อทิสมานกาย ๓๗
แก้วประเสริฐ
อทิสมานกาย ๓๗
ระหว่างเดินเข้าพบกำนันหวนอยู่นั่น ก็แลเห็นร่างชายมีอายุ
นั่งสนทนากันอยู่สี่คน ทั้งหมดต่างชะงักหันมามองดู ครั้นแลเห็น
กำนันมั่นนำหน้าคนทั้งหลายเข้ามาก็ ร้องทักไปทันที
วันนี้เป็นวันอะไรนะ????... กำนันมั่นถึงได้เดินทางมาด้วยตนเอง
มาหาข้าล่ะ กำนันหวนทักขึ้นพร้อมยกมือขึ้นไหว้ กำนันมั่นก็ยกมือ
ขึ้นไหว้ตอบรับ ชายอีกคนก็หันมามองแล้วร้องทักขึ้น พลางกล่าวว่า
จริงซินะหวน...ลมอะไรหอบเอากำนันแห่งหมู่บ้านบางกระดี่มาได้
ซึ่งแปลกจริงๆ พร้อมยกมือไหว้กำนันมั่นทันที กำนันมั่นก็ยกมือ
ไหว้รับตอบผู้ร้องทัก คือกำนันใช้แห่งหมู่บ้านบางโคพลางกล่าวว่า
สบายดีหรือ??.... กำนันบ้านบางโคตอบว่าสบายดีอยู่หรอก มีอะไรจะ
ให้ช่วยอีกหรือ กำนันมั่นถึงได้มาเอง....อ้าวๆแล้วนั่นนำใครมาล่ะ??...
กำนันมั่นไม่ตอบ เพียงหันไปมองผู้อยู่ร่วมวงสนทนา มีชายแปลกหน้า
คนอีกสองคนซึ่งกำนันมั่นมองไปแต่งตัวเหมือนพวกมีวิชาอาคม
เมื่อทั้งหมดกำนันหวนเชิญให้นั่ง ต่างก็แยกย้ายกันนั่งบนเก้าอี้นวม
กำนันหวนและกำนันใช้ก็แนะนำกำนันมั่นว่า แล้วพลางชี้มือไปยัง
คนทั้งสอง ที่ขวามือคืออาจารย์เจี้ยะเปิ้ง และซ้ายมือนั่นคืออาจารย์
เสิ่งปาง กำนันและพวกต่างยกมือไหว้อาจารย์ทั้งสอง
อาจารย์ทั้งสองต่างยกมือไหว้ตอบ กำนันมั่นก็ถามขึ้นว่า???....
ดีเหมือนกันว่าจะไปหากำนันใช้อยู่ทีเดียว เมื่อมาครบกันนี้ก็จะ
แนะนำให้รู้จัก เสี่ยหว่างเสียเลย ซึ่งเขามีเรื่องจะพูดคุยกันกับกำนัน
ทั้งสองด้วยนะ ได้โอกาสเหมาะพอดีเลย.....
แล้วกำนันหวนก็หันไปสั่งเด็กสาวๆให้ไปยกน้ำท่ามาต้อนรับแขก
เด็กสาวทั้งสอง รับคำแล้วก็หายไปทางหลังบ้าน
พลางหันหน้าไปทางเสี่ยหว่าง กล่าวว่านี่คือกำนันหวน
แห่งบ้านโคกยายหอย โน่นกำนันใช้แห่งหมู่บ้านบางโค
ส่วนอีกสามหมู่บ้านนั้นไม่ได้มาแต่ก็รับชอบพอกันทั้งหมดแหละ
โน่นอาจารย์เจี๊ยะเปิ้งได้รับข่าวว่ามาจากทางเขมร
ทางกำนันหวนเชิญมาช่วยงานของเขา แล้วหันไปทางอาจารย์
เสิ่งปางว่านี่เป็นอาจารย์ทางกำนันใช้เชิญมาช่วยงานเช่นเดียวกัน
เสี่ยหว่างได้รับการแนะนำเช่นนี้ก็ยกมือไหว้
อาจารย์ทั้งสองก็กล่าวว่าก็พึ่งจะรู้จักก็วันนี้แหละ
เพียงได้ยินแต่ชื่อเสียงของกำนันและเสี่ยเท่านั้น
ทางกำนันมั่นก็กล่าว่าถ้าอย่างนี้ดีแล้ว
เสี่ยมีอะไรจะขอร้องไหว้วานก็พูดออกมาได้เลยเราคนกันเองทั้งนั้น
พลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่มหลังจากที่เด็กๆเอามาเสริร์ฟให้แล้วเดินออกไป.....
