อทิสมานกาย ๖๕

แก้วประเสริฐ

76.gif
                     อทิสมานกาย ๖๕
   ภายในร้านอาหารในหมู่บ้านบางโค  ร้านของลัดดานั้นซึ่งขายอาหารตามสั่ง
ตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ที่เข้ามาใช้บริการ ทั้งมีแผนและไม่
มีแผน  ด้วยเจ้าของร้านนั้นเป็นสาวสวยคนหนึ่งในย่านนี้และยังเป็นโสดปราศ
จากราคีคาวให้เป็นที่ครหานินทา  ด้วยเจ้าของร้านเป็นคนรักตัวสงวนตัว
    จนบรรดาหนุ่มๆทั้งหลายต่างเวียนกันมาใช้บริการในด้านอาหารและส่งขนม
จีบไปในตัวเสร็จ  แต่สาวเจ้าหาได้ให้ความสนใจแก่หนุ่มใดๆทั้งสิ้นและยิ่ง
หล่อนตัวคนเดียวทั้งยังมีนิสัยกล้าหาญ ถึงลูกถึงคนไม่เกรงกลัวใครๆด้วยแล้ว
    อีกยังได้บรรดาหนุ่มทั้งหกคนมาเป็นคนคุ้มครองอีกด้วย ซึ่งทุกๆคนในหมู่บ้าน
ทราบถึงกิติศัพท์ความร้ายกาจของบรรดาหนุ่มทั้งหกคนนี้แล้วก็ต่างขยาดไปทั้งสิ้น
ด้วยชายหนุ่มทั้งหกประกาศไว้ว่า   หากผู้ใดมาคิดร้ายต่อเจ้าของร้านนี้แล้วอย่าพึง
หวังเลยว่าจะได้อยู่ในหมู่บ้านบางโคนี้  ให้ย้ายครอบครัวไปอยู่ที่อื่นให้หมดพวก
มันจะไม่รับรองความปลอดภัยใดใดทั้งสิ้น
   ดังนั้นจึงทำให้บรรดาหนุ่มๆทั้งปวงต่างก็เพียงชะแง้และมาใช้บริการเพื่อหวังให้
เจ้าของร้านมีใจแก่พวกมันบ้างเท่านั้น
   ทันใดนั้นเสียงดังลั่นจากไอ้ชื่นเดินถือหนังสือพิมพ์ประจำท้องถิ่น  กางหราเดินมา
ยังโต๊ะพวกพ้องทันที
   “เรื่องอะไรว๊ะไอ้ชื่น???.....”  ไอ้ตี๋เล็กกล่าวถาม
   “ก็มึงมัวแต่แดกเหล้าตั้งแต่เช้านี้  มึงจะไปสนใจอะไรอีกว๊ะ  นี่ๆๆๆแหกตาดูหนังสือ
พิมพ์ที่ลงข่าว  พาดหัวว่ากำนันมั่นถูกเจ้าหน้าที่จับคุมตัวไปโรงพักพร้อมด้วยอาวุธปืน
จำนวนมากแล้วมียาเสพย์ติดในใต้ถุนบ้านโว้ย!!!!???....   ไอ้ชื่นกล่าวไปด่าไป
   “ไหนๆๆๆมึงเอามาให้พวกกูอ่านดูบ้างซิ???...”   
ไอ้วาสเอ่ยบ้าง
      แล้วมันก็รับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นจากไอ้ชื่นมากางลงบนโต๊ะ ให้พวกมันได้อ่านกัน
   “เรื่องอะไรหรือว๊ะ???...” 
 เสียงแม่สาวลัดดาเอ่ยถาม พลางเดินเข้ามาร่วมด้วยวงสนทนาด้วย
   “ก็ไอ้กำนันมั่นนะซิแม่ลัดดา มันถูกตำรวจและนายอำเภอจับกุมพร้อมหลักฐานด้วยล่ะ”
ไอ้ชื่นเอ่ยอธิบายให้สาวเจ้าของร้านฟัง
   “เหรอๆๆๆไหนๆๆขอดูหน่อย   กำนันมั่นมันดังมากนะไงเสียท่าตำรวจ
กับอำเภอได้ล่ะ???...”
