น้ำตาไหล
สะพั่งสะท้านไมภพ
เพราะมีผู้ไม่ยอมแพ้แม้ถูกหยัน
คงยืนหยัดสู้ไปใฝ่ประจัญ
เสียงเพลงเพลงท่อนเดียวที่ดังกระหึ่มอยู่ในหัวใจทุกครั้งที่ได้ยินกล่าวคำประนามทหารทุกครั้งในแต่ละเวที
แม้แต่ภรรยาสักคนยังไม่มีเวลาจะหามาทำยาเลย
ตั้งแต่จบมาเป็นทหาร
ก็ออกธุดงค์ร่อนเร่ไปตามป่าเขาลำเนาไพร
นอนกลางดินกินกลางทรายอดบ้างเป็นบางครั้ง
อยู่ร่วมกันมิตรแท้ที่มีหัวใจและมิตรแท้ที่ไม่มีหัวใจ
บางท่านก็กำลังจะจากไปต่อหน้าต่อตา
นัยน์ตาของเขาบอกถึงความรู้สึกที่แตกต่าง
ส่งผ่านในตาของเขาเข้ามาสู่ของนัยน์ตาของผู้หมวด
ไม่ต้องเอื้อนเอ่ยวาจา
เพียงแค่สายตาที่ส่งกระแสจิตถึงกัน
ก็เข้าใจได้แล้วมีแต่ทหารเท่านั้นถึงจะเข้าใจทหารได้
แต่อย่างไรก็ตาม
ในการเป็นผู้นำทหารขนาดเล็กนั้น
ในสายตาของผู้หมวดได้ส่งความชื่นชมและให้เกียรติ
ส่งความรู้สึกที่ผูกพันยิ่งใหญ่
แม้จะตายเขาก็รับรู้แล้วว่ามีเกียรติอย่างยิ่งเพียงใด
ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าหลังจากดับจิตแล้วจะเป็นเช่นใด
แต่คาดเดาได้ว่าบรรดาเพื่อนทหารสมัยเก่าก่อน
ที่ยังคงเป็นวิญญานหรือเทพอยู่คงได้แห่และดีใจที่ได้มาต้อนรับ
นักรบคนหนึ่งที่คุ้นเคย
ที่เคยร่วมรบกันมาในทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่สร้างชาติขึ้น
วิญญานพวกเขาเหล่านี้พร้อมเพรียงและยินดีที่จะมาเกิดในขณะที่แผ่นดินเป็นทุกข์
เมื่อแผ่นดินเป็นสุขแล้วก็จะโดนพวกที่ทำนาบนหลังคนมาย่ำยีจนกระทั่งลุกเป็นไฟ
เป็นเวลาตั้งแต่ปี ๒๕๒๖ แล้วที่รบจนมาถึงปัจจุบัน
ในระหว่างการรบที่ผ่านมาปะทะกับฝ่ายตรงข้ามเพียง ร้อยกว่าครั้ง
ตั้งแต่ปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ โจรแบ่งแยกดินแดน และโจรต่างๆ
ห่างไกลกันเพียง สองร้อยกิโลขึ้นไป ไม่เกินสองพันกิโลจากดินแดนทางตอนใต้
ต่างคนต่างก็ยิ้มแย้มสนุกสนานในสังคม
และเล่นเล่ห์แพรวพราวในการทำงาน
กระทำการทุกอย่างด้วยเล่ห์เหลี่ยมในความต้องการที่ซ้ำกัน
กดขี่ข่มเหงต่อผู้ที่ไม่มีปากเสียงหรือคิดไม่เท่า
แม้ว่าจะผ่านการสู้รบมามากกว่าร้อยครั้ง
แต่ทว่าหน้าตามันดูไม่เหมือนนักรบ
ดังนั้น จึงไม่ได้เป็นผู้บังคับหน่วย
ต่อมาโดนวิพากษ์จากผู้ชายผู้หญิงว่ารังเกียจทหารอย่างน่าขยะแขยงเพียงใด
เขามองลึกไปในหัวใจของแต่ละคน
เพียงแค่เป้าหมายอันเร้นลับในหัวใจของเขาเธอแต่ละคน
ถึงขนาดไม่คิดให้ดีว่าสิ่งที่เขาพูดออกไปนั้น
มันกระเทือนถึงความรู้สึกของพวกที่เรียกว่าทหารที่เป็นทหารอย่างไรบ้าง
น้ำตาของผมหลั่งรินออกมาจากหัวใจ
