ด้วยครูแก้ว ประเสริฐ ไม่สะดวกในบางเรื่องผมเลยอาสานำงานครู แก้ว เพื่อลงเรื่อง อทิสมานกาย ต่อโดยนำมาจากครูแก้ว ซึ่งอาจช้าเร็ว ขึ้นอยู่กับครูแก้วนะครับ ใครสนใจติดตามแต่แรก เรียนเชิญนะครับ ค่ำคืนข้างขึ้นเพ็ญ ๑๓ ค่ำ ท้องฟ้าสว่างนวลด้วยแสงจันทร์ สาดส่องสว่างจ้า บริเวณเทือกเขาตะเกียบ อันเป็นแนวเขาเชื่อมต่อ กับขุนเขาทางด้านพม่าและลาวนั้น ล้วนอุดมไปด้วยไม้นานาพันธุ์ ซึ่งเป็นเทือกเขาที่สูงเคียงคู่กับเขาก้อนเมฆ ยอดสูงติดๆกันมองแต่ไกล คล้ายก้านไม้ตะหง่านเคียงคู่อยู่ในแวดล้อมของขุนเขาอีกมากมาย ยามแลเห็นในที่ไกลๆ ที่สูงที่สุดในแนวขุนเขาแถบนั้น คล้ายเป็นตะเกียบคู่หนึ่ง จึงถูกชาวบ้านเรียกกันว่า เขาตะเกียบ ที่สูงเสียบฟ้าอยู่ ตอนนี้กระทบกับแสงจันทร์แลดูขาวโพลนไปทั่ว ในบริเวณใต้เทือกเขามีถ้ำเล็กๆบ้างใหญ่บ้างสลับซับซ้อนกัน ไปๆมาๆ หลายๆถ้ำ แต่ละปากถ้ำนั้นกว้างใหญ่บ้างเล็กบ้าง มีถ้ำหนึ่งค่อนข้างใหญ่ภายในกว้างขวางใช้เป็นที่เก็บของอาศัยอยู่ได้ ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของขุนเขาเทียบลดหลั่นกันไปเป็นทางกว้างวกวนไป มารายล้อมเทือกเขาใหญ่อีกทีหนึ่ง ปากถ้ำนั้นมีชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งคอย ดูแลรักษาเฝ้าทางเข้าออกไว้ ภายในเป็นที่ใช้เก็บของยาเสพย์ติดมากมาย ซุกซ่อนไว้ในการหลบหนีซ่อนไว้ของเสี่ยเม้ง โดยหัวหน้ามันชื่อมุ้ยส่งมา ทุกๆคนล้วนแล้วแต่ถือปืนทันสมัยเฝ้าดูแลอย่าเข้มงวดกวดขัน เปลี่ยวสงัด ต่างนั่งเฝ้ายังปากถ้ำปืนนั้นวางบนหน้านั่งคอยเฝ้าระวังดูแลอยู่ บนปากถ้ำนั้นสามารถมอง ไปรอบๆบริเวณได้อย่างชัดเจนนัก ด้วยเป็นที่สูง มีต้นไม้สูงใหญ่และเล็กๆสลับไปๆมาๆอยู่ บ้างอยู่บนคาไม้มีดอกกล้วยไม้ ต้นเฟรินที่กลางวันพวกมันมองเห็นอยู่นั้น ออกดอกสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมลอยไปตามลมไปไกลๆ มีธารน้ำไหลจากเขาน้ำใสนัก มองดูแลเป็นทมึนตะคุ่มๆ ยามลมพัดไหวโอนไปๆมาน่าสะพรึ่งในยามค่ำคืน เดือนมืดมิดน่ากลัวคลับคล้ายอสูรกายเรียงรายไปรอบๆบริเวณหน้าถ้ำ แสงจันทร์ทอดสว่างไสวบริเวณที่เป็นลานกว้างไม่มากนักนอกนั้นล้วนต้นไม้ จนบรรดาสมุนที่เฝ้าดูต่างมิกล้าหันไปมองนอกจากนั่งคุยกันอยู่ต่างก็หยุดคุย สลับไปมาบ้างก็นั่งตบยุงที่มาตอมกินเลือด แต่มียากันยุงถูกจัดวางไว้ใกล้ๆตัวไว้ ด้วยการเฝ้านี้ไม่มีอะไรแต่ก็ต้องห่วงกังวลมากนัก ถึงแม้จะมีการสลับเปลี่ยนก็ตาม