เสี่ยหว่างบอกว่าก็เกี่ยวกับงานไม้นั่นแหละ อยากจะขอร้องกำนันทั้งสอง
ให้ช่วยนำทางหรือหากมีกำลังคนช่วยก็ยิ่งดี ส่วนเรื่องค่าตอบแทนนั้นไม่ต้อง
เป็นห่วงเราเองไม่อั้นหรอก รับรองว่าต้องได้รับกันอย่างพอใจทีเดียวแหละ
กำนันหวนและกำนันใช้ก็พลันกล่าวว่า เรื่องให้คนนำทางนั้นไม่เป็นปัญหา
ต้องห่วงหรอก ตลอดทางหนีทีไล่นั้นนะ แต่เรื่องกำลังคนซิทางเราแทบจะหมด
เสียเลย ด้วยเสียคนมือดีไปมากในงานคราวที่แล้วของกำนันมั่นเขา
จะเหลือเพียงก็พวกที่เป็นรองแต่ฝีมือมันก็ใช้ได้อยู่นะ กำนันทั้งสองตอบ
เสี่ยหว่างก็ตอบว่าหากงานนี้สำเร็จเรียบร้อยค่าตอบแทนนับเป็นล้านเลยล่ะ
ทางเราไม่ปฏิเสธจะเอาเป็นเงินสดหรือเช็คเงินสดก็ได้ทั้งสิ้น เพียงขอความ
สะดวกแก่กำนันทั้งสองก็แล้วกัน ส่วนกำลังคนนั้นข้าได้นำมาเองด้วย
ตลอดจนรถในการทำงานนี้ก็มีหลายๆคันเสียด้วยซิ ติดแค่หนทางเท่านั้นเอง
อีกอย่างหนึ่งด้วยทางเราต้องนำมาแปรรูปเสียบ้างก่อน ด้วยมีทั้งไม้แปรรูป
และยังเป็นท่อนๆมากอยู่ ครั้นจะนำไปทางกรุงเทพระยะนี้เหตุการณ์ทางโน้น
ก็ไม่ค่อยจะไม่น่าไว้วางใจนัก ตั้งแต่เปลี่ยนรัฐบาลชุดนี้ขึ้นมารู้สึกว่าอะไรๆ
เปลี่ยนแปลงหมด การงานที่เคยทำคล่องก็แลดูติดขัดไปเสียหมดทุกๆอย่าง
การติดต่อที่เคยได้รับความสะดวกก็ลำบากยากขึ้น อำนาจการจับกุม
ก็เหมือนเปลี่ยนแปลงไปเสียหมดด้วยล่ะ พวกที่เคยทำก็ต่างปฏิเสธกลัวว่าจะถึงตัว
ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆอีกด้วย เสี่ยหว่างกล่าวขึ้นให้พวกกำนันฟัง.......
