ฟ้าเพียงดิน (๖) ชายหนุ่มฟังการประชุมด้วยทีท่าสนใจแต่มิได้กล่าวประการใด พลางนึกในใจว่าคุณพ่อ ช่างละเอียดรอบคอบมาก พลางตรวจรายการต่างๆบนหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ตามรางานของ หัวหน้าฝ่ายต่างๆ พลันได้ยินคุณพ่อกล่าวว่า “คุณองอาจ แล้วรายงานด้านต่างประเทศของประเทศเกาหลีที่มีหนังสือแจ้งมาว่าให้ทาง เราเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เพียงผู้เดียว ตอนนี้งานไปถึงไหนแล้ว ขอทราบด้วย” “เรียนท่านผู้บริหารใหญ่ บัดนี้ทางเราได้ติดต่อไปเรียบร้อยแล้วตามที่ท่านผู้บริหารแจ้ง แต่ทว่า ทางบริษัทเขาอยากจะมาดูสถานที่ประกอบการโดยทำเป็นหนังสือแจ้งมาจะส่งคนมา ดูกิจการในราวอาทิตย์หน้า วันอันแท้จริงจะแจ้งให้ท่านทราบอีกครั้งหนึ่ง ที่ยังมิได้รายงานไว้ ด้วยยังไม่ได้คำตอบอันแน่นอนเท่านั้นครับ” ฝ่ายต่างประเทศรายงานด้วยวาจาทันที “หากเป็นเช่นนั้นก็ให้คุณองอาจต้อนรับและให้ไปดูสถานที่จะใช้ประกอบรถยนต์ตลอดจน สาขาที่เปิดไว้ในกรุงเทพฯซึ่งทางเราได้จัดสร้างไว้เรียบร้อย หากได้รับรายงานจากบริษัทแม่เมื่อใด ก็ให้รีบรายงานโดยด่วนด้วยนะ” คุณอัศวโรจน์แจ้งให้ทราบ “ครับ!!!!.....หากทางเราได้รับการยืนยันเป็นที่แน่นอนก็จะเปิดและรีบเร่งขยายงานออกต่าง จังหวัดทันที ด้วยได้แจ้งให้คุณกฤษณะแจ้งไปยังบรรดาสาขาของเราให้จัดการสาขาและเตรียมการ โฆษณาไว้แล้วครับ” “แต่ถ้าหากฝ่ายเกาหลีขัดข้องอย่างไร ผมเองได้รับแจ้งมาว่าทางญี่ปุ่นก็สนใจงานทางเราด้วยคุณ เห็นเป็นประการใดล่ะคุณองอาจ” “แต่ถ้าหากทางญี่ปุ่นซึ่งก็ทำกิจการเดียวกันก็ไม่เป็นปัญหาหรอกครับ ด้วยผมและคุณกฤษณะ ได้เปิดสาขาในนามของบริษัทเราสำรองไว้แล้วให้เป็นฝ่ายรับผิดชอบดูแลด้านนี้ไว้แล้วครับท่าน ตามราย งานที่แจ้งไว้ในรายงานทางคอมฯครับท่าน” ผู้จัดการทั้งสองฝ่ายตอบ “แล้วด้านคุณกฤษณะเล่า การขายด้านเครื่องอุปกรณ์ ส่วน ลิฟต์ผมตรวจดูไม่เห็นเดินหน้าไป แต่อย่างใดเลย” “ทางด้านอุปกรณ์ด้านอื่นๆตลอดลีฟท์ถึงไม่ได้เพิ่มจากยอดเดิมนั้น แต่ไม่ได้ลดลงทุกอย่าง ด้วยขณะนี้เกิดเหตุการณ์ภายในบ้านเมืองอยู่จึงชะงักไปครับท่าน ผมคิดว่าหากบ้านเมืองสงบ คงจะได้ขายลิฟต์และอุปกรณ์ตลอดเครื่องอุปโภคบริโภคได้มากขึ้น ระยะนี้ได้โฆษณษาไปเรื่อยๆ เพียงแต่เพลาๆไปบ้าง แต่เราได้เสริมทางด้านต่างประเทศไว้รอรับแล้วครับท่าน อีกประการหนึ่ง ด้วยบรรดาการก่อสร้างต่างๆได้หยุดชะงักไปก่อน คงอีกไม่นาน ด้วยมีออเดอร์สั่งของมาแล้วครับท่าน” “จริงซินะ เหตุการณ์บ้านเมืองเรากำลังวุ่นวาย ทั้งทางด้านในประเทศและต่างประเทศ แต่ขอให้พวก เรารักษายอดการจำหน่ายและการผลิตไว้ตามรายการต่างๆไว้ ส่วนราคานั้นควรจะให้ชะลอๆไปพลางๆก่อน ให้ผู้จัดการสาขาทั้งหลายทราบด้วยนะ เพียงให้รีบเร่งหายอดจำหน่ายไว้ให้มากๆไว้ก่อน ส่วนบริษัทใดที่ยัง ต้องการก็ให้รีบจัดการให้เสร็จโดยเร็วด้วย”คุณ อัศวโรจน์แจ้ง “คุณยุพาล่ะด้านการจำหน่ายต่างที่คุณทำรายงานมานั้น เห็นควรลดอัตราลงเสียบ้างเพื่อให้สอดคล้องกับ เหตุการณ์บ้านเมืองลงมาหน่อยนะ แล้วแจ้งให้ฝ่ายการขายแจ้งไปยังบรรดาสาขาต่างๆทั้งในและนอกด้วยนะ” “เจ้าค่ะ แล้วท่านจะให้ลดประมาณสักเท่าไหร่ดีล่ะท่าน” “ผมเห็นว่าควรจะลดสักหนึ่งเปอรเซ็นต์หรือสองเป็นตามลักษณ์ของสินค้าก็แล้วกัน” “เจ้าค่ะจะได้แจ้งให้ฝ่ายการขายทราบโดยด่วนเจ้าค่ะ” “อ้อแล้วทางด้านบุคลากรล่ะ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เพิ่มลดเท่าไหร่ คุณจารุวรรณ” “อัตรากำลังบุคลากรนั้นหยุดรับการสมัคร เพียงรอการเปิดรับสมัครที่อาจจะเปิดการขายจากต่างประเทศจาก คุณองอาจไว้แล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้กำลังพิจารณาเกี่ยวกับการปลดคนงานตามสภาพเหตุการณ์ปัจจุบันอยู่เจ้าค่ะ” คุณจารุวรรณกล่าวรายงาน “ใช่แล้วสมควรเป็นแบบนั้นด้วยสภาพเหตุการณ์เราต้องตรึกตรองกันให้รอบคอบให้สอดคล้องกันและกัน และด้านคุณ เบญจมาศล่ะ งานฝ่ายบัญชีเป็นอย่างไรบ้าง” “ด้านการเงินนั้นยังอยู่ในสภาพคล่องตัว ด้านในและต่างประเทศยังอยู่ในสภาพเดิมแต่เค้าว่าอาจจะลดลง บ้างเล็กน้อยเจ้าค่ะ” ฝ่ายบัญชีกล่าวรายงาน “อ้อยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ เจ้ากานต์ลูกชายผมเองขออัตรา หนึ่งอัตรา เพื่อเวลาเขาเข้ามาบริหารงานแทนผม คือหน้าที่เลขานุการส่วนตัว ให้คุณนำเอกสารที่ผมจะมอบให้คุณนี้ไปแต่งตั้งได้เลยนะ กินตำแหน่งผู้ตรวจการ พิเศษประจำบริษัทสามารถตรวจสอบทุกๆฝ่ายได้ แต่ตอนนี้ยังไม่เข้าทำงานเขาจะทำรายงานส่งทางบ้านเขาให้ เขากินเงินเดือนๆละ ห้าหมื่นบาทไปก่อน เบิกจ่ายตั้งแต่เดือนนี้ไปเลยด้วย” คุณอัศวโรจน์กล่าว “เจ้าค่ะดิฉันจะรีบดำเนินการโดยด่วนเจ้าค่ะ” แล้วผู้จัดการฝ่ายบุคลากรก็ลุกจากเก้าอี้เดินเข้ามาน้อมกายลงแล้วรับเอกสารจากมือผู้บริหารใหญ่ทันที พร้อมก็เดินกลับไปนั่งโต๊ะตามเดิม “คุณพิมพ์ผกาให้จัดทำรายงานประชุมทั้งหมดรีบส่งผมโดยด่วนด้วยนะ” “เจ้าค่ะ” หญิงสาวชื่อพิมพ์ผกาตอบอย่างนอบน้อม พลางเงยหน้า แล้วหล่อนก็สะดุ้ง