เห็นคนอื่นไปดูหิ่งห้อย ไอ้เราก็ได้แต่ทำหน้าละห้อย ไปตลาดน้ำอัมพวาก็หลายหนแล้วค่ะ แต่ไม่เคยไปนอนพัก และแล้ว สิ่งที่ปรารถนาก็เป็นจริง " คุณ เตรียมโปรแกรมหรือยังว่าไปอัมพวาแล้วจะไปไหนบ้าง ไปดูหิ่งห้อยกัน ลองปรึกษาพี่เล็กดูครับว่าไปพักที่ไหน " " เจ้......" แก้วฯก๊อปข้อความไปวางให้พี่อ่าน " 5 5 5 คุณกิ่งไปค้างที่อื่นได้เหรอ .." เจ้แซว " ได้สิๆๆ รีบตอบแทนเลย ก่อนที่จะไม่ได้ไปดูหิ่งห้อย" เช้าวันที่ 04 มิถุนายน 2554 แก้วฯยังต้องมานั่งทำงานถึงบ่ายโมง ขณะที่คุณกิ่งก็เตรียมตัวหาที่พัก และรอเวลามารับไปเที่ยว " คุณ....ผมหาไว้สองสามแห่ง ลองดูตามลิงค์นะครับ" หลังจากเปิดเข้าไปดู " บ้านนก" " ว้าวๆๆ คุณเอานี่แหละคะ เค้าจะเอาบ้านนกแก้ว หรือไม่ก็บ้านนกนางนวล สวยดีค่ะ" ปรากฏว่าคุณกิ่งโทรไปถามรายละเอียด เหลือเพียงหนึ่งห้อง ก็เลยต้องหากันใหม่ค่ะ สรุป แก้วฯเลือก บ้านสวน สายน้ำ พอเข้าไปดูบรรยากาศ และกิจกรรมที่เขาแนะนำแล้ว รู้สึกชอบ ดูร่มรื่น และสงบ ที่สำคัญอยู่ริมแม่น้ำ หนึ่งละ พอเข้าไปในบ้านสวน มีจักรยานให้ปั่นชมรอบๆสวนได้ค่ะ สอง อยู่ติดริมน้ำ จากการที่ดูภาพแล้ว วิวสวยมาก สาม มีตักบาตรเช้า สี่ นี่สำคัญ เขานำเสนอว่า มีลิ้นจี่ ( แต่ทำใจไว้แล้วว่า ลิ้นจี่คงหมดฤดูเขาแล้วอาจจะไม่มี ) ห้า มีเครื่องดื่ม กาแฟ โอวันติน อาหารเช้าให้ทานด้วยค่ะ หก สำคัญไม่ได้อยู่ใกล้ตลาดอัมพวา จึงคิดว่าต้องน่าอยู่ และเป็น ธรรมชาติแน่นอน เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯประมาณ บ่ายสองโมง หลังจากให้คุณกิ่ง ติดต่อ คุณสันติ ซึ่งเป็นเจ้าของได้แล้ว ก็โอนเงินไปมัดจำล่วงหน้า หนึ่งพันบาท ส่วนที่เหลือ ไปชำระที่นั่นค่ะ อ้อ ลืมบอกไปว่า ตอนคุณกิ่งโทรจอง เขาบอกหลังละ 1000 บ้านสองหลังติดกัน พอไปถึง เขาแนะนำว่า บ้านริมน้ำอีกหลังว่างพอดี แต่เพิ่มอีก สามร้อย ไม่ต้องคิดมากเลยค่ะ สองสีพี่น้องเลือกบ้านน้ำทันใด ส่วนคุณกิ่ง ก็ต้องหยวนๆ นอนบ้านหลังถัดไปในสวน แต่ก็อยู่บริเวณเดียวกัน หลังจากเอากระเป๋าเสื้อผ้าเก็บเรียบร้อย ก็ได้เวลาไปหาอะไรทาน เพราะท้องเริ่มร้องกระจองอแงแล้ว เจ้าของบ้านแนะนำ ร้านน้องอุ้ม ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก ห่างจาก อุทยาน ร.2 สามารถขับรถหรือเดินไปไม่ไกลเท่าไหร่มากนัก ช่วงเวลาที่เราไปถึงโชคดีได้ที่นั่งที่ยื่นออกไปในแม่น้ำ รับลมเย็นๆ อาหารที่นี่อร่อย ถูกปาก แกงส้มหน่อไม้ดองใส่ปลาดุกทะเลอันนี้เคยทานมาหลายที่ รู้สึกอาหารร้านนี้รสกลมกล่อมดีค่ะ ไม่ผิดหวังค่ะ ทั้งกุ้งอบวุ้นเส้น ปลากระพงทอดน้ำปลา ปลาดุกทะเลผัดฉ่า หลังจากท้องอิ่ม เราก็ไปวนกลันไปหาที่จอดรถเพื่อไปชมหิ่งห้อยกัน ขับไปสักพัก ก็มีคนมาโบกให้จอดหน้าบ้านใครก็ไม่ทราบ " จอดได้เหรอ หน้าบ้านคนอื่นเค้านะ" "จอดได้ครับ บ้านนี้ เขาไม่สบาย เขาไม่ออกมาหรอก อีกนานนนถึงจะหาย" .......? พอหาที่จอดรถได้ ก็ซื้อตั๋วนั่งเรือชมหิ่งห้อย คนละ 60 บาท เรือออกเที่ยวเวลา หนึ่งทุ่มตรง ยังมีเวลาอีกนิดหน่อย ก็เลยไปถ่ายภาพเล่นๆกัน หลังจากได้เวลา ก็ลงเรือเพื่อชมหิ่งห้อย สวมเสื้อชูชีพซะก่อน ว่ายน้ำไม่เก่ง กลัวสิ้นชีพค่ะ อิ ว้าวววว เกิดมาไม่เคยเห็น หิ่งห้อยเหมือนในหนังและเหมือนที่เขาเล่ากันเลย แสงกระพริบๆๆ แก้วฯไม่ทราบว่า คนอื่นที่เคยไปชมมา จะเห็นเยอะแค่ไหน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ไปชม เยอะมากๆ แสงของหิ่งห้อยตัวน้อยๆ พอรวมกัน กระพริบๆ ช่วงสวยเหลือเกิน เรือพาไปชมถึงครึ่งทาง สักพัก ก็มีโทรศัพท์ถึงคุณกิ่ง " คุณ ..เรือกำลังจะออกแล้วนะ คุณมาถึงหรือยัง" เจ้าของเรือโทรหา " ผมอยู่บนเรือแล้วครับ " เหวอ...แล้วเมื่อกี้ ที่เขาให้เราลงกันมา เขาลืมแล้วเหรอ มาถึงครึ่งทางแล้วครับพี่ อิ หลังจากชมหิ่งห้อยเสร็จ เราก็เดินชมตลาดต่อ " คุณ เค้าอยากกินไอสครีมอะ หวานๆ" แวะเข้าไปร้านไอสครีม โอ้ เยอะแยะไปหมดเลยค่ะ สุดท้ายเลือกรสอัญชัญมะพร้าวอ่อน คุณกิ่งบอกสอง คือเหมือนกัน ส่วนเจ้เลือกมะยมพริกเกลือ เอามาชิมๆๆ ไรหว่า..แปลกๆเนาะเจ้ เหนียวๆ มีพริกเกลือโรยอยู่ด้วย หลังจากชมตลาดน้ำกันพอสมควรก็เดินทางกลับที่พัก อาบน้ำ อาบท่า และก็ออกมานั่งจิบไมโล กาแฟกันตรงที่ระเบียงริมน้ำ อยากจะบอกว่า อากาศดีมากๆเลยค่ะ หากเพื่อนๆกำลังจะ หรือจะไป แนะนำที่นี่เลยนะคะ เจ้าของบ้านเป็นกันเอง และเครื่องดื่ม น้ำแข็ง จาน ช้อน เขามีวางให้ตรงระเบียง ช่วยเหลือตนเอง ทานเสร็จจะวางไว้ หรือจะล้างให้ก็ได้ค่ะ เราสามคนออกมานั่งคุยกัน แก้วฯกับคุณกิ่ง นั่งต่อโคลงกันคนละสามบท ส่วนเจ้ก็นั่งอ่านหนังสือ แบบชิวๆ อืม....