จึงอยากจะให้กำนันช่วยจัดหาสถานที่สำหรับใช้ในการทำการแปรรูปท่อนซุง
เป็นไม้แปรรูปจากท่อนไม้อีกด้วย เรื่องสถานที่นั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอก บรรดา
พวกกำนันกล่าว หากจะดูสถานที่จะใช้สำหรับแปรรูปก็ได้ เพื่อจะได้สะดวกยิ่งขึ้น
ส่วนทางด้านป่าไม้นั้นทางเราสามารถติดต่อประสานงานกับพื้นที่ได้
เรื่องนี้เสี่ยไม่ต้องเป็นห่วงอะไร เพียงขอให้เสี่ยจัดหากำลังคนให้เพียงพอมาทางเรา
มีน้อยก็จะช่วยประสานงานให้ สถานที่นั้นหากเร็วยิ่งดีอย่างที่เสี่ยพูดถูกด้วยทางนี้
ก็เหมือนกัน ทางตำรวจเองและตลอดจนนายอำเภอก็ถูกย้ายกันระนาว
ดังนั้นควรจะให้เด็กเสี่ยไปดูสถานที่ไว้ก่อนว่าจะพอใจหรือไม่ หากวันนี้นั้น
พวกข้าคิดว่าคงไม่ทันหรอก กำนันใช้กล่าวขึ้น........
อ้อๆๆ....อีกอย่างหนึ่งเรามีอาจารย์มาช่วยด้วย ซึ่งเด็กของอาจารย์คงจะช่วยเหลือ
หากทางอาจารย์ยินดีช่วยเหลือเด็กของท่านล้วนเป็นพวกผีทั้งหลายมีฤทธิ์เดชมากด้วยนะ
จะได้มาคอยบังตาการทำงานให้แก่พวกเสี่ยได้ด้วยอีกทางหนึ่งเรารู้มาจากอาจารย์
ที่ใช้เด็กท่านไปสืบมาด้วยล่ะ จึงได้มาพบรอเสี่ยเสียที่นี่พร้อมๆกันเลยล่ะ
ครั้นเสี่ยได้ยินเช่นนั้นก็หันไปทางอาจารย์ทั้งสองพลางยกมือไหว้
ขอให้ช่วยเหลืองานนี้ด้วย พร้อมจะแยกสินน้ำใจให้อีกแต่ละอาจารย์ไว้ด้วย
ส่วนของกำนันก็ต่างหาก เมื่ออาจารย์ทั้งสองรับฟังเช่นนั้นก็หัวร่อ
พลางกล่าวว่า หากเป็นเช่นนี้ก็ดีซิจะได้ช่วยเหลือกันและกันอย่างเต็มที่
ทางข้าเองนั้นก็ใช้เด็กๆไปติดต่อกับพวกนั้นไว้ก่อนแล้วล่ะ ด้วยรู้ว่ายังไงๆ
เสี่ยก็ต้องมาแน่นอน
แล้วหันไปทางกำนันมั่นถามว่า ทางหมู่บ้านโคกอีแร้งนั้น
นอกจากหลวงพ่อทองแล้วมีใครบ้างที่เก่งวิชาอาคมบ้างล่ะกำนัน????.......
กำนันมั่นตอบว่าข้าก็ไม่รู้เหมือนกันนอกจากหลวงพ่อทอง
แล้วก็ไม่เห็นมีใครตั้งตัวเป็นอาจารย์สักคน ล้วนแล้วพวกเขาทำมาหากิน
กันทั้งสิ้น ข้าไปขายของหลายต่อหลายครั้งจนเบื่อๆเลยไม่อยากไปยุ่งด้วย
กำนันแจ่มผู้ใหญ่อาจข้าพยายามเกลี่ยกล่อมแต่ทางโน้นไม่เล่นด้วย
และกำนันโคกอีแร้งเขาก็ไม่ค่อยชอบทางเรื่องนี้ด้วย เคยมีคนมาขออาศัย
สร้างสำนักอาจารย์ ทางกำนันแจ่มก็ไล่ตะเพิดไปหมด ข้าจึงไม่เห็นมีใครนี่นา??...