สาวลัดดาถาม   พร้อมทั้งแย่งหนังสือพิมพ์เอามาอ่านดู  หน้าตาขมวดคิ้วจนหกหนุ่มที่มองดู
ตลึงในความงามของหญิงสาว ที่หล่อนไม่รู้ตัวเลยว่าถูกจ้องมอง
   “นี่แหละน๊า...เวรกรรมมันตามทันไม่ต้องรอถึงชาติหน้าหรอก 
ชาตินี้เห็นว่าตกนรกแท้ๆๆ”
หญิงสาวอุทาน พลางหัวร่อเบาๆ
     คราวนี้ทำให้บรรดาผู้มานั่งกินอาหารต่างก็รีบเข้ามามุงดูหนังสือพิมพ์รายวัน
ท้องถิ่นทันที   แล้วก็เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ต่างนาๆๆ  เสียงดังแซดไปหมด
  ด้วยทุกๆคนรู้ซึ้งถึงกิติศัพท์ของกำนันมั่นดีว่าเป็นคนอย่างไร 
 บ้านก็พังพินาศหมดตามหนังสือพิมพ์พาดหัวโตๆพร้อม
กับรายละเอียดทั้งหมด  ภาพที่กำนันมั่นถูกจับใส่กุญแจมือถ่ายรูป
พร้อมสิ่งของผิดกฏหมายจำนวนมากมายพร้อมพวกอีกสองคน
   “ เฮ้ยๆๆแล้วลูกชายมันล่ะ???....ไม่เห็นมีข่าวอะไรนี่หว่า”  
ไอ้กุ๋นเอ่ยถามพรรคพวก
   “ส่งสัยว่ามันจะรู้ตัวแล้วรีบแอบหลบหนีไปกับพวกมันก่อน
จะค้นพบสิ่งของนี้อย่างแน่นอน”
   “นั่นซิว๊ะ  พ่อมันทั้งคนยังหนีเอาตัวรอดไป  มันนับเป็นคนได้ยังไงว๊ะ???...”
ไอ้ตีใหญ่กล่าวขึ้นบ้าง
   “แล้วข่าวลงอะไรอีกหรือว๊ะไอ้ชื่น???...”
ไอ้เปล่งเอ่ยขึ้นบ้าง มันฟังแล้วมานั่งคิดพลางหัวร่อ ฮึๆๆเท่านั้น
   “กูอ่านดูในข่าวเขียนว่าตำรวจแถลงการณ์เป็นการหักหลังการค้ากัน
 ด้วยพบปลอกกระสุนปืนเป็นของพวกฝั่งโน้นว๊ะ  เหมือนมึง???.......
อีกทั้งยาเสพย์ติดที่ฝ่ายโน้นทำหล่นทิ้งไว้ว๊ะ  เฮ้ยกูชักสงสัยบางอย่างเสียแล้วว๊ะไอ้เปล่ง”
พลางหันไปใกล้ๆไอ้เปล่งแล้วถามขึ้นแบบกระซิบเบาๆ
   “มึงไปเอายามาจากไหนว๊ะไอ้เปล่ง”
   “มึงอย่ารู้เลยว๊ะกว่าจะได้มาก็เสี่ยงน่าดู ต้องบีบคอมันถึงจะได้ว๊ะ”
เสียงเจ้าเปล่งเอ่ยเบาๆเสียงมันห้าวๆใหญ่ๆ
    แล้วไอ้ชื่นก็หยุดชะงักพรืดทันทีว่าไม่สมควรพูด  เพราะเรื่องนี้
พวกมันรู้แก่ใจกันทั้งสิ้น  ต่างคนก็ไม่กล้าเผยออกมาแม้แต่ระแคะระคาย
    ที่บ้านกำนันหวนก็อ่านข่าวนี้เหมือนกันต่างก็หันไปมองหน้าเมียพลันเอ่ยขึ้นว่า
   “แม่เย็นลูกเราและพรรคพวก  ไอ้เปล่งนี้มันสำมะคัญนัก
 สร้างเหตุการณ์ได้แนบเนียนเสียเหลือเกิน ข้าเองก็คิดไม่ถึงจริงๆ”
กำนันหวนเอ่ยปากชมไอ้เปล่งให้เมียฟัง
   “ใช่พี่???....แล้วชวนลูกเรามันไปไหนเสียล่ะ???...”
แม่เย็นเอ่ย
   “ไม่รู้เหมือนกันสายก็ไม่เห็นมันแล้วหรือว่าจะไปที่ไร่กระมัง”
กำนันหวนกล่าวอย่างไม่แน่ใจ
    “กชเอ๋ยๆๆๆอยู่หรือเปล่าล่ะลูก  เอ็งพอจะรู้ไหมว่าพี่ชายเอ็งหายไปไหน????....”
