“ กลับมานะลูก อย่าเดินไปตรงนั้น ” เสียงที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นห่วงของผู้เป็นแม่ ขณะยังนั่งบนเก้าอี้ม้าหินอ่อนในสวนสาธารณะกลางหมู่บ้าน เธอเปล่งเสียงเบาๆแต่แน่นหนัก ประหนึ่งต้องการให้เด็กชายวัยสองขวบเศษได้ยินเพียงคนเดียว เพื่อไม่ให้เจ้าตัวน้อยก้าวเข้าไปตามรอยยิ้มและการกวักมือเรียกของชายร่างสูงโปร่ง เนื้อตัวและเสื้อผ้าสกปรกมอมแมมจนยากจะเดาสีแท้จริงได้ ใบหน้าเต็มไปด้วยหนวดเคราที่ไม่ได้โกนตัดมาเนิ่นนาน เขาคงอยากเล่นด้วยกับลูกชายคนเดียวของเธอ กระนั้นด้วยสามัญสำนึกแห่งความเป็นแม่จึงเปล่งเสียงห้ามลูกเอาไว้ได้ทัน เธอรู้สึกโล่งใจที่ทำถูกแล้ว เพราะภายหลังได้ยินคนในหมู่บ้านที่ครอบครัวเธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่นี้ เล่าถึงชายผู้นั้นให้เธอฟังว่า ไม่มีใครรู้จักชื่อจริง เพราะต่างก็เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ รู้แต่เพียงว่าชายท่าทางน่ากลัวนี้อยู่บ้านหลังสุดซอยกับแม่และพี่สาว “สติมันไม่สมประกอบ” ประโยคของป้านวลเจ้าของร้านขายของชำประจำหมู่บ้านนี้ ยิ่งตอกย้ำความเข้าใจของเธอให้ชัดเจนยิ่งขึ้น หลายครั้งที่คนในหมู่บ้านเห็นเขาปีนขึ้นไปถึงยอดต้นสนสูงใหญ่กลางสวนสาธารณะ แล้วยิ้มกริ่ม มองลงมายังผู้คนที่อยู่รอบๆบริเวณข้างล่าง เธอรู้สึกหวาดกลัว และขนลุกขึ้นมาทุกครั้งเมื่อนึกถึงสายตาคู่ที่จ้องมองลูกชายตัวเล็กของเธอในวันนั้น เช้านี้อากาศแจ่มใส หลังจากที่สามีของเธอขับรถออกไปทำงานได้สักพัก เธอเริ่มหยิบตะกร้าสานผูกโบว์สีชมพูน่ารัก จูงมือเด็กน้อยเดินไปนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนที่เคยนั่งกันประจำ น่าแปลกที่เช้าวันนี้ช่างสงบสดชื่นกว่าที่เคย ลมเย็นๆพัดเอื่อยรอบๆตัว เสียงนกตัวเล็กๆเจื้อยแจ้วจนอดไม่ได้ที่จะแหงนหน้ามองตามที่กิ่งไม้ ยิ่งทำให้เห็นชัดเจนถึงท้องฟ้าสดใสที่ประดับด้วยปุยเมฆนุ่มๆประปรายนั้น ..................... นานเท่าใดไม่อาจทราบได้เธอเผลอนั่งหลับไป จนกระทั่ง.... สะดุ้งเฮือก ตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาห่างจากจุดที่เธอนั่งไม่ไกล เสียงนั้นดังจากบริเวณสระน้ำกลางสวนสาธารณะ ไวเท่าความคิด เธอเอี้ยวหันมองรอบตัวอย่างรวดเร็วเพื่อเหลียวหาลูกน้อย “หายไปไหน” เสียงที่สั่นเครือ และเบาจนแทบไม่ได้ยิน ในขณะที่เสียงข้างในกลับดังจนแทบจะระเบิดออกมาพร้อมๆกับหัวใจที่เต้นแรง ไม่ทราบอะไรดลใจให้เธอวิ่งไปที่สระน้ำนั้น และยิ่งวิ่งเร็วยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อเห็นร่างน้อยๆ กำลังเนื้อตัวเปียกโชกไปด้วยน้ำ นั่งร้องไห้อยู่ริมตลิ่ง ขณะที่หลายๆคนเดินเข้าไปพร้อมกับส่งเสียงกันอื้ออึง ในที่สุดเธอก็ถึงตัวของแก้วตาดวงใจของตน พร้อมกับโอบกอดแน่นๆ เด็กน้อยไม่รู้หรอกว่า น้ำหยาดใสอุ่นๆของความเป็นแม่ กำลังหยดแหมะลงกลางกระหม่อมของตน เจ้าตัวเล็กได้แต่ร้องไห้และชี้นิ้วไปที่รอยตรงริมตลิ่ง เวลานั้น หาได้มีใครสนใจยังมุมที่เด็กน้อยชี้นิ้วไป ไม่มีใครรู้หรอกว่า รอยนั้นเป็นรอยจากผู้ที่เคยปีนต้นสน เป็นรอยลื่นไถลของร่างสูงโปร่งลงไปยังก้นสระน้ำอีกครั้ง หลังจากช่วยเด็กน้อยคนหนึ่งให้รอดชีวิต หากแต่ชีวิตของตนเองกลับรักษาไว้ไม่ได้ เพราะความล้าอ่อนแรง... .