กำนันมั่นตอบอาจารย์ทั้งสอง
เอ๊ะๆ!!!???....แปลกเด็กข้าก็ทำงานรายงานไม่เคยผิดพลาดเลยนี่นา
มันบอกว่าไอ้พวกที่อาจารย์ดำเขาใช้ไปทำงานนั้นล้วนแล้วเก่งกาจทั้งนั้น
อาจารย์ดำเองนั้นก็เก่งวิชาอาคมมากร่ำเรียนมาจากเขมรที่เขากิเลนนั้นเหมือนข้า
ก็ยังมาตายเสียที่นี่ เด็กๆมันแตกกระเจิงหนีไปหมด
ส่วนใหญ่ไปหาข้าและอาจารย์เสิ่งปางกันและอีกส่วนผีที่ถูกอาจารย์ดำมาจากการ
ที่ชักชวนจากป่าช้าโคกอีแร้งหรือมันก็กลับไปถิ่นเดิมในป่าช้านั้น คงได้เพียง
แต่ก็เร่ร่อนเข้าไปในป่าช้าไม่ได้ ด้วยนายป่าช้าไม่อนุญาตให้เข้าในเขตป่าช้า
มันจึงเที่ยวอาละวาดชาวบ้านแต่ตอนนี้ถูกจับไปหมดสิ้น ต่างสูญหายไปหมด
ไม่รู้ว่าพวกมันถูกเอาไปทำอะไรไม่มีวี่แววเสียเลย??...... อาจารย์ทั้งสองบ่นพึมพรำ
ข้าถามเด็กของข้าว่าเป็นหลวงพ่อทองวัดโคกอีแร้งหรือเปล่า???......
มันบอกว่าไม่ใช่เป็นชาวบ้านธรรมดานี่แหละ
แต่ไม่ได้แสดงตัวเป็นอาจารย์ หากมันสามารถปราบอาจารย์ดำ
ซึ่งเป็นศิษย์ผู้น้องสำนักเดียวกับข้าได้ก็ถือว่ามันเก่งไม่ใช่เล่น
ข้อนี้ข้าถึงได้ปรึกษาหารือกับอาจารย์เสิ่งปาง เขาก็พยายามให้เด็กของเขา
ไปสืบเสาะหาแต่ก็ไม่ได้ความอะไรเลย???... จึงทำให้พวกข้าแปลกใจ
มาก ถ้าหากมันไปร่วมมือกับทางการด้วยทางเราก็เห็นจะไม่ค่อยดีนักนะ
คราวนี้เล่นเอากำนันมั่นและเสี่ยหว่างยิ่งงุนงงกันใหญ่
พลางนึกในใจว่าแล้วอาจารย์ที่ทางนี้กล่าวมันเป็นใครกันหว่า???.....
แม้แต่อาจารย์ทั้งสองยังเอ่ยปากถาม จึงกล่าวว่า....
ข้าว่าอาจารย์ทั้งสองลองใช้ไปอีกทีซิว่าบ้านใครในหมู่บ้านโคกอีแร้ง
ที่พวกมันเข้าไปไม่ได้ หากเป็นบ้านที่เข้าไปไม่ได้
อาจจะเป็นบ้านนั้นกระมัง ทั้งสองออกความเห็นพร้อมๆกัน
ข้าเองก็เคยใช้ไปเหมือนกัน แต่มันกลับมารายงานว่า
ตอนนี้ยากกว่าเดิมเสียแล้ว ด้วยไม่สามารถจะเข้าไปในบ้านโคกอีแร้ง
กันได้เหมือนเดิมอีกแล้วล่ะด้วยต่างมีพระที่มีรัศมีแรงกล้าแผ่
ออกมาปกป้องคุ้มครอง เพียงได้แต่อยู่ห่างๆไว้ด้วยเท่านั้น ได้แต่ยืนมองดู
ข้าก็เลยถามว่าก่อนที่พวกเอ็งไปคราวก่อนนั้น มีบ้านใดบ้าง
ที่มีของป้องกันก่อนจะมีพระนั้น มันถึงมาบอกข้าขึ้นว่า
มีอยู่หลังหนึ่ง อยู่แถวใกล้ๆวัดแต่ก็เข้าไปไม่ได้ด้วยมีจำพวกควายธนู
มาไล่ขวิดจนมันต้องแตกกระเจิงกลับมา บาดเจ็บไปก็อีกหลายๆตน
บางตนถึงแก่หายไปก็มีไม่กลับมาอีก จึงอยากให้ทางกำนันลองไปดู
ซิอีกทีว่ามีบ้านใครๆบ้างที่อยู่ใกล้ๆวัดไม่ห่างกันมากนักนะ
อาจารย์ทั้งสองกล่าวขึ้น พลางหันหน้าไปทางกำนันมั่น
กำนันพลันนั่งนึกทบทวนดูก็เลยพูดว่า เห็นจะมีแค่สองบ้าน
เท่านั่นแหละที่ไม่ห่างไกลวัดเท่าไหร่นัก มีบ้านหนึ่งอยู่ใกล้ๆกว่าวัด
คือบ้านตาเชียร กับบ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแจ่มเท่านั้น
นอกนั้นอยู่ห่างไปอีกมากๆหน่อย กำนันมั่นตอบ...
