“ฉัน” คือใคร?
คีตากะ
ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่
ซันตี้เหมิน ผิงตง ฟอร์โมซา
๒๖ ธันวาคม ๒๕๓๕
(ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)
ท่านกล่าวว่า ท่านอาจารย์ทราบทุกสิ่งและอยู่ทุกแห่งหน แต่ฉันกลับไม่ทราบอะไรเลย! เป็นอาจารย์ต่างหากที่ทราบ “ฉัน” ไม่จำเป็นต้องทราบ เรากระทำโดยที่มิได้กระทำ หากฉันต้องทราบทุกๆ สิ่ง ฉันก็จะงานยุ่งเกินไป เพราะฉันต้องทำหน้าที่ต่างๆ นับพันกับอีกหนึ่งอย่างในเวลาเดียวกันอยู่เสมอ แล้วเธอคิดหรือว่าความนึกคิดของเราจะสามารถชะล้างหน้าที่หนึ่งพันกับอีกหนึ่งอย่างออกไปได้ในเวลาเดียวกัน เพื่อจะมารายงานตัวกับสิ่งที่เรียกกันว่า “ฉัน” เช่นนั้นหรือ? ฉันไม่มี “ฉัน” แล้วละ เราไม่มี “ฉัน” ฉันเคยบอกเธอมาก่อนแล้วว่า เราเป็นเพียงความคิด สิ่งที่เรียกกันว่า “ฉัน” เป็นเพียงความคิดหนึ่ง ที่ตามด้วยอีกความคิดหนึ่ง เป็นขยะทั้งสิ้น เป็นนิสัย ความเคยชินทั้งสิ้น และเป็นข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ทั้งสิ้น หาได้มี “ฉัน” จริงๆ ไม่
“ฉัน” แท้คือตัวตนที่รู้ตัว ผู้เป็นพยาน ผู้เห็นทุกอย่างที่เราเก็บสะสม หรือที่เรามีปฏิกิริยาตอบสนองกับมัน มันมีสายโซ่แห่งกิริยาและปฏิกิริยา และผู้ที่ทราบเรื่องนี้ก็คือพยาน “ฉัน” หาได้ใช่กิริยาหรือปฏิกิริยานั้นไม่ แต่คือพยานต่างหาก สิ่งนั้นเองที่คือ “เรา” ที่คือ “ฉัน” แต่แล้วเรามักหลง คิดว่าพยานคือเหตุการณ์ เรายึดติดกับเหตุการณ์ หรือรสชาติของสิ่งต่างๆ ที่เรารู้จักมากเหลือเกิน แล้วเราก็จะคิดว่า นั่นคือ “ฉัน” ขณะนี้ “ฉัน” กำลังโกรธ “ฉัน” กำลังมีความสุข ขณะนี้ “ฉัน” ไม่เป็นอย่างนั้น ซึ่งนั่นหาได้เป็นความจริงไม่! มันเป็นเพียงปฏิกิริยาเท่านั้นเอง มิใช่ “ฉัน” ซึ่งโกรธ “ฉัน” กำลังเป็นประจักษ์พยานแห่งความโกรธที่เกิดขึ้น “ฉัน” กำลังมองเห็นละครซึ่งดำเนินอยู่ ตอนนี้มันตลก แล้วตอนนี้มันก็เศร้าสลด แต่ก็มีอยู่แค่นั้น มันเป็นเพียงกิริยาและปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นอยู่บนเวที
ดังนั้นเมื่อเรากระทำบางสิ่งให้ตัวเราเอง เราไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องหนักหนาแต่อย่างใด หากเธอส่งอาหารเข้าปากเธอ เธอหวังจะใดรางวัลตอบแทนหรือไม่? หรือเมื่อเธอชะล้างร่างกาย เธอจะคิดว่า เธอช่างเป็นคนดีเสียนี่กระไรหรือไม่? (ผู้ชมหัวเราะ) หากเธอไม่ชะล้างร่างเธอ เธอก็จะทนอึดอัดไม่ได้ หากเธอไม่รับประทานอาหาร เธอก็จะรู้สึกอ่อนล้ายิ่งและขยับตัวไม่ได้ ดังนั้นการรับประทาน ก็เสมือนเป็นรางวัลในตัว การอาบน้ำก็เหมือนเป็นรางวัลในตัว ทำนองเดียวกัน การทำงานใดๆ ให้กับท่านอาจารย์ ให้กับมนุษยชาติ ให้กับเพื่อนประทับจิต หรือผู้ที่มิได้ประทับจิตนั้นต่างก็เป็นรางวัลในตัวอยู่แล้ว