ไม่ใช่เพียงแต่หล่อน เท่านั้นชายหนุ่มก็สะดุ้งเช่นเดียวกัน ด้วยเขาเพียงแต่หลับตาฟังการสั่งงานการประชุมต่างๆจากคุณพ่อและหัน ไปมองผู้จัดการฝ่ายต่างๆจดจำไว้ แต่หาได้สังเกตว่าที่เบื้องหลังท่านมีหญิงสาวนั่งโต๊ะเคียงคู่ท่านอยู่ ด้วยหล่อนมัวแต่กำลังจดรายงานต่างๆไว้ พร้อมกำลังบันทึกลงในคอมพิวเตอร์อยู่จึงไม่ได้และเห็นใบหน้า พลันชายหนุ่มนึกถึงแม่แย้มขึ้นทันที ระหว่างที่เขาหลับไปและตื่นแต่เพียงแย้มนัยน์ตามองดูเห็นหล่อนเพียง ไม่นานนักแต่เขาจำได้ ไม่นึกว่าหล่อนจะมาเป็นเลขานุการของบิดาเขา ทั้งสองเมื่อสบตากันก็ต่างคนต่างคิดไปต่างๆนาๆทันที หญิงสาวก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มที่หล่อนแลเห็นนอนอยู่ บ้านโซฟานั้นจะเป็นถึงลูกชายคนเดียวของท่านบริหารใหญ่เจ้าของแห่งบริษัทที่หล่อนทำงานอยู่ ด้านชายหนุ่มก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่า หล่อนจะเป็นคนดูแลแม่แย้มที่เขารักดุจดั่งแม่ตัวเองในระหว่างเขาไปต่าง ประเทศและซื้อของมาฝากแม่เขาเป็นประจำอีกด้วยจะเป็นเลขานุการของพ่อไป ทำให้ทั้งสองตลึงงันทำให้คุณ อัศวโรจน์สงสัย แต่ไม่กล่าวประการใด เจ้าของบริษัทและผู้บริหารใหญ่พลางกล่าวในที่ประชุมว่า ในเมื่อผมอ่านรายงานจากท่านและเซฟไว้เรียบร้อย แล้ว หากทุกๆคนมีปัญหาใดขัดข้องอย่างไรให้รีบรายงานผมโดยด่วนด้วย ถ้าไม่มีก็ขอปิดประชุมก่อน อ้อๆๆ ลูกชายผมจะเข้ามาบริหารในบริษัทนี้อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ฉะนั้นเขาก็คือผมหากผิดพลาดอย่างไรก็ตักเตือนเขา ด้วยถือว่าเป็นลูกหลานของท่านๆก็แล้วกัน ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วยกมือไหว้ไปทางผู้จัดการฝ่ายทั้งห้าทันที บรรดาฝ่ายทั้งหลายก็ยืนขึ้นแล้ว รับไหว้ตอบ ต่างคิดในใจว่านี่หรือจะมาเป็นหัวหน้าพวกเขาอายุก็ยังไม่มากนักแต่ต่างคิดไปต่างๆนาๆแล้วก็ นั่งลงดังเดิม ครั้นได้ยินผู้บริหารใหญ่สั่งกล่าวปิดประชุมก็ลุกขึ้นน้อมกายคาราวะทันทีแล้วต่างก็ค่อยๆทยอย กันเดินออกจากนอกที่ประชุม คงเหลือเพียงคุณอัศวโรจน์ ชายหนุ่ม และหญิงสาวเท่านั้น “นี่เจ้าค่ะ แผ่นดิสท์ของแต่ละฝ่ายได้บันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมกันหกแผ่น ห้าแผ่นเป็นรายงานของหัว หน้าฝ่าย อีกแผ่นหนึ่งเป็นประชุมด้วยวาจาเจ้าค่ะ” แล้วหญิงสาวก็น้อมกายยื่นส่งให้แก่คุณอัศวโรจน์ทันที ถอยหลังไปยืนรอคำสั่งต่อไป “ฉันสังเกตว่าเธอกับลูกฉันเหมือนจะรู้จักกันมาก่อนแล้วใช่ไหมพิมพ์ผกา” “ไม่รู้จักกันเจ้าค่ะ แต่เคยเห็นเจ้าค่ะ” หญิงสาวตอบ “อ้าวๆๆ???....