อทิสมานกาย ๓๙
แก้วประเสริฐ
อทิสมานกาย ๓๙
ระยะนี้อากาศเริ่มหนาวเย็นเพิ่มมากขึ้น ด้วยหมู่บ้านโคกอีแร้งนั้น
อยู่ภายในพื้นที่เป็นแอ่งที่ล้อมรอบด้วยขุนเขาต่างๆ อากาศตอนเช้าเริ่มมีหมอก
เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ลมพัดเริ่มรุนแรงกว่าเดิม หลังจากที่ชายหนุ่มได้ไป
ออกกำลังกายวิ่งพอได้เหงื่อมากพอแล้วก็วิ่งกลับเข้าบ้าน
มาเพื่อบริหารร่างกายต่อไป เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพการเปลี่ยนแปลง
ทางด้านหมู่บ้านบางกระดี่ กำนันมั่นกำลังคุยกับเสี่ยหว่าง
และคนของเขาอยู่ เรื่องเกี่ยวกับการขนย้ายไม้ สถานที่
วันและเวลาลงมือทำงานกันที่จะมาถึงอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ฉะนั้นเสี่ยหว่างจึงต้องรีบทำงาน ให้ทันตามคำสั่งทางกรุงเทพฯที่เร่งรัดเสี่ยไว้
ทางกำนันก็กล่าวขึ้นว่า......
เสี่ยทางเราได้จัดเตรียมกำลังคนไว้ให้แล้วแต่คงไม่มากนัก
ด้วยเสียคนไปก่อนหน้านี้มากมาย คงจะราวๆประมาณสิบกว่าคนเท่านั้น
และต้องฝึกคนให้ชำนาญเกี่ยวกับอาวุธปืนอีกมากเสียด้วย
ไม่เป็นไรหรอกกำนันแค่นี้ก็ดีแล้วจะได้ช่วยๆกันเท่าที่ทำได้ อั้วเอาคนมามาก
วันนี้อั้วเองก็นำคนมาเพื่อจะไปดูพื้นที่ก่อน คิดว่าจะเริ่มลงมืออีกภายใน
ไม่เกินสามวันนี้แหละ ที่มาหานั้นเพื่ออาศัยทางผ่านแถวนี้เป็นบางส่วนเท่านั้น
และไม่ทำให้กำนันเสียหน้าด้วย จึงแวะมาบอกก่อน แล้วก็จะออกเดินทางไป
หากำนันหวนและ กำนันใช้เสียเลย แล้วกำนันจะไปด้วยหรือไม่ล่ะ???....
เสี่ยหว่างถามขึ้น.......
อันที่จริงนั้นกำนันมั่นไม่ค่อยอยากจะยุ่งงานนี้เท่าไหร่? แต่ด้วยอำนาจของเงิน
ที่เสี่ยหว่างให้ก่อนและยังแจ้งว่ายังจะมีมาอีกจำนวนมากอย่างไม่อั้นนั้น
ทำให้กำนันมั่นเกิดความโลภมาก ครั้นจะวางมือเสียก็เสียดายยิ่งซ้ำเกรงใจเสี่ยเม้งอีก
หากจะเพียงแค่การติดต่อกับกำนันและบรรดาสถานที่ ที่ทางเสี่ยต้องการแล้ว
กำนันมั่นคิดว่าไม่ยากนักเท่าไหร่ ด้วยกำนันแถบริมโขงนั้น
ล้วนแล้วแต่เป็นพวกตนเกือบทั้งสิ้น
พลันกล่าวตอบว่า.......
วันนี้ผมไม่ว่างเสียด้วยต้องเดินทางเข้าไปยังเมือง
ด้วยเจ้านายให้คนมาบอกไว้แล้วล่ะ?