แม่เย็นเอ่ยถามลูกสาวคิดว่าคงจะรู้บ้าง
      ร่างหญิงสาวก็ก้าวออกมาจากครัว  แล้วเข้ามานั่ง
  “พี่ชวนบอกว่าจะเข้าไปตลาดซื้อของสักหน่อยจ้า  
 อ้าวๆๆๆมีข่าวอะไรหรือพ่อ???....”
   “กำนันมั่นและพวกถูกตำรวจและนายอำเภอจับกุมไป
ในข้อหามีอาวุธสงครามและยาเสพย์ติดอีกจำนวนมาก
  ตอนนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ที่โรงพัก เขาลงว่าตำรวจห้ามประกัน
ตัวอีกด้วย  สงสัยนายอำเภอจะปวดหัวในเรื่องนี้อีกมาก 
 ทางด้านโน้นพวกกำนันก็ถูกจับและเสียชีวิตในเรื่องค้าไม้เถื่อนอีก”
   กำนันหวนเอ่ยให้ลูกเมียฟัง
   “นั่นซิพี่???....รอบๆบริเวณแถบที่พวกเราอยู่นั้น ดีนะที่พี่ยังมีบุญอยู่โขนะ 
ทำให้รอดพ้นมาได้ กุศลช่วยแท้ๆ  กำนันต่างเว้นหมู่บ้านเราแล้วก็มี
หมู่บ้านโคกอีแร้งเท่านั้นที่ไม่โดนตำรวจเพ่งเล็ง 
 หากมีข้าและพวกต้องเห็นแน่ๆจ้า
  แล้วในหมู่บ้านเราก็ไม่มีการจำหน่ายยาอีกด้วยทำให้รอดพ้นไปได้ 
 พี่เห็นเป็นอย่างไรบ้างล่ะ???....”
   “นั่นซิแม่เย็นบุญข้าจะได้รับใช้พระพุทธศาสนาจึงทำให้ข้ารอดพ้นมา
 ถึงบาดเจ็บก็เพียงแค่ผิวกายเท่านั้นเอง  แม้ว่าข้าจะทำงานให้มันก็จริง
มันเคยถามข้าเหมือนกันว่า
แล้วไม่เอาไปจำหน่ายให้คนในหมุ่บ้านบ้างหรือ??..   
จะได้ร่ำรวยมากกว่าจะมารับจ้าง
ช่วยเท่านั้น  ข้าก็บอกว่าไม่หรอกลูกเมียมันไม่ชอบ
  อีกอย่างหนึ่งในใจข้าเองลึกๆแล้วก็ไม่ชอบ
เหมือนกันจ๊ะแม่เย็น  แค่นี้ข้ายังห้ามปรามพวกลูกบ้านไม่ได้ด้วย
เดี๋ยวมันจะเอามาอ้างดีนะเจ้าชวนมันและพรรคพวกคุมพวกนี้อยู่
จึงไม่มีการติดยามาก หากจะมีก็แค่แอบๆเท่านั้น  
หากเจ้าชวนมันจับได้มันจะไล่ตะเพิดไปหมด”
   “พูดถึงลูกคนนี้มันก็แปลกเหมือนกันนะพี่   แม้มันจะมาช่วยพี่ทำงาน
ก็ด้วยความจำใจเท่านั้น  มันเคยบอกแก่ข้าว่าเมื่อไหร่พ่อจะเลิกเสียที
 ส่วนจะมีคนมาเก็บพ่อนั้นไม่ต้องห่วงมันและเพื่อนๆคุ้มครองได้  
และมันเองก็เกลียดพวกนี้เสียด้วยซิ”
   แม่เย็นเอ่ยให้ผัวฟัง
   “ก็เพราะแบบนี้ซิข้าถึงได้รักมันมากเหมือนลูกในไส้แหละ 
 หากบวชก็จะทำการแบ่งสมบัติที่มีอยู่นี้ให้กับบงกชมันคนละครึ่ง
จะเหลือแค่ที่ในบริเวณบ้านนี้กับที่ดินไม่เท่าไหร่ให้แม่เย็นเพื่อใช้หากินต่อไป
  แต่แม่เย็นบอกว่าหากทุกอย่างเรียบร้อยก็จะไปบวชชี  แต่ถึงยังไงข้าก็จะ
แบ่งให้ไว้เผื่ออนาคตไม่แน่นอน  หากจะคิดพึงลูกๆมันจะดูกระไรอยู่นา 
ข้าเมื่อคืนนั่งคิดนอนคิดจึงวางแผนให้แก่แม่เย็นไว้แล้วล่ะ”
   กำนันหวนเอ่ย  พร้อมยิ้มส่งให้เมียคู่ทุกข์คู่ยาก 
 จนกระทั่งแม่เย็นต้องหยอกผัวตีที่หัวเข่าดังแปะๆ
   “เรื่องข้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอกพี่ ลูกทั้งสองคงจะไม่ทิ้งข้าให้อดตายหรอก 