แล้วเจอกันที่ไหนล่ะ” บิดาพีระกานต์ถามด้วยความสงสัย “พบเห็นเขานอนหลับที่บ้านป้าแย้มเจ้าค่ะ ระหว่างดิฉันนำขนมไปมอบให้ป้าแย้มเจ้าค่ะ” “แล้วคุยกันด้วยหรือเปล่าล่ะ” “เปล่าเจ้าค่ะ เมื่อเห็นป้าแย้มมีลูกชายมาหาซึ่งดิฉันก็สงสัยเหมือนกันด้วยทราบว่าป้าแย้มไม่ได้แต่งงาน จนป่านนี้จะมีลูกชายได้อย่างไรเหมือนกันเจ้าค่ะ” คราวนี้คุณอัศวโรจน์รู้ทันทีว่าหลังจากไอ้กานต์มันหายหัวไปไหน ตามที่คุณหญิงภรรยากล่าวว่ากานต์ มันจะไปธุระ แต่เร่งให้กลับบ้านเร็วๆ พลางหันหน้ามาทางชายหนุ่มทันที “บอกพ่อซิเจ้ากานต์ว่าที่คุณพิมพ์ผกาแจ้งมาจริงหรือเปล่า เห็นแม่บอกว่าไปธุระที่แท้ไปหาแม่แย้มหรือ” “ครับคุณพ่อ ผมเองเห็นทราบว่าทางคุณพ่อคุณแม่จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับที่บ้านเลย แวะไปเยี่ยมแม่แย้มหน่อย” “เออให้มันได้อย่างนี้ซิ มันช่างเหมือนพ่อจริงๆนะ” “ฮ่าๆๆๆๆไอ้กานต์นะไอ้กานต์ ไม่เบาความคิดอ่านกว้างไกลนัก” แล้วชายกลางคนก็หัวร่อลั่นทันที แล้วชายปลายวัยชราก็กอดคอเจ้าลูกชายเดินออกจากห้องประชุมทันที หญิงสาวก็เดินตามหลังคิดไปต่างๆนาๆด้วยคาดไม่ถึงว่าจะมาเจอกันในลักษณะแบบนี้ “ครั้นถึงประตูก็ลดมือออกจากคอของชายหนุ่มแล้วหันไปถามว่า แล้วแกจะไม่ไปเดินชมฝ่ายต่างๆบ้าง หรือจะได้รู้จักห้องต่างๆเวลามาทำงานนะ” “อีกหนึ่งเดือนล่ะคุณพ่อ เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ผมเห็นจะขอตัวไปหาไอ้หนกมันหน่อยด้วยจะปรึกษากันว่าจะ ไปเที่ยวทะเล ด้วยมันจะบินไปยุโรปในอาทิตย์จะถึงนี้แล้ว” “ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวพ่อแม่จะตามไปด้วย เจ้าล่ะจะเอาใครๆไปบ้างล่ะ “ “ก็เพื่อนๆและเมียมันเท่านั้นครับคุณพ่อเอาคนที่สนิทๆไป ไม่อยากให้เอิกเกริกนัก” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น แล้วคุณอัศวโรจน์ก็หันหลังกลับไปถามหญิงสาวทันที “ หนูไปเที่ยวทะเลด้วยกันไหมล่ะนำแม่แย้มไปด้วยนะบอกพี่เค้าว่าฉันเองคิดถึง ไอ้กานต์มันคงอยากให้ไปร่วมด้วยนะ บอกแม่แย้มเห็นคงจะไปด้วยหรอกจะได้สั่งให้เขาจัดการทำความสะอาดบ้านพักไว้หรือหนูจะเอา พ่อแม่ไปด้วยก็ไม่ขัดข้องนะ” “ดูก่อนเจ้าค่ะแต่จะบอกแก่ป้าแย้มให้ทราบเจ้าค่ะ” หญิงสาวกล่าวตอบ “คุณพิมพ์ผกาขอเชิญด้วยนะครับ แล้วบอกแม่แย้มว่าผมต้องการให้ไปด้วย แม่แย้มต้องไปแน่นอนล่ะ” “เจ้าค่ะคุณชาย” หญิงสาวกล่าวตอบ ครั้นพอเดินพ้นหน้าห้องก็แจ้งให้หญิงสาวที่น้อมคาราวะให้กลับไปทำงานหน้าที่เดิมได้แล้ว พร้อม คุณอัศวโรจน์ก็แยกทางกับชายหนุ่มเพื่อเข้าไปยังห้องทำงานซ้ายมือที่ติดกับห้องประชุมใหญ่พร้อมหญิงสาวทันที หลังจากแยกทางกลับบิดาแล้ว ชายหนุ่มก็เดินระเหยไปเรื่อยๆลงลิฟท์มาแล้ว เดินดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยๆ ด้วยยังเห็นเวลามีอีกมากนัก เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จำชายหนุ่มได้ดีและเห็นเขาเดินเข้าไปยังที่ประชุมหน่วย ประชาสัมพันธ์ทั้งหมดก็รีบออกมายกมือไหว้ชายหนุ่มทันที ชายหนุ่มหัวร่อพลางบอกว่า “ขอบคุณทุกๆคนครับ เดี๋ยวผมจะกลับเดี๋ยวนี้ทำตัวตามสบายเถอะ” กล่าวจบชายหนุ่มก็รีบสาวเท้าผ่าน หน้าประตูใหญ่ ฝ่ายพนักงานรปภ.ก็ทำความเคารพ ชายหนุ่มทันที แล้วเขาก็รีบเดินไปที่รถแล้วสตาร์ทรถออก จากบริษัทหากนกด้วยนัดหมายกันไว้ก่อนแล้ว เมื่อชายหนุ่มขับรถมาถึงซอยชิดลมก็แวะซื้ออาหารต่างๆแล้วเดินเข้าไปในบ้านเพื่อน เห็นไอ้หนกกำลังง่วน อยู่กับต้นไม้ เขาแอบไปยืนไม่ให้มันรู้ตัว พอได้จังหวะก็เตะตูดมันทันที เสียงดังป๊าบ จอบเล็กๆในมือมันกระเด็น หลุดมือทันที หัวคะมำทิ่มไปยังกระถางต้นไม้ เสียงมันด่าสนั่นลั่น “ใครว่ะไอ้ห่า???....เดี๋ยวเถอะกูจะเอาคืน” พลางหันมายกมือตั้งท่ามวยการ์ดทันที เมื่อสมัยมันยังเรียนหนังสือ มันเคยชกมวยนักเรียนได้แชมป์รุ่นมาแล้ว แต่พอมันเห็นชายหนุ่มเท่านั้น ก็รีบปล่อยมือทั้งสองลงทันที “ไอ้เห้?...กูนึกว่าใครเสือกเตะกูเสียหัวทิ่มนี่กูว่าจะเอาคืนซะหน่อย” ว่าพลางก็ก้าวย่างสามขุมเข้าหาชายหนุ่ม ทันใด ชายหนุ่มหัวร่อก๊าก “มาๆๆไอ้หนก มึงดูซิว่านี่อะไรในมือกู “ แล้วชายหนุ่มก็ยกกล่องใส่เหล่าฝรั่งอย่างดีขึ้นทำท่ารับหากไอ้หนกเตะเขาจริงๆด้วยมือขวา ส่วนมือขวาถือถุงใส่บรรดาอาหารต่างยกขึ้นด้วย ไอ้หนกชะงักพรืดพลางหัวร่อลั่นกูก็แกล้งขู่มึงยังงั้นแหลว้าอ้ายเห้.....ไปๆๆมึงเข้าไปในบ้านบอกแม่บ้านกู ให้เตรียมไว้เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนแล้ว “อ้าวไอ้เห้?...มึงไม่เรียกพวกเรามากินด้วยกันหรือว๊ะ กูได้ยินไอ้รุจน์มันโทรมาหากูว่าจะมาหากลุ้มใจมันว๊ะ มึงโทรไปบอกมันก็แล้วกันพวกเรานะโว้ยอย่าให้มันเสือกพาเมียมาด้วยเดี๋ยวไม่สนุกว๊ะ” พูดแล้วกนกก็เดินเข้าบ้านตรงไปยังห้องน้ำทันที......... * แก้วประเสริฐ. *
21 มีนาคม 2553 14:42 น. - comment id 115989
...........ห๋า ลุงแก้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ...........