แต่ไม่เป็นไรนะจะให้คนของผม นำทางเสี่ยและพวกล่วงหน้าไปก่อน
หากการเจรจายังไม่เสร็จเร็วหากเสี่ยยังไม่กลับ
ผมก็จะไปร่วมปรึกษางานด้วยเพื่อว่า
ในวันข้างหน้าเราจะได้ช่วยเหลือกันได้อีก หากเสี่ยเม้งไม่มีงานให้ทำนะ???...
และจะได้ประสานกันได้สะดวกยิ่งขึ้น...... ด้านกำนันมั่นกล่าวตอบ.....
เอาแบบนี้ก็ได้นะกำนัน กำนันให้เด็กนำทางก็ดี ด้วยทางอั้วจำทางไม่ค่อยจะ
ได้เสียด้วยทางมันคดเคี้ยวไปๆมาๆด้วยเป็นแถบภูเขา ทางก็ไม่สะดวกเสียด้วยอีก
ตลอดทางมีทางแยกแยะกลัวจะผิดทางเสียเวลาย้อนกลับ หาทางไปใหม่
เวลาอาจจะไม่ทัน ด้วยพึ่งจะมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น???...
เสี่ยหว่างเปรยให้กำนันฟัง เพื่อรอคำตอบของกำนันมั่นอยู่
กำนันมั่นก็กล่าวขึ้นว่า.....
แล้วเสี่ยจะออกเดินทางเมื่อไหร่ล่ะ???..... กำนันมั่นถาม
ทางเสี่ยหว่างก็ตอบทันที....
งั้นก็ดีแล้วไปเสียเดี๋ยวนี้กันเลยก็แล้วกันด้วยเวลาไม่ค่อยท่าเสียด้วย....
พลางหันไปทางลูกน้องตนพยักหน้า พลางลุกขึ้นยืนทั้งหมด
ทางด้านกำนันก็เดินลงมาส่งข้างล่างบ้าน
พลางตะโกนเรียกคนของตน ให้รีบมานำทางให้เสี่ยทันที
คนของกำนันมั่นกำลังคุยอย่างสนุกสนานกับพรรคพวก คนหนึ่งก็ลุกขึ้นยืนแล้วก้าวมาหา
กำนันทันที
เออๆๆ....เป็นเอ็งก็ดีว๊ะ..ไอ้จ๋อง ด้วยเอ็งชำนาญทางด้านโน้นด้วย ไอ้จ๋องก็รีบหนันหน้า
มันไปยกมือไหว้เสี่ยหว่าง แล้วไม่กล่าวอะไรออกเดินไปนำรถมอเตอร์ไวค์มาขี่คอย
พวกเสี่ยหว่างก็ต่างขึ้นรถพร้อมกันทั้งหมด เมื่อครบเรียบร้อยกันแล้ว
ไอ้จ๋องก็ขี่มอเตอร์ไซค์นำหน้าพาพรรคพวกเสี่ยออกเดินทางทันทีมุ่งหน้าไปบ้านกำนันหวน
ด้านไอ้แม้นลูกชายซึ่งนั่งอยู่ใต้ถุนบ้านเห็นดังนั้น ครั้นเสี่ยออกเดินทางไปแล้วก็ถามพ่อขึ้นว่า...
แล้วงานของเสี่ยหว่างจะเริ่มเมื่อไหร่ล่ะพ่อ???....
กูเองได้ยินเสี่ยมันบอกว่าคงราวๆสามวันนี้แหละ แต่เป็นวันไหนเวลาใดยังไม่รู้เลยว๊ะ???...
กำนันตอบลูกชาย
แล้วพ่อไม่ไปกับเขาด้วยหรือ???..... ไอ้แม้นถาม
กูโกหกว่ามีงานในเมือง อันที่จริงกูเองก็ไม่ค่อยอยากจะทำด้วยไม่ถนัดว๊ะ ล้วนเป็นของใหญ่ๆ
อีกอย่างเห็นเงินมันดีว๊ะก็เลยให้ความร่วมมือมัน เพียงส่งคนไปช่วยมันนิดๆหน่อยๆเท่านั้น.........