ชีวิตนี้คงไม่มีอะไรที่ดีมากไปกว่านี้แล้วละค่ะ มีคุณพ่อ คุณแม่ผู้ให้กำเหนิดที่แสนประเสริฐ มีพี่ๆ ที่คอยให้กำลังใจน้องเสมอๆ มีเพื่อนที่เข้าใจ ถึงแม้บางครั้งจะแง้งๆใส่กันเหมือนพุดเดิ้ล อิ มีคนที่รักเรา ( หรือเปล่าหว่า อิ )อยู่ข้างๆ เขียนประโยคนี้ออกไป มะรู้จะมีคนนั่งหัวเราะหรือเปล่าน๊า ..อิ ห้าทุ่ม เริ่มง่วงนอน บอกบายบายคุณกิ่ง ต่างคนต่างแยกย้ายไปนอน เจ้หิวน้ำ เอาน้ำแข็งใส่แก้วเอาไว้กินให้ห้อง " คุณนายยย จะนอนข้างในใช่มั้ย ด้านข้างหัวเตียง " " แม่นแล่ววว ถูกต้องเด้อค่ะ " ขี้กลัว ยอมรับค่ะ ว่าขี้กลัว อิ แปรงฟัน ปะแป้ง ทิ้งตัวลงบนเตียง หันไปมอง เจ้หลับไปแล้ว เหวอออ...เค้ายังไม่หลับเลย หลับก่อนได้ยังไงว้า... กลอกตา ขึ้นๆ ลงๆ ซ้ายๆ ขวาๆ สักพักก็ผลอยหลับด้วยความเพลีย " กร๊องงงง " ตกใจตื่นทันที เสียงดังอยู่ข้างๆหู ใจเต้นระรัว เหมือนกลอง แต่ไม่เป็นจังหวะ เมื่อกี้เสียงนั้น......เสียงอะไร ...ข้างหู .. พ่อเจ้า แม่เจ้า ช่วยลูกด้วย...อย่ามาหลอกหลอน มาแกล้งลูกเลย ลูกมาขออาศัยพักผ่อนเพียงคืนเดียวก็จะลาแล้วเจ้าค่ะ เอื้อมมือไปเปิดไฟที่หัวเตียง มองรอบๆ ก็ไม่มีอะไร นอกจากความเงียบ กับเสียงหายใจของเจ้ ยังไม่ทันจะปิดไฟ ทันใดนั้น " กร๊องงง " เอ้อ......เสียงน้ำแข็งละลายหล่นลงก้นแก้ว 555555 จะบร้าตายยย ...นอนต่อ... นาฬิกาปลุกตีห้าครึ่ง เตรียมตัวเพื่อไปตักบาตรเช้า แก้วฯให้ทางบ้านพักจัดเตรียมอาหารให้ เขาคิดชุดละ 50 บาท มีครบค่ะ ข้าว น้ำ ขนม แกง หลังจากตักบาตร เรียบร้อย ก็มาทานข้าวต้มที่เขาจัดเตรียมไว้ให้ ก็ต่างคนพักผ่อนตามอัธยาศัย แก้วฯเลยไปปั่นจักยานชมสวนกัน แล้วกลับมาเตรียมตัว อาบน้ำ เช๊คเอ๊า เพื่อเดินทางไปทำบุญที่วัดบางแคน้อย และวัดทุ่งเศรษฐีกันต่อ เราจบทริปนี้ด้วยทานอาหารร้านครัวแม่อุไร ร้านนี้เสี่ยงไปกันเอง ( ไม่อร่อยค่ะ สั่งตั้งเยอะ อิ) ท้ายนี้ ขอนำภาพมาให้ชมกันนะคะ ตามคำแนะนำของเฌอมาลย์ ขอภาพใหญ่ขึ้น หากเข้ามาเปิดดูภาพได้ช้า ขอร้องงง อย่าเพ่อเปลี่ยนหน้านะคะ สุดท้ายคนที่ลืมไม่ได้ ที่จะกล่าวขอบคุณ คือ คุณกิ่ง ขอบคุณมากค่ะที่พาไปเที่ยว ทำบุญ กลับมาด้วยพร้อมพลังที่จะทำงานในวันนี้ บรรยากาศบ้านสวน สายน้ำ ริมระเบียง โปร่งโล่ง ให้นั่งเล่นกัน ดอกไม้สวยๆ บริเวณสวน แวะทานอาหารกลางวันที่ร้านน้องอุ้ม เมนูที่สั่งมา อร่อยทุกอย่างค่ะ อิ่มหนำสำราญท้องแล้ว ก็เดินทางไปตลาดน้ำอัมพวาค่ะ หลังจากนั่งเรือชมหิ่งห้อยแล้ว ก็มานั่งจิบเครื่องดื่มที่ระเบียง คุยกัน เห็นคนสวมแว่นมั้ยคะ นั่นแหละค่ะ กิ่งโศก อิ ตักบาตรตอนเช้า 06.00-07.00 ทานข้าวต้มมื้อเช้ากัน ปั่นจักรยานเล่น ชมสวนกันค่ะ หลังจากนั้น เดินทางไปมำบุญที่วัดบางแคน้อย และวัดทุ่งเศรษฐี ผีเสื้อบินเข้าไปในรถ เชิญออกก็ไม่ยอมออกไปค่ะ ส่วนที่เหลือ แหม....เธอนอนสบายจังเลยนะ ร้อนมั้ยนั่น อิ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ แก้วประภัสสร 06/06/2544
6 มิถุนายน 2554 13:23 น. - comment id 124209
นั่งยัน..เรย..เรื่องร้านอาหาร..หุหุ บรรยากาศ...น่าอยู่หลายๆวันมากเลยอะ
6 มิถุนายน 2554 13:31 น. - comment id 124210
ดีจร้า...อาคุงแบม... ห้องคุงแบม อ่ะ...ผีน้ำแข็ง... อีกห้องอ่ะ...ผีสาวเจ้าเสน่ห์...เรยยย.... ท่านปู่...จับถ่วงน้ำ...เรยยย...อ่ะจ๊าก... บรรยากาศ...น่าไปพักผ่อนมั่ง... เสียดาย.... หิ่งห้อยที่บ้านไม่น่าเยอะ...เรยยย.... ไปแระๆๆ...ทำงานๆๆ.... ปล. คห.1 อ่ะ...ประชุมอยู่นี่นา... โทรจิตเม้นท์ได้ด้วย...เจ้ย...
6 มิถุนายน 2554 15:58 น. - comment id 124211
อ่านเพลินเลย อิอิ แอบยิ้มประโยคนี้อ่า มีคนที่รักเรา ( หรือเปล่าหว่า อิ )อยู่ข้างๆ ปล.ค.ห ๒ ว่าแต่เขาอินเหนาเปงเองป่ะเนี่ย....ทำงานๆ ฮา
6 มิถุนายน 2554 16:40 น. - comment id 124213
น่าไปเที่ยวมากค่ะ
6 มิถุนายน 2554 16:48 น. - comment id 124214
แหมอิจฉาแฮะ บรรยากาศน่าไปด้วย ของกินน่าอร่อย สรุปอิจฉา แล้วคนเขียนเล่าซะ อยากไป
6 มิถุนายน 2554 19:28 น. - comment id 124218
เลยนิดหนึ่งถึงบางคนฑีแล้ว วิถีแนวชีวิตมิผิดหวัง ตลาดน้ำรำไรให้พลัง จะรักชังอย่างไรใจเดียวกัน ส่ำสัตว์สงัดน้ำนิ่งดำริ ผิดถูกมิประวิงสิ่งใฝ่ฝัน ธรรมชาติขาดเกินเกินจำนรรจ์ ชีวิตสั้นติดใด...ไกลตามน้ำ .