แน่นอน เมื่อเราทำงานให้ท่านอาจารย์ ก็หมายความว่าเราทำงานให้กับมนุษยชาติ เพราะท่านอาจารย์เป็นมนุษย์ ท่านมิใช่บุคคลซึ่งทำงานเป็นส่วนตัว ท่านเป็นเครื่องมือของสาธารณชน ใครๆ ก็นำมาใช้ทำงานอะไรก็ได้ เธอก็ทราบอยู่แล้ว ไม่สำคัญว่าผู้นั้นจะอ่อนน้อมถ่อมตนหรือยิ่งใหญ่เพียงใด เธอมักจะให้ท่านอาจารย์ทำหรือบอกให้ท่านอาจารย์ทำอะไรให้อยู่เสมอ แล้วท่านก็จะทำให้ ไม่ว่าเธอจะเห็นหรือไม่ก็ตาม ท่านอาจารย์ไม่จำเป็นต้องมารายงานตัวกับเธอเสมอไปว่าท่านได้ทำอะไรไปบ้าง ดังนั้นบางทีเธอก็จะทราบ จะเห็นด้วยตาปัญญาของเธอ ส่วนบางทีก็จะไม่เห็น บางทีตาปัญญาของเธอ ส่วนบางทีก็จะไม่เห็น บางทีตาปัญญาของเธออาจหลับใหลอยู่ (ผู้ชมหัวเราะ) ใช่ มันจะเป็นไปเช่นนั้น! แล้วเธอก็จะบอกว่า “ท่านอาจารย์ไม่เห็นทำอะไรให้ฉันเลย ฉันไม่เคยเห็นอะไรเลย” เมื่อมารดาของเธอปัดกวาดเช็ดถู ซักเสื้อผ้า และทำอาหารในขณะที่เธอหลับอยู่นั้น เธอจะรู้เห็นอะไรหรือไม่? (ไม่! ) นั่นมิได้หมายความว่ามารดามิได้ทำงานบ้าน เมื่อเธอตื่นขึ้นมาแล้ว เห็นว่าบ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอก็จะทราบว่าต้องมีใครมาทำอะไรเอาไว้ และหากไม่มีใครอื่นอยู่ในบ้านแล้ว ก็ต้องเป็นมารดาทำไว้แน่นอน!
พลังสูงสุดจะทำทุกอย่าง
ดังนั้นจะมีเพียงท่านอาจารย์ที่ทำทุกสิ่ง จะยังมีใครอื่นอยู่ที่นั่นอีกเล่า ยังมีใครอื่นอีกเล่าที่อยู่กับเธอ แล้วทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เธอ นอกไปจากพลังสูงสุด? แล้วเธอก็จะคิดไปว่าเป็นเธอเอง เพราะเธอทำสมาธิ เธอนั่ง เธอรับประทานอาหารมังสวิรัติ เธอรักษาศีลและอื่นๆ แท้ที่จริงแล้ว ล้วนเป็นท่านอาจารย์ที่ทำให้ มันเป็นอาจารย์ที่แสวงหาอาจารย์ หาได้เป็นเธอแสวงหาไม่ เป็นผู้ใดหรือที่แสวงหา? เป็นความคิดต่างๆ นานา ที่กระโดดมาความคิดแล้วความคิดเล่านั่นหรือ นั่นคือผู้ที่แสวงหาปัญญาแห่งอาจารย์หรือ? ไม่ใช่! หากแต่เป็นตัวปัญญาที่ทราบว่าถึงเวลาแล้วที่จะตระหนักรู้ในตนเอง ที่จะรู้คุณค่าในพลังของตนเอง (ผู้ชมปรบมือ) พวกเธอบั่นทอนแรงบันดาลใจของฉัน! (ผู้ชมหัวเราะ) ไม่เป็นไร! ฉันยังมีอยู่อีกแรงหนึ่ง ดังนั้น ถ้าหากเรายังคงคิดว่ามันเป็นเรา ที่กระทำอะไรบางอย่างหรือกำลังแสวงหาอะไรบางอย่างแล้วนั้น เราคิดผิด นั่นคือสาเหตุที่ “เรา” มิอาจเข้ากันกับอาจารย์ได้ นั่นคือสาเหตุที่ เราไม่สามารถจำได้ว่า เราเป็นใคร และว่าอาจารย์คือใคร อาจารย์ก็คือตัวเราเองนั่นเอง...
Be Veg, Go Green 2 Save The Planet