กำนันหันไปตอบลูกชาย..... แล้วไม่กล่าวอะไรอีกเดินขึ้นไปบนบ้านทันที
เมื่อคนนำทางของกำนันมั่นนำพวกเสี่ยหว่างมาส่งให้กำนันหวนแล้ว
ก็จะขอตัวเดินทางกลับเพียงแค่ถามว่า?......
เสี่ยและคนขับรถจำทางกลับได้หรือเปล่าล่ะหรือว่าจะให้ผมคอยอยู่ที่นี่???....
มันถามขึ้น พลางมองหน้าเสี่ยหว่าง
เสี่ยพลันหันไปทางมันแล้วตอบว่า.....
ไม่เป็นไรขากลับนั้นคงจำทางได้แล้วล่ะว๊ะเอ็งกลับไปได้แล้วล่ะ ไม่ต้องรออั้วหรอก
ลื้อกลับไปได้แล้วว๊ะ.......อ้อๆๆ...คอยเดี๋ยวพลางควักเงินก้อนหนึ่งส่งให้กับไอ้จ๋องทันที
ไอ้จ๋องยิ้มแป้นยกมือไหว้เสี่ยกล่าวขอบคุณ เดินไปขึ้นรถของตนเอง ด้วยงานของตนเสร็จแล้ว
ดังนั้นคนของกำนันมั่นก็ ขี่มอเตอร์ไซค์ออกเดินทางกลับบ้านบางกระดี่ทันที
ระหว่างนั้น กำนันหวนก็ลงมาต้อนรับพร้อมยกมือไหว้เสี่ยหว่าง
เมื่อรับการไหว้แล้ว ต่างก็พากันเดินขึ้นบ้านไป ทั้งสองสนทนากันสักพัก
ก็พากันลงมาแล้ว ทางกำนันก็ให้พรรคพวกขับรถออกนำหน้าเสี่ยไปบ้านกำนันใช้ทันที
ครั้นถึงบ้านกำนันใช้ซึ่งกำลังคุยกับกำนันบางและกำนันเริ่ม ซึ่งมีหมู่บ้านแถบริมโขง
ทั้งสองอยู่ ครั้นเห็นกำนันหวนพาเสี่ยหว่างขึ้นมาบนบ้าน ต่างก็แนะนำกันให้รู้จักกันไว้
ทางกำนันใช้กล่าวว่า....
เสี่ยกำนันบางหมู่บ้านนางลอย โน่นกำนันเริ่มหมู่บ้านนางโซ่ง
ซึ่งอยู่ติดแถบฝั่งโขงใกล้ๆกับสถานที่เสี่ยต้องการ
ทั้งสองกำนันก็หันมายกมือไหว้เสี่ยหว่าง พลันเสี่ยหว่างก็เอ่ยปากขอร้องต่อ
พวกกำนันทั้งสองและกำลังคนด้วยตลอดสถานที่จะได้ทำงานเรื่องนี้
พร้อมควักเงินออกมาอีกฟ้อนใหญ่ส่งให้กำนันทั้งสองบอกว่าหากงานถึงกรุงเทพฯ
เรียบร้อยดีแล้วจะส่งอาหารจริงมาให้อีก
ครั้นกำนันทั้งสองมองดูเห็นว่าเป็นก้อนโตๆ ก็ไม่กล่าวอะไรพลางเก็บเข้ากระเป๋า
แล้วกล่าวว่า.......
เสี่ยจะไปดูสถานที่เลยหรือเห็นกำนันทั้งสองถามขึ้น....???
อั้วว่าจะให้คนไปดูเสียเดี๋ยวนี้แหละว๊ะ!!!!.... จะได้หรือไม่ล่ะกำนัน???...
