เมฆหมอกและสายลม ตอนที่ 5 ความลำบากก่อสามัคคี
พ.จินดา
ตอนที่ 5 ความลำบากก่อความสามัคคี
...........เช้าวันใหม่ของต้นเดือน ในวันนี้ ชาวบ้านต่างทยอยกันมายังศูนย์สภาตำบลที่ตั้งอยู่บริเวณชายทะเลห่างจากบ้านกำนันไม่มากนัก ที่เกาะแห่งนี้มีด้วยกัน 2 หมู่บ้าน คือหมู่บ้านหน้าเกาะ หมู่ที่ 1 และหมู่บ้านหลังเกาะ หมู่ที่ 2 จำนวนหลังคาเรือนรวมกัน 138 หลังคาเรือน ประชากรร่วม 1000 คน มีวัด 1 แห่ง พระ 1 รูป โรงเรียน 1 แห่ง มีครูประจำ 3 คน สถานีอนามัย 1 แห่ง มีหมอ 1 คน
.........ศูนย์สภาตำบล เป็นอาคารโล่งเทพื้นปูนหลังคากระเบื้อง รับลมทะเลทุกด้านจึงทำให้อากาศถ่ายเทได้ดีไม่ร้อน ทั้งที่ช่วงนี้ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน ประธานในที่ประชุม หรือประธานสภาตำบลก็คือกำนัน เริ่มกล่าวเปิดการประชุมด้วยวาระด่วนเรื่องคนไข้ที่เสียชีวิตที่อนามัยเมื่อคืนที่ผ่านมา
"เขาว่า หมอไม่ดูแลคนไข้ ปล่อยให้คนไข้เสียชีวิต"
"เขาว่า หมอฉีดยาผิด ลูกเขาเลยตาย"
และอีกหลายประโยคที่พรั่งพรูออกมาจากปากของคนในที่ประชุม บางประโยคเหมือนมีดหรือเข็มที่ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจในความรู้สึกของคนเป็นหมอผู้ที่มีหน้าที่รักษาชีวิตคนไข้ ไม่มีหมอคนไหนหรอกที่คิดฆ่าคนไข้ที่มาขอความช่วยเหลือหรือมาขอชีวิตขณะที่เขาบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย
"แล้วพวกคุณ คิดเช่นนั้นหรือครับ"
"พวกคุณคิดว่าผมทำเช่นนั้นหรือครับ ตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ผมทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิตเพื่องาน เพื่อคนบนเกาะแห่งนี้ จนผมไม่เหลือใครแม้แต่คนที่เคยรัก"
หมอกรกล่าว ด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบ นำเสียงบ่งบอกถึงความน้อยใจ เขาเลือกที่กล่าวว่าคนที่เคยรักแทนคำว่าคนรัก
ครูแดง ครูใหญ่ของโรงเรียน ขยับแว่นตาที่หนา ก่อนจะเงยหน้ามองดูหมอกรพลางเอื้อมมือมาบีบมือหมอเพื่อเป็นการให้กำลังใจแก่กัน หัวอกของข้าราชการที่ต้องมาเผชิญกับสังคมบนเกาะที่เต็มไปด้วยผู้คนหลายกลุ่มหลายพวก จำเป็นที่ต้องรักเป็นห่วงช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพราะบนเกาะแห่งนี้หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีจะไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจให้พึ่งได้ เพราะที่นี่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ความดีเท่านั้นจะคุ้มครองตนเอง
"เอาล่ะ พวกเราเข้าใจและเห็นใจหมอ ในสถานการณ์เช่นนั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ" กำนันกล่าวอย่างให้กำลังใจหมอ
"เราจะทำอย่างไรดี" พระอาจารย์ ที่ชาวบ้านเรียกกล่าวขึ้น
"ชาวบ้านอยากให้ทำบุญอนามัย เพราะกลัวผี นังแก้วเมียไอ้ผัน มันไม่กล้าเดินลงชายทะเลผ่านอนามัย มันกลัว อุตส่าห์เดินอ้อมผ่านโรงเรียน"
ลุงชัยผู้ช่วยกำนันกล่าว เรียกเสียงหัวเราะจากที่ประชุมได้
"ก็ทำซิ อนามัยเราก่อสร้างมาด้วยบารมีของสมเด็จย่าในโครงการ พอ.สว.มาร่วม 5 ปี แล้วไม่เคยทำบุญซักที นี่แม่คนตายก็ร่วมทำบุณกับผม 500 บาท"
กำนันกล่าว แล้วขอความเห็นจาก กร "หมอกรมีความเห็นยังไง"
"เห็นด้วยครับ"
"แล้วครูแดง ล่ะ" "ก็ ครับเห็นด้วย" ครูแดงกล่าว เพราะถ้าดูตามอารมณ์ของชาวบ้านขณะนี้แล้ว อย่าขัดเชียว เป็นเรื่องแน่
"แล้วเมื่อไหร่ ละ อาตมามีรูปเดียวด้วย เดี๋ยวอาตมาขึ้นฝั่งแล้วจะลำบากนะ หาพระสวดไม่ได้ "
"ไม่ยากครับพระอาจารย์ ถ้าพระอาจารย์ไม่อยู่เราก็เอาพระพุทธรูปแทนแล้วเปิดเทปเอา เงินทำบุญก็ไม่ต้องจ่าย ประหยัดกว่ากันเยอะ"
ไอ้สันหนุ่มชาวเรือบนเกาะกล่าวอย่างคะนองเรียกเสียงฮาได้ดี ลั่นห้องประชุมทีเดียว
"เอ้า พอ พอ ไอ้สันก็พูดดีไป เดี๋ยวเถอะบาปจะกินหัวเอ็ง" กำนันปราม
หลังจากนั้นที่ประชุมก็ปรึกษาถึงข้อราชการอื่นที่กำนันไปรับนโยบายมาจากอำเภอ ใช้เวลาไม่นานนัก เกือบเที่ยงวันก็ปิดประชุม ต่างทยอยแยกย้ายกันกลับ
"หมอเป็นไงบ้าง หมู่นี้ไม่ค่อยได้เจอกัน ผมต้องขึ้นประชุมอยู่บ่อย"
ครูแดงเอ่ยขึ้นขณะที่เดินคู่กับหมอกร ริมชายทะเล
"ดีครับ ผมเองก็ไม่เครียดอะไร ในเมื่อตัดสินใจมาทำงานอยู่ที่นี่แล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด"
"หมอคิดได้เช่นนี้ผมก็เบาใจ"
"มีอะไรหรือครับ ครู" กรถาม เพราะจับน้ำเสียงของครูที่ดูแปลกๆ
"อ๋อ เปล่าครับ ที่ถามเพราะไม่เคยมีหมอคนไหน อยากจะมาอยู่ที่นี่ เมื่อมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นทุกคนก็จะอ้างเหตุผลขอย้ายตัวเองขึ้นฝั่งทันที ยากนะครับหมอที่จะมีใครสักคนที่ตั้งใจมาทำงานเพื่อคนที่นี่จริงๆ"
"ครับ ครูไม่มีจริงๆ นอกจากคนที่โดดเดี่ยว เช่นผม" กรพูด ครูแดงมองหน้าด้วยความสงสัย ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกกันกลับบ้านพัก
.........บนอนามัย หมอกรนั่งเอนหลังพิงเก้าอี้ด้วยความเหนื่อยล้า ลมทะเลพัดกรรโชกผ่านเข้าออกในตัวอาคาร เป็นระยะระยะ สายตาของหมอหนุ่ม เพ่งมองไปที่เตียงพยาบาลที่วางตั้งอยู่ใกล้กันกับโต๊ะทำงาน
ภาพของคนไข้ คนนั้นปรากฏขึ้นในมโนภาพ จริงหรือที่เขาเป็นต้นเหตุทำให้คนไข้รายนี้ตาย ไม่ใช่ซิ เขาช่วยจนถึงนาทีสุดท้ายนี่นา ทำไมหลายคนจึงคิดเช่นนั้น
ตอนที่ 6 น้ำตาเทียน