6 มิถุนายน 2554 22:07 น. - comment id 124219
ติดตามมาอย่างน้ำลายหก .. (เห็นกับข้าวของหลวงตาอ้ะ...) สงสัยแบมไปพักริมคลองผีหลอก แถวๆ นั้น มีคลองชื่อ คลองผีหลอก และคลองหมาหอน..(เดี๋ยวนี้เปลี่ยนเป็นคลองสุนัขหอนแระ..) เรื่องจริงนะ ไม่หลอก..คนแก่ชอบเล่าว่า เวลาพายเรือไปนัดตอนเช้ามืด... จะเจอผี ที่คลองผีหลอก... บ้านสวนของแซม หิ่งห้อยเยอะมากๆ ตอนกลางคืน แซมไปเดินในสวน คิดว่าตัวเองขึ้นสวรรค์ซะแล้ว เพราะมีดาว วับๆ แวมๆ รอบตัวเลยค่ะ... วิธีจับมันมาเล่น ค่อยๆ จับ(เบาๆ มือล่ะ เดี๋ยวแบนแต๊ดแต๋ซะก่อน..) ใส่ขวด แล้วเอาผ้าขาวบาง หรือผ้าก๊อซพันแผลปิดไว้.. ถ้าไม่มีอากาศ หิ่งห้อยไม่ทำแสงจ้ะ.. (ตายซะก่อนอ้ะดิ่..) แซมไม่ต้องจับหรอก..ดึกๆ มันก็บินมาหาถึงหลังมุ้งเลย... ถ้างัวเงียๆ จะนึกว่าเป็นผีกระสือ... ดีใจด้วยนะคะ ที่ได้ไปแถวๆ บ้านแซม.. แซมกลับมาคราวหน้า เราต้องไปถล่มบ้านสวนซะแล้ว... รักนะ จุ๊บๆๆๆ
6 มิถุนายน 2554 22:57 น. - comment id 124220
สวัสดีจ๊ะ...หนูแก้วประภัสสร และ คุณกิ่งโศก จั่วหัวทั้งสองคนพร้อมกันเลยนะคะ พี่มัสลินจำสองคนได้ นั่นแน่..ไปเที่ยวอัมพวา ดูหิ่งห้อยด้วย น่ารักจังเลยนะคะ พูดถึงหิ่งห้อย....พี่มัสลินมีเรื่องเล่าตอนเด็กๆนะคะ...... ตอนพี่มัสลินอายุประมาณเจ็ดขวบ ช่วงปิดเทอมใหญ่ ได้มีโอกาสกลับไปต่างจังหวัด ที่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เมืองที่มีปลาโลมาสีชมพู ช่วงนั้นบ้านเรือนยังเต็มไปด้วยป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้ใหญ่ๆเต็มไปหมด...และมีหิ่งห้อย พี่มัสลินจำได้ว่า ได้วิ่งตามหิ่งห้อยกลุ่มหนึ่งไปท่ามกลางความมืดของกลางคืน ...วิ่งไปเรื่อยๆ พยายามวิ่งไล่จับมันอย่างสนุกสนาน จับมาแล้วก็เอาใส่อุ้งมือให้มันกระพริบแสง วิบ วับ วิบ วับ มองดูด้วยความประหลาดใจ และให้คำตอบตัวเองไม่ได้ ว่าทำไมหิ่งห้อยถึงมีแสง....ตอนนั้นด้วยความเป็นเด็ก.. เมื่อต้องเดินผ่านสวนมะพร้าวเพื่อกลับบ้านคนเดียว ท่ามกลางความมืด ( ไปวิ่งเล่นบ้านเพื่อนมา ) และ กำลังตื่นตาตื่นใจกับแสงของหิ่งห้อย แม้ว่าจะคุ้นชิน กับเส้นทางเหล่านี้ แต่.......ความเพลิดเพลินที่ไล่จับหิ่งห้อย ทำให้ขาค่อยๆก้าวขึ้นไปบนเนินสูงๆ สูงไป... สูงไป สูงขึ้นไปอีก พอก้มมองเห็นลางๆว่า นี่หลุมฝังศพนี่นา เป็นสุสานของญาติท่านหนึ่ง...พี่มัสลินก้าวขึ้นไปยืน บนหลุมฝังศพ ( ฮวงซุ้ย ) ขึ้นมาตอนไหนไม่รู้ตัวเลย เพราะความเป็นเด็กวิ่งตามหิ่งห้อยอย่างเพลิดเพลิน ตอนนี้จะลงยังไง ซ้ายหรือขวาดี.......ไปทางไหนดี.... ไปทางไหนก็มืดไปหมด...หิ่งห้อยยังกระพริบแสงอยู่ตลอด แต่ขาของพี่มัสลินมันไม่ทำหน้าที่เลยค่ะ......มันยืนนิ่งไม่ไหวติง ......จำได้ว่า ปาก เป็นอวัยวะแรกที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุด เพราะมันสามารถส่งเสียงเรียกให้คนข้างบ้านมาเอาพี่มัสลินลงไปได้ คงไม่ต้องบอกว่าร้องได้ดังขนาดไหน .......???? ไม่งั้นคงไม่มีคนแห่กันมาถึงสิบกว่าคนได้ในเวลาอันรวดเร็ว...ฮ่า.... อย่างนี้หรือเปล่านะ ที่เค้าเรียกกันว่า แ... ห...ก.. ป.. า.. ก ( ขอโทษค่ะ ที่ใช้คำไม่สุภาพ ) มีความสุข และอิ่มบุญกันเยอะๆนะคะสาธุ
7 มิถุนายน 2554 01:49 น. - comment id 124222
ฮะแฮ่ม... เจ้ไม่รู้อะไร นี่เป็นกลยุทธ์ของปู่ หลอก เอ้ย บอกให้มาดูหิ่งห้อย เจ้ๆๆ งานนี้ยอมไม่ได้ บอกปู่... "ส่งขันหมากมาไวไว" จุ๊กกรู๊ววววววววว
7 มิถุนายน 2554 01:50 น. - comment id 124223
10
7 มิถุนายน 2554 11:09 น. - comment id 124225
"จอดได้ครับ บ้านนี้ เขาไม่สบาย เขาไม่ออกมาหรอก อีกนานนนถึงจะหาย" หมายถึงรถเหรอ...ที่ว่าจอดนานแล้วจะหายน่ะ น้องแบม อิอิ
7 มิถุนายน 2554 12:33 น. - comment id 124226
1 คุณกิ่งโศก เสียดายนะคะปู่ อยากอยู่หลายๆวัน อากาศสดชื่นดีจริงๆ บรรยากาศรอบๆๆสวน เหมือนกับว่าอยู่บ้านเราเอง หากมีโอกาสจะไปอีกแน่นอนค่ะ ขอบคุณนะคะที่มอบสิ่งดีๆให้กันเสมอๆ
7 มิถุนายน 2554 12:56 น. - comment id 124227
2 อาคุงกีรฯ แน๊....มีให้จับถ่วงน้ำด้วย จะมาหลอกนายเป็นคนแรกเลย ที่นั่นยังมองเห็นความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีกิ้งกือเดินคุยกันเยอะแยะไปหมดเลยค่ะ ตามล่องสวนก็มี ปูตัวเล็กๆ เดินเล่น ผลุบๆ โผล่ลงรู เวลาที่ไปถึงประมาณ บ่ายสามกว่าๆ น้ำยังไม่ขึ้น พอตกตอนเย็น น้ำค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตื่นเช้ามา โห...สวยมากเพื่อนเอ๋ยยย ไปกันๆๆ ไปมะ อิ
7 มิถุนายน 2554 13:04 น. - comment id 124228