อีกอย่างอายุก็ปูนนี้แล้วจะอยู่อีกได้สักเท่าไหร่ 
 ให้พี่ไปบวชให้สบายใจได้เถอะจะได้ไม่ต้องห่วงอะไรทางนี้จ้า
  ถึงข้าจะออกบวชเป็นชีก็ตามแต่คงจะไม่พักที่วัดมันไม่สะดวกและน่าเกลียด
ด้วยผัวหรือก็บวชพระอยู่จะเป็นที่ครหานินทาได้
   จึงคิดเหมือนกันว่า บวชแล้วจะมาพักที่บ้านเรานี่แหละจนกว่าเจ้ากชมัน
และเจ้าชวนมีเมียก็จะไปปลูกกระต๊อบหาที่ดินพอเหมาะอยู่จ้า  ให้พี่สบายใจได้แล้วล่ะ”
   แม่เย็นเอ่ยให้ผัวสบายใจ  เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลทางครอบครัว 
 พลางหันไปทางลูกสาวที่มาร่วมนั่งฟังพ่อแม่วิจารณ์เกี่ยวกับกำนันมั่นและส่วนตัว
   “เจ้าชวนบอกหรือเปล่าจะกลับเมื่อไหร่นะ???...
   “เอ๊ๆๆๆเรื่องนี้ไม่รู้เหมือนกันแม่ พี่ชวนไม่ได้บอก เพียงบอกแค่นี้แล้วก็
ขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไป จนป่านนี้ยังไม่กลับมาเลยจ๊ะแม่”
     ข่าวที่โด่งดังประจำจังหวัดแพร่สะพัดกระจายออกไปทั่วว่า
กำนันบ้านบางกะดี่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม  พาดหัวข่าวหน้าแรกทำให้เสี่ยเม้ง
ถึงกับผวาอุทานลั่นทันที
   “เฮ้ยๆๆๆมีใครอยู่บ้างว๊ะ ใครก็ได้ให้ไปตามพวกไอ้เซี๊ยะ ไอ้มุ้ย ไอ้เช้ง ไอ้สุย
มาพบกูหน่อยโว้ย???”
   “อยู่นี่แหละเสี่ยให้ไปตามพวกนั้นหรือ”
เด็กๆที่กำลังรดน้ำต้นไม้หน้าบ้านได้ยินก็ขานรับ  ด้วยเสียงเสี่ยเม้งดังลั่นไปหมด
   “เออๆๆเอ็งนั่นแหละรีบไปตามพวกมันมาพบกูด่วนด้วยนะ”
   “ครับเสี่ยเดี๋ยวข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
   แล้วร่างเด็กหนุ่มก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปหากพวกดังกล่าวทันที
 ในเวลาเดียวกันทั้งสี่กำลังนั่งปรึกษากันอยู่ถึงเรื่องนี้พอดี  เมื่อเด็กหนุ่มเข้ามาบอกว่า
เสี่ยเม้งต้องการพบตัวด่วน  มันทั้งสี่ก็ต่างลุกขึ้นแล้วก้าวออกจากบ้านไอ้เซี๊ยะ
เดินออกไปยังรถใครรถมัน  สตาร์ทรถออกไปพบเสี่ยเม้งทันที   
    เมื่อมาถึงเข้าไปในบ้านเห็นเสี่ยเม้งกำลังหน้าบูดหน้าเบี้ยว 
 เมื่อเห็นทั้งสี่ก็รีบเอ่ยขึ้นทันใด
   “พวกมึงคงรู้เรื่องหมดแล้วซินะเกี่ยวกับไอ้กำนันมั่นมัน”
   “พวกข้ารู้กันแล้วจากหนังสือพิมพ์นี่แหละ กำลังปรึกษากันว่ามันจะมาถึง
พวกเราหรือไม่เสี่ย”
   “ นั่นซิกูก็คิดเหมือนพวกมึงแหละ  แล้วเราจะทำอย่างไรกันดีล่ะโว้ย”
   “พวกข้าว่าคอยดูเหตุการณ์ไปก่อนไม่ดีหรือเสี่ย ด้วยระยะน่าสิ่งหน้าขวาน
ตอนนี้คงจะทำอะไรไม่ได้หรอก”
   “แต่ข้าก็ไม่ค่อยจะไว้ใจนักว๊ะ  หากมันรีดหนักๆเข้าไอ้กำนัน
มันจะทนไม่ไหวเสือกเผยขึ้นมาล่ะโว้ยไม่ฉิบหายกันไปหมดหรือ???....”
