“ ตาจันกับไอ้จ๋อย “ พระอาทิตย์ใกล้ลับขุนเขา ท้องฟ้า ทอแสงอ่อนแดงระเรื่อๆฉาบเมฆแลงามหลากสี ฝูงนกยาง ร้องเรียกพวก จ้าละหวั่น หวังกลับไปพักผ่อน ท่ามกลางท้องทุ่งนาที่อยู่ใกล้เชิงเขา เห็นสามชีวิต คนสองสัตว์หนึ่ง ก็กำลังมุ่งหน้าเดินทางกลับบ้านเหมือนกัน เสียงขลุ่ยแว่วบรรเลงเพลงลูกทุ่ง ล่องลอยมา สูงๆต่ำๆ สร้างบรรยากาศที่ใกล้จวนจะโพล้เพล้ ให้มีชีวิตดีขึ้นกว่าไม่มีเสียงอะไรเลย ร่างชายวัยกลางคนค่อนข้างมีอายุ แต่ร่างกายบึกบึนไหล่ซ้ายสะพาย ถาน อีกมือหนึ่งลากเส้นเชือกยาวๆ ปลายเชือกเป็นควายร่างกำยำวัยหนุ่ม หลังควายมีเด็กอายุประมาณ 14-15 ปี นอนบนหลังควายเป่าขลุ่ยอยู่ มันไม่เพียงเป่าเท่านั้น แต่ขามันซึ่งยกไขว้กันอย่างสบายอารมณ์ “ เฮ้ยๆๆๆ...ไอ้จ๋อย ไอ้ห่า เดี๋ยวมึงก็ตกหลังควายแขนคอกหรอกว๊ะ!!! เสียงขลุ่ยเงียบหายทันที มันหันไปมองชายชรา แล้วก็แหกปากหัวร่อเสียงดัง “กูเตือนมึงนะโว้ย เสือกดันหัวร่อได้ไอ้ห่ากิน!!...” “ระวังนะโว้ย กู..ขีเกียจไปอนามัย” “พอหรือยังล่ะตาแก่...บ่นเก่งฉิบ...เลย คนกำลังพักผ่อนอารมณ์ ข้ามันเด็กเทพนะตาไม่โง่จนตกลงมาหรอก” “ฮ่าๆๆ...มึงว่าอะไรนะหูกูไม่ค่อยได้ยินว๊ะ?” เสียงชายค่อนข้างชราถามขึ้น “ฉันบอกว่า...อึอึ... ฉันมันเด็กเทพ...นี่แหละหน๊าคนโง่ๆก็แบบนี้แหละพูดไม่รู้เรื่อง” เสียงเด็กหนุ่มตอบแบบน่ารำคาญ พลางหยิบขลุ่ยขยับจะเข้าริมฝีปาก ก็ต้องพลันชะงัก เมื่อได้ยินเสียงตามันกล่าวลอยๆแบบร้องเพลงก็ไม่ใช่ มันตะแคงหูพยายามฟังเสียงตาร้อง “บ๊อกโกโล่ๆ เหวย บ๊อกโกโล่......” ชายกลางคนร้องไปหัวร่อไป เด็กหนุ่มพลันลุกนั่งบนหลังควายหลังจากที่นอนตะแคงอยู่นาน “ อะไรว๊ะ???บ๊อกโกโล่ๆ ๆๆ” มันเกาหัวแกร๊กๆๆแล้วรำพึง บ๊อกโกโล่???อะไรกันว๊ะ ตาๆๆๆบ่นอะไรอยู่หรือตา เด็กหนุ่มทนไม่ไหว ตะโกนถาม? “มึงไม่รู้หรือว๊ะ..ไอ้เด็กเทพ...แหม๋ๆๆๆไปเมืองหลวงไม่เท่าไหร่ ชิชะๆจะเป็นเด็กเทพ ถุ้ยถุย....” แล้วตาของเด็กหนุ่มพลางเดินจูงควาย ร้องเพลงของแกไปหัวร่อไป บ๊อกโกโล่เว้ยบ๊อกโกโล่ ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้ผลแฮะ เด็กหนุ่มชื่อไอ้จ๋อย กระโดดผลุงจากหลังควายแล้วเข้าไปฉุดมือตามันให้หยุด “เดี๋ยวก่อนตา ข้าสงสัยจัง ไอ้คำว่า “บ๊อกโกโล่???