3 อาคุงเพื่อนฝน ปล. คห 2 ออกมาถามว่า ปู่จะเม้นมั้ย รออยู่นะเนี่ย ไม่เม้นจะเม้น นับหนึ่งถึงสิบ เค้ายังไม่ได้อ้าปากถามเลยอะ ตาคุงกีรฯ นับไปถึง ห้าแล้ว . อยากให้เพื่อนๆไปเที่ยวกันค่ะ ช่วงเช้าสดชื่นมากๆ ชมดอกไม้ในสวน ออกกำลังกาย ตักบาตรเช้า หลวงพ่อดูท่านอายุมากแล้วนะฝน แต่ท่านยังแข็งแรงอยู่ พายเรือมารูปคนเดียว สวดมนต์ให้พร อิ่มใจ อิ่มบุญ แถมอิ่มท้องด้วยนิ
7 มิถุนายน 2554 13:11 น. - comment id 124229
4 คุณอนงค์นาง สวัสดีค่ะพี่นางขรา.. หากได้กลับมาบ้านอีก อย่าลืมหาเวลาไปนะคะ ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ อีกอย่างการเดินทางก็สะดวกสบาย ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก แต่ว่า หากไปพักบ้านสวน เหมือนที่น้องๆไปกัน คงต้องมีรถเข้าไป เพราะลึกพอสมควร ที่นั่น มีสวนพืชผัก ผลไม้เยอะแยะไปหมด สำคัญมีวัดสองร้อยกว่าวัด อันนี้ได้รับคำบอกเล่าจากท่านอาจารย์ไกรนุช ซึ่งท่านเป็นคนทำหนังสือและสำรวจวัด ทั้งหมดของจังหวัดสมุทรสงคราม แต่เห็นว่าตกสำรวจอยู่วัดหนึ่ง ซึ่งไม่ได้กล่าวในหนังสือ คือวัดบางคนฑีใน หากแบมจำไม่ผิดค่ะ
7 มิถุนายน 2554 13:24 น. - comment id 124230
5 คุณร้อยฝัน เอาไว้คราวหน้า หากทราบเวลาล่วงหน้า ว่าท่านชายจะว่างวันไหน จะโทรศัพท์หา รับสายด้วยน๊า อิ คือปกติ จะไม่ค่อยได้โทรหาเพื่อนๆหรอกคะพี่อ้อย หนึ่งละ พูดน้อย คุยไม่เก่ง สองละ กลัวไปรบกวนเวลา อย่างเพื่อนๆนอกบ้าน ก็รู้กัน เราคบกันด้วยความเข้าใจ เรื่องส่วนตัว หากเพื่อนมีปัญหา ปรึกษากันได้ เที่ยว หรือนัด ก็กริ๊งงง ไป หรือไม่ไป จบ พูดถึงอัมพวาแล้ว ไปกี่ครั้งๆ ก็ยังรู้สึกชอบกว่าที่อื่นๆ ที่เคยไปมาค่ะ ชาวบ้านเขารักษาธรรมชาติและปรับเปลี่ยน จากสวนมาเป็นโฮมสเตย์ ทำให้มีรายได้ เสียดายนะ ที่ดินแพง ไม่งั้นจะขอไว้สักไร่ อิ ชอบมากๆๆ
7 มิถุนายน 2554 13:37 น. - comment id 124231
6 คุณลุง . หนูเคยไปทำบุญสังฆทานที่วัดบางคนฑีมาแล้วค่ะ เคยนำมาลงเรื่องสั้นด้วยน๊า " ท่องเที่ยวธรรมกับ รศ.ไกรนุช" ริมสองฝั่งยังคงดำรงค์รักษ์ งามยิ่งนักน้ำใจไทยทั้งผอง ได้อิ่มหนำสำราญอาหารกอง ผลไม้ต้องตามใจใครชอบทาน แต่มองเห็นชลทีที่ไหลเรื่อย คิดเรื่อยเปื่อยคนเราเคล้าสุสาน ไหลตามน้ำตามใจคงไม่นาน กิเลสบานไม่หยุดฉุดเวลา แหนะ...สัจธรรมซะยัยแก้วฯ
7 มิถุนายน 2554 13:54 น. - comment id 124232
7 คุณแซม ไม่ทราบอะว่า บ้านสวนที่ไปพักนะ อยู่ริมคลองอะไร แต่ว่า เป็นทางโค้งๆน้ำ มีต้นลำพู สองฝั่งด้วยนะคะ เวลาน้ำกระเพื่อมกระทบฝั่ง ระยิบระยับ ราวกับเงินยวง แหนะ..บรรยายซะ เห็นภาพความสวยแล้วชิมะ ตะเอง ชอบที่นั่งเล่น พักผ่อนมีหมอนอิง แบบทางเหนือ ตามที่ภาพนะคะ ไม่รู้เขาเรียกอะไร ส่วนอาหาร ขนม หากต้องการนอกเหนือจากที่ ทางบ้านสวนจัดไว้ให้ ก็สามารถเปิดหยิบเอง และจ่ายเงินเอง นี่คือสิ่งที่แก้วฯชอบ สร้างนิสัยให้คนมาพัก ซื่อสัตย์ต่อคนเอง และต่อผู้อื่น ส่วนหิ่งห้อยนะแซม ก่อนไป แบมก็เข้าไปศึกษาหารายละเอียด ในเวบต่างพอสมควร มีเวบหนึ่งบอกว่า ระวังถูกแหกตา อันนี้ว่าตามเขา เขาบอกว่า เวลากลางวันไปดู เหมือนกับเอา หลอดไฟเล็กมาแขวนไว้ ส่วนลึกๆ ก็กลัวเป็นเช่นนั้น ขณะนั่งอยู่บนเรือ แบมก็กระซิบกับคุณกิ่งว่า ทำไมอยู่เป็นกลุ่มๆ เยอะแยะ และมีเป็นบางต้น หรือว่า อย่างที่เขาว่ากัน แต่พอเรือ พาไปชมเรื่อย จอดชม ก็มีหิ่งห้อยตัวหนึ่ง บินมาทางเรือที่เรานั่ง แบมร้องอย่างดีใจ อยากให้เขาบินเข้ามาในเรือ แต่ไม่เลย บินไปไหนก็ไม่รู้ คราวนี้ ในสิ่งที่เราคิดไว้ล่วงหน้าว่าไม่ใช่ ก็รู้สึกว่า เราคิดไปก่อน ทั้งๆที่ไม่ได้เห็นกับตาตนเอง ของจริง หิ่งห้อยจริงๆค่ะ เที่ยวครั้งนี้ คุ้มมากๆ ได้ทั้งพักผ่อน เห็นกิ่งกือ สองตัว เดินๆๆมาด้วยกัน สักพัก ต่างก็แยกย้าย เดินไปคนละทาง เห็นผีเสื้อ ที่หลงบินเข้ามาในรถเรา เปิดหน้าต่างให้ออกก็ไม่ออก บินๆๆ จับมือ บินจับโน่น จับนี่บนรถ ทำให้เรามีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ กับเพื่อนเดินทางที่ไม่ได้เชิ้อเชิญ สุดท้ายผีเสื้อตัวนั้น ยังหาไม่เจอ สงสัยจะแอ้งแม้งอยู่ในรถแล้วละแซมจ๋า อืม...เล่าซะยาวเรยย อิ
7 มิถุนายน 2554 14:09 น. - comment id 124233