    สักครู่หนึ่งเด็กก็มาบอกว่ามีชายหนุ่มชื่อแม้นจะขอมาพบเสี่ยด้วยล่ะ
ครั้นเสี่ยงเม้งได้ยินก็รู้ว่าลูกชายกำนันมั่นมาพบเรื่องอะไร ก็หันไปบอก
เด็กมันว่า ให้เรียกมันเข้ามาได้
     เมื่อเจ้าแม้นก้าวเข้ามา เห็นคนหลายคนกำลังปรึกษากันอยู่ก็ยกมือไหว้
แล้วเอ่ยปากทันที
   “เสี่ยพ่อโดนจับไปแล้วล่ะ เสี่ยจะมีวิธีการช่วยเหลือได้อย่างไรเสี่ย”
   “เออๆๆข้ากำลังปรึกษากับพวกว๊ะ จะหาทางช่วยกำนันโดยเร็วที่สุด ข้าคิด
ว่าจะเข้าไปพบสารวัตรวิเชียรกับสารวัตรอำนวยปรึกษาว่าจะหาทางช่วยเหลือ
พ่อเอ็งได้อย่างไร  เอ็งก็รีบกลับไปจัดการสภาพในบ้านให้เรียบร้อยก่อนแล้วเอ็ง
รอดมาได้อย่างกันว๊ะ????...” 
เสี่ยเม้งเอ่ยถาม พร้อมจ้องหน้าลูกชายกำนันมั่นทันที
   “เมื่อเสี่ยรับปากอย่างนี้ข้าก็สบายใจบ้าง ส่วนข้านั้นเรื่องวงในไม่ค่อยจะรู้เรื่อง
รู้ราวหรอก เห็นต้องขอพึ่งเสี่ยนี่แหละที่จะช่วยเหลือพ่อข้าได้จ๊ะ”
ไอ้แม้นเอ่ยกับเสี่ย
    “เออๆๆมึงไม่ต้องห่วงหรอกเรื่องนี้เป็นธุระของข้าก็แล้วกัน มึงกลับไปได้แล้วล่ะ”
   “จ๊ะเสี่ยขอบใจเสี่ยมากนะหากพ่อเป็นอะไรไปข้ากับพวกจะช่วยเหลือเสี่ยในเรื่องนี้
ไม่ต้องให้กังวลเหมือนกัน เพียงขอให้พ่อข้าออกมาเท่านั้นจ๊ะ”
   “ก็คงจะเป็นอย่างงั้นมั๊งไอ้แม้น  อย่าอยู่นานเดี๋ยวกลิ่นมันจะไม่ดีโชยมาหาข้าได้
ก็จะทำให้งานช่วยเหลือติดขัดโว้ย”
   ครั้นไอ้แม้นได้ยินดังนั้นก็ยกมือไหว้เสี่ยงเม้งและพรรคพวกเสี่ย ออกมาพบกับไอ้สน
ไอ้เบี้ยวชวนกลับบ้าน ด้วยต้องไปสร้างบ้านชั่วคราวอยู่ก่อน 
  ทางไอ้สนกับไอ้เบี้ยวก็เอ่ยปากถามทันที
  “ เสี่ยมันว่าอย่างไรบ้างล่ะไอ้แม้น”
   “เสี่ยมันบอกว่าเป็นหน้าที่ของมันจัดการช่วยเหลือเอง จะไปติดต่อกับตำรวจ
รู้สึกว่าเป็นสารวัตรสองคน แต่กูไม่กล้าถามว่าเป็นใครกันว๊ะ”
   “อืมมๆๆๆก็ดีเหมือนกันแหละว๊ะไอ้แม้น ทางเราหรือเฉพาะมึงกับพวกกูทั้งสอง
ก็หมดปัญญาด้วยยังกว้างขวางไม่เพียงพอว๊ะ เสี่ยเม้งมันทำธุระกิจด้านนี้คงจะมี
พรรคมีพวกมากพอจะช่วยเหลือกันได้”
   “เออกูก็คิดเหมือนมึงแหละว๊ะ  เฮ้ยๆๆๆกลับบ้านกันได้แล้ว อ้อไอ้สน ไอ้เบี้ยว
มึงไปติดต่อช่างมาปลูกบ้านสั่งไม้อุปกรณ์มาทำบ้านอยู่ชั่วคราวก่อน ส่วนไฟฟ้า
นั้นก็ให้พวกเราที่เป็นไฟฟ้าต่อสายขึ้นไปใหม่  ให้ไปปลูกห่างบ้านที่พังอาศัยที่
