กราบเท้าคุณพ่อที่รักและคิดถึง พ่อคะ หนูไม่ได้เขียนจดหมายถึงพ่อนานเลยนะคะ คิดถึงพ่อจังเลยค่ะ พ่อคิดถึงหนูบ้างไหมคะ ? ตอนนี้หนูกลับบ้านค่ะ บ้านที่บนดอยหนาวมาก มีทั้งลมและฝนตกปรอย ๆ ทั้งวันทั้งคืน หนูก็ยังคงแพ้อากาศหนาวเหมือนเดิม ตัวแดงแล้วก็คัน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะชนะสักทีนะคะ ^^" หนูต้องอาศัยยาแก้แพ้เป็นที่พึ่งอีกแล้วค่ะ ถ้าไม่มียาช่วยหนูคงต้องอยู่ในรถแล้วเปิดฮีตเตอร์ ไม่งั้นก็ต้องนอนคลุมโปงทั้งวันทั้งคืนไม่ต้องทำอะไร แต่หนูต้องทำโรงเพาะเห็ดให้แม่ จริง ๆ แล้วตั้งใจไว้ว่าจะเปลี่ยนเล้าหมูให้เป็นโรงเพาะเห็ด แต่หมูแม่ยังขายไม่หมด เล้าที่ว่างก็ยังไม่ได้ล้าง กลิ่นยังคงเหม็นอยู่ หนูก็เลยทำแบบง่าย ๆ เพาะเสียที่โรงจอดรถข้างบ้านนั่นเองค่ะ หนูซื้อก้อนเห็ดมาแค่ 200 ก้อน ใช้พื้นที่ไม่เยอะ หนูก็ทำแบบง่าย ๆ แม่เห็นแล้วก็ขำ เออ.... มันก็ทำง่ายจริง ๆ เสียด้วย ^ _ ^ วิธีทำของหนูก็คือ มองไปรอบ ๆ แล้วก็หาอุปกรณ์ที่สามารถใช้ได้ เห็นถังน้ำ 200 ลิตร อยู่ 2 ใบ อิฐบล็อกที่เหลือจากสร้างบ้าน บันใดไม้ผุ ๆ ผ้าเต้นท์เก่า ๆ โอเค ใช้ได้ แล้วหนูก็นำอิฐบล็อกมาวางประมาณ 10 ก้อน นำก้อนเห็ดมาวางซ้อน ๆ ขึ้นไปบนอิฐ นำถังมาวางข้างละใบกันก้อนเห็ดไถลลง เสร็จแล้วก็นำบันใดไม้เก่า ๆ วางพาดบนถัง แล้วก็นำผ้าเต้นท์ปิด น้ำก้อนอิฐทับบนเต้นท์อีกที เป็นอันเสร็จเรียบร้อย โรงเพาะเห็ดมั่ว ๆ ของหนู แหม.... ก็หนูทำแบบด่วน ๆ แค่ให้แม่ลองเพาะดูก่อน ไม่รู้ว่าอากาศบนดอยจะเพาะได้ดีแค่ไหน ถ้าได้ผลดี หนูก็เตรียมที่ไว้ให้แม่แล้วค่ะ หลังบ้านตรงริมแท้งค์น้ำ ใต้ซุ้มมะระหวานก็ปรับเป็นที่เพาะเห็ดได้เหมือนกัน ถ้าเห็ดชุดนี้ขึ้นดี หนูค่อยมาทำเพิ่มค่ะ ^o^ พ่อคะ แม่ได้อยู่บ้านใหม่แล้วนะคะ บ้านใหม่ของแม่มีหลังคาสีฟ้า (สีที่หนูชอบ) 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว ห้องโถงกลางบ้านกว้างมาก (ตั้งได้หลายวง อิ ๆ ๆ ๆ) กลางวันแม่ก็พาพี่ชายออกมานั่งดูทีวีทั้งวัน บางทีพี่ชายก็นั่งเก้าอี้ บางทีพี่ชายก็นอนบนเสื่อ พื้นเย็นมากขึ้นดอยเที่ยวนี้หนูซื้อพรมมาด้วย แม่ก็ไม่อยากปู เพราะเสียดาย แหม.... ก็ซื้อมาให้ใช้เนาะ ไม่ได้ซื้อมาให้เก็บ หนูปูไว้หน้าทีวีค่ะ แล้วพี่ชายก็ลงมานอน หนูก็เลยหยิบหมอนกับผ้าห่มออกมาให้ พี่ชายหลับปุ๋ย อุ่นสบาย ท่าทางมีความสุขมาก ๆ เลยค่ะ บ้านหลังใหม่ของแม่หลังคาไม่รั่ว ก่อนหน้านี้แม่อยู่บ้านหลังเก่า เวลาฝนตกทีไรหลังคาก็รั่วทุกที แม่ต้องหาถังมารองตรงจุดที่รั่ว แม่เล่าให้ฟังว่า.... บางทีฝนก็ไหลลงที่นอน แม่ก็ต้องลุกมาหาจุดที่ฝนไม่รั่ว ต้องย้ายกันทั้งคืน * __ ~ พ่อคะ ตอนนี้หนูกับแม่วางแผนไว้ว่าจะทะยอยสร้างบ้านไว้ให้เช่าค่ะ ตอนนี้แม่ก็เก็บค่าเช่าห้องแถวของหนูได้เดือนละ 6,000 หนูโอนให้แม่อีกทุกเดือน แม่ก็ซื้อไม้ ซื้ออิฐเตรียมไว้ ถ้ามีรถแม็กโครขึ้นดอย ก็จะถมที่ไว้ค่ะ หมู่บ้านของเรากำลังจะเปิดสอนถึงระดับมัธยมปลายครูก็จะเยอะขึ้น ที่พักคงจะไม่พอค่ะ ผอ.เคยมาขอเช่าบ้านแม่ให้ครูพักด้วยค่ะ แม่ก็เลยกั้นห้องแบบง่าย ๆ ให้ครูอาศัยอยู่ด้วย แม่ก็ไม่ได้เก็บค่าเช่าหรอกค่ะ แบ่งกันอยู่ ๆ ไปแบบง่าย ๆ เมื่อขยายโรงเรียนก็ต้องรับครูเพิ่มมากขึ้น ครูก็จะไม่มีที่พัก แม่กับหนูก็เลยจะทำบ้านไว้ให้ครูเช่าค่ะ อีกหน่อยแม่ก็จะกลายเป็นเสีอนอนกินไงคะ ^ _ ^ ช่วงนี้หนูก็ต้องทำงานมาก ๆ หาเงินเยอะ ๆ เพราะที่บนดอยไม่มีโฉนด ไม่สามารถนำไปกู้เงินเพื่อมาสร้างได้ หนูไม่ค่อยได้กลับบ้าน เพราะกลับบ้านทีก็ใช้ตังค์เยอะค่ะ พ่อช่วยดูแลแม่และพี่ชายด้วยนะคะ อย่าให้เจ็บ อย่าให้ป่วย หนูจะได้ทำงานอย่างสบายใจ ขึ้นดอยคราวนี้ หนูไปดูสวนของพี่โย่งด้วย ส่วนพี่ฮัวก็ขึ้นดอยมารับหนูไปนอนสวนที่อมก๋อย 1 คืน พ่อคะ พี่ฮัวลูกสาวของพ่อขยันมาก ปลูกพริก ปลูกมะเขือเทศประมาณยี่สิบกว่าไร่ ตอนนี้พี่ฮัวสร้างบ้าน + โกดังไว้ที่สวนแล้วค่ะ เพราะพี่ฮัวเลิกกับสามี ถ้าไม่สร้างบ้านก็ไม่มีบ้านอยู่ ส่วนหลานเจมส์ก็ไปอยู่กับยายที่บนดอยค่ะ แม่บ่นว่าหลานขี้เกียจตื่น ^ _ ~ ก็ธรรมดาของเด็กนะคะ อากาศบนดอยหนาวมากนินา เนาะพ่อเนาะ หลานเจมส์เลี้ยงง่ายค่ะพ่อ กลับจากโรงเรียนก็หาข้าวหาปลากินเอง บางทีก็ทำข้าวผัดกิน ไม่ต้องให้ยายหาให้ แต่หลานจะติดการ์ตูนกับเกมส์ หนูก็บอกแม่ว่าปล่อย ๆ หลานบ้างเถอะ หลานเล่นอยู่บ้านน่ะดีแล้ว ดีกว่าให้หลานไปเที่ยวเกเรกับเพื่อน ดีไม่ดีจะติดยาเอาง่าย ๆ วันเสาร์พี่ฮัวจะส่งหนูกลับดอย เราจะไปปลูกต้นสาละที่วัดกันค่ะ ก่อนกลับบ้านหนูแวะซื้อต้นสาละที่วัดพระนอน ฯ จ.