และมีอาหารการกินเพียบพร้อมทั้งเหล้ายาปลาปิ้งต่างๆกันก็ตามทีด้วยเงินนี้ดี พวกมันคิดว่าไม่มีอันใดน่าเสี่ยงภัยมากนัก ซ้ำยังสุขสบายอีกไม่ต้องเหน็ดเหนื่อย กว่าการที่จะไปนำของนี้มาเสียอีก ด้านทางเดินก็อุดมไปด้วยทากปลิงคอยป้องกัน ไว้ให้ด้วยอีกทางหนึ่ง ทำให้ทุกๆคนที่มาเฝ้านั้นต่างสบายใจไม่คำนึงใดวิตกแต่อย่างใด ครั้นเมื่อพระจันทร์หลบเข้ายังก้อนเมฆ ความมืดก็เข้ามาแทนที เสียงสัตว์กลางคืน ที่ส่งเสียงระงมไปทั่วนั้น บัดนี้ต่างเงียบไม่ส่งเสียงร้องเหมือนจะแจ้งเหตุขึ้นบางอย่าง ทันใดก็เกิดลมกรรโชกมาอย่างรุนขึ้นอย่างกระทันหัน ต้นไม้ต่างเอนลู่แกว่งไกวไปมา ด้วยไม่มีทีท่าว่าจะเกิดลมขึ้น ถึงจะมีก็แค่เพียงสายลมแผ่วเบาๆมาต้องกายเท่านั้น เพราะอยู่ในช่วงเป็นฤดูหนาวย่างเข้ามาเนิ่นนานแล้ว ผสมผสานกับอากาศเย็นของเขา บรรดาชายที่เฝ้าต่างหันหน้ามองกันไปๆมาๆ ในสิ่งที่เกิดขึ้นยามที่ทุกคนได้ยิน เสียงร้องกรี๊ดๆดังแว่วเข้ามา และใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เป็นสำเนียงที่ออกจะโหยหวน บรรดาต้นไม้ต่างพากันสะบัดก้านกิ่งไปมาแทบจะหัก บ้างก็เอนไหวลู่ไปๆมาๆ บรรดาต้นไม้กิ่งก้านสั่นไปทั่วแกว่งไกวจนดูเหมือนจะหักเสียให้ได้ เสียงร้องอย่างโหยหวนดังไปทั่วทิศทางรอบๆทางของหน้าถ้ำที่พวกมันเฝ้าดูแลอยู่ พวกเหล่าชายฉกรรจ์ในถ้ำต่างออกมาสมทบกับพวกที่เฝ้าหน้าถ้ำอยู่ เมื่อได้ยินเสียง แล้วหันไปมอง ไปยังบริเวณลานกว้างข้างหน้า ก็พากันตลึงพรึงเพริศไปตามๆกัน ด้วยเสียงที่ดังแว่วสลับไปมา พยายามค้นหายังต้นเสียงก็ไม่พบอะไรเลยนอกจากความมืด แต่เสียงนั้นก็ยังร้องคร่ำครวญโหยหวนสลับกันไปๆมาๆอยู่ ไม่ยอมขาดหายไป แล้วทุกๆคนก็ต้องตลึงพรึงเพริศเมื่อแลเห็นเหล่าต้นไม้ที่มันคล้ายๆจะใกล้เข้ามา ทุกๆคนเห็นสิ่งที่ยืนเป็นเหล่าต้นนั้น ที่ต่างพากันเคลื่อนไหวเองได้อย่างแปลกใจนัก ค่อยๆเข้ามาพวกมันทางปากถ้ำเขาที่มันอยู่ ร่างค่อยๆคืบเข้ามาอย่างเชื่องช้าที่ละน้อยๆ เสียงร้องเหมือนคนแก่มากๆและเสียงเด็กๆผู้หญิงและชายสลับไปมา พร้อมกับ ต้นไม้มีบางต้นกลับสูงยึดขึ้นไปในอากาศอีกด้วย เมื่อก่อนมันเห็นแค่ธรรมดาเท่านั้น บัดนี้ต้นไม้ที่แกว่งไกวนั้นกลับพลันสูงขึ้นชะลูดเองได้อย่างน่าแปลกใจนัก เสียงนั้นล้วนแล้วแต่ดังมาจากต้นไม้เหล่านี้ทั้งเล็กๆใหญ่ ฉับพลันต้นไม้เหล่านี้ที่ กำลังเคลื่อนเข้ามาก็แปรสภาพเปลี่ยนไปคล้ายๆรูปร่างของคนทั้งสูงใหญ่ เตี้ย เล็ก สลับกันไปมา ปากร้องอย่างโหยหวน กรี๊ดๆๆๆเฮ่อะๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ หวี๊ดๆๆๆ สายลมที่พัดอย่างรุนแรง ล้วนแล้วเป็นเสียงที่เยือกเย็นยิ่งนัก ยิ่งเสียงทำให้น่าสะพึงกลัว บ้างก็กระโชกโฮกฮากบ้างก็แผ่วเบา ล่องลอยมาพร้อมกับสายลม ผ่านเข้ามายังปากถ้ำ ก้องไปทั่วบริเวณที่ยังมืดมิดอยู่ เสียงแผ่กระจายออกไปทั่วๆทิศทางเหล่านี้ เสียงนั้นเข้ามายังกลุ่มที่คอยเฝ้าทันที มันทุกๆคนต่างตกตลึงในสิ่งที่เกิดขึ้นกระทัน อย่างไม่คาดฝัน เสียงเหล่านั้นดังขึ้นแล้วต้นไม้เหล่านั้น ที่มันแลเห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ที่แปรสภาพเป็นร่างคนสูงบ้าง ผอมบ้าง ใหญ่บ้าง ส่วนพุ่มนั้นกลายเป็นเด็กๆ ต่างเข้ามายังบริเวณหน้าถ้ำเรียงรายไปรอบๆบริเวณนั้นเต็มไปหมด เสมือนกวักมือเรียก พวกเจ้ามาเถอะมาๆๆๆ มาเป็นพวกข้าช่วยกันรักษาป่าบริเวณนี้ด้วยกันเถอะนะ จะไปไหนก็สบายด้วยล่ะ พวกข้าเห็นเจ้าแล้วก็ให้เกิดความรักใครเอ็นดูอยากจะได้ คนเก่งๆอย่างพวกเจ้ามาเป็นพวกข้าด้วยล่ะ เสียงแผ่วยานเย็นกล่างล่องลอยมาตาม สายลม ทำให้บรรดาพวกที่เฝ้าหน้าปากถ้ำถึงกับตัวสั่นงันงกๆไปตามๆกัน ทุกๆคนต้องพากันร้องลั่นทันที ผีๆๆๆว๊ะผีๆๆๆ แล้วทั้งหมดก็รีบถอยหลังพา กันวิ่งไปภายในถ้ำทันที่ ครั้นถึงที่มันใช้พักอาศัยอยู่ต่างก็รีบมุดเข้าไปยังที่นอนใคร ที่นอนมันเอาผ้าคลุมหัวตัวสั่นกันทั้งหมดร้องส่งเสียง ฮือๆๆๆแทบทุกๆคน ทันใดร่างชายสี่ห้าคนก็ถลันเข้ามาในถ้ำพร้อมด้วยอุปกรณ์บางอย่าง หายเข้าไปยัง หลีบถ้ำที่ใช้เก็บบรรดายาเสพย์ติด แล้วจัดการวางระเบิดไว้ แล้วลากหีบบรรจุพวก ของผิดกฏหมาย ให้ห่างไปจากที่เดิมไปยังอีกหลีบของถ้ำอีกที่หลังทันที ครั้นทำเรียบร้อยแล้วก็ออกมายังปากถ้ำ ซึ่งมีชายยืนเฝ้าดูพวกที่ต่างนอนคลุมโปง อยู่ เมื่อชายที่ทำงานทั้งสี่คนทำงานเรียบร้อยแล้วมากระซิบบอก ร่างนั้นก็ค่อยๆเดินออก จากถ้ำหายลับไปทันที เหตุการณ์ทั้งหมดก็กลับคืนสู่ปกติ เสียงร้องทั้งหลายก็เงียบหายไป สัตว์หากิน กลางคืนก็เริ่มส่งเสียงระงม ท้องฟ้าพระจันทร์ก็เริ่มออกจากกลุ่มเมฆส่งแสงนวล กระจายไปยังหมู่ไม้ เสมือนไม่มีอะไรจะเกิดขึ้น แต่พวกที่เฝ้าถ้ำอยู่ก็ยังคลุมโปง ต่างส่งเสียงสวดมนต์กันให้ระงมไปทั่ว ส่วนทางด้านขุนเขาภูกลอย ทางทิศตะวันตก ขุนเขานางนอนทางทิศใต้ และขุนเขาเทียมเมฆทางทิศตะวันออก นั้นก็ประสบเหตุการณ์เช่นเดียวกันในระยะ เวลาไล่เลี่ยกัน จะแตกต่างกันก็ด้วยสถานที่ต่างๆกันเท่านั้น ที่ทุกๆคนประสบพบ ครั้นเวลารุ่งสางของวันใหม่พวกที่เฝ้าต่างตื่นขึ้นมามันหลับใหลไปเมื่อไหร่ ไม่รู้ ทุกๆคนต่างล้วนรีบออกมา มองยังเบื้องหน้าถ้ำทันที ก็เห็นสภาพสิ่งแวดล้อม เหมือนเดิมไม่มีอะไรผิดปกติสักนิดเดียว ต่างพากันซักถามกันถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ ทุกๆคนก็บอกว่าเห็นได้ยินเสียงเหมือนกันหมด ดีที่ได้เข้ามาคลุมโปงและสวดมนต์ ทำให้หลับไปโดยไม่รู้สึกตัว หัวหน้ามันก็นำลูกน้องบางคนไปตรวจของก็พบว่า ยังอยู่ครบปกติ ก็เดินออกมาบอกเพื่อนๆมันให้รู้ว่าของนั้นยังอยู่ครบถ้วน * แก้วประเสริฐ. * (แม้นจะไม่ได้เข้ามาแต่ยังคิดถึงทุกๆคนที่คอยติดตามเรื่องนี้จึงฝากคนมาส่งให้ จะน้อยกว่าเดิมก็ด้วยส่งทางเมล์นั้นไม่สามารถทำได้มากนะ รักทุกๆคนเสมอ)
19 มกราคม 2554 09:38 น. - comment id 88831
คุณเทียนหยด ขอบคุณมากครับที่แวะมาอ่านแวะมาทักทาย
19 มกราคม 2554 09:39 น. - comment id 88832
พี่ช่ออักษราลี เห็นด้วยครับพี่ช่อ เพราะบางที พิมใส่เมล บางที ข้อความอาจหาย
19 มกราคม 2554 09:40 น. - comment id 88833
พี่แจ้น หากครูแก้ว ส่งมาเมื่อไหร่ จะรีบลงให้ครับ เพราะเรื่องนี้น่าจะยาว ไม่สั้นแล้ว
19 มกราคม 2554 09:32 น. - comment id 88843
คุณ คสถ. ขอบคุณมากครับที่แวะมาอ่าน
19 มกราคม 2554 09:34 น. - comment id 88844
คุณเงาสายลม กลัวว่าเรื่องสั้นอาจจะค้างนะครับ เลยเมลไปหาครูแก้ว และอาสาจะลงให้ครับ
19 มกราคม 2554 09:34 น. - comment id 88845
คุณแก้วประภัสสร ขอบคุณที่เข้ามาอ่านงาน ของครูแก้วนะครับ
19 มกราคม 2554 09:36 น. - comment id 88846
คุณทางแสงดาว ขอบคุณมากครับที่ยังติดตามอ่านงานครูแก้ว คิดว่าครูแก้วคงทราบแล้วว่า คุณทางแสงดาวส่งความคิดถึงนะครับ
15 มกราคม 2554 13:54 น. - comment id 121386
14 มกราคม 2554 22:40 น. - comment id 121395
15 มกราคม 2554 10:30 น. - comment id 121406
@ขอบคุณคุณกิ่งโศก.. ฝากความห่วงใยถึงคุณชายฯของแสงดาว. ด้วยนะคะ
15 มกราคม 2554 09:38 น. - comment id 121408
15 มกราคม 2554 08:05 น. - comment id 121410
ขอบคุณพี่กิ่ง ที่นำเรื่องมาให้ติดตามต่อเนื่องจากครูแก้วนะครับ แล้วก็ฝากขอบคุณครูแก้วที่สรรสร้างเรื่องราวให้แฟนๆติดตามครับ
15 มกราคม 2554 19:35 น. - comment id 121425
พิมพ์ใส่เวิร์ดซิคะ แล้วแนบไฟล์มา กับอีเมล คิดถึงนะคะครูแก้ว
15 มกราคม 2554 20:05 น. - comment id 121426
ขอบคุณคุณกิ่งโศกนะคะ คิดว่าจะรอนานซะอีก