ทุกเช้าที่คนเราลืมตาขึ้นมา หลังจากหันหลังให้กับโลกใบนี้ชั่วคราวหลายชั่วโมง คงไม่มีใครตื่นมาพร้อมกับเสียงหัวเราะหรอก แม้จะนอนฝันดีมาตลอดทั้งคืนก็ตาม ฉันตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตีห้าครึ่งเสมอ แต่ก็ไม่เคยตื่นก่อนนาฬิกาสักที หลังจากที่ได้เลี้ยงน้องหมา ฉันก็ตื่นก่อนนาฬิกาทุกวัน ไม่ใช่เพราะเสียงเห่า หรือ ไม่ใช่เพราะการรบกวนจากน้องหมา แต่เป็นเพราะเสียงถอนหายใจเบาๆ นั่นเองที่ทำให้ฉันรู้ว่า ได้เวลาปลดทุกข์ของน้องหมาแล้วสินะ น้องหมาไม่กล้าแม้แต่จะเห่า หรือ ทำเสียงดัง เพราะต้องนอนในบ้านที่เราล๊อคจากข้างนอก กว่าจะได้ปลดทุกข์ เผลอๆอาจจะอดทนมาหลายชั่วโมงแล้วก็เป็นได้ แต่น้องหมาก็ไม่เคยฉี่ หรือ อึ ใส่ที่นอนสักครั้ง มีอยู่คืนหนึ่งน้องหมา ถอนหายใจเบาๆเหมือนช่วงเช้าของทุกวัน ด้วยความคุ้นเคยว่าคงจะตีห้าแระ ฉันก็งัวเงียลุกขึ้น กดนาฬิกาที่ยังไม่ทันได้ทำหน้าที่ปลุกเจ้าของ อุ้มน้องหมาลงบันได เตรียมตัวพาออกไปข้างบ้าน พอดิ๊สายตาเหลือบไปมองข้างฝา เป็นเวลาตีสอง....พิโธ่พิถัง.... อุ้มน้องหมาสองแขน ข้างละตัว เดินขึ้นบันไดอย่างสะโล๋สะเหล ตรงไปที่ห้องนอน และพูดหวานที่สุดเท่าที่จะทำได้ว่า "เป็นสาวเป็นแส้จะออกไปเดินเล่นข้างบ้านได้ไงห๊า เวลานี้ ไปนอนเลย ให้ไวๆ" น้องหมาแค่ได้ยินเสียงหวานๆ ก็รีบวิ่งปรู๊ดหางจุกตูดเข้าบ้าน แถมหันหน้ามายิ้ม เท่านั้นแหละ ปรอทที่ใกล้จะแตกก็ลดอุณหภูมิลง ฉันก็นั่งขำตัวเอง เออฟร่ะ ก็ถือว่าเป็นความผิดของฉันเองด้วยล่ะ ที่ไม่รู้จักสังเกตุสังกาก่อน นี่คงเป็นอีกหนึ่งบทเรียนให้ฉัน รอบคอบมากกว่านี้ ปกติ ฉันพาน้องหมาออกไปเดินเล่นข้างบ้านตีห้ากว่าๆ พอฉี่ อึ เรียบร้อย (หมายถึงน้องหมานะ อิอิ) ไม่นานฟ้าก็สว่าง นี่ถ้าฉันไม่บังเอิญ เหลือบดูนาฬิกาข้างฝาก่อน ฉันคงได้นั่งสัปหงกอยู่นอกบ้าน รอตะวันที่นอนอุตุอยู่ที่ไหนสักแห่งบนฟ้า และคิดในใจว่า "มะหร่ายตะวันจะเริ่มงานฟร่ะ"เป็นแน่ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ วันอาทิตย์ที่ผ่านมาหมาดๆ อยู่ดีๆฝนก็ตกตอนบ่าย วันที่กาแฟหมด ตู้เย็นว่าง ขนมทุกอย่างไร้วี่แวว ฉันก็นั่งจ๋องดูสายฝนที่ตกลงมาอย่างเซ็งๆ เพราะบ่ายสาม เป็นเวลาคอฟฟี่เบรคประจำวันของฉัน ตอนนี้บ่ายสองกว่าๆแล้ว นั่งมองฟ้าจากข้างหน้าต่างบานเล็ก เห็นเมฆดำค่อยๆเคลื่อนผ่านไปช้าๆ และก็ให้แปลกใจว่า ฝนหยุดเร็วกว่าที่คิดไว้ซะอีก อีกสิบนาทีจะบ่ายสาม จักรยานก็เสีย เลยต้องเดินออกไป อย่างมีความหวังว่า จะได้กินกาแฟยามบ่ายแล้วเรา