8 คุณมัสลิน ขอบคุณที่มัสก่อนอื่นเลยค่ะที่เล่าเรื่องสนุกให้น้องๆฟังกัน หนูเล่ามั่งๆ ตอนเด็กๆ ขออนุญาตแม่ไปหาเห็ด หาของป่ากับคุณป้าข้างบ้าน ต้องเดินเข้าป่า รกๆ ก้มๆ เงยๆ เพราะหากไม่ก้ม มันจะมีหนาม มีกิ่งไม้เกี่ยวแขนขา ป้าพาหาเห็ดระโงก ดอกสีเหลืองๆ ลื่นๆ เห็ดชนิดนี้ อร่อยนะคะ หาทานได้ยาก ครานี้ ป้าพาเดินเข้าป่าแหง่หนึ่ง ซึ่งหนูก็รู้แต่ว่าเป็นป่า ตามประสาเด็ก เดินๆไป ป้าก็ดึงขิงป่า และบอกให้หนูจำ หากเจอแบบนี้เก็บได้เลย แง่งเขาเหมือนขิงบ้านทุกชนิด แต่หัวจิ๊ดเดียว กลิ่นหอมๆ พอเดินสักพัก " ผลุบ" ขาหนูข้างหนึ่งตกลงไปในหลุม ดึงไม่ขึ้น ทราบแต่ว่ามันมีน้ำอยู่ในน้ำ ไม่ใช่ดินแน่นอน ป้าเดินไปห่างพอสมควร แหกปาก " อันนี้จริงๆค่ะ 5 5 5 ) " แงๆๆ ป้า ...ช่วยหนูด้วยยยย แงๆๆ " ป้ารีบเดินมา แล้วดึงขาขึ้น " ป้า..หลุมอะไรคะ หนูกลัว กลับบ้านกันเถอะ" ป้าหัวเราะ " ไม่ต้องกลัวหรอกลูก อย่าเอ็ดไปนะ มันคือหลุมเหล้าเถื่อน ชาวบ้านเขาเอามาฝังไว้ที่นี่ " " ฮ้า..ป้า..แล้วเราอยู่ไหนคะตอนนี้ " ป้าบอกว่า " ป่าช้าลูก." .% 19% สรุปพี่มัสขรา...หนูไม่ได้เล่าเรื่องหิ่งห้อยเลยค่ะ เปลี่ยนมาเป็น เหล้าเถื่อน กับป่าช้าแทน ขอบคุณพี่มัสมากค่ะ คิดถึงนะคะ
7 มิถุนายน 2554 14:16 น. - comment id 124234
20
7 มิถุนายน 2554 15:12 น. - comment id 124235
9 คุงน้องยา พี่เต้ ใครบอกละน้องยา ปู่นะ ปั่นจักรยาน พาไปชมสวนนอกบ้าน เห็นปู่ มองซ้าย แลขวา สงสัยในใจคงคิดว่า ตรูจะทิ้งมังไว้ที่นี่ดีมั้ย พอไปสักพัก ขึ้นสะพานสูงๆ " คุณ..ไหวมั้ยๆ พาขึ้นไหวมั้ย" " ได้ๆ ขึ้นได้แน่นอน" สักพัก อืดดดด หยุดดดด " ลงก่อนครับ " ไปเจอนกเยอะแยะเลย แต่จำชื่อไม่ได้ ตัสีดำๆนะ ตรงล่องสวน ตอนเย็นที่ไปถึงน้ำยังไม่ขึ้น ก็จะมองเห็น จอก แหน .. พอตื่นเข้ามา น้ำขึ้นอะ " คุณ ๆๆ ปลาๆ " ที่ไหนได้ มันก็คือจอก แหน ต้นเดิมนั่นแหละค่ะ มันลอยขึ้นมาชูคอ แหม....หลอกคนแกร่อย่างเราได้ นะ แหน นะ
7 มิถุนายน 2554 15:15 น. - comment id 124236
10 + 20 แหนะ แฮ๊บคนเดียวเลยน๊า ไอ้เราก็ก้มหน้า ก้มตาพิมพ์ๆ มะได้มองไข่ ปู่ขรา...น้องยาแฮ๊บไข่ไปแระ
7 มิถุนายน 2554 15:16 น. - comment id 124237
อ่านจนจบครบถ้วนกระบวนการ... เล่าซ้า..คนอ่านเคลิ้มประหนึ่งได้ไปเที่ยวด้วยอ่ะ เยี่ยมจัง.. พิมรู้แระว่าทำไมคุณแบมจึงมีฟามสุขกับชีวิต (สู่รู้ อิอิ) ทริปแบบนี้พิมเคยตั้งใจไปเที่ยวสักครั้ง แต่ยังไม่มีโอกาสค่ะ ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟัง
7 มิถุนายน 2554 16:07 น. - comment id 124238
11 คุณกุ้งหนามแดง ด้วยความสัตย์จริง ของอดีตเนตรนารี เค้าถามคุณกิ่งว่า " คุณ..ชวนพี่กุ้งหนามแดงไปด้วยดีมั้ย เพราะรู้สึกบ้านพี่เขาจะอยู่ทางที่คุณมา" คุณกิ่งบอกว่า " ตามใจคุณครับ" แต่สุดท้ายแบมก็มาชั่งใจ เอาไว้เราไปกันเอง ค่อยชวนเพื่อนๆในบ้านกลอนดีกว่า เพราะเจ้ไปด้วย ก็เลยไม่ได้ยกหูไปหา นั่นคือความตั้งใจจริงๆค่ะ แต่ก็กลัวว่า ปลายทางจะปล่อยให้สายดังอย่างเดียว กลัวๆ อิ สนุกมากจริงๆ ยิ่งตอนปั่นจักรยานลงเนิน สะพานสูงๆ ทำให้นึกถึงตอนที่ชาวเขา เขานั่งรถไม้ทำเอง แล้วปล่อยให้วิ่งลงมา แบบนั้นแหละค่ะ มีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่ทำให้หวดาเสียงพอสมควร คือคนส่องทางตรงหัวเรือ เจอสวะ พวกต้นผักตบ แต่ไม่ได้กระพริบไฟฉาย บอกคนขับ ปรากฏว่า มันไปติดอยู่ที่ใบพัดเรือ เรือหยุด วิ่งต่อไปไม่ได้ ซึ่งตอนนั้นเรอแล่นมาถึงตรงกลางแม่น้ำกว้างๆ งานเข้า... พอดีเรืออีกลำมาพบ ก็เลยช่วยๆ ดึงเอาผักตบออก ดึงๆๆ เรือโคลงเคลง เค้านั่งนิ่งเลย กลัวๆ แต่แล้วก็ไปเที่ยวต่อและกลับมาด้วยความปลอดภัยค่ะ ฮี่ๆ เล่าซะยาวเรยย
7 มิถุนายน 2554 16:17 น. - comment id 124239
23 คุณน้ำตาลหวาน เที่ยวครั้งนี้ ถือว่าได้พักผ่อนกันจริงๆ ปกติแล้วไปเช้า เย็นกลับ ก็ดีไปแบบ นี่ก็ดีไปอีกแบบค่ะ ได้นอนพักหนึ่งคืน ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศค่ะ แต่ก็กลัวคนไปด้วย ไม่สนุกอยู่เหมือนกัน เพราะเค้าคุยไม่เก่ง เอาเป็นว่า คุยเป็น แต่คุยไม่สนุกอะนะ ก็กลับมาถามคุณกิ่งว่า " คุณ..ถามจริงๆเถอะ ไปเที่ยวกับเค้าทุกครั้ง คุณเหงามั้ย หรือว่าสนุกมั้ย อะไรทำนองนี้" เขาตอบกลับมาว่า " คุณเป็นแบบนี้นะดีแล้ว" ไว้หาโอกาสไปให้ได้นะคะ
7 มิถุนายน 2554 16:45 น. - comment id 124242
มาตามเที่ยวอัมพวากับ คุณกิ่ง-แก้ว แบบโฮมสเตย์ ได้บรรยากาศดีมากครับ เมื่อสองปีก่อนเคยหมายตาที่พักริมแม่น้ำ มีต้นลำพูใหญ่ในบริเวณ แต่พอถึงคราวจะไปจอง ถูกพวก อบต ตัดหน้าไปก่อน เลยเปลี่ยนโปรแกรม ไปพักฝั่งชายเลน พาคณะทำกิจกรรมชายเลน ส่วนหิ่งห้อยกลายเป็นแบบขบวนรถขับไปดูที่บ้านหิ่งห้อยแทน แต่ยังได้ขึ้น-ล่องเรือใหญ่ชมแม่น้ำตามแผนเดิม สภาพสองฝั่งของแม่น้ำแม่กลองยังมีทิวทัศน์เดิมๆมากอยู่ ตลาดน้ำบางนกแขวกยังไม่พลุกพล่านเกินไป แต่เที่ยวตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาทางท่าเรือริมแม่น้ำก็สะดวกดี มีจุดหนึ่งบนเรือในแม่น้ำที่สามารถไหว้ได้เก้าวัดในคราวเดียว โดยหมุนตัวรอบทิศ อิอิ ขอบคุณที่นำภาพงามๆมาอวดด้วย