16 กรกฎาคม 2554 15:07 น. - comment id 125005
17 กรกฎาคม 2554 00:32 น. - comment id 125017
เศร้าเลยค่ะ...
18 กรกฎาคม 2554 00:53 น. - comment id 125061
พยายามเถอะต่อไปจะีดีเอง จงจำไว้ว่า 1 ลำนำ คือการบรรยายสิ่งทั้งหลาย 2 ใจ คือการสร้างโครงเรื่องหรือแผนงาน 3 การปรุงแต่งเรื่องต้องให้สอดคล้องกับชื่อ เรื่องหมายถึงสิ่งรอบข้างต่างๆให้กลมกลืน กันไปกับเนื้อเรื่องไว้คือสิ่งแวดล้อมนั่น แหละนะ ทุกๆอย่างต้องให้กลมกลืนกัน 4 อารมณ์ คือการสอดแทรกเนื้อเรื่องให้สอด คล้องให้ผู้อ่านได้คล้อยตามไม่ใช่เกิดการ ติดขัด ด้วยการสร้างอารมณ์ อันได้แก่ทาง พระว่า เวทนา การเสวยอารมณ์นั่นเอง หมายถึงอารมณ์ของตัวลครที่เราสร้างไว้ 5 การสรุปเรื่องต้องให้สอดคล้องกับชื่อ เรื่อง การจบแบบนี้เรียกว่าจบแล้วผู้อ่าน เสียอารมณ์ไปเหตุใดผู้ช่วยเด็กนั้นเป็น อย่างไรเป็นต้น จำหลัก ห้าข้อนี้ไว้ ให้ขึ้นใจแล้วเขียน ใหม่ พยายามเรียกอารมณ์คนอ่านให้คล้อย ตามเรื่องที่เราเขียนให้ได้นะ รักศิษย์เรา เสมอจ้า แก้วประเสริฐ.
18 กรกฎาคม 2554 01:45 น. - comment id 125063
คุณกลั่นแก้ว ขอบพระคุณ คุณกลั่นแก้วครับ สลับกันอ่านเรื่อยๆนะครับ ^^
18 กรกฎาคม 2554 01:46 น. - comment id 125064
คุณฉางน้อย ขอบพระคุณครับ อ่านกันและกันไปเรื่อยๆนะครับ มิ่งมิตรชิดใกล้บ้านกลอน ^^
18 กรกฎาคม 2554 02:00 น. - comment id 125065
กราบคุณครูแก้วประเสริฐครับ รู้สึกผิดที่หักหาญ ทำร้ายอารมณ์ผู้อ่านจนเกินไปที่ปล่อยให้ท่านคิดต่อกันเอง ไม่ได้สรุปปิด (ติดอารมณ์จากภาพยนตร์ฝรั่งมากเกินไป) "ชื่อเรื่อง" กระผมเห็นว่าชื่อเรื่องนั้น ยังตะหงิดๆในใจกับเนื้อเรื่องอยู่ครับคุณครู ขอบพระคุณที่ท่านมาย้ำให้กระจ่างชัดขึ้น เนื้อหาผสมห้าส่วนนั้นยิ่งทำให้กระผมสะดุ้งขึ้นมาเลยครับ กราบขอบพระคุณที่ท่านเตือน จะพยายามและตั้งใจให้มากกว่านี้ครับคุณครู พาจินตนาการถลำเสียจนเหมือนวาดรูปแล้วลืมเส้นกรอบ ด้วยความเคารพรัก รู้สึกดีหากท่านรักษาสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนเพียงพอ และมีความสุขมากๆครับ รักครูเสมอครับ
19 กรกฎาคม 2554 11:48 น. - comment id 125095
เศร้าก่อนเที่ยงเหรอเนี่ย ไม่น่าเข้ามาเลย แงๆๆๆ
19 กรกฎาคม 2554 14:07 น. - comment id 125097
โถๆๆ.. คุณเฌอมาลย์ขอรับ หากกระเพาะไม่ทำงาน กระผมคงพบพาน ซึ่งความผิด ระทม กราบงามๆ กับนงรามที่มาเยี่ยมคร้าบบ >_<