โดยอนุตราจารย์ชิงไห่ เนื่องด้วยกรรมดีของผู้อยู่อาศัยทั้งหมดของโลก โลกที่งดงามใบนี้จึงได้ถูกสร้างขึ้น แต่ถ้ามันปกคลุม ไปด้วยกรรมเลวที่เกิดขึ้นใหม่แล้วละก็ โลกนี้และ/หรือ ผู้อยู่อาศัยของมันจะมลายไป สร้างกรรมดี : มีเมตตา เป็นวีแก้น รักษ์สิ่งแวดล้อม ~อนุตราจารย์ชิงไห่~ สารบัญ คำนำ ชีวประวัติอย่างย่อของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ คำขอร้องจากท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ที่มีต่อผู้นำของโลก ทางออกวีแก้นเพื่อช่วยโลกเรา 1. ภาวะฉุกเฉินของโลก 2. ทางเลือกอาหารของเราคือประเด็นชีวิตและความตาย สัญญาณเตือนภัยเพื่อปลุกมนุษยชาติ 1. เลวร้ายกว่าสมมุติที่เลวร้ายที่สุด 2. เรากำลังหมดเวลาแล้ว 3. สู้กับปัญหาที่ต้นตอเดี๋ยวนี้ วีแก้นออแกนิกเพื่อเยียวยาโลกของเรา 1. ทำให้โลกเย็นลงและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม 2. เป็นทางออกที่รวดเร็วที่สุดและสีเขียวที่สุด 3. ให้ชีวิตเพื่อรักษาชีวิต ออกกฎหมายและนโยบายวีแก้น 1. ผู้นำโลกควรเป็นตัวอย่าง 2. รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน 3. ความสำเร็จของการเปลี่ยนมาทำอาชีพทางเลือกของคนเลี้ยงสัตว์ 4. ตัวอย่างการบริหารจัดการที่ดี 5. วีแก้นออแกนิกเป็นการเคลื่อนไหวทางจิตวิญญาณ การเปลี่ยนแปลงของโลกสู่อาหารจากพืชในทันที 1. โลกต้องการความช่วยเหลืออันสูงส่งและความเป็นผู้นำจากสื่อมวลชน 2. ผู้นำทางศาสนานำทางผู้คนสู่การดำรงชีพอย่างมีคุณธรรม 3. การศึกษาที่ดีงามสอนให้รู้จักวิถีชีวิตที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ 4. องค์กรเอกชนส่งเสริมการเคลื่อนไหววีแก้น 5. จงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่คุณต้องการจะเห็น การก้าวกระโดดของมนุษยชาติสู่ยุคทอง 1. จุดเปลี่ยนผันในการวิวัฒนาการของมนุษย์ 2. โลกกำลังขึ้นสู่อารยธรรมกาแลคซี่ที่สูงกว่า 3. ทำให้ฝันแห่งอีเดนเป็นความจริง ภาคผนวก หมายเหตุ บรรณานุกรรมการบรรยายโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม สื่อสิ่งพิมพ์ของเรา คำนำ ณ งานสัมมนาต่างๆ และในการสัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว รวมถึงในการพบกับลูกศิษย์เมื่อเร็วๆ นี้ ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้กล่าวถึงความเร่งด่วนเกี่ยวกับวิกฤติสภาวะอากาศในโลกปัจจุบัน ดังที่ท่านได้กล่าวไว้ “โลกเราคือบ้านที่กำลังไฟไหม้ หากเราไม่ทำงานด้วยกันในจิตวิญญาณที่เป็นหนึ่งเพื่อดับไฟ เราจะไม่มีบ้านให้อาศัยอยู่อีกต่อไป” แต่ท่านก็ได้เสนอทางออกที่เปี่ยมไปด้วยความหวังให้กับมวลมนุษย์ ทางออกซึ่งทุกคนสามารถทำได้อย่างง่ายดาย: “เป็นวีแก้น เพื่อช่วยโลกเรา” ดังที่วิกฤตินี้กำลังทวีความรุนแรงขึ้น ภัยธรรมชาติกำลังคร่าชีวิตนับหมื่น และโยกย้ายคนนับล้านไปจากบ้านเรือนของพวกเขา พร้อมกับการสูญเสียทางการเงินที่สูงถึงหลายพันล้านดอลลาร์ ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ได้ทำให้ประเทศที่เป็นเกาะมากมายจมลงและกำลังเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นอยู่ของอีกหลายประเทศ นอกจากนี้ฝนที่ตกไม่เป็นปกติ และความแห้งแล้งที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น กำลังส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ ซึ่งทำให้สภาวะการขาดแคลนอาหารและน้ำยิ่งเลวร้ายลง และผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศได้เตือนถึงสภาพอากาศที่ยิ่งรุนแรงที่กำลังจะมาถึง พร้อมกับความเป็นไปได้ของ “ภาวะโลกร้อนที่ไม่อาจหวนคืน” ในหนังสือเล่มนี้ อนุตราจารย์ชิงไห่ได้นำเสนอตัวแปรหลักๆ ที่เกี่ยวโยงกับภาวะโลกร้อน และที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือรากเหง้าของปัญหา ซึ่งก็คืออุตสาหกรรมปศุสัตว์ ที่จริงแล้ว การศึกษาทางวิทยาศาสตร์มากมายได้สนับสนุนมุมมองของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ซึ่งท่านได้อธิบายอย่างละเอียดมาตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาว่า การเลี้ยงปศุสัตว์เพื่อเป็นอาหารไม่เพียงทำให้เกิดการสูญเสียน้ำ ที่ดิน และพลังงานอันล้ำค่าเป็นจำนวนมาก แต่ยังก่อให้เกิดการปล่อย 51% ของก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดในโลก ฟาร์มปศุสัตว์ยังเป็นแหล่งกำเนิดของมีเทนที่ใหญ่ที่สุดในบรรยากาศ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ทรงพลังยิ่งกว่า CO2 แต่มีช่วงชีวิตที่สั้นกว่า ดังนั้น ดังที่ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้กล่าวไว้ มันไม่เพียงเป็นเหตุเป็นผลที่การหยุดการผลิตเนื้อสัตว์ และ “การหันมาเป็นวีแก้น” หรือหันมาทานอาหารจากพืช จะช่วยลดอุณหภูมิโลกได้ทันที เยียวยาความเจ็บป่วยทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากปศุสัตว์ และลดค่าใช้จ่ายสำหรับการบรรเทาสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ถึงแสนล้านดอลลาร์ แต่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ยังสามารถบรรลุผลได้โดยไม่ส่งผลกระทบทางลบใดๆ ต่อดาวเคราะห์และสังคม ในทางตรงข้าม การหยุดยั้งคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากภาคอุตสาหกรรมและการขนส่ง อาจส่งผลกระทบที่เลวร้ายต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เทคโนโลยีสีเขียวส่วนใหญ่ใช้เวลาในการพัฒนาเป็นปีๆ ในขณะที่การลดการปล่อยก๊าซมีเทนสามารถดำเนินการได้ทันทีกับอาหารวีแก้นทุกๆ จาน ดังนั้น การนำวิถีชีวิตวีแก้นมาใช้ จึงเป็นทางออกที่ง่ายที่สุด รวดเร็วที่สุด และมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดในการแก้ไขวิกฤติสภาวะอากาศ และเป็นเพียงทางออกเดียวของเรา เนื่องจากเวลาของเรากำลังหมดลง ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาวะอากาศ นักสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่ของรัฐมากมายได้เริ่มให้การสนุบสนุนทางออกนี้แล้วเพื่อช่วยรักษาโลกให้รอดพ้นจากผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เสียงของพวกเขาได้รับการรวบรวมไว้ในรายงานขององค์การสหประชาชาติในเดือนมิถุนายน 2010 