เออๆๆ???.....เท่านี้ก็พอเดี๋ยวคืนนี้ข้าจะทดลองดูจะปล่อยของ
ไปทดสอบดูว่าบ้านใครปราบของๆข้าได้ ก็บ้านนั้นแหละว๊ะ???.....
เอๆๆๆ....แต่แปลกนะอาจารย์หมู่บ้านแถวนั้นมักจะถือศีล
ในวันพระถือศีลแปดกันแทบทุกหลังคาเรือนด้วยล่ะ แปลกจริงๆ...
จะมาร่ำเรียนวิชาอาคมกันไปทำไมกัน???.....
ก็ไม่แน่นากำนัน บางทีอาจจะร่ำเรียนมาก่อนแล้วก็ได้
แต่มาเลิกเสียเหลือเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
ที่มีไว้ป้องกันตัว แล้วบ้านไหนล่ะที่อยู่ใกล้ๆวัดที่สุดกำนัน
อาจารย์ทั้งสองเอ่ยถามขึ้น???....
หากไม่ผิดก็บ้านตาโชตินี่แหละที่ใกล้ที่สุดล่ะไม่ห่างจากวัดมากนัก
ส่วนบ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่นั่นก็ยังเลยไปอีกมากนักแต่ไม่ไกล
นับว่าเป็นบ้านที่ใกล้วัดมากที่สุด กำนันมั่นตอบ
งั้นดีล่ะเดี๋ยวข้าจะลองของมันหน่อย ใช้ของข้าไปทดสอบดูบ้านนี้ก่อน
ว่าจะใช่หรือไม่ หากมันแก้ไขได้ ก็แสดงว่าใช่บ้านนี้ เอามันคืนนี้เลยล่ะ???...
อาจารย์ทั้งสองกล่าวแก่กำนันทั้งหลายและเสี่ยหว่างให้ทราบ
ส่วนเรื่องของเสี่ยไม่ต้องต้องห่วงหรอก
ข้าจะใช้เด็กๆไปเกลี้ยกล่อมหากสำเร็จก็จะบังตาให้พวกเสี่ยด้วยนะ
แต่อย่าลืมที่กล่าวไว้เสียล่ะ???...อาจารย์ทั้งสองรีบทวงสัญญาทันที
เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาหรอกเสี่ยหว่างกล่าวขึ้น ขอให้งานข้าสำเร็จ
เดินทางถึงกรุงเทพฯเมื่อไหร่ นายข้าทางโน้นพอใจก็ใช้ได้ข้าก็จะให้
คนนำเช็คมามอบให้แก่กำนันมั่นแล้ววานกำนันมั่นส่งต่อๆไปให้แต่ละคน
แล้วทั้งหมดก็ปรึกษาวางแผนกันว่าจะดำเนินกันอย่างไรบ้าง
กำหนดวันเวลาเพื่อจะเริ่มทำงาน ส่วนสถานที่แปรรูไปไม้นั้นพรุ่งนี้
จะให้คนมาพบกำนันหวนและกำนันใช้เพื่อไปดูสถานที่ที่เหมาะสมใน
การแปรรูปไม้ ขอให้กำนันทั้งสองติดต่อกับทางป่าไม้ให้เรียบร้อยด้วย
เดี๋ยวเกิดทางโน้นเปลี่ยนใจกระทันหันเรื่องมันก็จะใหญ่โตขึ้น อีกอย่าง
หากเกิดการผิดพลาดอย่างไร อย่าได้เอ่ยชื่อข้าเป็นอันขาดด้วยนะ บอก
เด็กๆของพวกกำนันไว้ด้วย จะอ้างหรือปฏิเสธอย่างไรก็ตามใจแต่ให้
มันสอดคล้องกันด้วย ทางที่ดีกำนันควรนัดแนะกันไว้ก่อนก็จะดี
เสี่ยหว่างกล่างขึ้น.....