เมื่อเสี่ยต้องการอย่างนั้นไปกันเลยทั้งหมดนี่แหละ กำนันเริ่มกล่าวขึ้น
แล้วต่างคนก็พากันลุกขึ้นยืนพลางหันไปสั่งยังลูกน้องของตนให้เตรียมตัวพร้อม
เดินทางที่เสี่ยหว่างต้องการ เมื่อพวกกำนันเห็นว่าพวกตนพร้อมกันแล้ว
กำนันทั้งหมดรวมทั้งเสี่ยและพรรคพวกก็ออกเดินทางไปในป่าแถบริมโขงทันที
ซึ่งเป็นถิ่นกันดารเต็มไปด้วยต้นไม้ที่เหลือเพียงแค่ขย่อมเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้
ถูกถางป่าเพื่อทำเป็นที่ทำมาหากิน ด้วยพวกป่าไม้กำหนดเขตแดนไว้ ยังคงเป็นป่าที่
อุดมสมบูรณ์อยู่ ล้วนแล้วแต่ไม้เล็กๆไม้ใหญ่ๆทั้งสิ้น นับได้ว่าเป็นป่ากว้างขวาง
มิฉนั้นคงจะไม่เหลือหรอแล้ว ที่ยังคงอนุรักษ์พื้นที่ไว้ได้อยู่บ้าง
คนของกำนันบางแห่งบ้านนางลอยก็ชี้ว่าหากทำการนี้เส้นทางต้องผ่านทางพวกข้า
แต่ที่สะดวกโน่นหมู่บ้านนางโซ่งนั่นแหละเหมาะสมที่สุดด้วยยังมีไม้อีกจำนวนมาก
เป็นแนวกั้นบังตาไว้ และเสียงเครื่องจักรก็ไม่รบกวนใครด้วยเป็นป่าลึก เต็มไปด้วย
ต้นไม้ใหญ่นาๆชนิดและมีลานกว้างพอสมควรอยู่ แต่ทว่าต้องขอความร่วมมือ
เสี่ยสักหน่อยนะ จะได้ไปติดต่อกับพวกป่าไม้จะได้ไม่มีปัญหาอะไร
ด้านกำนันเริ่มกล่าวขึ้น.......
ข้อนั้นไม่เป็นปัญหาหรอกว๊ะกำนัน.. เสี่ยหว่างตอบครั้นกล่าวจบก็ล้วงเงินออกมา
อีกฟ่อนหนึ่งส่งมอบให้กำนันเริ่ม เพื่อใช้ในการติดต่อกับหัวหน้าป่าไม้ในเขตพื้นที่นี้ไว้ก่อน
ถ้าอย่างนี้ปัญหาก็คงหมดไป ด้วยไม้นี้ไม่ใช่ในแถวพื้นที่นี้อีกด้วยมาจากที่อืนๆทั้งหมด
ข้ามันคนใจร้อน จะได้รีบไปดำเนินการเรื่องนี้ให้เสี่ยเสียเลย ถ้าคนของเสี่ยพอใจสถานที่นี้
กำนันนางโซ่งกล่าวขึ้น.....