สิงห์บุรี 7 ต้น ต้นสาละ เป็นต้นไม้ที่สำคัญของศาสนาพุทธค่ะ พระพุทธเจ้าประสูติใต้ต้นสาละไงคะ หนูเพิ่งเคยเห็นต้นสาละตอนที่ไปทำบุญ 9 วัด แถว จ.สิงห์บุรีเมื่อหลายเดือนก่อน หนูคิดว่าสมัยนี้คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยรู้จักต้นสาละกันแล้ว ขนาดหนูโตป่านนี้แล้วก็เพิ่งจะรูจักต้นสาละ ส่วนใหญ่จะรู้จักแต่ต้นโพธิ์ ดังนั้น ถ้ามีโอกาสหนูก็จะหาไปปลูกไว้ตามวัดค่ะ พ่อคะ พี่ฮัว ลูกสาวพ่อเก่งและขยันมากเลยค่ะ พี่ฮัวพาหนูเดินดูสวน ดูนา หนูเดินเสียเหนื่อยเลยค่ะ เดินไปหนูก็ถามโน่น ถามนี่ พี่ฮัวก็อธิบายให้หนูฟัง หนูสังเกตุเห็นใต้ต้นพริกกับมะเขือเทศมีหลุมเล็ก ๆ ตอนแรกหนูคิดว่าเป็นรูของจิ้งหรีด แต่พี่ฮัวบอกว่าเป็นหลุมที่ทำขึ้นมาเอง แล้วก็หยอดปุ๋ย เพราะช่วงนี้ฝนตก ถ้าไม่ทำเป็นหลุมฝนจะชะปุ๋ยทิ้งหมด พี่ก็เลยใช้วิธีทำเป็นหลุม แล้วก็ปล่อยให้ปุ๋ยค่อย ๆ ซึมลงไปในดินกว่าจะหมดก็ใช้เวลาประมาณ 20 วัน ถ้าพ่นปุ๋ยทางใบ พืชจะได้กินปุ๋ยประมาณ 5 - 7 วัน ถ้าหว่าน ฝนก็จะชะไปหมด ดังนั้น วิธีให้ปุ๋ยในหลุมเป็นวิธีที่ดีที่สุดในฤดูนี้ค่ะ เดินไปเรื่อย ๆ ตามแปลงพริก ก็เจอคู่อริของหนูค่ะพ่อ อิเมโจไดไงคะ กำลังกินใบพริกกับผลพริกอย่างเอร็ดอร่อย ตัวกลมอ้วนพีเชียวค่ะ หนูเรียกพี่ฮัวมาดู พี่ฮัวก็เลยบอกว่าพรุ่งนี้คงต้องพ่นยาสังหาร ไม่งั้นพริกจะเหลือแต่ตอ พี่ฮัวบอกว่าคงต้องใส่ยายืดด้วย หนูก็งง.... ยายืดคืออะไรหนอ.... ? พี่ฮัวบอกว่าพริกก็เหมือนคน คนที่มีผมหยิก ก็ไปยืดให้ตรง ดังนั้น พริกที่งอ ๆ หงิก ๆ ก็พ่นยายืด สัก 1 - 2 วัน พริกก็จะยืดตัวตรง แปลกดีนะคะพ่อ หนูก็เพิ่งรู้ค่ะว่ามียาแบบนี้ด้วย ^^" พ่อคะ พ่อไม่ต้องห่วงพี่ฮัวแล้วนะคะ ถึงแม้พี่ฮัวจะเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ต้องทำมาหากินเลี้ยงตัวเองและลูกชายวัยรุ่นหนึ่งคน พี่ฮัวก็เอาตัวรอดได้ค่ะ เมื่อก่อนมีสามี ทำงานงก ๆ ๆ ได้เงินมาก็เป็นของคนอื่น ตอนนี้ทำได้เท่าไหร่ก็เป็นของตัวเอง ปีที่แล้วพี่ฮัวได้รถโฟร์วิล 1 คัน ได้บ้าน + โกดัง 1 หลัง ปีนี้พี่ฮัวก็เอารถไปเข้าไฟแนนท์ เอาเงินออกมาลงทุนประมาณสามแสน พี่ฮัวไม่อยากรับทุนจากนายทุนค่ะ ก็เลยลงทุนเอง พี่ฮัวบอกว่าต้องปลูกเยอะ ๆ เวลาของออกจะได้พอส่งแผง เพราะพี่ฮัวส่งแผงเอง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางค่ะ พี่ฮัวยังช่วยรับซื้อของชาวสวน บางทีพี่ฮัวก็ไปเหมาสวนเพื่อส่งแผงด้วย พริกของพี่ฮัวทั้งใหญ่และยาว แผงชอบมากพี่ฮัวก็เลยได้ราคาดีกว่าคนอื่น 2 บาท หนูดีใจนะคะพ่อ ปีนี้พี่ฮัวก็คงได้เงินหลายอยู่ค่ะ ถ้าได้เงินพี่ฮัวบอกว่าจะไปสร้างบ้านบนดอย ไปอยู่ใกล้ ๆ แม่แล้วปีหน้าพี่ฮัวจะปลูกที่บนดอย ส่วนที่อมก๋อยก็อาจจะลงทุนแล้วให้คนอื่นปลูกแล้วค่อยแบ่งกำไรกันค่ะ อ้อ.... หนูลืมเล่าให้พ่อฟังค่ะ เมื่อวานนี้พี่ซิงโทรมาถามแม่ว่าหนูทำโรงเพาะเห็ดยังไง เพราะพี่ซิงขี้นมาก่อนหน้าหนูแล้วก็ลงดอยไปก่อนหน้าหนู แม่บ่นว่าพี่ซิงจะทำโน่น นี่ นั่น ยุ่งยาก ต้องจ้างคนมาทำ ต้องทำดี ๆ ใหญ่ ๆ แหม.... เห็ดแค่ 200 ก้อนเอง หนูก็แค่อยากให้แม่ทดลองเพาะดูก่อน ถ้าได้ผลก็ค่อย ๆ ขยับขยาย แม่ก็เล่าให้พี่ซิงฟังว่าน้องทำของน้องเอง ทำง่าย ๆ ไม่เห็นยุ่งยากสักนิด ก็จะทำให้ยุ่งยากวุ่นวายทำไมเนาะพ่อเนาะ ทำ ๆ เล่น ๆ แบบหนูนี่ก็น่ารักดีนะพ่อนะ แม่มาดูแล้วแม่ก็ขำ ๆ เออ.... มันก็มั่ว ๆ ของมันไปได้ ^^" เอาเป็นว่าหนูทำโรงเพาะให้แม่เสร็จด้วยตัวเองก็แล้วกันนะพ่อนะ พี่ซิงก็บ่นกับแม่อีกว่าหนูทำอะไรก็เป็นง่ายไปหมด ก็นะ จะทำให้มันยุ่งยากทำไม เหนื่อยตายเลยนะพ่อนะ พ่อคะ ฉบับนี้แค่นี้ก่อนนะคะ ถ้ามีเวลาหนูจะเขียนมาคุยกับพ่อบ่อย ๆ นะคะ พ่อจะได้ไม่เหงา หนูรักพ่อค่ะ หนูหิ่ง ฯ ลูกหล้าของพ่อ
2 กรกฎาคม 2554 22:12 น. - comment id 124734
อะไรที่ใจรักก็มีความสุขและสนุกกับสิ่งที่เราได้ทำใช่ไหมจ๊ะหนูหิ่ง
3 กรกฎาคม 2554 18:27 น. - comment id 124746
สวัสดีเจ้า คุณกลั่นแก้ว : ^o^ หนูหิ่ง ฯ รักมากมายหลายอย่าง แต่ทำไม่ได้ดีสักกะอย่าง อิ ๆ ๆ ๆ แบบว้า.... รักสนุก มีความสุขไปวัน ๆ ทำ ๆ เล่น ๆ ก็เลยไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอ่ะค่ะ แม่บ่นว่าหนูหิ่ง ฯ ไม่ยอมโตสักที แหม.... หนูหิ่ง ฯ คิดว่าเป็นเด็กดีกว่าเป็นผู้ใหญ่นิ มีความสุขสม่ำเสมอเจ้า %11%