21 มีนาคม 2553 16:12 น. - comment id 116016
คุณ ฉางน้อย แปลกใจหรือที่มาแปลกแนวต่างกันยังกับ ฟ้าดินเชียว เรื่องนี้ลุงตั้งใจว่าเมื่อจบแล้วเคย กล่าวไว้กลัวผิดคำพูดว่าจะแต่งต่อให้จบเลย ครั้น มีโอกาสก็จะเอาให้จบจ้า รักหลานเสมอ แก้วประเสริฐ.
21 มีนาคม 2553 19:17 น. - comment id 116039
ครูแก้ว มาตอนหก เลยหรือครับ .เด๋วผมขอย้อนกลับไปอ่านตอนต้นๆ ก่อนนะครับ
22 มีนาคม 2553 11:57 น. - comment id 116063
คุณ กิ่งโศก อันที่จริงผมแต่งเรื่องนี้ทิ้งไม่จบไว้นานแล้ว ก็ด้วยเนื่องจาก วันหนึ่งอาบน้ำเสร็จผ่านทีวีเห็น เขาดูลครกัน เห็นขึ้นว่า ฟ้าเพียงดิน ครูก็เลย หยุดเขียนไปซะดื้อๆ จนกระทั่งมีคนพูดถึงก็เลย เข้าไปเก็บข้อมูลเก่าๆจากเรื่องนี้ไว้ เห็นคนเข้ามา อ่านมากเลย เป็นไงเป็นกัน อิอิ เขียนต่อแต่คราว นี้จะให้จบ ส่วนชื่อเรื่องจะซ้ำกันแต่เนื้อหาไม่ เหมือนกันหรอกจ๊ะ รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
22 มีนาคม 2553 19:57 น. - comment id 116080
อ่านฟ้าเพียงดินแปด กลับมาดูพบหก คงต้องตามไปตอน..เฮ้ย ตามอ่าน...1 2 3 4 5 ค่ะเคารพ คุณชายฯค่ะ
22 มีนาคม 2553 21:51 น. - comment id 116083
คุณ ทางแสงดาว คุณหญิงผมเองเรื่อง ฟ้าเพียงดินนั้นแต่งมา นานแล้วว่าจะเลิกเขียนต่อ แต่มีคนกล่าวถึงเหตุ ด้วยหลังอาบน้ำเสร็จ เห็นเขาดูลครกันเรื่อง ฟ้าเพียงดิน เอ๊ะมันไหงเหมือนชื่อเรื่องเราแต่งนี่ นาเลยดูแต่เนื้อหาไม่เหมือนกันเลย ปกติผมไม่ ค่อยชอบดุหนังลครอยุ่แล้ว ก็เลยวางมือไป แต่ เรื่องนี้แต่งง่ายมากๆครับผ่อนคลายสมองได้ดีไม่ เครียดมากนัก แต่ผมพยายามจะดำเนินเรื่องให้ สนุกไว้ ย้อนกลับไปอ่านเรื่องถึงจะติดต่อกัน ครับ รักคุณหญิงเสมอ แก้วประเสริฐ.