจมาก เมื่อเห็นขนาดตัวของมัน ส่งภาษาลาวใส่กัน ถอดความเป็นไทย ได้ความว่า คงจะทำอาหารกินกันไปได้หลายมื้อ อร่อยกันทั้งครอบครัว ชะรอยเจ้าตัวแลนมันคงได้ยินจันทร์กับสามีพูด เพราะมันแหงะหน้าขึ้นมองฉัน ทำนัยน์ตาตัดพ้อ แล้วครวญด้วยเสียงของดาวใจ ไพจิตร ซึ่งต้องเป็นคนรุ่นฉันเท่านั้นถึงจะรู้จัก ทำไมถึงทำกับฉันได้ มันติดพ้ออย่างนี้จริงๆ ฉันฟังจันทร์กับสามีพูดแล้วใจไม่ดี นี่ฉันกลายเป็นต้นเหตุให้ตัวแลนมันกลายเป็นอาหารของครอบครัวนี้หรือ เพิ่งจะออกพรรษาเอง จะฆ่ามันจริงๆหรือ ตัวมันใหญ่อยู่นะ คำพูดของฉันทำให้จันทร์กับสามีชะงัก มองหน้ากันเอง แล้วหันมามองฉัน และแล้วโดยมิได้นัดหมาย เราสามคนก็พร้อมใจกันมองดูตัวแลน มันนอนทำตาปริบ ๆ อยู่บนพื้นถนน ในที่สุดสามีของจันทร์ก็โพล่งออกมาว่า ปล่อยครับ เดี๋ยวผมจะอามันไปปล่อย ว่าแล้วก็เดินกลับไปยังบ้านของตัวเอง เดี๋ยวเดียวก็กลับมาพร้อมกะละมังใบเขื่อง เขาจับตัวแลนใส่ลงไปในกะละมังที่มีความสูงไม่มากนัก เจ้าตัวแลนพยายามดิ้นรน แต่มันคงเหนื่อยมาก ประกอบกับถูกมัดไว้ เรี่ยวแรงจึงมีไม่มากพอ สามีของจันทร์มีรถกระบะเก่าๆคันหนึ่ง เขาขับมาจอดตรงบริเวณที่เรายืนกันอยู่ จันทร์ทำท่าจะยกกะละมังใส่รถ แต่ดูจะหนักเอาการ ฉันขยับจะเข้าไปช่วย แต่สังเกตเห็นว่า เจ้าตัวแลนมันเอาหน้าเกยมือจันทร์ ถ้าฉันจับกะละมัง มันก็คงเอาหน้ามาเกยมือฉัน แล้วคงครวญเพลง ทำไมถึงทำกับฉันได้ ให้ฉันฟังอีก ฉันยังไม่อยากฟังเพลงตอนนี้ แล้วขอสารภาพเลยว่ากลัวมัน จึงปล่อยให้จันทร์จัดการไปคนเดียว สามีของจันทร์ลงมาช่วยด้วยอีกแรง เราปรึกษากันว่าจะเอาตัวแลนไปปล่อยที่ไหนดี ฉันเสนอให้เอาไปปล่อยยังที่ว่างๆ ซึ่งอยู่ไกลออกไปมาก คนละฝั่งถนน แต่สามีของจันทร์ท้วงว่า หากเอาไปปล่อยแถวนั้น เจ้าแลนก็คงตกเป็นอาหารของคนงานก่อสร้าง ครอบครัวใด ครอบครัวหนึ่งเป็นแน่ "เอาไปปล่อยที่มีนบุรีดีกว่าครับพี่" สามีของจันทร์บอก แถวนั้นท้องนาเยอะ หาทำเลที่ยังไม่มีการก่อสร้าง ก็น่าจะหาได้ เจ้าแลนจะได้ปลอดภัย...