นักเขียนนิยาย จะเขียนนิยายสักเรื่องก็คงต้องมีพล็อตเรื่อง... แต่ฉันเป็นคนเล่าเรื่อง..แล้วควรต้องมีพล็อตเรื่องหรือเปล่าหนอ จะเริ่มต้นอย่างไรและจบเช่นไหน เขียนแล้วคนอ่านจะยิ้มตามหรือบ่นว่ายายบ้านี่มาเขียนอะไรนะ.. ก็จบบัญชี..ไม่ได้จบอักษรศาสตร์ นิเทศศาสตร์ หรืออะไรที่เป็นศาสตร์ทั้งหลาย.. นอกเรื่องมาก็มาก..เข้าเรื่องดีกว่าเนอะ เดี๋ยวอาจต้องมีแจกแม็ค 77 ที่ไม่ต้องเติม....ลงไป (อ่านว่า จุด จุด จุด) เมื่อมีการเตรียมการ เราก็ต้องมีการเดินทาง เค้านัดสามทุ่มเราไปถึงกันสองทุ่มด้วยความไม่แน่ใจในสภาวะรถติด ฝนตก ซึ่งเอาแน่นอนไม่ได้สำหรับกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร.. ปั๊ม ปตทสนามเป้า เป็นที่นัดหมาย เซเว่นมี ร้านกาแฟมี (ปิดแล้วแต่ใช้เป็นที่นั่งรออยู่หน้าร้าน) หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา.....สโลแกนประจำร้าน นั่งรอไป กินไป คุยไป ถกปัญหากันไป ไปทำอะไร ไปดูอะไร มันมีอะไร สำหรับฉัน..บนนั้นมีดอกหงอนนาค มีต้นไม้ มีหลักเขตไทยลาว มีอะไรอีกละ (ส่วนเพื่อนร่วมทางถูกฉันหลอกมา) เวลาผ่านไปไกด์ยังไม่มา รถยังไม่มี แม่ครัวยังไม่เจอ..(ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก..ล้อเล่นจ้า) หลายคนกระวนกระวาย จนต้องโทรหาคุณเอกนักป่าไม้หนุ่มที่ผันตัวเองมาทำเรื่องท่องเที่ยวแบบแบ๊คแพ๊ค..คุณเอกบอกว่าทำไมมากันเร็วจังผมนัดสามทุ่มนะ (คุณเอกขา..นี่มันสามทุ่มกว่าแล้วค่ะ) จนถึงเวลาอันสมควร และควรเป็นฤกษ์ดีหรือเปล่านะ เราออกเดินทางด้วยรถตู้ (ที่ท้ายเกือบปิดไม่ได้..ด้วยของและด้วยสภาพรถ) คุยกันไป จนหลับกันไปและแล้วเราก็มาถึง..ถึงไหนล่ะในเมื่อระยะทางเกือบยี่สิบกิโลกว่าจะถึงอุทยานภูสอยดาวเส้นทางขาดเป็นระยะสั้น ๆ แต่ก็เล่นเอาผู้ร่วมทางจำนวน 5-6 คันจอดสนิทแล้วก็คิดว่าจะไปอย่างไร ไปได้หรือไม่ สุดท้ายก็ไม่เกินความสามารถของผู้อยากเที่ยว ด้วยการเดินข้ามเส้นทางที่ขาดเพื่อให้รถเปล่าวิ่งไปรอเราข้างหน้า สุดท้ายฉันก็มาถึงตีนภู..แต่ละคนจัดการกับตัวเอง แล้วก็ไปจัดการกับท้องตัวเองเพื่อเตรียมตัวเดินทางขึ้นภูที่ระยะทางไม่ไกลแค่ 7.5 กิโลเท่านั้นแหละ.. นับจากตีนภู..จนผ่านเนินลูกแล้วลูกเล่า แค่สี่ห้าเนิน..หุหุ..แค่ถึงเนินส่งญาติก็อยากส่งแต่ผู้ร่วมทางให้ขึ้นไป (ได้ไงเล่า..เมื่อเราอยากมา) ทางเดินดีค่ะชวนให้นึกถึงภูกระดึง..ภึงกระดูขึ้นมาทันใด จากส่งญาติแล้วไปไหนหนอ.อ้อ..ปราบเซียนไงคะ ปราบจนเซียนหงายหลังกันเลยทีเดียว ระหว่างทางก็ชมนก (ซึ่งไม่มีให้เห็น) ชมไม้ซึ่งมีตลอดทางแซมด้วยดอกไม้สวยงามบ้างประปราย รวมถึงฝนพร่ำๆ ที่มีมาเป็นระยะๆ พร้อมน้ำเหงื่อที่เต็มตัวตลอดหัวจรดเท้า..ส่วนใจคนเขียนหรือคะ..