7 มิถุนายน 2554 18:06 น. - comment id 124243
เข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้สึกของคนเล่าตามเม้นอีกรอบ.... คนอะไรเล่าเก่งชะมัด...อ่านเพลินเลยอ่ะ ซึมซับได้ทั้งบรรยากาศและความสุขของคนเล่าได้เลยจริงๆนะ แบบนี้แม้จะออกตัวว่าคุยไม่เก่งก็หยวนๆอ่ะแบม...อิอิ
7 มิถุนายน 2554 21:26 น. - comment id 124250
ทริปต่อไปที่ใหนคับ ที่อัมพวา มีส้มโอ มะพร้าว ขนมใส่ไส้ ที่เคยแวะซื้อ แปลกแหะ ท่านประธานไม่เห็นซื้อมาฝาก ผู้จัดการบ้าง
7 มิถุนายน 2554 21:43 น. - comment id 124251
7 มิถุนายน 2554 21:49 น. - comment id 124252
สวัสดีค่ะ พี่แบบ ธรรมชาติบ้านสวนร่มรื่นเย็นสบาย บ้านเพื่อนดอกบัวก็อยู่แถวสวนค่ะ ดอกบัวไปเที่ยวย่อยแต่ไม่เคยไปพัก เพราะอยู่ไม่ไกลราชบุรีเท่าไร ขับรถไปเที่ยวก็กลับกัน ว่าแต่หิ่งห้อยที่นั้นมีเหรอค่ะพี่แบบ ดอกบัวจะโดนบอมเปล่าน๊า จ.ว เราแท้ๆ อิ อิ อิ ขอให้พี่แบมมีแต่ความสุขหรรษาค่ะ
8 มิถุนายน 2554 08:50 น. - comment id 124257
มาอ่านเรื่องเล่า...หวานติดคอเลย อิอิ ดีใจค่ะน้องๆมีความสุข และมีจิตเป็นบุญกุศเสมอ ขอให้มีความสุขตราบนานเท่านานนะคะ ช่วงนี้งานยุ่งมากกกก หาเวลาเข้ามาไม่ค่อยมี แต่ขอย้ำนะคะ คิดถึงทุกคนในบ้านกลอนเสมอค่ะ รัก/
8 มิถุนายน 2554 12:35 น. - comment id 124259
26 คุณดาวศรัทธา สวัสดีค่ะคุณลุง ตอนไปทานอาหารที่ร้านน้องอุ้ม น้ำยังไม่ขึ้นมากเท่าไหร่ ชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ริมแม่น้ำ เขาออกมานั่งตรงชานบ้านที่ยื่นออกไปในแม่น้ำ แล้วก็นั่งเลือกใบไผ่ เพื่อมาห่อข้าวต้ม ที่เป็นลูกสามเหลี่ยมลูกเล็กๆนะคะ อีกด้านขวามือ มองเห็นผู้ชายคนหนึ่ง หยิบขันน้ำตักน้ำจากแม่น้ำขึ้นมา แล้วเขาก็แปรงฟันกันตรงนั้น อืม..บอกตรงๆ หนุไม่เคยเห้นวิถีชีวิตแบบนี้ นานมากๆค่ะ อาจจะเคยเห็นบ้างที่เวลานั่งเรือเพื่อข้ามฟาก แล้วเรือหาปลาวิ่งผ่านมาอย่างช้าๆ เห็นผู้หญิงที่อยู่บนเรือ นั่งซักผ้า อาบน้ำ แบบไม่มีเคอะเขินเลยค่ะ พูดถึงหิ่งห้อยแล้ว หนูยังสงสัยอยู่ว่า ทำไมเขาจึงเกาะต้นลำพู ไม่ไปเกาะต้นอื่นๆบ้างค่ะ อันนี้ยังสงสัย ขอบคุณลุงดาวฯค่ะ
8 มิถุนายน 2554 12:41 น. - comment id 124260
27 ลชร อะ..จริงๆนะ เค้าพูดเป็น แต่คุยไม่สนุก เหมือนขาดเสน่ห์ความเป็นผู้หญิง หน้าตาก็ขี้เหร่ นิสัยก็ขี้งอน แต่ว่า ลืมเล่าไปอีกตอนค่ะฝน ตอนตื่นเช้ามา เสียงนกร้องจิ๊บๆๆ จุ๊กกก กรู....ๆๆๆๆ เยอะแยะไปหมด เจ้อัดเสียงมาฟัง เพราะมากๆค่ะ ไว้อย่าลืมหาเวลาไปเที่ยวน๊า รับรองไม่ผิดหวังค่ะ บริเวฯบ้านสวน มีต้นไม้เยอะแยะไปหมด จริงๆแบมถ่ายภาพมาเยอะพอสมควร แต่เอามาให้ชมเป็นบางส่วนจ๊ะฝน
8 มิถุนายน 2554 12:46 น. - comment id 124261
28 คุณวิทย์ ซื้อมาจ้า ส้มโอ ขนมสอดใส้ ปลาทู หัวปลี ผักบุ้ง น้ำตาลมะพร้าว ขนมอะไรจำชื่อไม่ได้ที่ใส่ในทางมะพร้าวปิ้งๆนะ มาถึงก็แจกจ่าย ลุงยามบ้าง เพื่อนๆที่ออฟฟิท ไหง ลืมท่านผจกได้น๊า ..อดเรยยย อ่านแล้วอยากไปชิมะตัวเอง เมื่อเช้าเจอเพื่อน บอกว่าไปดูหิ่งห้อยมา เพื่อนร้องเจี๊ยก " เราก็ไป วันเดียวกันเลย" เอ้อ ไม ไม่บอกว้า จะได้ให้เลี้ยงข้าวฟรีอะ
8 มิถุนายน 2554 13:26 น. - comment id 124262
29-30 คุณดอกบัว นั่นแหนะ เจ้าถิ่น แต่บ่เคยชมหิ่งห้อย สักครั้งค่ะน้องดอกบัว ไปลองนั่งเรือชมนะคะ แล้วจะบอกว่า ขออีกหลายๆรอบ แต่เขาห้ามถ่ายภาพ เพราะหากถูกแสงเฟลสแล้ว คนขับเรือบอกว่าเขาจะตายทันที และจำนวนหิ่งห้อยก็จะลดน้อยลง ไม่มีให้พวกเราได้เห็นอีก ที่บ้านสวน สายน้ำ ที่พี่ไปพักกัน ก็มีต้นลำพู มีหิ่งห้อยให้เห็น แต่ไม่กี่ตัว ธรรมชาติสวยนะ ชอบจังเลยค่ะ สบายดีนะคะน้อง สุขภาพเป็นยังไงบ้าง
8 มิถุนายน 2554 13:32 น. - comment id 124263
31 คุณแจ้นเอง เจ่เจ้ หวานตรงไหนอ่า.. นิดดดดดหนึ่งคะพี่ .. รู้สึกมีความสุขมากค่ะ ที่บอกมีความสุขคือ หลังจากที่ได้ไปมาแล้ว ก็กลับมาเล่า และเอาภาพให้เพื่อนๆดูกัน หลายคนอยากไปบ้าง ทีแรกหนูก็ยังคิดว่า หนูคนเดียวที่เชย ไม่เคยเห็นหิ่งห้อยตัวเป็นๆ แต่ที่ไหนได้ ยังมีอีกหลายคนที่ไม่เคยเห็น พอนำเสนอ ก็เลยอยากไปกัน เพื่อนบางคนไปช่วงกลางวัน ไม่สามารถอยู่ถึงกลางคืน ก็อดดูค่ะ สุดท้ายก็..แบ่งบุญมาฝากพี่สาวด้วยนะคะ คิดถึงค่ะพี่แจ้น
8 มิถุนายน 2554 13:57 น. - comment id 124264