เมื่อคนทั้งหมดมาถึงบริเวณที่กำนันเริ่มชี้แจงไว้ เสี่ยหว่างก็หันไปสั่งให้พรรคพวก
เข้าไปดู เมื่อคนหายไปพร้อมกับคนของกำนันเริ่มแล้ว ทางเสี่ยหว่างก็หันมากล่าวกับ
บรรดากำนันทั้งหมดว่า ถ้าอย่างนั้นขอให้ทุกๆคนทำแผนที่ให้อั้วด้วย อั้วเตรียมกระดาษ
ปากกามาให้แล้ว ให้เขียนทางหนีหลบหลีกการจับกุมอาจจะเกิดขึ้นได้ เมื่อทั้งหมดรับ
กระดาษปากกามา ก็เริ่มวาดหนทางต่างๆทั้งหมดมอบให้เสี่ยหว่างทันที เมื่อทุกๆคนส่ง
แผนที่ให้เสี่ยหว่างแล้ว
พรรคพวกของเสี่ยหว่างก็เดินออกมาพบเสี่ยพร้อมรายงานผลการตรวจดูบอกว่า
เป็นสถานที่ใช้ได้เสี่ย มันมีลานกว้างทำงานได้แล้วอีกยังมีทางแยกที่จะใช้ในการขนย้าย
ได้หลายๆทางอีกด้วยล่ะ แต่ว่ามันจะเป็นทางตันหรือไปทางไหนพวกข้ามิทราบได้ถามคน
ของกำนันแล้วเขาบอกก็จริงแต่ว่าเราก็ไม่รู้เหมือนกัน หากมีการขนย้ายก็ควรจะเอาคนของ
เราและทางกำนันร่วมนำทางไปสำรวจทางแยกไว้ด้วย เพื่อใช้ในการเดินทาง
ของแต่ละคันก็จะดีครับ แยกทางกันไปหากทางนั้นมันเชื่อมติดต่อกันได้ก็ยิ่งจะดีมาก
เดี๋ยวข้าจะไปกับพวกกำนันไปสำรวจเส้นทางก่อนนะคนสนิทเสี่ยกล่าว
เออๆๆรีบๆไปและรีบกลับด้วยนะ???...เสี่ยหว่างกล่าวอนุญาต
ประมาณหลายชั่วโมง พวกสำรวจก็เดินทางกลับแล้วบอกว่าทางเชื่อมต่อกันได้หมดเสี่ย
ถ้าลื้อเห็นว่าใช้การได้เป็นอันตกลง พลางหันไปทางกำนันทั้งหลายว่า อั้วขอบใจพวกลื้อ
มากนะที่ช่วยเหลือครั้งนี้ งานจะเริ่มวันศุกร์นี้คงจะใช้เวลาสามวันก็พอการแปรรูปก็คงเสร็จ
เรียบร้อย ก่อนอั้วจะให้เขาเอารถขนย้ายมาเก็บไว้ในหมู่บ้านพวกลื้อก่อน จะว่าอย่างไรบ้างล่ะ??..
ข้อนั้นไม่เป็นปัญหาหรอก ทางหมู่บ้านนางลอยกับหมู่บ้านนางโซ่งนั้นคนเขาก็เพียบพร้อมอยู่
มากล้วนแล้วชำนาญหนทางทั้งสิ้นอาวุธต่างมีกันครบแล้ว ล้วนแล้วแต่ดีๆทั้งนั้นนำมาจากทาง
ฝั่งโน้นทั้งสิ้น บางทีคนฝั่งโน้นอาจจะมาร่วมงานด้วยหากเสี่ยใจป้ำๆสักหน่อย....กำนันทั้งสอง
กล่าวขึ้น....
เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาหรอกบอกมาได้เลยว๊ะ แล้วพวกลื้อก็เหมือนกันหากขัดสนเงินทองไป
หาอั้วได้ที่ในเมืองใครๆเขาก็รู้จัก อั้วจะช่วยเท่าที่ช่วยได้นะ อีกอย่างหนึ่งหากพวกฝั่งโน้นมาช่วย
ด้วยก็จะดีมากจะได้งานเร็วๆขึ้นกว่าเดิม หากมาแล้วทำงานเสร็จจะมอบค่าแรงให้อย่างงาม
อั้วคิดว่ารถจะมาพึงพรุ่งนี้ก็แล้วกันทะยอยกันมาไปตามหมู่บ้านต่างๆ
ส่วนทางกำนันมั่นนั้นอั้วรู้จากไอ้เม้งมันมาหมดแล้วล่ะ ให้ทางด้านนี้เตรียมพร้อมก็แล้วกัน
จะลงมือทำงานวันศุกร์นี้แต่เช้าๆเลยล่ะจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาก ส่วนอั้วจะไม่มานะ
จะให้ตัวแทนอั้วมือสนิทไว้ใจได้มาคุมงานแทน
เสี่ยหว่างกล่าวขึ้น......
ถ้าอย่างนั้นกลับกันได้แล้วให้ทางกำนันทั้งหมดเตรียมพร้อมหาลู่ทางไว้ก็แล้วกัน อั้วไปล่ะ พวก
กำนันก็ยกมือไหว้เสี่ย แต่ทางกำนันหวนและกำนันใช้ก็พลันกล่าวขึ้นว่า....
เดี๋ยวหากถึงที่อยู่ของอาจารย์จะแวะให้เสี่ยกลับไปก่อนก็แล้วกัน จะได้ปรึกษาหารือเรื่องนี้กับพวก
อาจารย์ด้วย..... กำนันหวนและกำนันใช้กล่าวกับเสี่ยหว่างไว้ก่อน
ตามใจกำนันก็แล้วกัน ตามตกลงที่จะใช้พวกของอาจารย์มันจะได้ช่วยเหลืออีกแรงหนึ่งด้วย???...
เสี่ยหว่างกล่าวขึ้นแล้วก้าวขึ้นรถขับออกไปทันที....
ครั้นแล้วพรรคพวกเสี่ยต่างก็ขึ้นรถ ติดตามด้วยรถของกำนันทั้งหมด แล้วพอถึงหมู่บ้านใครก็เข้าไป
หมู่บ้านนั้น ในระหว่างทางกำนันใช้ก็ให้พวกขับรถแยกทางไปหาอาจารย์เสิ่งปางก่อน พอถึงเขต
ที่อาจารย์เจี๊ยะเปิ้ง
กำนันหวนก็แยกทางไปอีก คงเหลือรถของเสี่ยหว่างเท่านั้นครั้นถึงบริเวณอาณาเขตของกำนันมั่น
ก็แวะเจรจากับลูกชายกำนันคือไอ้แม้น ส่วนกำนั่นมั่นนั้นไม่ออกมาต้อนรับ คุยสักพักหนึ่ง
ก็ออกเดินทางเข้าเมืองทันทีด้วยจวนจะมืดค่ำเสียแล้ว
อากาศแถวบริเวณนี้มืดเร็วด้วยบริเวณแถวนั้นต่างมีขุนเขาเรียบรายกันทั้งสองด้านทาง
พระอาทิตย์จึงตกลับเหลี่ยมเขาไปคงเหลือเพียงแสงสว่างสลัวๆเท่านั้น
กำนันหวนและกำนันใช้ซึ่งกำลังคุยกับอาจารย์เสิ่งปางและอาจารย์เจี๊ยะเปิ้งอยู่แม้จะคนละที่ห่างไกล
กันมา แต่เวลานั้นค่อนข้างจะห่างกันไม่มาก เรื่องเกี่ยวกับการทำงานว่าจะเกิดขึ้นในวันศุกร์นี้แล้วจะ
ออกเดินทางขนของในวันอาทิตย์เย็นๆให้อาจารย์ทั้งสองฟัง
อาจารย์เสิ่งปางครั้นได้ยินกำนันใช้กล่าวเช่นนี้ก็หัวร่อ พลางกล่าวว่าข้าจะใช้ให้พวกเด็กๆมันคอยติด
ตามไปก็แล้วกันไม่ต้องห่วง ทั้งสองต่างสนทนากันส่วนกำนันใช้ก็ขอของดีจากอาจารย์เพื่อใช้ในการ
ป้องกันตัวไว้ อาจารย์เสิ่งปาง ก็หันไปทางโต๊ะหมู่บูชาซึ่งตั้งเบื้องบนเป็นรูปปั้นฤๅษีนั่งขัดสมาธิอยู่
รองลงมามีรูปปั้นต่างๆ เรียงรายไปด้วยพวกกุมารทองต่างๆตลอดจนหุ่นพยนต์มากมาย
และรูปสัตว์ต่างๆนาๆชนิด ล้วนเป็นของอาจารย์เสิ่งปางทั้งสิ้น
อาจารย์เสิ่งปางพลางหยิบตะกรุดในพานมาพลางร่ายคาถาอาคมกำกับไว้ด้วย
แล้วส่งมอบให้แก่กำนันใช้ไว้ว่าให้ติดตัวเวลาทำงานด้วยนะ