(ส่วนใจฉันก็มีแต่เธอ มีแต่เธอทุกห้องดวงใจ) ดอกหงอนนาคไงคะอยากเห็นขึ้นมาจับใจ จากเนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง ที่ผ่านมาแต่ละเนินคนไม่สู้เนินมรณะหรอกค่ะ ทั้งสูง ทั้งเสียว ทั้งปีนป่ายบันได เดินระหว่างหุบเหว..สวย..เสียว..ได้ใจเลยค่ะ แล้วสุดปลายทางของเราก็พบลานภู..นักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งซึ่งใจตรงกันมาในวันนี้จับกล้องตัวเก่งถ่ายรูปดอกหงอนนาคอย่างเพลิดเพลิน...ส่วนฉันอึ้งค่ะ อึ้งกับสิ่งที่เห็น เดินมาที่เหนื่อยมันหายเหนื่อยไปโดยปริยาย สิ่งที่ฉันอยากเห็นอยู่ตรงหน้าไม่ผิดหวัง..แต่อุปสรรคมาอีกแล้ว ฝนที่คาดคิดหล่นลงมาพรำๆ ก็เลยต้องรีบเร่งเดินลุยทางอันเต็มไปด้วยเลนกับน้ำเป็นระยะๆ ไปให้ถึงจุดพัก ซึ่งคุณเอกกางรอไว้เรียบร้อยแล้ว.. ฝนตกตลอดเวลาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด..แล้วจะทำเช่นใดเล่า เต้นท์ที่กางไว้กันฝนได้แต่กันน้ำจากผ้าปูรองนั่งไม่ได้จนต้องเอาเสื้อกันฝนมาใส่กันหนาวกันพื้นเปียกได้เป็นอย่างดี..ส่วนฉันหยิบกล้องตัวเก่งขึ้นมาจับภาพใส่กล้องภาพแล้วภาพเล่าตามใจปรารถนา ชื่นชมกับสิ่งตรงหน้าซึบซับให้มันมากที่สุดสมกับความอยากมา อยากเห็น ธรรมชาติอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว (สิ่งซึ่งฉันมองไม่เห็นในป่าคอนกรีตที่ฉันอาศัยอยู่) ระหว่างรอลูกหาบ..รอของใช้ส่วนตัวเพื่อจัดการกับตัวเองซึ่งเหลือเพียงของฉันคนเดียว..ฉันไล่น้องๆ และพี่หนึ่งคนไปอาบน้ำกันก่อนโดยที่ไม่ต้องรอ เพราะไม่รู้ว่าของของฉันจะมาเมื่อไหร่ รอคนเดียวดีกว่าให้คนอื่นมาลำบากไปด้วย (เพราะที่ร่วมเดินทางมาก็เท่ากับฉันพามาลำบากแล้ว) ฝนตกตั้งแต่บ่ายสองและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด...หลังอาหารมื้อเย็นผ่านไปด้วยเวลาเพียงทุ่มกว่า ๆ ที่เราไม่สามารถหรืออาจทำอะไรได้ สิ่งที่ทำได้คือเข้าเต้นท์เพื่อนอน...
9 กันยายน 2554 08:47 น. - comment id 126332
จบบัญชีปิดงบดุลยอดเท่ากันทั้งเดบิทเครดิทก็พอแล้ว เขียนได้อย่างนี้ก็ถึงจุดคุ้มทุนแล้วละ อิอิ อุทยานภูสอยดาว ?ยังไปเที่ยวได้หรือ ไหนว่าน้ำตกเขาสอยดาวก็ขึ้นไม่ได้ถูกยึดครองเป็นที่เอาน้ำไปใช้สนามกอล์ฟ ของธนาคารยิ่งใหญ่หนึ่งที่มีผู้ยิ่งใหญ่แห่งชาติสนับสนุนให้ยึดครองแล้วยังไม่ยอมคืนเหมือนบางคนที่คืนแล้วรื้อบ้านบนเขาไปแล้ว ถึงขนาด สร้างตำหนักให้อย่างหรูหราไง อิอิ
9 กันยายน 2554 09:19 น. - comment id 126333
อุทยานภูสอยดาวอยู่อุตรดิตถ์ฤกษ์แรงกำแหงหัวใจจ้า ไม่ใช่ที่จันทบุรีอย่างที่เราๆ เข้าใจกัน
9 กันยายน 2554 09:24 น. - comment id 126334
เอ๋! ต้อง ฤทธิ์ สินะ ไม่ใช่ ฤกษ์
11 กันยายน 2554 15:34 น. - comment id 126347
อิจฉาคนได้ไปเที่ยวจัง
11 กันยายน 2554 21:16 น. - comment id 126351
ยิ่งฝนตก ธรรมชาติยิ่งสวยสดชื่นเนาะ