โดยกระตุ้นให้โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปสู่การทานอาหารที่ปลอดเนื้อสัตว์และนม ซึ่งสอดคล้องกับคำร้องอันเร่งด่วนของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ว่า ทุกคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจควรก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญในการออกกฎหมายสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนี้ทันที บางที สิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนของเราซึ่งเป็นสาเหตุของวิกฤติสภาวะอากาศ ก็คือรอยย่ำเลือดที่เราทิ้งไว้ข้างหลัง ในการฆ่าสัตว์ในฟาร์มผู้บริสุทธิ์นับพันล้านตัวในแต่ละปี ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่เตือนว่า อาชญากรรมทางคุณธรรมนี้ได้ขยายขนาดจนมีความรุนแรงระดับโลก ดังที่การกระทำที่รุนแรงของเราหวนกลับคืนมาหาเราในรูปของภัยธรรมชาติ: “คุณหว่านเมล็ดพันธุ์ใด คุณจะได้รับผลเช่นนั้น” เช่นนี้คือคำสอนสากลที่พบได้ในทุกพระคัมภีร์อันยิ่งใหญ่ของโลก ที่จริงแล้ว มวลมนุษย์กำลังประสบกับจุดเปลี่ยนผันที่สำคัญยิ่ง เรามีโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะรักษาโลกใบนี้ไว้ และเวลาก็คือเดี๋ยวนี้ แค่เพียงหันมาทานอาหารจากพืชที่ช่วยรักษาชีวิตและมีเมตตานี้ เราสามารถขับไล่ความมืดที่กำลังโอบล้อมเรา และก้าวเล็กๆ นี้จะขับเคลื่อนมนุษยชาติไปสู่ระดับของจิตสำนึกที่สูงกว่า เราจะฟื้นคืนสมดุลของโลก ซึ่งจะนำไปสู่ยุคทองแห่งสันติสุข ความงดงามและความรัก ดังที่ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้ให้สัญญาไว้ เราจะมีสวรรค์บนโลก ขอให้เราทุกคนร่วมกันใช้โอกาสนี้ สร้างการเปลี่ยนแปลงในวันนี้ มาร่วมกันพัฒนาและยกระดับอารยธรรมของเราและโลกใบนี้กันเถิด ทีมบรรณาธิการ หมายเหตุจากบรรณาธิการ: หนังสือเล่มนี้มีบางส่วนของคำกล่าวของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ที่ไม่ได้ถูกย่อความซึ่งได้กล่าวไว้ในการสัมมนานานาชาติและการพบกับลูกศิษย์ รวมถึงการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวต่างๆ สำหรับแหล่งที่มาของข้อความเหล่านี้ โปรดดูที่ “บรรณานุกรมการบรรยายโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่” ในหน้าที่ 162 ในการกล่าวถึงพระเจ้า ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ใช้คำที่ไม่มีเพศต่อไปนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการถกเถียงที่ว่า พระเจ้าเป็นเพศชายหรือหญิง She + He = Hes (as in Bless) Her + Him = Hirm (as in Firm) Hers + His = Hiers (as in Dears) ตัวอย่าง: “When God want, Hes makes things happen According to Hiers to suit Hirmself. ด้วยการเป็นผู้สร้างสรรค์การออกแบบทางศิลปะและครูทางจิตวิญญาณ ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่รักการแสดงออกถึงความงดงามภายในทั้งหมด ด้วยเหตุผลนี้ ท่านจึงกล่าวถึงประเทศเวียตนามว่า “เอาหลัก” และประเทศไต้หวันว่า “ฟอร์โมซา” เอาหลักเป็นชื่อโบราณของเวียตนามซึ่งมีความหมายว่า “ความสุข” และฟอร์โมซาหมายถึง “สวยงาม” ซึ่งสะท้อนถึงความงดงามของเกาะและผู้คนได้มากกว่า ท่านอาจารย์รู้สึกว่า การใช้ชื่อเหล่านี้จะนำมาซึ่งการยกระดับทางจิตวิญญาณและโชคดีสู่ประเทศเหล่านี้และผู้อยู่อาศัย ชีวประวัติอย่างย่อของ ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่เป็นนักมนุษยธรรม นักสิ่งแวดล้อม นักเขียน ศิลปิน นักออกแบบ นักดนตรี ผู้กำกับภาพยนต์ และครูทางจิตวิญญาณที่มีชื่อเสียง ผู้ซึ่งความรักและความห่วงใยที่มีให้กับมวลมนุษย์ของท่านนั้น อยู่เหนือสีผิวและพรมแดนประเทศ นับตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 80 เป็นต้นมา ท่านได้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกทางนิเวศวิทยาผู้อุทิศตนมากที่สุดท่านหนึ่งของโลก ด้วยการส่งเสริมการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การปลูกป่า วิถีชีวิตที่ยั่งยืน และสำคัญที่สุดก็คือ การทานอาหารวีแก้นออแกนิก ซึ่งเป็นวิธีแก้ไขวิกฤติสภาวะอากาศที่มีประสิทธิภาพที่สุด และรวดเร็วที่สุด ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่สั่นคลอน ท่านอุทิศเวลาและทรัพยากรในการปลุกโลกให้ตระหนักถึงผลกระทบที่รุนแรงของสภาพอาการที่เปลี่ยนแปลงและทางออกวีแก้น ตั้งแต่ปี 2006 ถึงปี 2008 ท่านได้ดำเนินโครงการรณรงค์ทางเลือกใหม่ในการดำรงชีวิต และการสร้างความตระหนักด้านภาวะโลกร้อนที่เร่งด่วน ท่านยังมีวารสารข่าว เขียนหนังสือ ผลิตสารคดีมังสวิรัติในปี 2005 ที่มีชื่อว่า “วีรบุรุษที่แท้จริง” และรายการโทรทัศน์ในปี 2010 ที่มีชื่อว่า “คิงแอนด์โค” และเป็นแรงบันดาลใจให้กับการสัมมนานานาชาติเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ ซึ่งออกอากาศบนโทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้ง 7 วันทั่วโลก ผ่านดาวเทียม ซึ่งนำเสนอข่าวที่ครอบคลุมด้านอากาศที่เปลี่ยนแปลง การทานวีแก้น และหัวข้อที่จรรโลงอื่นๆ ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ยังได้แบ่งปันความรู้ของท่านกับผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม ผู้นำรัฐบาล ผู้ทรงเกียรติ และประชาชนผู้ห่วงใย ผ่านการสัมมนาเกี่ยวกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง 29 ครั้ง ใน 15 ประเทศ ซึ่งออกอากาศสดผ่านดาวเทียมและวิทยุ จากความพยายามเหล่นี้ คำขวัญของท่าน “เป็นวีแก้น รักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยโลกเรา” ได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับมวลมนุษย์ที่จะโอบรับวิถีชีวิตวีแก้นที่ยั่งยืนและดีต่อสุขภาพและวิวัฒนาการสู่สภาวะแห่งสันติสุขและความกลมเกลียวที่สูงขึ้น ด้วยตัวอย่างอันมีเมตตา ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ยังได้ย้ำเตือนเราให้ระลึกถึงความดีงามภายในของเรา และความรักที่มีให้กับทุกสรรพสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้น ประกายความคิดอันลึกซึ้งซึ่งท่านได้มาจากการบรรลุธรรม ทำให้ท่านมองเห็นต้นตอของความทุกข์ของมนุษย์ ความไม่กลมเกลียวทางสังคม และความเสื่อมถอยทางสิ่งแวดล้อม