นะความหมายอะไรฮือตา!!!!!...” ชายกลางคนค่อนข้างชรา หัวร่อร่วน แล้วย้อนถามไอ้จ๋อยทันที “มึงไม่รู้จริงๆหรือว่าแกล้งว๊ะ...ไอ้เด็กเทพ ฮ่าๆๆๆ หน๋อยๆเด็กเทพมันน่าจะรู้นะโว้ย” คราวนี้เด็กหนุ่มตีหน้าย่น จนดูคล้ายคนแก่ มันเกากระบาลแกร๊กๆ ครั้นจะถามก็กลัวจะเสีย เชิงว่าเป็นเด็กเทพ ดังที่มันกล่าวไว้ นอกจากพึมพรำไป บ๊อกโกโล่ๆๆๆๆ ด้วยความสงสัย อดที่จะยอมเสียเชิงเพื่อให้หายความสงสัย เอ๊าๆๆๆยอมตาสักทีไม่เป็นไรหรอกแต่ก็ยังไว้เชิงว่าเป็นเด็กเทพ มันก็แหกปากร้องว่า..... “กรูกุ๊กกรู๊....กรูกุ๊กกรู๊ๆๆๆๆๆ “ ได้ผลเหมือนกันมันนึก ตามันถึงได้หยุดร้องเพลง บ๊อกโกโล่ ฉิบ... “โอ้ยๆๆๆๆ” เสียงเด็กหนุ่มร้องลั่น ไม่ลั่นเปล่าร่างมันกระเด็นตกคันนาทันที “อ้าวๆๆๆตาถีบฉันทำไมฮือๆๆๆๆ” “ก็มึงไม่รู้จักผู้ใหญ่เป็นเด็กเป็นเล็ก ไอ้นี่วอน นี่แค่เล็กน้อยนะเว้ย หากมึงไม่ใช่หลาน กูแล้วล่ะก็ ฮึๆๆๆๆ” “มึงโดนหนักกว่านี่อีกนะไอ้เห้...จ๋อย” พอได้ยินคำนี้ไอ้จ๋อย หยุดโมโหทันทีลืมความเจ็บที่ถูกถีบจากตา แล้ววิ่งไปไกลๆหน่อย แล้ว หัวร่อลั่น “กรูกุ๊กกรู๊ๆๆๆๆ” “ไอ้จ๋อย..นิๆๆ...มึงทะลึ่งใหญ่แล้วเว้ย “ ครั้นจะวิ่งไปหามันก็ไม่ทันด้วยบนบ่าแกมีถาน อันใหญ่ที่สะพายไว้ ไหนเลยจะทันเด็กมัน แต่ก็ยังอดหันไปล้อมัน อีก “บ๊อกโกโล่ๆๆๆโว้ยไอ้จ๋อย ฮ่าๆๆๆๆๆ....” คราวนี้ไอ้จ๋อยหยุดร้องทันที แต่ด้วยเชิงมันกลับย้อนตามันทันที “ข้าร้อง “ กรูกุ๊กกรู๊ “ แล้วเกี่ยวกับ” บ๊อกโกโล่ไ ของตาหรือเปล่าล่ะ...???” “ไม่เกี่ยวโว้ย...แต่มึงล้อกูนี่นา ไอ้เด็กเวรตะไล...” ชายผู้เป็นตาตะโกนบอก “อ้าวๆๆๆมันก็ไม่แฟร์ซิตา ตาร้องก่อนนา...” มันเถียงทันที แล้วตารู้หรือเปล่าว่าไอ้คำว่า “บ๊อกโกโล่” หมายถึงอะไร “อ๊อ.ๆ..ๆ เท่านี้หรือว๊ะไอ้จ๊อย ฮ่าๆๆๆ ขำโว้ย...กูจะบ้าตายแล้วไอ้จ๋อย” “ เออๆๆๆ แล้วไอ้ฟง ไอ้แฟร์ของมึงนะ แฟนมึงเหร๊อ ไอ้จ๋อย????” คราวนี้ไอ้จ๋อยทำหน้าทะเล้นแลบลิ้นหลอกตามัน แล้วพูดลอยๆๆขึ้น “นี่แหละหน๊า...