ยังพอใช้ได้ทำเพิงให้พวกมึงกับกูพออาศัยไปก่อน แล้วก็หาช่างมาสร้างมันขึ้น
มาใหม่ก็แล้วกันให้กว้างใหญ่กว่าเดิมอีกนะ”
    “ไอ้สั่งนะสั่งได้โว้ยหาได้ไม่ยากหรอกหากมีเงินอยู่นะ แต่นี่พ่อกำนันไม่อยู่แล้ว
จะเอาเงินที่ไหนมาสั่งซื้อได้ล่ะ”
  ไอ้สนเปรยขึ้น
   “เรื่องนี้พวกมึงไม่ต้องห่วงหรอก  เพราะกูมีเงินที่อิบบ้างได้บ้างในธนาคาร ธกส.
อีกหลายๆแสนโว้ยที่ฝากไว้  กูนึกแล้วว่าวันใดวันหนึ่งต้องใช้มันด้วยพ่อกูเป็นคน
โลบมักจะเก็บคนเดียว  กูก็แอบซ่อนๆไว้ในการจำหน่ายยาโดยไม่บอกให้พ่อกูรู้
หากพ่อกูรู้   ถึงตอนนี้จะมีใครช่วยเราได้ว๊ะ หรือว่ามึงทั้งสองมีเงินเพียงพอหรือ??”
   “ลำพังวพวกข้าจะแดกก็ยังอาศัยบารมีมึงถึงมีกินมีใช้นี่แหละว๊ะ เงินไม่มีเก็บหรอก”
   “เอาล่ะๆๆเดี๋ยวไม่ทันจะมืดเสียก่อนจะหาที่ซุกหัวนอนไม่ได้  ให้มันสร้างที่พัก
ชั่วคราวไว้ก่อนนะ”
      หลังจากเดินทางมาถึงหมู่บ้านบางกะดี่แล้วทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปทำตามที่ไอ้แม้น
สั่งมา เพียงชั่วครู่ใหญ่  พวกช่างและสิ่งของก็มาถึง แล้วต่างรื้อบ้านเก่าเอาสิ่งที่พอใช้ได้
มาสร้างบ้านเล็กๆให้พวกไอ้แม้นและพวกอยู่กันชั่วคราวได้พลางๆก่อน
   “เฮ้ยๆๆๆลูกพี่มาโน่นแล้วโว้ย”
   เสียงบอกแจ้งให้บรรดาพรรคพวกฟัง ทุกๆคนหันไปมองหน้าร้านทันที  ร่างของหนุ่ม
ชวนก็เดินยิ้มกริ่มเข้ามายังโต๊ะของเพื่อนๆทันที  ต่างสนทนาคุยกันด้วยเสียงหัวร่อกันถึง
เรื่องกำนันมั่นแต่ทุกๆคนไม่เอ่ยแย้มพรายเกี่ยวกับเรื่องนี้  ข่าวการมาของหนุ่มชวนรู้ไป
ถึงสาวลัดดาเจ้าของร้านทันที   
   “อ้าวพี่ชวนมาเมื่อไหร่หรือจ๊ะ”  เสียงอ่อนหวานของสาวเจ้าดังขึ้น
   “อ้อๆๆพี่ถึงมาถึงนี่เองแหละจ้าแม่ลัดดา   ขอเป๊ปซี่เย็นๆสักขวดซิ แต่วันนี้ผมจะจ่ายนะ
ไม่ต้องให้แม่ลัดดาเลี้ยงหรอก”  
หนุ่มชวนหันไปยิ้มกับสาวเจ้าของร้าน ที่แลดูมีอาการสะเทิ้นอายนิดๆ    
   “เดี๋ยวดาจะไปเอามาให้เองเดี่ยวนี้ละจ๊ะ” 
 แล้วสาวเจ้าก็รีบเดินไปที่ตู้เย็นขนาดเขื่องๆเปิดตู้นำเป๊ปซี่มาเปิดแล้วเอาหลอดใส่มาส่งให้
ชายหนุ่ม  พลางหันไปลากเก้าอี้มานั่งลงข้างๆชายหนุ่ม
   ทำเอาพวกมดแดงทั้งหลายแตกฮือต่างเรียกให้สาวลัดดาไปเก็บเงิน  สาวเจ้าก็หันไปสั่ง
