* * * หนูหิ่ง ฯ ตอน จดหมายถึงพ่อ ฉบับที่ 4 * * *
หิ่งห้อยน้อยใจ
กราบเท้าคุณพ่อที่รักยิ่ง
พ่อคะ ช่วงนี้หนูออกทำงานต่างจังหวัดคนเดียวอีกแล้วค่ะ พี่ซิงขึ้นดอยไปดูพี่พลปรับปรุงบ้านค่ะ ต้องทำรั้วให้แม่
ต้องทำโน่น นี่ นั่น อีกหลายอย่างเลยค่ะ หนูก็เลยทำงานคนเดียว ดีที่ยังมีน้องเลขาที่ออฟฟิตคอยช่วยอีก 3 คน
ช่วงที่เรียนปวช. หนูมีเพื่อนแปลก ๆ หลายคนหนูยังไม่ได้เล่าให้พ่อฟังเลยค่ะ
เพื่อนแปลก ๆ ที่ว่าบ้างก็เรียนจบ บ้างก็เรียนไม่จบค่ะ หนูคิดว่าคนอื่น ๆ ที่อยู่ช่วงวัยรุ่น น่าจะเจอเพื่อนแบบหนูเหมือนกันนะคะ
โรงเรียนที่หนูเรียนนี้เป็นโรงเรียนหญิงล้วน มีเพื่อนคนหนึ่งมาจากเชียงใหม่เหมือนหนู
แต่เรียนอยู่คนละห้องค่ะ มารู้ทีหลังว่าเป็นคนเชียงใหม่เหมือนกัน อยู่มาวันหนึ่ง เพื่อนคนนี้ก็มาคุยกับหนู
ถามหนูว่าอยากมีเงินเรียนไหม จะได้ไม่ต้องไปหางานพิเศษทำงก ๆ ไม่ต้องไปเป็นคนใช้เขา
แหม.... มาว่าหนูเป็นคนไช้ แต่ก็นะพ่อนะ เป็นพี่เลี้ยงเด็ก ก็ทำงานบ้านทุกอย่างเหมือน ๆ กับคนใช้นั่นแหละ ^^"
เขาบอกว่าตอนนี้เขามีเสี่ยเลี้ยง ถ้าหนูอยากสบายเขาจะหาให้ พ่อคะ หนูตกใจมากเลยค่ะ ตกใจจนทำให้หนูกลัวเพื่อนคนนี้ไปเลย
หนูก็ไม่ได้ว่าอะไรเขานะคะพ่อ หลังจากนั้นหนูก็พยายามเลี่ยงที่จะคุยกับเพื่อนคนนี้ โชคดีที่เรียนอยู่คนละห้องค่ะ
ไม่งั้นหนูคงทำหน้าไม่ค่อยถูกเวลาเจอกัน แล้วเพื่อนคนนี้ก็เรียนไม่จบค่ะ ต้องออกจากโรงเรียนในปีสุดท้าย
เห็นเพื่อน ๆ บอกว่าครอบครัวเขามีปัญหา พ่อ - แม่แยกทางกันค่ะ
ส่วนเพื่อนอีกคนนะคะเป็นคนจากสุพรรณค่ะ เพื่อนคนนี้พ่อเขาให้ใช้เงินเดือนละ 3 - 5 หมื่นค่ะ !
จริง ๆ นะคะพ่อ บ้านเขาคงจะรวยมาก ๆ เลย ถึงให้เงินลูกใช้ได้ขนาดนี้ หนูก็ไม่ได้สนิทกับเขาหรอกนะคะ
เพื่อนคนอื่นเล่าให้หนูฟังน่ะค่ะ ด้วยความที่เขาอยู่หอพัก มีเงินเยอะ ก็เลยซื้อสร้อยทองมาใส่ อยู่มาวันหนึ่งสร้อยทองเขาหายค่ะ
แล้วก็จับได้ว่าเพื่อนอีกห้องหนึ่งขโมยไปจำนำ เขาก็แจ้งความจับ พ่อคะ หนูก็ไม่รู้ว่าเพื่อนคนที่ขโมยสร้อยทองไปจำนำน่ะ
มีความจำเป็นอะไรแค่ไหน หนูไม่รู้ด้วยว่าเขาเข้าไปขโมยได้ยังไง รู้แต่ว่าเขาอยู่หอพักเดียวกันค่ะ เขาอาจจะสนิทกันก็ได้นะคะพ่อ
และเพื่อนคนนั้นก็ถูกตำรวจจับไป ต้องออกจากโรงเรียนไปอีกหนึ่งคน *__~
ยังมีเพื่อนร่วมชั้นอยู่คนหนึ่ง เขามีญาติอยู่ที่ออสเตรเลียค่ะ เขาก็มาคุยกับเพื่อน ๆ ในห้องว่าเขาจะไปออสเตรเลีย
พวกเราก็พยายามคุยให้เขาเรียนจบปวช.3 ก่อนแล้วค่อยไป เพราะเหลือแค่ปีครึ่งก็จบแล้ว
เพื่อนคนนี้ดื้อค่ะพ่อ ไม่ยอมฟังใครเลย พอเปิดเทอมสองของปี 2 เขาก็ไม่มาเรียนค่ะ เห็นเพื่อนในห้องบอกว่าเขาไปออสเตรเลียแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมาค่ะ หนูไม่ทราบว่าทำไมเหมือนกัน แต่เขาต้องมาเรียนซ้ำปี 2 ค่ะ ต้องจบช้ากว่าพวกหนูตั้ง 3 ปี
แต่ก็ยังดีนะคะที่เขายังกลับมาเรียน ^^
ตอนเรียนหนูก็รู้จักรุ่นพี่อยู่คนหนึ่งนะคะ มารู้ทีหลังว่าพี่เขามีสามีเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนนี้ อืมส์.... แปลกดีนะคะ
ลูกศิษย์กับครูเป็นสามีภรรยากัน แต่พี่เขาบอกหนูว่าเขาอยากมีสามีฝรั่งค่ะ เขาชวนหนูไปเป็นเพื่อนตอนที่เขาเอารูปไปสมัครหาคู่ฝรั่งด้วย
แต่หนูไม่ได้ไปหรอกนะคะพ่อ เพราะหนูต้องรีบกลับบ้านไปอยู่เป็นเพื่อนน้อง ส่วนวันเสาร์หนูก็ต้องทำงานพิเศษ วันอาทิตย์ก็ไปเรียนรด.