คนบ้านนอกมันก็โง่เหมือน......????” มันหยุดเสีย ชายเป็นตา ย้อนถามหลานชายบ้างว่า “แล้วมึงรู้หรือเปล่าว่าไอ้คำว่า “บ๊อกโกโล่” มันแปลว่าอะไร เดี๋ยวกูจะบอกให้เอาบุญว๊ะ” ไอ้จ๋อยยิ้มแก้มแทบปริแตกเสียให้ได้ มันนึกในใจ เข้าทางว๊ะ เข้าทางกู แต่ก็ยังตีหน้าเซ่อๆๆ ถามไปเพื่อให้หายสงสัยแต่ก็ไว้เชิงมัน ที่สำเร็จวิชาสุดยอดจากเมืองหลวง “โถๆๆๆ...หลงฟังคนแก่เพ้อก็อย่างนี้แหละว๊ะ ไอ้จ๋อยหนอไอ้จ๋อย ตากูก็ไม่รู้หรอกว๊ะ” มันพูดขึ้นมาลอยๆๆ คราวนี้ได้ผลเต็มร้อยเลยมันคิด เมื่อหันไปมองตามัน ซึ่งทำหน้ายึดแอ่นอก นึกว่ามันไม่รู้ แต่มันก็ไม่รู้จริงๆ ทางตา มันก็ไว้ลายเหมือนกัน หันหน้าจูงควายต่อไป ส่วนไอ้จ๋อยไม่กล้า เข้าใกล้ๆ เดินตามห่างๆ ความเงียบเข้ามาสักพักใหญ่ ทั้งตาหลานไม่ได้พูดคุยกันอีกเลยต่างไว้เหลี่ยมกันแหละกัน แต่ความเก๊าประสบการณ์ของตามันมากกว่ารู้จักอดกลั้น ส่วนไอ๊จ๋อยมันยังเด็กมากจึงขาด ความอดกลั้นอดทน ไม่วายที่จะถามตามันก่อน แล้วพูดขึ้นก่อน ลอยๆๆ “ฮี่โถๆๆๆๆๆ.....ตาโง่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าว่าไอ้คำว่า “บ๊อกโกโล่” มันคืออะไร?????” คราวนี้ตามันสะบัดหน้าหันกลับมา แล้วกล่าวว่า “ไอ้ห่า...หากกูไม่รู้มันว่าอะไร กูไม่ร้องเพลงมันหรอกโว้ยๆ...ไอ้จ๋อยเอ๋ย” “ก็รู้แบบ โง่ๆๆๆนะซิ” มันลอยหน้าพูดลอยๆเหมือนกัน” ฮี่โถ..ทำตีขรึม” ตามันกระโดดผางปล่อยเชือกผูกควายออก แล้ว เท้าสะเอว คราวนี้ที่ความอดกลั้น หายไป ด้วยความคิดที่อวดเก่งว่า เหนือกว่าหลานชาย “มาม๊ะมา...ไอ้จ๋อย. กูจะบอกให้เอาบุญ เมื่อกี้นี้มึงนอนและนั่งบนอะไรล่ะ นี่แหละ คือความหมายว่าคำ “บ๊อกโกโล่” เว้ยไอ้จ๋อย...” อดอวดภูมิไม่ได้ คราวนี้ไอ้จ๋อยแหกตาปากเสียกว้างแล้วหัวร่อลั่น ไม่ลั่นเปล่า ยกมือเข็กหัวมันเองอีกด้วย นึกไม่ถึงๆ ไอ้ห่ากูนี่ช่างโง่เหมือนกันนิ มันรำพึงในใจ “บ๊อกโกโล่...หรือควาย” ฮ่าๆๆๆๆ “อยากพูดก็พูดไม่เป็นจำคำเขามา ฮ่าๆๆๆๆ” แล้วมัน ก็แลบลิ้นหลอกตามัน อ้าวไม่เรียกว่า “บ๊อกโกโล่ไ มันมันเรียกอะไรว๊ะไอ้จ๊อย กูได้ยิน ไอ้เปี๊ยกมันพูดให้ฟังเว้ย!!!!? มาม๊ะมา....