หิ่งห้อย...บ้านเรา...ตัวเล็ก... เวลาจะจับมัน...ต้องใส่รองเท้า... ห้ามเท้าเปียก... เด้วโดนไฟดูด....(อ่ะป่าว.. ) ไม่ได้จับมาใส่ขวดหรอก... มันชอบบินเข้าบ้านอ่ะ... เปิดทีวี...ปิดไฟ... เห็น ไปแว๊บๆ...ที่หางตา... ตกกะใจ...เรย...ปิดทีวี... ชัดมาก.... กระสือน้อย...เข้าบ้านเราแว้ววว.... จับใส่แก้วครอบไว้...ตรงเครื่องซักผ้า... ติดกะประตูหลังบ้าน สักพัก.... มากันอีกแน่ะ... อื้อเรยยยย... สงกะสัย...มันเห็นเพื่อนมัน... มันเรยมาช่วย...อิอิ เสร็จเรา...จับทีละตัว...เอาแก้วครอบไว้... ดูมันกระพริบ...ว๊อบแว๊บๆๆ...สักครู่...ก็ปล่อยไป... หน้าตามันไม่เหมือนในการ์ตูนแฮ่ะ... ***** เป็นครั้งแรก...ที่จับหิ่งห้อย...เหมือนกัน... ประมาณห้าหกปีแระ...จากนั้น...ก็เจอเรื่อยๆ...อ่ะจร้า... ทำไม...ชื่อ หิ่งห้อย...??? อ่ะ
8 มิถุนายน 2554 15:05 น. - comment id 124265
37 คุงกีรฯ ทำไมเรียกหิ่งห้อย ? ง่ายนิดเดียว ก็ก้นมังห้อยต่องแต่งไง แต่ช้าแต่ เขาแห่หิ่งห้อย เห็นก้นน้อยน้อย ห้อยไปห้อยมา แต่มันมีแสง สว่างแจ้งทั่วหล้า คิดถึงทุกครา น่ารักน่าชัง ชอบอยู่รวมหมู่ ลำพูคือรัง สองฟากสองฝั่ง ยังคงสวยงาม ในนามชื่นชอบ ขอบคุณสยาม มีสิ่งดีงาม ทุกยามไปด้วยยล กลอนสี่จัดไปจร้าคุงเพื่อนผู้น่ารัก ดุจหิ่งห้อยน้อยแสง แต่เธอกระพริบแรงส่งพลังให้เพื่อนๆทุกคน
8 มิถุนายน 2554 17:01 น. - comment id 124266
8 มิถุนายน 2554 17:01 น. - comment id 124267
40
8 มิถุนายน 2554 20:09 น. - comment id 124270
สวัสดีค่ะ ย่าแบม +ปู่กิ่ง คิ คิ อยากไปนั่ง นอน กินลม ชมวิว ด้วยจังเน้อ ไม่เคยไปแถวนั้นสักที
9 มิถุนายน 2554 10:33 น. - comment id 124278
น่าอิจฉาจังเลยค่ะ
9 มิถุนายน 2554 10:48 น. - comment id 124279
ถึงว่า วันนั้นทำไมตามังร้อนๆไม่รุ ที่แท้อิจฉาตาร้อนคนได้ไปเที่ยวอัมพวานี่เอง เหงแล้วอยากไปอีกค่ะ ชอบบรรยากาศ
9 มิถุนายน 2554 10:55 น. - comment id 124280
ผมตาไม่ร้อน แค่อุ่นๆ แต่อดยิ้มไม่ได้จริงๆ ดีนะไม่เก็บค่ายิ้ม หลังการอ่านเรื่อง ไม่งั้นคงได้ตังค์ ไม่ใช่น้อย ชอบเรื่องที่อ่านแล้ว มีความสุข แบบนี้จัง
9 มิถุนายน 2554 11:25 น. - comment id 124281
เจ้าหิ่งห้อยนี่...ตอนแซมเด็กๆ เราเรียกมันว่า "ทิ้งถ่วง"... ตอนเป็นเด็กตัวเล็กๆ จับมันไม่ค่อยได้เพราะมันบินสูงๆ.. พวกเราก็ไปยืนร้องเรียกเจ้าหิ่งห้อยว่า.. "ทิ้งถ่วงหนักๆ.....ทิ้งถ่วงหนักๆ.." เจ้าหิ่งห้อยมันคงเห็นพวกเราไปเต้นหยอยๆกันอยู่ เลยบินลงมาเฉี่ยวดูว่า ใช่ลิงแสมรึเปล่านะ... แล้วก็โดนเด็กๆ จับไปใส่ขวด.... พอเล่นจนเบื่อ...เราก็ปล่อยมันไป..แต่เจ้าหิ่งห้อยคงจะเพลียมือ...มันเลยบินไม่ค่อยไหว.. เด็กๆ ก็จะเต้นๆ แล้วร้องๆ อีกว่า... "ทิ้งถ่วงเบาๆ...ทิ้งถ่วงเบาๆ..." เรื่องจริง..ไม่อิงนิยาย... ถ้าโกหก ขอให้จมูกงอกได้... เหมือนพิน๊อคคิโอ.. อุ๊ย.ๆ..ๆ.. ขี้จุ๊เบ่เบ๋..
9 มิถุนายน 2554 11:45 น. - comment id 124282
39 -40 พี่เต้ อยากไปอีกกกกก
9 มิถุนายน 2554 11:48 น. - comment id 124283
อ่ะ อยากไปๆ เค้าจาไปกะพี่ปู่กะแม่ย่าแบมอ่ะ สนุก น่ารัก น่าอ่านคะเจ้
9 มิถุนายน 2554 11:50 น. - comment id 124284
41 คุณใจปลายทาง นู๋อ้อม นี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันค่ะ ที่ได้ไปพัก จึงได้ชมหิ่งห้อย ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่ควรจะไปชม อีกทีก็น่าจะใกล้ๆหน้าหนาว หรือเปล่าไม่แน่ใจ ว่าแต่อาหารการกินที่นั่น อร่อยทุกอย่าง ทั้งขนม อาหาร ถูกปากค่ะ พี่ไปมาหลายครั้งแล้ว แต่เป็นช่วงกลางวัน ก็ยังไม่เคยเบื่อ ชอบค่ะ
9 มิถุนายน 2554 13:23 น. - comment id 124286
ลงชื่่ออ่านก่อน ใสสสสสสสสสสสสสสสสสสส
9 มิถุนายน 2554 15:10 น. - comment id 124287
42 คุณเพียงพลิ้ว อิจฉาคนแกร่ทำมายยค๊า นักการเมืองเขามักจะอ้อนประชาชน ให้เลือกเขาเข้าสภาพ สำหรับพี่.. โปรดให้โอกาสคนน่ารักระยะสุดท้ายถึงฝั่งค่ะ
9 มิถุนายน 2554 15:17 น. - comment id 124288
42 คุณน้องเฌอมาลย์ เสียดายมีเวลาพักน้อยไปหน่อยค่ะ ยังไม่อิ่มเอมเปรมฤดีเท่าที่ควร เวลาแห่งความสุขมักจะสั้นเสมอๆนะ
9 มิถุนายน 2554 15:42 น. - comment id 124289
44 คุณพี่นักสืบฯ พอลงเรื่องสั้นแล้ว หนูรู้สึกมีความสุขยิ่งขึ้น เพราะว่า มีเพื่อนนอกบ้านมาถามเรื่องบ้านพัก เรื่องการเดินทาง และให้แนะนำที่เที่ยว อ่า..พี่คะ หนูก็เพิ่งได้ไปพักเป็นครั้งแรก เลยส่งเมล์โยนต่อให้เจ้าของบ้านสวนรับทราบค่ะ เผื่อมีใครติดต่อไปค่ะพี่ ลืมบอกว่า ที่แม่น้ำตรงที่เราพัก มีปลาเข็มเยอะแยะเลยค่ะ พี่คะ ปลาเข็ม นะคะ ไม่ใช่ ปาเข็ม ฮี่ๆๆ ตอนที่แวะไปวัดทุ่งเศรษฐี อยู่ลึกมากๆๆ หนูบอกหลวงพ่อว่า หนูมาที่นี่เป็นครั้งที่สามแล้ว ท่านบอกว่า ด้วยกุศลแรงกล้าจึงมาถึง เพราะทางไกล วกวนพอสมควร ทริปนี้อิ่มทุกอย่างเลยค่ะพี่ชาย