เรื่องนี้ทางเสี่ยไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ข้าจะนัดแนะกำนันและพวกไว้
ก่อนงานจะเริ่มทำนะ อีกอย่างหนึ่งตามธรรมเนียมข้อนี้เสี่ยก็รู้ดีว่าควร
จะทำอย่างไร???....กำนันมั่นเตือน
ครั้นเสี่ยได้ยินเช่นนั้นก็หัวร่อ พร้อมทั้งเปิดกระเป๋านับเงินออกมายื่น
ให้กำนันทั้งสามไว้พร้อมกับอาจารย์ทั้งสองด้วย พลางกล่าวว่านี่เป็นแค่
น้ำจิ้มเท่านั้น หากสำเร็จเมื่อใดอาหารจริงก็จะส่งตามหลังมาอีกมาก
เมื่อกำนันและอาจารย์ทั้งหลายรับเงินมาแล้วไม่นับ เมื่อมองเห็นว่าเป็น
ฟ่อนใหญ่มากล้วนแล้วแต่แบงค์พันทั้งสิ้นก็เก็บไว้เรียบร้อย หันไปบอกเสี่ย
อย่างงั้นเสี่ยเริ่มได้แล้วล่ะ จะเป็นเมื่อไหร่บอกคนของเสี่ยพร้อมก็แล้ว
กันนะ พวกข้าจะได้เตรียมคนเอาไว้ให้ก็แล้วกัน จะได้เสร็จกันเร็วๆ
ดีๆๆๆเมื่อพวกเราตกลงกันได้เช่นนี้แล้ว ก็เป็นอันว่าคงจะไม่มีอะไรเกิด
ขึ้นอีกนะ งั้นพวกข้าลาก่อนพลางหันไปทางกำนันมั่นกล่าวว่า
พวกเรากลับกันได้แล้วเมื่อตกลงกันได้เช่นนี้
ส่วนทางกำนันนั้นเพียงแค่ส่งคนนำทางมาให้แก่กำนันทั้งสอง
และร่วมมือด้วยนะ มิฉะนั้นอาหารก็จะน้อยลง
ตามสภาพของงานซึ่งกำนันก็รู้อยู่แล้วนี่นาด้วยทำงานกับไอ้เม้งมานานแล้ว
ครั้นแล้วทั้งหมดก็ลาพวกกำนันและอาจารย์ทั้งหมด ออกจากบ้านไปเมื่อ
ถึงบ้านกำนันมั่น เสี่ยหว่างก็เอ่ยขึ้นว่า
อย่างนั้นผมไม่เข้าไปบ้านกำนันก็แล้วกันนะ จะได้รีบกลับเข้าเมืองไปรายงาน
เจ้านายข้าเสียก่อน เพื่อให้เขานัดแนะทางโน้นไว้ กำนันมั่นพยักหน้า
แล้วเสี่ยกับพวกก็รีบออกเดินทางกลับทันที.........................
* แก้วประเสริฐ. *