ความรุนแรงที่เราได้กระทำต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ รวมถึงเพื่อนสัตว์ผู้บริสุทธิ์ของเรา ด้วยความเมตตาที่มีต่อผู้อ่อนแอและไม่มีเสียง ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้เขียนหนังสือขายดีอันดับหนึ่งที่มีชื่อว่า “นกในชีวิตของฉัน” “สุนัขในชีวิตของฉัน” และ “สัตว์ป่าผู้สูงส่ง” อัญมณีทางวรรณกรรมเหล่านี้ซึ่งมีในหลายภาษาได้เปิดเผยถึงความคิดอันลึกซึ้งและความรู้สึกของสัตว์ร่วมโลก และเน้นย้ำถึงธรรมชาติแห่งสวรรค์และความรักอันไร้เงื่อนไขของพวกเขา ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่เกิดที่เอาหลัก (เวียตนาม) ตอนกลาง ได้รับการศึกษาที่ยุโรปและทำงานให้กับสภากาชาด ต่อมาท่านตระหนักถึงความทุกข์ทรมานที่มีอยู่ทั่วทุกมุมโลก และความปรารถนาของท่านในการค้นหาหนทางแก้ไข ได้กลายเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับหนึ่งในชีวิตของท่าน ท่านจึงออกเดินทางสู่หิมาลัยเพื่อค้นหาการรู้แจ้งทางจิตวิญญาณ และในที่สุดก็ได้รับการถ่ายทอดแสงและเสียงภายในแห่งสวรรค์ ซึ่งต่อมาท่านเรียกว่า ธรรมวิถีกวนอิม หลังจากการบำเพ็ญอย่างขยันหมั่นเพียร ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้บรรลุการรู้แจ้งอันยิ่งใหญ่ หลังจากที่ท่านกลับจากหิมาลัย ตามคำขอร้องของผู้คนรอบตัว ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้เริ่มแบ่งปันธรรมวิถีกวนอิม ส่งเสริมลูกศิษย์ของท่านให้มองที่ภายในเพื่อค้นหาความยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์ของพวกเขาเอง ไม่นานนัก ท่านได้รับคำเชิญไปปาฐกถาธรรมที่อเมริกา ยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย และแอฟริกา หัวใจอันมีเมตตาของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ยังสะท้อนในความห่วงใยที่มีต่อผู้ยากไร้ ทุนทรัพย์จากการขายผลงานทางศิลปะของท่าน ทำให้ท่านสามารถสนับสนุนภารกิจในการปลอบโยนบุตรของพระเจ้าผ่านงานการกุศลและการบรรเทาภัยพิบัติทั่วโลก แม้ว่าท่านจะไม่แสวงหาชื่อเสียงใดๆ ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้รับรางวัลมากมายจากรัฐบาลและองค์การต่างๆ ทั่วโลก สำหรับงานด้านมนุษยธรรมของท่าน รางวัลส่วนหนึ่งได้แก่ รางวัลสันติภาพโลก รางวัลผู้นำทางจิตวิญญาณโลก รางวัลส่งเสริมสิทธิมนุษย์ รางวัลนักมนุษยธรรมโลก รางวัลการช่วยเหลือมนุษยชาติที่โดดเด่น รางวัลสันติภาพกูซี่ 2006 ประกาศเกียรติบัตรสัปดาห์ดนตรีลอสแองเจลลิส รางวัลเหรียญเงินดันดับหนึ่งเทลลี่ประจำปี 2006 ครั้งที่ 27 รางวัลวิถีชีวิตที่ไม่หยุดนิ่งจากประธานาธิบดีของสหรัฐ จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช และรางวัลอาสาสมัครประจำปี 2010 จากประธานาธิบดีบารัค โอบาม่าแห่งสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ วันที่ 25 ตุลาคม และวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ยังได้รับการประกาศให้เป็น “วันอนุตราจารย์ชิงไห่” ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐฮาวายและอิลลินอยส์ สาส์นแสดงความยินดีจากอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐ บิลคลินตัน บุช และเรแกน ได้ถูกมอบให้แก่ท่านในช่วงพิธีรับรางวัล และเพื่อเป็นการยกย่องบุคคลผู้มีคุณธรรมและส่งเสริมผู้อื่นให้เป็นแรงบันดาลใจจากตัวอย่างของพวกเขา ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้ก่อตั้งรางวัลโลกที่ส่องแสง ซึ่งมอบให้กับบุคคลและสัตว์ที่คู่ควร สำหรับวิริยภาพอันโดดเด่น ความเมตตา ภาวะผู้นำ ความกล้าหาญ หรืออัจฉริยภาพของพวกเขา ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ยังอุทิศชีวิตอย่างไม่เห็นแก่ตัว ให้กับการสร้างอนาคตอันงดงามเพื่อโลกอันเป็นที่รักของเราและผู้อยู่อาศัยอันล้ำค่า ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาผู้มีวิสัยทัศน์อันยิ่งใหญ่ได้มีความฝัน และท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้กล่าวของท่านชัดแจ้งดังนี้ “ฉันมีความฝัน ฉันฝันว่าโลกทั้งมวลจะสงบสุข ฉันฝันว่าการฆ่าทั้งหมดจะยุติลง ฉันฝันว่าเด็กๆ ทุกคนจะเดินในสันติสุขและความกลมเกลียว ฉันฝันว่าทุกประเทศจะจับมือกัน ปกป้องกันและกัน และช่วยเหลือกัน ฉันฝันว่าโลกอันงดงามของเราจะไม่ถูกทำลาย มันใช้เวลาเป็นพันๆ ล้าน ล้านๆ ปีที่จะสร้างโลกใบนี้ขึ้นมา และมันงดงามยิ่ง น่าอัศจรรย์ยิ่ง ฉันฝันว่ามันจะดำเนินต่อไป แต่ในสันติสุข ความงดงาม และความรัก” ฉันอยากโอบกอดผู้นำและผู้คนในโลกนี้ และบอกพวกเขาว่า “ตื่นเถิด” ฉันอยากโอบกอดพวกเขาและบอกพวกเขาว่า “ตื่นเถิด ตื่นเดี๋ยวนี้ ตื่นนะ ที่รักของฉัน ตื่นเถิด เพื่อนของฉัน รักษาชีวิตของคุณ” คำขอร้องจาก ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ที่มีต่อผู้นำของโลก ฉันซึ้งในพระคุณเป็นอย่างสูง ผู้นำผู้กล้าหาญในโลก สำหรับการก้าวออกมานอกขอบเขตของพวกเขาและพูดเพื่อทุกๆ คน แม้ว่าสาธารณะชนจะไม่ยินดีกับความปรารถนาดีของพวกเขา สวรรค์จะจดจำ และพวกเขาจะได้รางวัลอันยิ่งใหญ่หลังจากนั้น แน่นอนว่า มันยากมากที่จะอยู่ในตำแหน่งของผู้มีอำนาจ การเป็นผู้นำคือการมีความกล้าหาญ ความเมตตา และความสูงส่ง นั่นคือเหตุผลที่ท่านคือผู้นำ แน่นอนว่า มันไม่ง่ายที่จะอยู่ในตำแหน่งของผู้นำ ผู้นำจึงมีอยู่จำนวนน้อย ในประเทศหนึ่งมีกษัตริย์เพียงพระองค์เดียว พระราชินีเพียงพระองค์เดียว มีเจ้าหญิงบ้าง เจ้าชายบ้าง ประธานาธิบดีหนึ่งคน นายกรัฐมนตรีหนึ่งคน มีผู้นำน้อยมากเมื่อเทียบกับคนจำนวนมหาศาลของโลกนี้ แต่น้อยยิ่งกว่าคือผู้นำผู้กล้าหาญ ผู้นำผู้มีคุณธรรม และผู้นำผู้มีปัญญา สำหรับผู้นำผู้กล้าหาญและมีปัญญาเช่นนี้ เราให้การสนับสนุนและความเคารพอย่างเต็มที่ เราภาวนาให้สวรรค์มอบพละกำลัง ปัญญา ให้แก่พวกเขามากขึ้นเพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่อันสูงส่งของพวกเขา ดังที่ฉันได้บอกคุณแล้ว ผู้นำนั้นมีอยู่น้อยมาก และน้อยยิ่งกว่าคือผู้มีปัญญาและกล้าหาญ การเป็นผู้นำ เราต้องรู้ว่าอะไรดีต่อประชาชนของเรา และอะไรที่ไม่ดี และสิ่งที่ดี เราต้องส่งเสริมให้พวกเขาทำ ช่วยเหลือพวกเขา และสิ่งที่ไม่ดี เราต้องหยุด เพื่อปกป้องพวกเขา นั่นคือความหมายที่แท้จริงของผู้นำ ส่งเสริมวิถีชีวิตปลอดเนื้อสัตว์ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทุกคน รัฐบาลที่ดีที่สุดควรส่งเสริมนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไปและประชาชนทุกคน การจะสัมฤทธิ์ผลได้นั้น ในตอนนี้ รัฐบาลต้องตระหนักว่า นี่คือสถานกาณ์พิเศษที่ต้องใช้มาตรการที่ไม่ธรรมดา ฉันแนะนำให้ผู้นำโลกและทุกรัฐบาล โปรดส่งเสริมวิถีชีวิตปลอดเนื้อสัตว์และอย่างรวดเร็ว เพื่อที่เราจะสามารถรักษาโลกใบนี้ไว้ได้ เราไม่มีเวลา มีเวลาเหลือไม่มาก สิ่งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองด้วยซ้ำ มันเกี่ยวกับความอยู่รอดของเราเองและลูกๆ ของเรา ถ้าทุกรัฐบาลส่งเสริมผู้คนให้หันมาทานอาหารปลอดเนื้อสัตว์ซึ่งดีต่อสุขภาพ โลกก็จะได้รับกอบกู้ไว้อย่างรวดเร็ว กิจกรรมที่ดีต่อโลกเราสามารถทำให้เกิดความเป็นอยู่ที่ดีได้เช่นกัน เรามีการขาดแคลนอาหาร รัฐบาลสามารถสนับสนุนเกษตรกรวีแก้นออแกนิกและสนับสนุนการพัฒนาการดำเนินการสีเขียวอื่นๆ อย่างง่ายดาย สิ่งนี้จะช่วยได้มาก รัฐบาลต้องจัดลำดับความสำคัญ ช่วยโลกให้รอด ทำการเกษตรแบบออแกนิก ให้เงินสนับสนุน สำหรับผู้นำทุกคน ฉันขอร้องพวกเขาอีกครั้ง โปรดให้ความรักแก่ประชาชนชายหญิงของพวกเขาและเด็กๆ ทุกคนก่อนใดอื่น ยอมรับการดำเนินการที่จำเป็นอย่างกล้าหาญ ใช้อำนาจที่อยู่ในมือของพวกเขาซึ่งได้รับการไว้วางใจจากประชาชน เพื่อที่จะรักษาโลกใบนี้ไว้ อุตสาหกรรมปศุสัตว์ทั่วโลกในตอนนี้ ได้ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนเท่ากับภาคพลังงานหรือมากกว่า และฉันรู้ว่ามันเป็นสาเหตุอย่างน้อย 80% การผลิตเนื้อสัตว์กำลังทำให้น้ำของประชาชนของท่านหมดไป ทำลายสุขภาพของพวกเขา ผลักดันให้พวกเขาทำสงคราม และเพราะเชื้อโรคร้ายแรงถึงชีวิตให้เกิดขึ้นใหม่ทุกวัน มันกำลังฆ่าประชาชนของท่าน มีแต่ท่านเท่านั้นที่จะหยุดมันได้ พวกเขาต้องการตัวอย่างวีแก้นอันกล้าหาญและส่องสว่างของท่าน เพราะพวกเขามองที่รัฐบาลของพวกเขาว่าเป็นผู้นำของพวกเขาอย่างแท้จริง พวกเขาจะได้รับการช่วยเหลืออย่างมหาศาลจากกฎหมายสำหรับการเกษตรและการรณรงค์วีแก้นออแกนิก หรือกฎหมายที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนไปสู่วิถีชีวิตวีแก้นซึ่งจำเป็นยิ่ง เพื่อนร่วมชาติของท่าน ประชาชนของท่านจะยินดีกับท่าน สรรเสริญท่าน รักท่านสนับสนุนท่าน และชนรุ่นหลังจะระลึกถึงท่านที่ได้ช่วยรักษาโลกใบนี้ไว้ และจะระลึกถึงการรักษาชีวิตของพวกเขาและชีวิตของคนที่พวกเขารัก และลูกๆ ในอนาคตของพวกเขา และสวรรค์จะให้รางวัลแก่ท่านอย่างมหาศาล เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงวีแก้น ส่งเสริมการให้อภัย และสันติสุข แล้วทุกปัญหา เช่น ความยากจน ความขัดแย้ง แม้แต่วิกฤติการเงิน โรคระบาด ก็จะอันตรธานหายไป เช่นกัน ฉันขอขอบคุณผู้นำของประเทศต่างๆ สำหรับทุกความพยายามในทิศทางนี้ที่ผ่านมา เราทุกคนคือส่วนหนึ่งของคำตอบ แต่ถ้าท่านจะอนุญาต ฉันขอกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่และกำลังวางแผนอยู่ในตอนนี้ ยังไม่เพียงพอและไม่รวดเร็วพอ และฉันขอให้ท่านมีความกล้าหาญและศรัทธาที่จะทำมากขึ้น และรวดเร็วขึ้น สำหรับองค์การต่างๆ ของโลกรวมถึงสื่อผู้เข้าใจถึงพลังของการเคลื่อนไหวทางสังคม ขอบคุณสำหรับการทำงานของท่านในการบอกกล่าวและส่งเสริมผู้คนให้หันมาสู่วิถีชีวิตวีแก้น ซึ่งปลอดเนื้อสัตว์ น่าตื่นเต้น มีมนุษยธรรม มีประโยชน์ และทันสมัย สำหรับบุคคลต่างๆ ขอขอบคุณที่กำลังทำให้ส่วนของท่านในการรักษาโลกใบนี้ของท่านไว้ แต่โปรดทำมันอย่างรวดเร็ว เรายังมีอีกมากมายที่ต้องทำ และเรามีเวลาเหลือน้อย เราต้องกระตุ้นผู้นำของเรา และเพื่อนมนุษย์ เพื่อนบ้านของเราต่อไปให้เปลี่ยนเป็นวีแก้นเพื่อรักษาชีวิตของพวกเขาเอง และครอบครัวและลูกๆ ของพวกเขา และสัตว์ และทุกสิ่งที่ทำให้การดำรงชีวิตของพวกเขามีความหมาย เราสามารถออกจากภัยอันตรายนี้ได้ แต่ต้องด้วยทิศทางที่ถูกต้อง บ้านของเรากำลังมีไฟลุกไหม้ แต่ท่อน้ำนั้นอยู่ตรงหน้าเรา เพียงแค่หยิบมันขึ้นมาและใช้มัน มันง่ายอย่างนั้น แค่เป็นวีแก้นและโปรดทำอย่างรวดเร็ว วันของเรากำลังนับถอยหลัง สำหรับมวลมนุษย์ทุกคน สวรรค์รักคุณอย่างมาก เราจึงมีความหวังสำหรับการอยู่รอดของโลกเรามากกว่าแต่ก่อน เราจะตื่นสู่โลกวีแก้นดวงใหม่ที่มีเมตตา ที่เปี่ยมไปด้วยพลังงานแห่งความรัก ความเมตตา และพระพรที่ไม่มีสิ้นสุดจากสวรรค์ ฉันภาวนาให้คุณทุกคนดำเนินต่อไปสู่สันติสุขซึ่งอยู่ใกล้แค่เอื้อม ขอบคุณอย่างมากทุกๆ ท่าน ขอบคุณค่ะ ถ้าทุกคนหยุดกินเนื้อสัตว์ในตอนนี้ ภายในแปดสัปดาห์สภาพอากาศจะเปลี่ยนเป็นดี ทุกสิ่งที่เสียหายจะกลายเป็นปกติภายในแปดสัปดาห์ ถ้าทุกคนบนโลกหยุดกินเนื้อสัตว์ และหันสู่หัวใจแห่งความเมตตา แล้วผลจะเห็นได้ทันที บางส่วนจากหนังสือ “จากวิกฤติสู่สันติสุข” วิถีแห่งวีแก้นออแกนิกคือคำตอบ โดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ หนังสือเล่มนี้ใช้กระดาษรีไซเคิล โปรดเข้าไปที่ http://crisis2peace.org เพื่ออ่าน หรือดาวน์โหลดหนังสือเล่มนี้เวอร์ชั่นออนไลน์ที่มีในหลายภาษา สำหรับท่านที่สนใจหนังสือสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ สมาคมนานาชาติอนุตราจารย์ชิงไห่ ศูนย์กรุงเทพ 537/191-192 ซอยสาธุประดิษฐ์ 37 ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. 10120 โทรศัพท์ 02-682-0014-15 โทรสาร 02-682-0014 รถเมล์ที่ผ่านหน้าซอย สาย 35, 62, สองแถวแดง สาย 1279 (วัดดอกไม้) ฺBe Veg, Go Green 2 Save The Planet www.godsdirectcontact-thai.org www.suprememastertv.com
15 ตุลาคม 2554 13:55 น. - comment id 126933
...ทุกๆวัน คือวันดีดีของท่าน... ขอบคุณในจิตอันเผื่อแผ่
29 ตุลาคม 2554 09:14 น. - comment id 127139
เมื่อมนุษยชาติ ยังไม่รู้ต้นตอของปัญหา ที่กำลังรุกคืบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นเรื่องยากเป็นอย่างยิ่งที่จะสามารถ หยุดปัญหาภัยพิบัติ(โลกร้อน) ได้ถูกจุด ในที่สุดทุกอย่างก็จะสูญสลายไปในไม่ช้า เหมือนประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในหลายๆ ดวงดาวที่จำต้องดับไป เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป สูญว่าง สาธุ