เรื่องของนายเก่ง & นายกล้า (ตอนที่ 1)
ปฏากร ดุริยางค์
* เรื่อง และเนื้อหาที่ปรากฏในเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ไม่ได้นำชีวิตของใครคนใดคนหนึ่ง มาสร้าง เป็นเพียงนิยายเรื่องหนึ่งที่ต้อง การให้คนเรารู้จักคำว่า "คุณค่าของชีวิต" เพียงเท่านั้น และอาจจะมีถ้อยคำที่ไม่สุภาพบ้าง ก็ต้องขออภัย เพราะต้องการสะท้อนให้เหมือนชีวิต จริงมากที่สุด *
******************************************************
ย้อนกลับไปสัก 20-30 ปีก่อน ในชนบทต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง บนผืนแผ่นดินประเทศไทย ยังมีครอบครัวของนางแก้ว ... แกเป็นม่ายผัวตาย มีลูกชายวัยรุ่น 2 คน ชื่อเก่ง กับกล้า เก่งนั้นเป็นพี่ มีนิสัยห้าว ไม่ค่อยกลัวใคร ส่วนกล้านั้นเป็นน้อง เป็นคนที่รักสงบต่างจากพี่ แต่ลึกๆ แล้วเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมใครได้ ง่ายๆ เหมือนกัน
นางแก้ว เป็นคนค่อนข้างมีฐานะ มีที่ดินมากมาย ที่ดินในต่างจังหวัดนั้น ก็ไม่พ้นอะไรที่ต้องทำไร่ไถนา เลี้ยงสัตว์ ฯลฯ ไปตามวิถีชนบท พอสิ้นนางแก้ว มรดกก็ถูกแบ่งเป็นครึ่ง เพื่อมอบให้ลูกชาย 2 คน ซึ่งตอนนี้ก็โต และมีครอบครัวกันแล้วพักหนึ่ง
เก่ง และกล้าทำนาทำไร่ ตามแบบบิดามารดาเมื่อสมัยยังเล็กๆ ก็นำมาใช้ ประจวบกับครอบครัวของทั้งสองก็ มีลูกมีเต้า ค่าใช้จ่ายก็เริ่มมีมากขึ้น จึงต้องมาแสวงหางานทำในเมืองหลวง ตามคำบอกเล่าของคนที่ไปทำงานมา และมีรายได้กลับมามากมาย เก่งและกล้า จึงตัดสินใจเข้า กทม. เพื่อที่จะหวังหาเงินมาให้ครอบครัวได้มากขึ้น เมื่อเว้นว่างจากฤดูการทำนา
เพราะว่าเก่ง กับกล้านั้น มีวุฒิที่ไม่สูงนัก ก็คือ จบ ป.4 ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในสมัยนั้น งานที่ทำได้ก็คงไม่พ้นแบกหาม รับจ้าง ใช้ร่ายกายทำงานเป็นหลัก กล้าและเก่งทำมาหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็น กรรมกร ขับแท็กซี่ ลูกจ้าง พนักงานโรงงาน ฯลฯ ช่วงหนึ่ง เกิดพิษเศรษฐกิจตกต่ำทำให้บริษัทโรงงานที่เก่งและกล้าทำอยู่ ปิดกิขการลง ตอนหลังนั้น เก่งไปทำงานกับเสี่ยธำนง เจ้าพ่อห้องแถว และร้านคาราโอเกะ เพราะว่านิสัยห้าวๆ เลยไปอยู่กับงานแบบนั้นได้ ส่วนกล้านั้น ไปทำงานเป็นพนักงานในร้านข้าวหมู แดงแถวจรัญสนิทวงศ์
ช่วงหลังนี้ กล้ากลับบ้านที่ ตจว. บ่อยครั้งขึ้น เพราะว่าร้านข้าวหมูแดงที่กล้าทำ พนักงานค่อยข้างเยอะ และเจ้าของร้านค่อนข้างจะเอ็นดูกล้า เพราะกล้าเป็นคนนิสัยอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นมิตร และไม่เคยบ่นเรื่องการทำงาน ไม่ว่าจะจ้างถูก หรือแพง หรือว่างานหนัก ลำบากอย่างไร ก็กล้าไม่เคยบ่น จึงเป็นที่รัก และพอใจของเจ้าของร้าน ผิดกลับเก่ง ที่นานๆ จะกลับบ้านที บางปีก็ไม่ได้กลับไปทำนา จนกล้าเวลากลับไป ตจว. ก็ต้องช่วยภรรยาของเก่งทำนาด้วยซ้ำ ถ้าจะให้หาตัวพี่เก่งก็ยากมาก เพราะแกทำงานไม่อยู่กับที่ ไปโน่นนี่ตลอดเวลา และเข้าถึงตัวแกก็อยาก มีแต่ผู้มีอิทธิพลทั้งนั้น
กล้า ทำงานอย่างเดียว ถึงจะได้อาศัยอยู่ในห้องของร้านที่ทำ ค่อนข้างสะดวกสบาย บางทีก็พาเมีย และลูกมาเที่ยว กทม. ด้วย แต่กล้าไม่ค่อยได้ดูทีวี หรือฟังวิทยุเท่าไหร่นัก จึงไม่ค่อยรู้ข่าวสารบ้านเมืองว่ามีอะไรบ้าง วันหนึ่ง เจ๊นวล เจ้าของร้านข้าวหมูแดงที่กล้าทำ ก็ถามกล้าว่าบ้านที่ ตจว. ทำอะไร กล้าก็ตอบไปว่าทำนาทำไร่ เลี้ยงสัตว์ ตามประสาบ้านนอก เจ็นวลก็ถามว่า ทำไม ไม่ไปทำละ กล้าก็บอกว่าจะกลับไปทำเฉพาะหน้านาเท่านั้น...
"แล้วหน้าอื่น ที่ไม่ได้ทำนาละ" เจ๊ถาม
"ก็มีเลี้ยงสัตว์ครับ หมู ไก่ ปลา วัว ควาย ช่วงนั้นผมก็ให้เมียผมดูแล" กล้าตอบอย่างซื่อๆ
"เราน่าจะพออ่านหนังสือออกนะ พี่มีอะไรให้เธออ่าน หนังสือเล่มนี้ พี่ให้เธอ เอาไว้อ่าน เอาไว้ดู" เจ๊บอกพร้อมส่งหนังสือเล่มดังกล่าว นั้น ให้กล้า
กล้า... รับหนังสือมาจากเจ๊นวล ประกอบกับเจ๊นวลพอส่งเสร็จก็เดินกลับไปคุยกับเด็กๆ ที่กำลังเก็บร้าน กล้าจึงก้มลงดูหนังสือที่รับมา จากเจ๊นวลในมือ พยายามอ่าน สะกดอักษรไทยที่ปรากฏบนหน้าปกหนังสือ...
"เกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ"
โปรดติดตามตอนต่อไป...
ปฏากรณ์ดุริยางค์
28 เมษายน 2553