เด็กของหล่อนให้ไปเก็บเงินแทน  ยิ่งทำให้บรรดาชายหนุ่มหวังจะได้ใกล้ชิดสาวสวยเจ้าของ
ร้านเป็นอันแห้วไปตามๆกัน  พวกมันทั้งหมดนี้รู้ว่า บัดนี้เจ็ดพระกาฬมาชุมนุมกันครบแซด
หากปากใครไม่ดีมีหวังต้องไปรักษาปากมันแน่  เมื่อจ่ายเงินแล้วก็ออกไปแต่ไม่วายหันมา
เพื่อจะส่งยิ้มให้เจ้าของร้าน แต่ก็ต้องชะงักด้วยเห็นสาวเจ้าคุยกับลูกชายกำนันแถมยังเบียด
ร่างไปบนแขน จับไม้จับมือเสียอีกเลยทำให้พวกมดแดงทั้งหลายรีบออกจากร้านโดยเร็ว
   เวลาผ่านไปตั้งนานสาวลัดดาก็ไม่ยอมลุกจากไป  เมื่อมีคนมาสั่งอาหารหล่อนก็หันไป
บอกเด็กๆให้ทำหน้าที่แทน ปกติหล่อนจะทำหน้าที่เก็บเงินด้วยและปรุงอาหารไปด้วยซึ่งฝีมือ
การทำอาหารเป็นที่เลื่องลือในหมู่บ้านบางโคทั้งสิ้น
   “วันนี้พี่ชวนไม่เข้าไปไร่สวนหรือจ๊ะ”
   “ไม่หรอกน้องดา วันนี้ต้องคอยดูอาการพ่อหน่อยรู้สึกไม่ค่อยสบายจ๊ะ”
   “ถ้าอย่างนั้นเป็นมากไหมล่ะ  เดี่ยวดาจะจัดหยูกยาไปให้ท่านกินนะพี่”
   “อย่ายุ่งยากแก่ดาเลยจ๊ะ แค่นี้พี่ก็เกรงใจดาเสียยิ่งนักแล้วล่ะ”
   “โถๆๆๆอย่าคิดเป็นอย่างอื่นไปซิจ๊ะพี่ชวนนี่คนกันเองทั้งนั้นล่ะ”
   “โอ๊กๆๆๆกูคลื่นไส้ว๊ะไอ้เปล่งโว้ย”
เสียงไอ้กุ๋นร้องขึ้นมา
   “เอาส้นตีนกินแทนยาไหมล่ะ ไอ้กุ๋น”
เสียงสาวลัดดาหันขวับมาถามทันที คล้ายๆจะรู้อะไรเป็นอะไร
   “ก็แม่ดาจ๋า มันคงจะเลี่ยนกระมังนะ ด้วยเสียงน้ำคำมันหวาน
หยดย้อยจริงๆแม้แต่ข้ายังตาลอยไปเลยล่ะ แม่ดา”
เสียงไอ้วาสผสมโลงเข้ามาอีก  มันคิดว่านี่คือการชมคงจะได้รับ
การยอมรับจากสาวเจ้าไม่มากก็น้อย มันคิด  
   “แต่ข้าไม่เอาแบบไอ้กุ๋นนะไม่ดาจ๋า”
   “ถ้าไม่เอาแบบไอ้กุ๋นเอาแค่หัว...ใกล้ๆกับให้ไอ้กุ๋นก็แล้วกันนะ
หันมามองหน้าไอ้วาสทันที
   “ข้าไม่เอาทั้งนั้นแหละนี่ข้าชมเอ็งนะโว้ยแม่ดาคนงาม”
   “เหร๋อๆๆนึกว่าต้องการเสียอีก อย่างนั้นก็แล้วไป”
แม่ลัดดาสาวงามประจำหมู่บ้านเอ่ยขึ้น
    พลางหันมาทางชวนทันทีแล้วเอ่ยปากถามว่า
   “พี่ชวนกินข้าวมาหรือยังล่ะจ๊ะ เดี๋ยวดาจะไปทำอาหารมาให้จ๊ะ”  
สาวลัดดาถามพร้อมชะม้ายตามองด้วยสายตามีความหมาย
   “เอามาเลยจ๋ะดาจ๋ากำลังหิวพอดีเชียวล่ะ”
ไอ้ตี๋ใหญ่กล่าวแทนชวนทันที
   “แล้วมึงจะเอาผัดเผ็ดแบบไอ้กุ๋นไหมล่ะ เดี่ยวกูจะเข้าไปในครัวถากมาทำ
อาหารให้ เอาไหมล่ะ???....”  