เราตกลงกันตามนั้น สามีภรรยาคู่นี้ไม่ได้มีฐานะดีนัก สามีทำงานก่อสร้าง ส่วนจันทร์มีรถเข็นขายส้มตำ ฉันเสนอจะช่วยค่าน้ำมัน แต่สามีจันทร์บอกว่า คิดว่าช่วยกันทำบุญดีกว่า บาทเดียวผมก็ไม่เอา ฉันสบตาเจ้าตัวแลน แล้วครวญเพลงของสวลี ผกาพันธุ์ ให้มันฟัง เออมันจะเกิดทันพอจะรู้จักเพลงนี้หรือเปล่าน๊า รักเธอไม่ถึงบาท 555 ฉันทำหน้าสะใจใส่มัน แต่มันคงไม่ชอบเพลงนี้ เพราะมันทำหน้ามู่ทู่ตอบฉัน เมื่ออยู่บนรถกระบะ เจ้าตัวแลนพยายามตะกายออกจากกะละมัง จันทร์ก็เลยตัดสินใจมานั่งท้ายรถ เพื่อคอยระแวดระวังเจ้าตัวแลน เพราะถ้ามันเกิดตะกายจนตกรถไป ประเดี๋ยวจะแบนแต๊ดแต๋ติดถนนไปเสียก่อน ฉันมองตามรถกระบะจนลับตาไป คิดถึงความมีน้ำใจของสามีภรรยาคู่นี้ แล้วเลยครวญเพลงของแจ้ ดนุพล ขอมอบดอกไม้ในสวน นี้ให้จันทร์กับแฟน อย่างน้อยออกพรรษานี้ แม้ไม่ได้ไปวัด แต่ก็ได้ทำบุญแล้ว
17 ตุลาคม 2554 15:46 น. - comment id 126944
ไม่เคยฟังเลยค่ะเพลงนี้ ขอมอบดอกไม้ให้ด้วยคนนะคะ
17 ตุลาคม 2554 16:04 น. - comment id 126945
น่ารักจังค่ะทั้งคุณdin และคุณจันทร์กับสามี
17 ตุลาคม 2554 16:07 น. - comment id 126946
น่ารักที่สุด... เริ่มจากพี่ดินเลย... อุตส่าห์สงสารเจ้าแลน.. กลัวมันปีนเหนื่อย... จันทร์กับแฟนก็น่ารัก อุตส่าห์พาเจ้าแลนไปปล่อยที่ว่างๆ... สุดท้าย..เจ้าแลนก็น่ารัก.... อุตส่าห์ร้องเพลง..ทำไมถึงทำกับแลนได้ จนรอดชีวิตไป... มอบดอกไม้ให้ทุกๆคน กับหนึ่งตัวค่ะ.. หัวใจ แซมเก็บไว้เอง... แซมค่ะ
17 ตุลาคม 2554 16:50 น. - comment id 126947
อ่านเรื่องเจ้าตัวแลนของพี่ดินแล้วรู้สึกมีความสุขค่ะ ทำให้นึกถึงที่บ้านพ่อของพิมเกี่ยวข้าวเพิ่งเสร็จกันแต่ เจอเจ้าตะพาบน้ำตัวใหญ่ขนาดผู้ชายขึ้นไปขี่อยู่บน หลังยังเอาไม่อยู่มันวิ่งอยู่บนท้องนา(มีน้ำ) กว่าจะจับกันได้ เล่นเอาเหนื่อยไปหลายคนเลยค่ะ และกว่าจะมีบทสรุป กันได้ว่าจะทำอย่างไรกับมันดี มีคนมาขอซื้อเอาไปกินด้วยราคาหลายพันบาท แต่ไม่ขาย ก็ตกลงไม่เป็นเอกฉันน์เท่าไหร่นัก นำเอาไปปล่อยที่สระวัดข้างบ้าน จนบัดนี้ยังมี บางคนบ่นเสียดาย ไม่ได้กินตะพาบน้ำ อิอิ
17 ตุลาคม 2554 23:32 น. - comment id 126950
ใจดีจังเลย เป็นฝนคงเปิดแน่บแน่ๆ
18 ตุลาคม 2554 15:52 น. - comment id 126951
ดีใจที่ได้อยู่ใกล้คนดีมีเมตตา ขอให้จำเริญๆนะคะคุณดิน น่ารักที่ซู๊ด .....