9 มิถุนายน 2554 16:28 น. - comment id 124290
45 คุณแซม เสียดายมากๆ แบมตั้งใจจะถ่ายภาพมา แต่คนขับเรือบอกว่า หากถ่ายภาพเขาจะตาย ก็เลยได้แค่ชม และกลับมาเล่าสู่กันฟัง แต่ตอนที่ตื่นเต้นที่สุดคือ ตอนที่หิ่งห้อย บินหลงจะเข้ามาในเรือ คนที่นั่งบนเรือนะ ไม่รู้จักกันหรอก แต่พวกเราก็ร้องอย่างดีใจ เพราะลุ้นๆ อยากให้มันบินมาหาพวกเรา แต่ก็แป่วว มันบินวกกลับไปที่ต้นลำพู แซมนะโชคดีนะคะ ที่วัยเด็กได้เห็นอะไรมากมาย วัยเด็กแบม แทบจะไม่ค่อยมีเพื่อน กลับมาจากโรงเรียน ก็มานั่งรอพ่อกับแม่ อยู่หน้าบ้าน นั่งตรงประตูนั่นแหละคะ ความมืดมันน่ากลัวมากๆ สมัยก่อนไฟนิออนยังไม่มีหรอกค่ะ นอกจากตะเกียงอันเล็กๆ หรือหากมีงาน พ่อก็เอาตะเกียงเจ้าพายุออกมาใช้ที พี่ๆก็ไปเรียนในตัวเมือง กลับมาอาทิตย์ละครั้ง เพราะฉะนั้น เวลาพ่อกับแม่จะพาไปเที่ยว คืนนั้นแทบจะนอนไม่หลับ ตื่นเต้น กระทั่งโต ก็ยังเป็นแบบนั้น อิ
9 มิถุนายน 2554 16:41 น. - comment id 124291
47 น้องวา ..ฉางน้อย พี่ชอบสะพานไม้ ทางเดินไปบ้านพักนะน้องวา ซ้าย ขวา เป็นร่องสวนที่มีน้ำ ข้างๆร่มรื่นด้วยต้นลิ้นจี่ มองเห็นว่า เพิ่งผ่านการเก็บไปจนหมด เพราะเห็นมีลูกเล็กๆ สีแดงยังติดอยู่ที่ต้น มีเรื่องเล่าขำๆ บางช่วงให้น้องฟังค่ะ ขณะนั่งทานข้าวต้มกันอยู่ พี่ยังทานแบบช้าๆ เนิบๆๆ ส่วนอีกสองพี่น้อง เจ้กับคุณกิ่งทานเรียบร้อยแล้ว เขาสองคนก็ไปยืนที่ริมระเบียง ชี้กันให้ดูใบลิ้นจี่ คุยกันเหมือนว่า แตกฉาน พันธ์โน้น อร่อย พันธ์นี้ดี ซึ่งตอนนั้น พี่ก็ฟังบ้าง ไม่ได้ฟังบ้าง สักพัก เจ้แกหันหน้ามาแล้วถามว่า " นี่ๆ เขาเรียกอะไรนะ " แล้วเอามือชี้ไปที่ต้นนั้น พี่กำลังยกแก้วน้ำขึ้นกินเต็มปาก พรวดดดดด .... น้ำในปากพรวดเดียว เต็มโต๊ะ เก้าอี้ แถมถ้วยข้าวต้มที่เจ้ววางไว้อีก 5555555 ก็จะไม่ได้ขำได้ยังไงคะ เขาสองคนคุยกัน เหมือนรู้แจ้ง แต่จู่ๆมาถามว่า " นี่ต้นอะไร" คิดถึงค่ะวา
9 มิถุนายน 2554 16:58 น. - comment id 124292
49 คุณใส จากเวบคนชอบออนทัวร์ ขอบคุณคุณใสมากค่ะ ที่มาทักทายกัน แถมยังกลัวลืมกันอีก ไม่หรอกค่ะ แก้วฯจำได้แม่น เมื่อก่อนคุณก็เข้ามาอ่าน มาเม้นให้เพื่อนๆบ่อยๆ แต่พักหลังหายไป เข้าใจว่า กิจการดีขึ้น อันนี้เข้าใจค่ะ ว่าแต่รับพนักงานเพิ่มมั้ยคะ อิ สบายดีนะคะ
10 มิถุนายน 2554 13:59 น. - comment id 124297
แจ๋วๆ เพลิดเพลิน บันเทิงใจดีมากคุณแบม
12 มิถุนายน 2554 09:45 น. - comment id 124304
มาอีกรอบ อิอิ ไปกันสามคน ทำไมสั่งอาหารเต็มโต๊ะขนาดนั้นคะเจ้แบม สงสัยปู่จะเหมามั้งเนี่ย คริ คริ
12 มิถุนายน 2554 11:56 น. - comment id 124305
56 คุณเอื้องคำ สวัสดีจ้า สบายดีนะคะ ก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนแบบสบาย ง่ายๆค่ะ การเดินทางก็ไม่ไกลมากนัก ไม่เหนื่อย แถมที่เที่ยว วัดก็มีมากมาย อาหารการกิน ก็อุดมสมบูรณ์ บอกตรงๆว่าชอบมากๆ ที่นั่น มีบ้านอาจารย์อยู่หลายท่านที่รู้จัก เคยไปบ้านอาจารย์เมื่อปีที่ผ่านมา คุณพ่อของอาจารย์ให้พวกเราเข้าไปสวน เก็บลิ้นจี่ที่ต้นด้วยตนเอง เก็บผักในสวนมาทำอาหาร สุขแท้ๆค่ะ
12 มิถุนายน 2554 12:03 น. - comment id 124306
57 คุณน้องเฌอ หนูจ๋า..นั่นนะเพียงร้านเดียวนะคะที่นำเสนอ ยังมีร้าน สั่งเพียบ แต่เห็นว่าไม่ค่อยถูกปากเลยไม่ได้เอาภาพมาให้ลง กลัวเพื่อนๆตามไปแล้วจะว่า บ่แซบบเด้อเอื้อยเด้อ แต่เอาภาพให้น้องเฌอแทนแล้วกันค่ะ ขณะที่หาที่ทานอาหารกัน คุณกิ่งบอกว่า เปิดดูรายการหนึ่งทางช่องสามตอนเช้า ที่บางนกแขวก มีร้านอาหารข้าวทอด ทำเป็นเกี๋ยวเตี๋ยว ก็อยากลองกัน ขับรถหาๆๆ ไม่เจอ ก็ได้เวลาหิวกันแล้ว สุดท้ายก็เจอป้าย "ครัวแม่อุไร" พี่ก็บอกว่า ขึ้นชื่อว่า แม่ๆๆ ต้องทำอะไรอยู่แล้ว เพราะต้องมีฝีมือ ผ่านประสบการณ์มา แต่.....อย่าเชื่อให้สิ่งที่คุณเห็น " แม่." .ไม่ได้ทำอร่อยไปทุกที่ สู้ " น้อง" ไม่ได้ ภาพด้านบน คืออาหารที่ ครัวแม่อุไร โต๊ะข้างๆ สั่งมาสิบกว่าอย่าง เท่าที่พี่ชำเลืองดู ตอนเขาทานเสร็จกัน พี่ได้ยินเสียงคนหนึ่ง พูดว่า " อาหารไม่ได้เรื่องเลย ไม่มีอร่อยสักอย่าง ผิดหวังจริงๆ"
12 มิถุนายน 2554 12:04 น. - comment id 124307
60
12 มิถุนายน 2554 12:33 น. - comment id 124308
60 เชื่อแระว่า รักไข่บ้านกลอนกันจริงๆ อะไรจริงๆ เดาเอาว่า เพิ่งสร่างงงง อิ
27 มิถุนายน 2554 10:28 น. - comment id 124634
ก็สวยดีน่ะค่ะ