 สาวลัดดาย้อนถามทันที
   “แล้วไอ้คุณชวนนั้นแดกได้ไหมล่ะจ๊ะแม่ลัดดา”
ไอ้ตี๋เล็กเอ่ยบ้าง พลางหัวร่อลั่น  ส่วนไอ้เปล่งมันตั้งแต่มาไม่เคยพูดสักคำเดียว
ได้แต่นั่งจิบเหล้าไปพลางฟังเพื่อนๆมันพูด
   “เดี๋ยวข้าจะทำอาหารพิเศษให้พวกมึง ส่วนพี่ชวนและไอ้เปล่ง
มันของธรรมดาไม่เหว๋อหวาอะไรหรอกนะ  คงจะมีจำพวกของตัวใหญ่เช่น
กุ้งไข่ปลาหมึกไข่ผัดยัดไส้ให้นะจ๊ะพี่ชวนและเจ้าเปล่งด้วย”
   “อ้าวๆๆแล้วพวกข้าล่ะมีอะไรพิเศษหรือ???...แม่ดา”ไอ้ชื่นเอ่ย
   “มีซิรับรองว่าพิเศษแบบกินแล้วลืมไม่ลงล่ะนึกถึงสวรรค์เชียวล่ะโว้ย”
   “เฮ้ยๆๆงั้นไม่ต้องอาศัยไอ้ชวนกับไอ้เปล่งกินก็ได้ว๊ะ”
   “อยุ่กินข้าวกับดาก่อนนะ  คราวนี้ต้องอย่าปฏิเสธอีกนะ”
แม่สาวสวยถามดักคอทันที  ด้วยปกติชวนมักจะหาทางหลีกเลี่ยงอยู่เสมอๆ
   “จ้าดาวันนี้พี่จะทานข้าวร่วมกับดาจ๊ะ” 
   “อย่างนั้นรอเดี๋ยวนะจ๊ะ  ดาจะรีบไปทำอาหารเดี๋ยวนี้แหละจ้า “  แล้วหล่อน
ก็รีบเข้าครัวไปทันที................
                 * แก้วประเสริฐ. *

qp011.gifCartoon_Animation_08.gifflowers_170.gif692823n68ya60jv9.gif				
comments powered by Disqus
  • กิ่งโศก

    5 มกราคม 2554 08:43 น. - comment id 118477

    สวัสดีบครับครู
    
    ผมอยากขออนุญาตครู ก๊อบ เรื่องสั้น สามเรื่อง นะครับ
     ทัศยุราชัน
    ลุ่มอิสรวดี
    อาทิสมานกาย
    
    คือ..แต่ละเรื่องนำแต่ละตอน มาต่อกัน เวลาอ่านจะได้ อ่านรวดเดียวนะครับ.
    ผมจะก็อบ ไว้ที่เครื่องคอมฯผมนะครับ
  • แก้วประเสริฐ

    5 มกราคม 2554 12:48 น. - comment id 121065

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
            ศิษย์รักเรายิ่ง  ตามสบายเถอจ้างานของ
    ครูก็เหมือนงานของเธอแหละ ครูได้รับเพียง
    อารมณ์หากจะเอาเสนอขายก็คงจะได้กระมัง
    ด้วยครั้งหนึ่งเคยมีคนมาติดต่อครูเหมือนกัน
    แต่ครูไม่เอา เพราะไม่อยากมีภาระเกิดกับ
    ตัวครูเองมาก จึงได้ปฏิเสธเขาไป หากศิษย์
    นำมาขัดเกลาอีกทีแล้วเสนอขายไปก็
    คิดว่าจะได้ค่าขนมกินได้บ้างล่ะ  ก๊อปไป
    เลยจ้า  สำหรับเรื่องนี้นั้นจะออกยากเป็น
    พิเศษ ตอนนี้ครูคิดนะแค่ครึ่งทางเท่านั้น
    เองจ้า  ครูอนุญาติแก่ศิษย์ครูเสมอ
             รักศิษย์เรามากเสมอ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน