* ตำรายาสมุนไพรกลางบ้าน ๗ * ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมเองกำลังเปื่อยมากๆด้วย อาจจะทิ้งช่วงไปบ้างทั้งที่พึ่งจะ ทุเลาขึ้นบ้าง แต่ให้ห่วงในสิ่งที่ทำไปยังไม่สำเร็จ การลงให้ศึกษาตัวยาสมุนไทยเราโบราณ เรานั้นถึงแม้นว่าจะเต่าล้านปีก็ตาม ใช้ก็ได้ไม่ใช้ก็ดีด้วยต้องมาคัดเลือกในสิ่งที่ค่อนข้างจะ หายากสักหน่อย ผมจะแนะนำให้หากไม่รู้จักและต้องการใช้ยาขนานใดขนานหนึ่งแล้ว เราหาไม่ครบ ให้จดรายการนี้แล้ว ให้คุณไปที่ร้านเจ้ากรมเป๋อ ข้างวัดสามปลื้ม กทม. หรือสอบถามคนแถวๆนั้น ซึ่งเขาก็จะรู้จักกันแทบทุกๆคน เป็นศูนย์กลางของสมุนไพรไทยเราแทบจะหมด เขาค้าขายมาหลายชั่วอายุคนแล้ว ต้นตำหรับนั้นรับราชการหลายสมัยต่อเนื่องมา จนได้เป็นถึงเจ้ากรม แต่ท่านชื่อเล่นว่า “ เป๋อ ” สืบสายมาจนชั่วลูกชั่วหลานดำรงไว้ตามที่ต้นตำหรับ ร้านอยู่ติดกับข้างประตูเข้าวัด พอเดินไปเกือบถึงก็จะได้กลิ่นหอมของตัวยาต่างๆ อาจบางทีถึงไม่ต้องสอบถามก็รู้ จำหน่ายหรือก็ราคาถูกหรือปานกลางไม่ได้คิดเพิ่มไปมากอีกเลย กำไรนิดๆหน่อยๆ ด้วยฐานะเขามั่นคงเป็นทานแก่บุคคลยากจน จึงคิดในราคาเกือบจะต้นต้น คุณเชื่อไหมล่ะ???.....ว่าตัวยาต่างๆอันไร้คุณค่าในสายตาปัจจุบันนี้จะดำรงไว้ศักดิ์สิทธิ์นัก ด้วยช่วยเหลือคนต่างๆมาตั้งแต่อดีตกาลจวบปัจจุบันให้รอดตายหายจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ มาก็มากเสียมากแล้ว ในบางครั้งสิ่งใกล้ตัวเราแต่เราไม่รู้วิธีการใช้ก็จะไร้ค่าไป แม้นแต่แพทย์ แผนปัจจุบันก็ยังยอมรับในข้อนี้ ยอมบรรจุลงในหลักสูตรการสั่งสอนไว้ด้วย และได้จัดการ ทดสอบผลการเล่าเรียนรู้จากคนทั่วๆไป ยังออกประกาศนียบัตรให้อีกด้วย ยกย่องว่าเป็น แพทย์แผนโบราณ ให้เป็นเกียรติยศสืบต่อในวงศ์ตระกูลอีกด้วย เท่านี้ก่อนนะครับ ขอให้ทุกๆคนปราศจากโรคา พยาธิ อันพึงทรมานนี้ด้วยเทอญฯ * แก้วประเสริฐ. * ยาแก้โรคท้องเดิน (ต่อ) ขนานที่ ๑๐ ท่านให้เอาพริกแห้ง ๕ เม็ด (ลงด้วยพระเจ้าห้าพระองค์คือ นะ โม พุท ธา ยะ องค์ ๑ เม็ด) กลั้นใจเด็ดเม็ดพริกแห้งทั้ง ๕ เม็ดนั้นให้ขาดจากกัน หัวข่าสด (กลั้นใจหั่นเป็นแว่น)๗ แว่น แล้วลงด้วยพระพุทธคุณ (อิติปิโส ไปจนถึง ภควาติ) บนแว่นข้าทั้ง ๗ นั้น เกลือทะเลตัวผู้ (เกลือที่เม็ดยาวๆ) กลั้นใจหยิบด้วยนิ้วมือทั้ง ๓ คือ (นิ้วหัวแม่มือ ๑ นิ้วชี้ ๑ นิ้วกลาง ๑ ) ๑ หยิบมือ นำตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้ นำมาใส่หม้อดินต้ม กับน้ำพอควร ใช้น้ำยารับประทาน ครั้งละ ๑ ถ้วยชา (ยาขนานนี้เป็นยาผีบอก ก่อนต้มยา ให้จุดธูป ๓ ดอกในที่กลางแจ้ง บอกขออนุญาตยาเจ้าของนี้ด้วย) มีสรรพคุณ แก้โรคท้องเดินอย่างรุนแรง มีอาการทั้งลงทั้งราก จนคนป่วยมีอาการตัวเย็น ซีดเหลือง ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ เคยใช้รักษาได้ผลดีมาแล้วฯ (พระอธิการกุศล ถิรธมฺโม วัดหน่องกระทู้ (สมานสามัคคี) อ.สองพี่น้อง สุพรรณบุรี) ขนานที่ ๑๑ ท่านให้เอายาแก้ปวดทัมใจ ๑ ห่อ นำมาผสมกับน้ำปลา หรือ ผสมกับน้ำปูนใส (น้ำปูนแดงกินกับหมาก) ก็ได้ พอประมาณ ใช้รับประทาน ๑ ถ้วยชา มีสรรพคุณ แก้โรคปวดท้อง โรคท้องเดิน (โรคท้องร่วง โรคลงท้อง) ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ (พระครูสิทธิอรุณรังษี วัดรังษีสุทธาวาส อ.ศรีราชา ชลบุรี) ขนานที่ ๑๒ ท่านให้เอา เปลือกต้นขี้อ้าย พอประมาณ นำมาใส่หม้อดิน ต้ม กับน้ำปูนใส (น้ำปูนแดงกินกับหมาก) ใช้น้ำยารับประทาน ๑ ถ้วยชา มีสรรพคุณ แก้โรคท้องเดิน ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ (พระครูศรีวรพินิจ วัดบางนาใน เขตพระโขนง กรุงเทพมหานครฯ) ขนานที่ ๑๓ ท่านให้เอา ซังข้าวโพด (ฝักข้าวโพดที่ต้มสุกกิน เนื้อหมดแล้ว) ๑ ฝัก กับ เกลือทะเล (เกลือใส่แกง) ๑ กำมือ ตัวยาทั้ง ๒ อย่างนี้ นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอควร ใช้น้ำยารับประทาน ครั้งละ ๑ ถ้วยชา มีสรรพคุณ แก้โรคท้องเดิน โรคท้องร่วง โรคท้องเสีย ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ (พระสมุห์อ่อน จุลฺลวํโส วัดนิคมวาสี อ.พระพุทธบาท สระบุรีป ขนานที่ ๑๔ ท่านให้เอา กล้วยตีบดิบ ๑ ผล กับ เกลือทะเล (เกลือใส่แกง) นำมาตำให้ละเอียด ผสมกับ น้ำต้มสุก ประมาณ น้ำยา ๑ ถ้วยชา ใช้รับประทาน มีสรรพคุณ แก้โรคท้องเดินได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ (พระสมุห์อ่อน จลฺลวํโส วัดนิคมวาสี อ.พระพุทธบาท สระบุรี) ขนานที่ ๑๕ ท่านให้เอา เปลือกส้มโอ ๑ เปลือกต้นพุทรา ๑ ใบฝรั่ง ๑ หวายลิง ๑ ตัวทั้ง ๔ อย่างนี้ เอาอย่างละ ๑ กำมือเท่ากัน ขมิ้นอ้อย ๕ แว่น ลงด้วยพระเจ้าห้าพระองค์ คือ(นะ โม พุท ธา ยะ แว่นละ ๑ พระองค์) ตัวยาทั้ง ๕ อย่างนี้ นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำ ๓ ส่วน เคี่ยวให้เหลือน้ำ ๑ ส่วน ใช้น้ำยารับประทาน ๑ ถ้วยชา จำนวน ๓ ครั้ง ระยะห่างกันครั้งละ ๓๐ นาทีถึง ๑ ชั่วโมงฯ ถ้าเป็นโรคท้องเดินอหิวาตกโรค ให้แทรก ผิวมะกรูด กับ กำมะถันเล็กน้อยฯ ยาขนานนี้ มีสรรพคุณ แก้เด็กถ่ายเป็นมูกเลือด แก้ไข้รากสาด ไข้อติสาร ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ (พระธรรมปิฎก วัดชนะสงคราม กรุงเทพมหานครฯ) ขนานที่ ๑๖ ท่านให้เอา ยอดต้นฝรั่ง ๔-๕ ยอด นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอคว ร ใส่เกลือทะเล(เกลือใส่แกง) ลงผสมเล็กน้อย ใช้น้ำยารับประทาน ๑ ถ้วยชา มีสรรพคุณ แก้โรคท้องร่วงของเด็กและผู้ใหญ่ ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแล (จำลอง ศิริเพ็ญพงศ์ กรุงเทพมหานครฯ) ขนานที่ ๑๗ ท่านให้เอา ใบต้นฝรั่ง มากพอสมควร นำมาตำให้ละเอียด คั้นเอาน้ำ ผสม กับ น้ำผึ้งแท้ ประมาณ น้ำยา ๑ ถ้วยชา กวนให้เข้ากันดีแล้ว ใช้รับประทาน มีสรรพคุณ แก้โรคท้องร่วงได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ (ประพันธ์ พัทยาวรรณ จ.ตาก) ขนานที่ ๑๘ ท่านให้เอา ผลมะเฟืองสุก (ที่มีรสเปรี้ยวจัดๆ) จำนวนมากพอสมควร นำมาคั้นเอาน้ำ ๑ ถ้วยกาแฟ ผสมกับ น้ำตาลทรายขาว พอมีรสหวาน ใช้น้ำยารับประทานครั้งเดียวให้หมด แล้วนอนพักผ่อน หลังจากรับประทานยานี้แล้ว จะถ่ายอุจาระอีก ๑-๒ ครั้ง แล้วจะหยุดท้องร่วง แล้วหายปวด มีสรรพคุณชะงัดนักแลฯ (พระอธิการอินสม เรือนเพ็ชร วัดพระธาตุคว่ำหม้อ อ.เมือง ลำปาง) ขนานที่ ๑๙ ท่านให้เอา ใบชาจีน (ใบชาใช้ชงน้ำร้อน) ๑ หัวหอมแดง (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ) ๑ น้ำตาลทรายแดง ๑ ตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้ เอาอย่างละ เท่าๆกัน ห่อผ้าขาวบางแช่ในน้ำร้อน ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา ประมาณวันละ ๓-๔ ครั้ง มีสรรพคุณ แก้โรคท้องร่วง ท้องเดิน โรคบิด ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ (พระอธิการสมจิตต์ นิทฺเทสโก วัดตาล อ.ปากเกร็ด นนทบุรี) ขนานที่ ๒๐ ท่านให้เอา ผิวมะกรูด ๑ ผล นำมาตำให้แหลก ผสมกับน้ำปูนใส (น้ำปูนแดงกินกับหมาก) และแทรก พิมเสน เล็กน้อย ประมาณน้ำยา ๑ ถ้วยชา ใช้รับประทาน มีสรรพคุณแก้โรคท้องร่วง โรคจุกเสียดท้อง ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ (พระครูพิบูลรัตนากร วัดสามกอ อ.เสนา อยุธยา) ขนานที่ ๒๑ ท่านให้เอา ใบต้นข่อย ๑ กำมือ นำมาตำให้แหลก คั้นเอาน้ำประมาณ ค่อนแก้วกาแฟ ผสมกับ สุรา ใช้รับประทาน ชั่วระยะเวลา ๑๐ นาที อาการโรคท้องร่วง และ อาเจียนจะหยุดทันที มีสรรพคุณชะงัดนักแลฯ (พระทองใบ เตชปุญฺโญ วัดลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล ลพบุรี) ยาแก้ ปวดท้อง-เจ็บท้อง-เสียดท้อง ขนานที่ ๑ ท่านให้เอา หัวข่าแก่ๆ นำมาตำให้ละเอียด ผสมกับน้ำปูนใส (น้ำปูนแดงกินกับหมาก) ประมาณ ๒ ถ้วยแก้ว กวนให้เข้ากันดีแล้ว กรองด้วยผ้าขาวบาง ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา มีสรรพคุณ แก้อาการปวดท้อง-เจ็บท้อง-เสียดท้อง ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ (พระทองใบ เตชปุญฺโญ วัดลำนายรายณ์ อ.ชัยบาดาล ลพบุรี) ขนานที่ ๒ ท่านให้เอา ตะไคร้ ๕ ต้น (เอาทั้งต้นตลอดถึงราก) นำมาล้างน้ำให้สะอาด สับเป็นท่อนๆใส่หม้อดินต้มกับน้ำ ใส่เกลือทะเล (เกลือใส่แกง) ลงผสมพอสมควร ถ้าท้องผูก พึงใส่เกลือให้เค็มจัดๆ ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ แก้ว มีสรรพคุณ แก้โรคปวดท้อง ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ (วิทยาทานสงวนนาม) ขนานที่ ๓ ท่านให้เอา ขนุนดิบๆ (ปอกเปลือกออกเสีย) ๑ เมล็ด กับ เกลือทะเล (เกลือใส่แกง) พอสมควร นำมาใส่ปากเคี้ยวให้ละเอียดแล้ว กลืนลงท้อง มีสรรพคุณแก้โรคปวดท้องให้หายไปทันที ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ (พระเอื้อน เถรธมฺโม วัดสี่แยกบ่อนอก อ.เมือง ประจวบคีรีขันธ์) ขนานที่ ๔ ท่านให้เอา ใบมะนาว ๑๐๘ ใบ ก้านสะเดา ๑๐๘ ก้าน ใบมะกา ๑ กำมือ ขมิ้นอ้อย ๕ แว่น บอระเพ็ด ๗ องคุลี ฝักคูณ ๗ ฝัก ตัวยาทั้ง ๖ อย่างนี้ นำมาใส่หม้อดิน ต้มกับน้ำพอควร ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา มีสรรพคุณแก้โรคปวดท้องของคนสูงอายุ ซึ่งปวดเป็นประจำ กินยาอะไรๆก็ไม่หาย เคยใช้รักษาหายมาหลายคนแล้ว มีสรรพคุณชะงัดนักแลฯ (พระครูปัญญาวัชรากร วัดหนองปลาไหล เพชรบุรี) วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ หากทุเลากว่านี้จะลงให้มากๆครับ ขอให้พ้นจากโรคา พยาธิ นานานับประการเทอญ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้แลฯ * แก้วประเสริฐ. *
26 ธันวาคม 2553 22:28 น. - comment id 120783
มาส่งรอยยิ้มค่ะ... คุณชาย......
26 ธันวาคม 2553 23:54 น. - comment id 120785
คุณ ทางแสงดาว เพียงแค่รอยยิ้ัมก็พึงพอใจแล้วสำหรับผม ครับ ขอบคุณมากรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 ธันวาคม 2553 13:58 น. - comment id 120808
รักษาสุขภาพด้วยค่ะ อยู่ต่างจ.นี่ขาดทุนนะคะ จะนำเข้าเครื่องใหม่หมดเลยค่ะ ของดีอย่างนี้
27 ธันวาคม 2553 14:03 น. - comment id 120809
อ๋อ เอาไว้ให้ครูลงหมดก่อนนะคะ ตอนว่างๆช่วงปิดเทอมใหญ่ จะเรียบเรียง ใหม่ คงทำแบบเข้าเล่มเอง ไม่ยุ่งยากดีค่ะ แล้วจะส่งให้ครูด้วยค่ะ
27 ธันวาคม 2553 16:54 น. - comment id 120812
คุณ ช่ออักษราลี ศิษย์รุ่นแรกของครู อันเจตนารมณ์พร้อม ด้วยปนิธานที่ก่อให้เกิดมวลพลังอันทรงคุณ ค่าที่จะรักษาไว้ในเรื่องนี้นั้น แม้นว่าจะอยู่ หนแห่งใดใกล้หรือไกลก็หาได้เป็นปัญหา หากการสื่อสารสมัยนี้ทันสมัยอยู่แล้ว อนึ่งการรักษาให้ตำรายาสมุนไพรเพื่อจะ สืบสานตฺ์ให้แก่อนุชนรุ่นหลังที่เพียรศึกษาไว้ ก็ถือได้ประหนึ่งว่าเราได้ทำบุญซึ่งแม้ว่า จะเกิดขึ้นแก่จิตใจเราเบื้องต้นนั้นก็ตาม ขอให้มีเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง แล้วไซร้ ปัญหาทุกๆอย่างย่อมไม่เกิดขึ้น หรอก อนิสงฆ์แห่งจิตที่จะรักษาสิ่งที่ ปัจจุบันได้ทอดทิ้งไปแล้วก็ตามที แต่ ในบางสิ่งบางอย่างก็สามารถใช้บรรเทา โรคต่างได้ทันเหตุการณ์ซึ่งดำรงไว้ในความ เจ็บปวดทุกข์ทรมานได้เบื้องต้นด้วยสิ่ง ของใกล้ตัวหรือเขามักจะกล่าวว่า หญ้าใกล้ปากคอกนั่นเอง มัวแต่ไปสนใจ ในที่ห่างไกล ทั้งๆที่คนเจ็บนั้นไม่อาจจะ รอเวลาได้ ยิ่งต่างจังหวัดนั้นห่างไกลกับ สถานีอนามัยด้วยแล้ว เป็นปัจจัยสำคัญยิ่ง ในเมื่อศิษย์เราสนใจเคยเกริ่นไว้นั้น ตอนแรกครูก็ดูเฉยๆทดลองน้ำใจว่ามี ปฏิภาณแน่วแน่หรือไม่ ครั้นได้วิสาสะแล้ว ทดลองแล้วจึงทราบว่า เธอเป็นคนหนึ่ง ที่จะรักษามรดกอันล้ำค่าชิ้นนี้ให้ดำรงไว้ คู่กับไทย จึงได้สานต่อปนิธานของเธอ เพื่อจะได้ไม่เกิดข้องหมองจิต ด้วยหมู่ เหล่าตำรานี้ ครูได้เก็บไว้มานานแล้วมิได้ ไปเผยแพร่ต่อสาธารณะชนแต่ใดไม่ คงจะเป็นด้วยอานุภาพของเจ้าของ ตำราจึงพลิกเปลี่ยนจิตใจครูนั้นลง จึงได้ นำมาเผยแพร่สนองปนิธานของเจ้าประคุณ ไว้ ณ สถานที่นี้ ขอศิษย์เราจงเจริญๆเถิด รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
27 ธันวาคม 2553 16:50 น. - comment id 120813
คุณ ช่ออักษราลี หากสำเร็จตามเป้าหมายที่เกิดในใจแล้ว ควรจะพิจารณาว่าบุคคลใดสมควรจะรับไว้ หรือไม่ ให้ดูเจตนารมณ์ของเขาเป็นหลักใน การพิจารณาของเราเป็นปฐมเหตุก่อน จึีงจะ มอบให้แก่เขา ส่วนครูนั้นไม่เป็นปัญหาหรอก หากได้ไว้ก็จะได้เก็บเป็นมรดกสืบต่อไป แก่วงศ์ตระกูลของครูหากเขาให้ความสน ใจแม้ในหนึ่งเศษเสี้ยวผงธุลีก็ยังดี รักศิษย์เรามากเสมอ แก้วประเสริฐ.