กำนันใช้รับมาแล้วก็ยกมือขึ้นจบเหนือหัวนำใส่กระเป๋าเสื้อทันที พรรคพวกที่ไปได้รับกันทุกๆคน
กำนันกำลังคิดจะลา ทางอาจารย์เสิ่งปางก็บอกว่ากูเมื่อคืนนี้ได้ส่งของไปยังบ้านตาโชติแล้วล่ะว๊ะ
ยังไม่รู้และเห็นมันกลับมาอีกเลยสงสัยงานจะสำเร็จเสียแล้ว พวกมึงคอยฟังข่าวดูก็แล้วกันเอาเอง
ทันใดที่อ้าปากพูดอยู่กับกำนันนั้น อาจารย์เสิ่งปางก็สะดุ้งสุดตัวด้วยมีของสิ่งหนึ่งพุ่งเข้าไปในปาก
มันทันที ร่างอาจารย์เสิ่งปางพลันล้มหงายลงกับพื้นและดิ้นทุรนทุราย เล่นเอากำนันใช้และพรรคพวก
ต่างพากันตกอกตกใจไปตามๆกัน แต่กระนั้นร่างอาจารย์เสิ่งปางค่อยๆเอื้อมมือมัน
ไปคว้าขันน้ำตักน้ำมนต์ในตุ่มหน้าโต๊ะหมู่บูชารูปปั้นฤๅษีนั้นมา มันพยายามกลั้นความเจ็บปวด
พลางภาวนาเป่าลมลงบนท้องของมันทันที แล้วนำน้ำมนต์ที่มันทำไว้ยกขึ้นดื่มตามไป
พอร่างอาจารย์เสิ่งปางกินน้ำมนต์เข้าไปก็ ยิ่งดิ้นทุรนทุรายยิ่งขึ้นนัยน์ตาเหลือกค้างจนไม่เห็นตาดำ
เล่นเอาพวกกำนันใช้ทั้งหมดถอยๆหลังกันกรูดๆทันที มองภาพตรงหน้าร่างอาจารย์เสิ่งปางเห็นร่างมัน
กระตุกๆสักพักหนึ่งก็แน่นิ่งเงียบไป กำนันใช้ค่อยๆเขยิบร่างมันไปเขย่าตัวเรียกชื่ออาจารย์เสิ่งปางทันที
พอมันแตะร่างของอาจารย์เสิ่งปางก็ทราบว่า อาจารย์เสิ่งปางตายเสียแล้วด้วยมันเอามือรมที่จมูกไม่มีลม
หายใจร่างแน่นิ่งอยู่ พลางหันมาบอกทางพรรคพวกว่า
เฮ้ยๆๆ!!!!!...อาจารย์เสิ่งปางตายแล้วว๊ะ ทุกๆคนมองไปยังร่างอาจารย์เสิ่งปางเห็นสิ่งผิดปกตืเกิดขึ้น
ทันใดทุกๆคนเห็นท้องของอาจารย์เสิ่งปางเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเหมือนกับคนท้องแก่ๆใหญ่ขึ้นๆ
แล้วเสียงระเบิดเกิดขึ้นทันที ลำไส้เครื่องในต่างๆไหลกระเด็นออกมา
เลือดสาดกระจายไปทั่วบริเวณบ้าน เลือดและสิ่งของต่างๆเปอะเปื้อนเลอะตัวกำนัน
และพรรคพวกต่างโดนเลือดสาดใส่หน้าและร่างไปตามๆกัน
สิ่งกระเด็นออกมาเป็นหนังควายแผ่นมหึมากำลังกระเดิบๆมาทางพวกกำนันและพวกทันที
ครั้นทั้งหมดเห็นแผ่นหนังควายมหึมากระเดิบๆมาทางตนต่างก็ออกวิ่งหนีออกมาทันที รีบขึ้นรถขับ
ออกจากสำนักของอาจารย์เสิ่งปางหายไปด้วยความตกใจ ด้วยในชีวิตไม่เคยเห็นเช่นนี้มาก่อนเลย.....