จุดหมายปลายทางคือร้านคุณยายที่อยู่ซอยถัดไปร้านขายของชำเจ้าประจำ ที่ฉันมักจะแวะเวียนไป เวลาของขาด และไม่มีโปรแกรมเข้าซุปเปอร์ ยาย หรือ อิ๊ ที่ใครๆเรียกกันแต่ฉันเรียกยาย เพราะความเคยชิน ถามว่า "หายไปไหนมาไม่เห็นหลายวันเลย" ฉันก็ยิ้มๆและบอกว่า "พอดีซื้อเสบียงมาตุนไว้ค่ะ เลยอยู่ได้หลายวัน แต่ตอนนี้เสบียงหมดต้องพึ่งยายแล้ว" ยายก็หัวเราะ เพราะรู้ดีว่าฉันไม่โกหก เรื่องไปซื้อของซุปเปอร์แทนที่จะเป็นร้านของยาย เราพบกันไม่บ่อย เพราะส่วนใหญ่ฉันจะเข้าซุปเปอร์เดือนละสองครั้ง ไปทีก็ซื้อของมาตุนเก็บไว้ ยิ่งช่วงไหนมีของลดราคาอยู่ไม่ได้ ชีพจรลงเท้าทันที...อิอิ แต่ก็มีบางครั้งที่อยากออกไปพูดคุยหรือซื้อของร้านยาย ทั้งๆที่เสบียงยังมีเต็มตู้ อย่างช่วงไหนที่มีกล้วยน้ำว้าขาย ยายจะเก็บไว้ให้ทุกครั้ง วันนั้นก็จะเป็นวันที่ได้กินกล้วยบวชชีฝีมือตัวเอง ใช้นมโฟรโมสต์รสจืดแทนหางกะทิ และซื้อกะทิกล่องมาใช้ น้ำตาลทรายแดง เกลือ เท่านี้แหละขนมสุดโปรดราคาย่อมเยาว์ ที่อมตะอยู่ในใจฉันตลอดกาลชื่อว่า "กล้วยบวชชี" ฉันชอบกินเย็นๆ แช่ไว้ในตู้เย็นเวลาเอาออกมากินจะชื่นใจมากๆ เพราะเป็นนมโฟรโมสต์ จึงไม่เป็นไขเวลากินเย็นๆ กลับมาจากซื้อของฉันเดินทอดน่องเข้าซอยอย่างสบายใจ ถึงบ้านเวลากาแฟพอดี เพราะใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็ซื้อของเรียบร้อย ห้าร้อยเมตรเห็นหลังคาบ้านไกลๆ จู่ๆฝนก็ตกลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย โหยๆ...อายชะมัด เดินตากฝนทำมิวสิควีดีโอ แต่ในมือหิ้วถุงพลาสติกเต็มสองมือ แต่ละบ้านวันหยุดก็จะอยู่บ้าน ยิ่งฝนตกก็ไม่มีใครออกมาเดินเล่นหรือจับจ่ายซื้อของ ฉันก็เดินก้มหน้างุดๆ ขำตัวเองพิก๊ล ภาพบรรยากาศการเดินตากฝนที่ฉันคิด ฉันจะยืนกอดอกแหงนหน้ามองฟ้า ให้น้ำฝนชะน้ำตาโดยไม่ต้องใช้มือปาด แต่ในความเป็นจริง ฉันเดินตากฝนในมือหิ้วถุงกาแฟ ขนมเต็มสองข้าง ก้มหน้าหาเศษตังค์ เอ๊ย ก้มหน้าหลบสายตาคนอื่นที่มองมาอย่างอมยิ้ม ฉันคิดในใจ "ยิ้มไรฟร่ะ" หงุดหงิดๆ พอกลับถึงบ้าน แค่ไม่กี่นาทีแต่รู้สึกว่านานเป็นชั่วโมง ไขกุญแจเข้าบ้าน ฝนดันหยุดตก ธ่อๆๆๆ เข่าทรุด...