พ่อคะ มีเรื่องแปลกอีกเรื่องค่ะ ตอนอยู่ปวช.ปี 1 ด้วยความที่หนูเรียนรด. หนูมักจะถูกอาจารย์เรียกใช้อยู่บ่อย ๆ
มีอยู่วันหนึ่งอาจารย์เจอหนู แล้วถามว่า.... เมื่อวานครูเรียกทำไมไม่ขาน ? หนูก็งง ๆ ทำหน้าตาเอ๋อเหรอ.... ?
จารย์ขา จารย์เรียกหนูเมื่อไหร่คะ หนูไม่เห็นได้ยินเลยค่ะ หนูก็บอกอาจารย์ไป อาจารย์ก็มองหน้า แล้วบอกว่า
เธอนั่นแหละ ใช่เธอแน่ ๆ อาจารย์เรียกแล้วทำเป็นไม่ได้ยิน หนูก็คิดว่า.... อ้าว ! ซวยล่ะสิ จะแก้ตัวว่าไงล่ะทีนี้
หนูก็ได้แต่ขอโทษอาจารย์ไป จะได้จบ ๆ ค่ะ *__~
พอขึ้นปวช.2 มีการเปลี่ยนห้องตามคะแนนที่ได้ค่ะ หนูได้อยู่ห้อง 2/1 (เด็กเรียนค่ะพ่อ อิ ๆ ๆ )
ทีนี้หนูก็ได้เพื่อนใหม่ชื่อเมย์ค่ะ พ่อคะหนูก็ลืมไปแล้วที่ถูกอาจารย์ดุเรื่องที่เรียกหนูแล้วหนูไม่ได้ยินน่ะค่ะ
มีอยู่วันหนึ่งเป็นวิชาที่อาจารย์คนนี้สอน หนูกับเมย์นั่งติดกันค่ะ อาจารย์ก็มองแล้วก็ทำหน้างง ๆ เอ๊ะ ๆ ๆ ๆ
ทำไมเธอสองคนหน้าเหมือนกันจัง ? ? ? นั่น ! เพื่อน ๆ ในห้องก็หันมามองกันเป็นตาเดียว เออ.... จริงเนาะ
เธอสองคนหน้าคล้ายกันมากเลย ถ้าดูคนละทีก็นึกว่าเป็นคนเดียวกันนะ แต่ถ้าอยู่ด้วยกันก็แค่คล้าย ๆ ผมยาวเหมือนกัน
ความสูงพอ ๆ กัน ขาวหมวยเหมือนกัน ถ้ามองไกล ๆ อาจจะนึกว่าเป็นคนเดียวกันได้ แฮ่.... นึกขึ้นมาได้
เราเคยถูกจารย์ดุที่เรียกแล้วไม่ขาน ได้ทีถามเมย์ต่อหน้าจารย์เลย เมย์ ตอนปี 1 เธอเคยได้ยินอาจารย์คนนี้เรียกชื่อเราไหม ?
เมย์ก็นึก ๆ อืมส์.... คุ้น ๆ ว่าอาจารย์เคยเรียกนะ แต่ไม่ใช่ชื่อเรานี่ เราก็เลยไม่ได้สนใจ
นั่นไง ! หนูก็เลยถูกจารย์ดุไปฟรี ๆ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าจารย์เรียกผิดคน แหม.... จะดุจารย์คืนก็มิได้นะพ่อนะ
หลังจากนั้นอาจารย์ก็ยังคงจำผิดจำถูกค่ะ ต้องคอยบอกเสมอว่าจารย์เรียกผิดอีกแล้ว.... เฮ้อ ! ดีที่ได้อยู่ห้องเดียวกันค่ะ
ไม่งั้นหนูก็คงจะถูกดุอีกไม่เว้นวายนะคะพ่อ ก็อย่างที่บอกแหละค่ะ ครูชอบเรียกใช้เด็กที่เรียนรด.น่ะค่ะ
คงประมาณว่า.... เด็กที่เรียนรด.ต้องอดทน เข้มแข็ง และแรงเย๊อะ.... มั้งคะ ^__^
พ่อคะ หนูต้องไปช่วยพี่กบเก็บข้าวของที่ชลบุรีค่ะ พี่กบจะอพยพครอบครัวไปอยู่เชียงใหม่ หนูเล่าให้พ่อฟังแค่นี้ก่อนนะคะ แล้วหนูจะเขียนถึงพ่ออีกนะคะ
พ่อจะได้รู้ว่าลูกสาวของพ่อเติบโตมาถึงทุกวันนี้ได้ยังไง
รักและคิดถึงพ่อที่สุดค่ะ
หนูหิ่ง ฯ
ลูกหล้าของพ่อ
ปล.
พ่อคะ ฉบับนี้ไม่มีรูปให้พ่อดูนะคะ
โน้ตบุ๊คหนูเจ้ง ข้อมูลหายไปหมดเลยค่ะ
ตอนนี้กำลังให้ช่างกู้ไฟล์คืนอยู่ค่ะ