เบื้องหลังสายลมพัดนำเสียงร้องไห้ครวญคร่ำโหยหวนแว่วๆๆตามหลังมาติดๆพร้อมเสียงคร่ำครวญ
ยิ่งทำให้พวกกำนันใช้และตัวกำนันเอง สั่งให้เร่งความเร็วรถให้มากๆเพื่อจะหนีเสียงร้องเหล่านี้ไป
แต่ทว่าเสียงของมันดังโหยหวนเข้าไปในหัวใจคนทั้งหมด เสียงนั้นดังมาจากบ้านของอาจารย์เสิ่งปาง
และยังมีเสียงร้องไห้คร่ำครวญติดตามมาเบื้องหลังรถยนต์ของพวกมันที่กำลังขับอีกด้วย
เสียงร้องไห้แว่วๆตามหลังพวกมันอีกด้วย ยิ่งทำความตกใจแก่พวกมัน แทบจะขับรถกันไม่ได้
รีบต่างพากันเร่งเครื่อง จนมาถึงบ้านแต่เสียงนั้นยังคงติดตามมาอีก เป็นเสียงผู้หญิงบ้าง เสียงเด็กๆ
บ้าง ผู้ชายบ้าง จนกำนันใช้และพวกเมื่อลงจากรถได้ก็ต่างวิ่งเผ่นแนบขึ้นบ้านทันที
เล่นเอาพรรคพวกที่นั่งกันอยู่ต่างพากันมองหน้ากันหน้าตาต่างพากันเหลิกหลักๆไปตามกัน
ด้วยมันไม่รู้ว่าเหตุใดกำนันและพวกที่ไปกับเสี่ยหว่างทำไมเป็นเช่นนี้ แต่แล้วมันก็นัยน์ตาค้าง ทั้งหมดพากันร้องว่า
อะไรกันว๊ะ???......กำนันทำไมตื่นตกใจเช่นนี้ หนีอะไรกันมาหรือพวกมันถามด้วยความสงสัย
ครั้นได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญอยู่ภายในบริเวณบ้านระงมเซ็งแซ่ไปหมด
บ้างดังมาจากบนยอดต้นไม้ที่ปลูกไว้ เสียงต้นไม้ถูกเขย่าไปๆมาๆและมีเสียงดังบนพื้นดิน
อีกจำนวนมาก พวกมันต่างรู้แล้วเป็นอะไรต่างเผ่นแตกวงกระจาย พากันวิ่งหนีต่างคนต่างไป
คนละทิศละทางทันที เสียงร้องนั้นดังโหยหวนเยือกเย็นยิ่งนัก ทำเอาบรรดาหมาที่เลี้ยงไว้ดัน
หอนกันระงมอย่างโหยหวนไปทั่วทุกตัว ต่างโก่งคอขึ้นหอนรับกันเป็นทอดๆไป
อากาศพลันมืดสนิท แต่เสียงร้องระงมยังดังในบริเวณบ้านทั่วๆไปหมด
เสียงที่พวกมันได้ยินต่างพากันร้องกันระงม พวกกำนันใช้ต่างได้ยินกันทุกๆคนล่องลอยตามมันมา
พวกข้าขออยู่ด้วยๆๆๆพวกข้าไม่มีที่อยู่แล้ว เสียงนั้นต่างร้องไห้คร่ำครวญนาๆแผ่วเยือกเย็นยิ่งนัก
ล่องลอยมาแม้แต่กำนันใช้เองตลอดจนครอบครัวบนบ้าน ต่างพากันตกอกตกใจกันไปตามๆกัน.........
* แก้วประเสริฐ. *