ใครแช่งเนี่ย จามฟุดฟิดๆ นั่งจิบกาแฟอย่างเซ็งๆ สักพักก็ขำออกมาในชะตาที่ฟ้าลิขิตเอง ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ หากวันนี้ฉันยังสามารถยิ้มและหัวเราะกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งที่คาดถึง และคาดไม่ถึงได้ ก็ถือว่าคนบนฟ้าไม่ได้ใจร้ายนักหรอกกับคนตัวกระเปี๊ยกคนหนึ่ง ที่ขอเพียงพื้นที่เล็กๆได้เก็บเกี่ยวรอยยิ้ม และ เสียงหัวเราะ เพื่อบ่มเพาะทั้งสองสิ่งนี้ ไว้เป็นกำลังใจต่อไป ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ ภาพประกอบฝนตกสวยๆจากเว็บเด็กดี : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=984650 และเว็บเย็นตาโฟค่ะ http://www.yenta4.com/cutie/list_img.php?cate_id=8
23 กุมภาพันธ์ 2553 13:06 น. - comment id 115206
หัวเราะหนึ่งครั้ง อายุยืนไปหนึ่งปี คุณฝน.. ...พุดแล้วอยากกินกล้วยบวชชี ทันที..ต้องเป็นกล้วยน้ำว้า..นะ กล้วยไข่ มัน ยุ่ยไปอะ อิอิ หิว
23 กุมภาพันธ์ 2553 13:34 น. - comment id 115212
อืม บางครั้ง คนเราก็ไม่ต้องการอะไร มากมายในชีวิต...แค่เรามองสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวเราบ้างสักนิด...เราก็อาจเห็นตัวตนที่แท้ จริงของเราเอง..ว่า แท้ที่จริงเราต้องการอะไร..และอยู่เพื่ออะไร เป็นบทความที่ดูเรียบง่ายน๊ะฝน...แต่มีอะไร ให้ค้นอีกมากมายง่ะ
23 กุมภาพันธ์ 2553 13:36 น. - comment id 115213
แน่นอนครับคุณฝน แน่นอนเสียยิ่งกว่า แน่นอนเสียอีก ใครเป็นแฟนคุณคงจะดีมากๆ ด้วยอารมณ์ที่แจ่มใสของคุณ ฮ่าๆๆๆรักเสมอ แก้วประเสริฐ.
23 กุมภาพันธ์ 2553 15:59 น. - comment id 115214
เขียนได้ดีมากๆค่ะ... พี่พิมก็ยังชีพด้วยความสุขค่ะ
23 กุมภาพันธ์ 2553 16:07 น. - comment id 115215
........เหมือนเหงา แต่ไม่เหงา เหมือนเศร้า แต่ไม่เศร้า .......ยิ้มน๊า ยิ้มและเสียงหัวเราะจากพวกเราเหล่าลิงๆทั้งหลาย อิอิ ..... สุขไหมสหาย.......
23 กุมภาพันธ์ 2553 16:53 น. - comment id 115217
เค้าเคยหัวเราะดัง แบบไม่มีขีดจำกัด จนคนข้างๆ หมั่นไส้ ทำไมละฝน จะกักเก็บไว้ทำไมล่ะ ในเมื่อขณะที่เราหัวเราะ ก็เท่ากับว่า เรามีความสุขจริงๆนี่นา จริงมั้ยคนสวย
23 กุมภาพันธ์ 2553 17:07 น. - comment id 115218
รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และสิงห์ อิอิ ถึงจาอยู่ได้
23 กุมภาพันธ์ 2553 17:09 น. - comment id 115219
7.......... อ้าว สิงห์เหรอ คิดว่าม้ากระทืบโลง ของพี่นักสืบเมื่อคืนซะอีก 55555555
23 กุมภาพันธ์ 2553 17:11 น. - comment id 115221
จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไป เด่วพี่ชายเสียหายหลายแสนล้าน ยิ่งล้านๆอยู่
23 กุมภาพันธ์ 2553 17:12 น. - comment id 115222
10.............
23 กุมภาพันธ์ 2553 17:13 น. - comment id 115223
9...... อ้าว เหรอ เค้าเอ็ดไปแระ ทำไงดีอ่า......