18 ตุลาคม 2554 16:04 น. - comment id 126953
ในความมีจิตเมตตาอารีต่อสรรพสิ่งมีชีวิตแล้ว คุณดินยัง...เล่าได้อรรถรสยิ่งโดยเฉพาะ บทเพลงเก่าๆ อิอิ
19 ตุลาคม 2554 23:47 น. - comment id 126992
ขออนุญาตพี่ดินจิก กัด แซว เม้นท์ที่ 5หน่อยนะคะ อิอิ 5.....ไอ่ลิงฝน แกรบอกว่า เผ่นแน่บ จริงๆเหร๊อออ?? ไม่รู้ว่า แลนจะเผ่นหนีลิง หรือว่า ลิงวิ่งหนีแลน เอาให้แน่.....5555 ........................................... คุณ(พี่)ดิน เขียนได้น่ารักคะ ชื่นชมๆๆ ใจดีกันทุกๆท่านเลยค่ะ
20 ตุลาคม 2554 12:40 น. - comment id 126999
........... ถ้าจะเกิดไม่ทันล่ะซีคุณเพียงพลิ้ว ..................
20 ตุลาคม 2554 12:53 น. - comment id 127000
............ ทำไมเครื่องช้าจังเลยจ้า ขอบคุณจ้ะคุณอนงค์นาง ดีแล้วจ้ะที่เก็บหัวใจเอาไว้เอง ไม่อย่างนั้นคนมีคนรุมแย่งกันแจกดอกไม้เป็นแน่จ้ะแซม นึกถึงภาพตะพาบตัวใหญ่ กว่าจะจับได้คงโกลาหลน่าดูใช่ไหมน้องพิม คุณฝน คุณฉางน้อยแซวอยู่ข้างล่างแน่ะ เออ...ชักสงสัยเหมือนกัน แลนหนีฝน หรือฝนหนีแลน 555 thankyou จ้าคุณเอื้อยแบม เกิบขาด เฮ้อกว่าจะพิมพ์ชื่อได้นี่ ดูแล้วดูอีกกลัวพมพ์ผิด ช่างตั้งนามแฝงได้เกิบขาด เอ๊ยเด็ดขาด ขอบคุณจ้ะปู่ ยังอยู่รอดปลอดภัยดีนะ ลำพังตัวคนเดียว คงทำไม่สำเร็จจ้ะ ที่บ้านน้ำท่วมหรืเปล่า ...................
21 ตุลาคม 2554 16:19 น. - comment id 127061
เห็นตัวแลนแล้ววิ่งหนีดีกร่า
24 ตุลาคม 2554 16:14 น. - comment id 127108
ขอขอบใจศิษย์เรามากๆจ้าที่มาให้กำลังใจ เห็นใจยามครูตกทุกข์ได้ยาก ต่อไปนี้ครูจะ เปลี่ยนิสัยใหม่ จะช่วยเฉพาะคนที่มาเยี่ยม เท่านั้นเองและจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับคนไร้ น้ำใจอีกต่อไปแล้วล่ะจ้า รักศิษย์เรามากๆ เสมอๆจ้า แก้วประเสริฐ.
25 ตุลาคม 2554 11:34 น. - comment id 127115
............ ลำพังตัวเองก็ไม่กล้าจ้ะคุณยาฯ ต้องให้ชาวบ้านช่วย ...............
25 ตุลาคม 2554 11:48 น. - comment id 127116
................ เมื่อคืนดินฟังข่าว เขตคลองสามวาเป็นเขตที่ต้องเตรียมอพยพแล้วนะจ๊ะครู บ้านครูเป็นบ้านชั้นเดียวด้วย เห็นครูบอกว่าตอนนี้น้ำท่วมแค่น้ำแข้ง ครูพอจะมีรถขนของสำคัญๆ ไปไว้ที่บ้านญาติคนอื่นก่อนไหมจ๊ะ ที่บ้านดินก็โกลาหล ซื้อไดโว่ร์ ซื้อทรายมาทำคันกั้นน้ำ จะเอาอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าน้ำท่วมตู้เย็น กับเครื่องซักผ้าไม่รอดแน่ ตู้เย็นเป็นตู้ค่อนข้างใหญ่ ยกขึ้นชั้นสองไม่ได้ เพราะบันไดแคบ ส่วนเครื่องซักผ้าก็หนักเกินกำลัง ถ้าน้ำมาคงต้องดึงปลั๊กออก ครูดูแลตัวเอง ดูแลคนข้างตัวด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป...เดี๋ยวมันก็ผ่านไปจ้ะครู... ................