บางครั้งที่ว่ากันสนุกปากจนชอกช้ำอย่างแสนสาหัส
ต่อหน้าเสด็จพ่อสมเด็จพระปิยมหาราช
มีแต่องค์พ่อท่านซึ่งได้แสดงมหาเมตตาครั้งยิ่งใหญ่ที่ปลดปล่อยความเป็นทาสให้หมดสิ้นไป
แต่พอถึงเวลาเพียงวันเดียวยังมิได้สำนึกในพระคุณยังไม่ได้ไปกราบกรานท่าน
แม้ว่าฝนฟ้าจะตกไม่ลืมหูลืมตา
แม้ว่าจะต้องขับรถไปไกล
ก็ยังต้องไปให้ได้เพราะสำนึก
แต่ทว่าเสียงเพลงดังกล่าวข้างต้น
ก็เป็นเสียงเพลงที่ใช้ปลอบหัวใจเหล่าทหาร
และก็เป็นเช่นนี้มาตลอดกาลนานแล้วกระมัง
และก็ยืนหยัดว่าไม่เฉพาะแค่ชาตินี้เท่านั้น
แม้จะเหยียดหยามหัวใจกันเพียงใด
แต่สิ่งที่พวกทหารกล้าทั้งหลายจักทำ
ก็จะเกิดมากระทำเยี่ยงนี้ทุกชาติไป
ไม่ใช่แต่เพียงคิดหวัง ลาภ ยศ สรรเสริญ
เพียงแต่หวังว่า
จะมีแผ่นดินอยู่ต่อไป
และมีปัญหาครั้งใด
เหล่าทหารกล้าก็จะลงมาเกิดให้ทันร่วมต่อสู้อยู่เสมอ
ทหารที่แท้ไม่พูดพล่าม
ทหารที่แท้ไม่แสดงออก
ทหารที่แท้เท่านั้นที่จะเข้าใจทหารด้วยกัน
สิ่งที่ถ่ายทอดบอกต่อต่อกันสำหรับทหารด้วยกัน
ก็คือหัวใจที่รักชาติ และวิชาความรู้โบราณที่สืบทอดบอกต่อต่อกัน
เพียงแต่หวังว่า
หากได้ทราบสักนิดว่า
ขณะที่กำลังเสพสุขนั้น
ในขณะเดียวกันก็มีคนที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยอยู่
หากระลึกได้เล็กน้อย
เพียงแต่ขอบคุณเขาเบาๆเงียบๆในใจ
ก็พอแล้วและสุขใจแล้วในหัวใจของทหารนักรบ
การตายไม่ได้เป็นจุดจบของทหารนักรบ
แต่เขาจะไปพักผ่อนสักครู่
และเมื่อถึงเวลาจำเป็น
ก็จะขออาสามาทำงานให้อีก
ผู้หมวดในตอนนี้ได้เติบโตขึ้นมาแล้ว
เขาใส่แว่นออกมายืนดูอากาศในตอนเช้า
หวนระลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาในปัจจุบัน
ไม่เข้าใจว่าพวกที่เหยียดหยามต่อบรรพบุรุษ
เหยียดหยามต่อผู้คน
ไม่รู้ว่าชีวิตของเขาจะหลงทางอีกเท่าใด
การทำงานเพื่อต่อสู้
ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ลำบากอย่างใด
เป็นแค่มีคุณสมบัติประการเดียวก็พอแล้วไม่ว่าจะโง่หรือฉลาด
นั้นก็คือ ความรักชาติ เท่านั้น
ผู้หมวดในตอนนั้นเป็นบริกกาเดียแล้วในตอนนี้
เวลาสามปีที่ว่างเว้นจากการรบ
ได้ใช้ไปศึกษาจนเป็นด๊อกเตอร์
แต่มันไม่ใช้คำว่าด๊อกเตอร์นำหน้าชื่อนามสกุลของมัน
บริกาเดียแย้มยิ้ม
แต่ก็ต้องหุบยิ้มอย่างเร็วไว
เพราะดันระลึกได้ว่าในสถานการณ์อย่างนี้หรือสมควรจะยิ้มแย้มได้
ในอนาคตข้างหน้า
งานคงจะต้องหนักเหนื่อยแน่เลย
แต่ไม่เป็นไร
ก็เป็นอย่างงี้มานานแล้ว
พอถึงเวลาที่สมควร
ได้แต่บ่นออกอย่างดังๆในใจว่า
กูอีกแล้ว