23 กุมภาพันธ์ 2553 22:17 น. - comment id 115241
เออ.......นะ เขียนได้ดีทีเดียว อ่านแบบบรรจงอ่าน ได้ความรู้สึกสดชื่น
24 กุมภาพันธ์ 2553 08:17 น. - comment id 115243
เอา และ มาฝาก จะได้อยู่ต่อไปอีกวัน
24 กุมภาพันธ์ 2553 09:47 น. - comment id 115245
บ่นอะไรอ่ะป้าโคฯ
24 กุมภาพันธ์ 2553 10:56 น. - comment id 115247
ฝนตากฝน คนยิ้มหัว ตาพร่ามัว กลัวเป็นหวัด ฝนสร่างซา ตามองชัด น้องหมาฟัด กัดกินหนม ... มาตากฝนฟังนิทานด้วยจ้า ฟังเพลินเกือบหลับแน่ะ
24 กุมภาพันธ์ 2553 16:49 น. - comment id 115249
^ ^ ^ กำลังใจค่ะ อิอิ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ กิ่งโศก โห...แบบนี้ฝนคงอยู่ไปได้อีกนานเลยค่ะ อิอิ ปล.ใช่ค่ะ กล้วยน้ำว้า เอามาทำ กล้วยบวชชีอร่อยสุด ชอบแบบที่เนื้อไม่นิ่ม กินแล้วแข็งหน่อยๆอ่ะค่ะ ให้แบมทำให้ทานดูดิคะ อิอิ พูดถึงก็อยากกิงมาตะหงิดๆอีกแระ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ เทียนหยด คุงเพิ่ล ขอบคุณน๊า ว่าแต่ค้นแล้วได้อะไรติดไม้ติดมือไปมั่งป่ะเนี่ย อิอิ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ แก้วประเสริฐ สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่มาเยี่ยมบ้านฝนนะคะ แฮ่ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ พี่น้ำตาลฯ อิอิ...ยังชีพด้วยความสุข ชอบจังค่ะคำนี้ ฝนนึกไม่ออก ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ ฉางน้อย แม่นแล้วจ้าสหายรักแห่งข้า อิอิ เป็นอารมณ์เสถียรอ่ะเนอะ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ แก้วประภัสสร อิอิ...ฝนเป็นคนเส้นตื้นเหมือนกัน แบม ถ้าได้ขำนะ อย่าบอกให้หยุด ฮ่า ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ ยาแก้ปวด อิอิอิ....น๊านนนนน (พะเยาว์ พิโลก) ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ แปดถึง สิเอะ อ่านเฉยๆ โนเม้น อิอิ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ วิทย์ ศิริ ขอบคุณที่อ่านอย่างบรรจงนะคะ เพราะฝนก็เขียน เอ๊ย พิมพ์ อย่างบรรจงเหมือนกันน๊า ปล.มาดึกจังไม่ทันสาวๆเลย อิอิ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ พี่สืบ ขอบคุณค่ะพี่ฯ รับมาและส่งต่อในบัดดล อิอิ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ เฌอมาลย์ ป่าวบ่นน๊า ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ ดาวศรัทธา ขอบคุณที่มานะคะ สงสัยฟังเพลงบรรเลงแล้วจะหลับ อิอิ เพราะเสียงฝนไม่น่าจะกล่อมใครได้ ฮ่า ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านที่มาเยี่ยมเยือน ให้กำลังใจกันค่ะ
25 กุมภาพันธ์ 2553 08:46 น. - comment id 115257
อ๊ะ คุยกับหมา รู้เรื่อง ง่า
25 กุมภาพันธ์ 2553 17:13 น. - comment id 115272
17.......... พี่อานนท์ มาไมเนี่ยะ ทำงานๆๆๆ เดี๋ยวโดนๆๆๆๆ
25 กุมภาพันธ์ 2553 17:31 น. - comment id 115273
พี่อานนท์ โมเมว่าเป็นคำชมแระกันนะคะ อิอิ ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ ฉางน้อย ผ.บ.ท.บ มาเอง ฮ่าๆ
25 กุมภาพันธ์ 2553 17:33 น. - comment id 115274
ไหนๆก็ไหนๆแระ ยี่สิบ กกไข่ต่อ
27 กุมภาพันธ์ 2553 19:52 น. - comment id 115343
นอกจากลีลาสนุกสนานเสวนาที่เห็นจนเจนตาแล้ว ยังมีอีกแง่มุมหนึ่งที่ฝนแสดงความเป็นตัวตนออกมาให้เห็นเสมอ อย่างเช่น เรื่องนี้ซึ่งดูแล้วเหมือนบันทึกในไดอารีส่วนตัวซะมากกว่า งานเขียนที่บ่งบอกอุปนิสัยของผู้เขียนได้อย่างดี มองโลกในแง่ดี เป็นมิตร เรียบง่าย สมถะ อ่อนไหว และที่สำคัญก็คือ..มีความสุข เท่านี้ก็เพียงพอแล้วเนอะฝนเนอะ ขอให้มีความสุขมากๆครับ
28 กุมภาพันธ์ 2553 11:31 น. - comment id 115352
อ่า....ฤทธิ์ ศรีดวง ขอบคุณมากเลยค่ะ ที่มาเยี่ยมเยือนบ้านฝน ดีใจจนน่าแป้นแล้วแป้นอีก สบายดีมั๊ยคะ นานน๊านถึงจะเห็นทีนะคะ ขอให้ สดใสสุขสันต์นะคะ