ใกล้เข้ามานะตาเอ๊ยตา ตะแคงหูฟังนะหากไม่ได้ยิน ก็หาก้านไม้แคะหูก่อนก็ได้ข้าจะ วิสัชนาคำที่ถูกต้องให้ฟัง “แม๊ะๆๆ...แม่ห่ากิน...ไม่ถูกแล้วจะพูดได้หรือเว้ยไอ้จ๋อย” “โถๆๆๆอนิจจา ชื่อ “จัน” ที่แท้ก็เป็นจันข้างแรมนะตา” ฮ่าๆๆๆๆ “ไอ้จ๋อยอย่าวางมาดให้มากนัก หากไม่บอกกู กลับบ้านมึงระวังอย่าเข้านอนนะ มิฉะนั้นกูกระทืบมึงแน่ๆๆ” “อ้าวๆๆๆ .... ผุ้ใหญ่รังแกเด็กนะตา” “ไม่รู้โว้ย...หากไม่บอกโดนแน่ๆ” “เอ๊าๆๆๆถือโตกว่าข่มได้ข่มเอา ...บอกก็บอกซิตาจ๋า...” “อ้าวแล้วเสือกนิ่งไปทำไมล่ะ ไอ้ห่ากวนตี....จริงๆนะมึง” “เปล่าหรอกตา กำลังนึกอยู่ว่าถูกหรือเปล่าล่ะ แหม๋ๆๆๆทำใจร้อน กับยายเห็นถูกด่าทีไร ไม่เห็นเก่งสักที “ เดี๋ยวโดนตาเตะจะฟ้องยายล่ะคราวนี้ แล้วมันก็ถอยห่างๆไปอีก หัวร่อลั่น “โอ้ๆๆๆมาม๊ะมาพ่อมหาจำเริญ มาใกล้ตาหน่อยหลานรักของตา” “ใกล้ๆก็ไม่ใช่เด็กเทพซิตา ทำหลอกเด็กเทพไปได้เช๊อะๆๆๆ” “เอาล่ะพ่อเด็กเทพ เฉลยให้ตาฟังเถอะ พ่อทูนหัวของตา” “นี่เป็นตาแท้ๆนะ เช๊อะมิฉะนั้นให้เขาหลอกจนตายก็ไม่รู้ เอาล่ะจะบอกให้ แคะหูหรือยัง อ้อ แคะแล้ว มันไม่ใช่ “บ๊อกโกโล่”หรอกตา มันเรียกว่า “บัฟฟาโล่” นิ “ “ไอ้ บัฟฟาโล่” มันแปลว่าอะไรล่ะ” ตาชักสงสัย “นี่แหละหน๊าๆ...คนบ้านนอกนอนกินกับควาย นิสัยจึงไปทางควาย” “ไอ้ห่าจ๋อย...มึงว่ากูเหร๊อๆๆ....” “เปล่าว่าหรอกตา แต่แปลให้ฟังจ๊ะ มันหมายถึง “ควาย” จ๊ะตา” คราวนี้ตามันขมวดคิ้ว เหมือนจะท่องจำคำนี้ไว้ “บัฟฟาโล่” แต่ไม่วายล้นเสียงออกมาได้ บรรยากาศเริ่มจะเย็น ลมเย็นพัดประทะร่างทั้งสอง ตอนนี้อากาศเริ่มจะขมุกขมัวค่อนข้างจะมืด ทั้งคู่ยังไม่ถึงบ้าน ความหิวเริ่มเรียกร้องกระเพาะทั้งสอง หลานกับตาหันมามองหน้ากันไม่พูด อะไรอีก ต่างพยักหน้าหงึกๆๆๆ แล้วรีบจ้ำอ้าว เพื่อหาอาหารที่ยายทำไว้รออยู่ ไม่รู้ว่าจะถูกสาธยาย มนต์ให้ฟังอีกนานเท่าไร แต่ช่างเถอะ สองตาหลานหันหน้ามามองกันพลางหัวร่อกระซิกต่อกัน แต่ไม่พูดอะไรๆให้ยายมันฟัง เสร็จแล้วก็ต่างอาบน้ำอาบท่าหลังจากพาเจ้าทุยเข้าคอกสุมฟางไล่ ยุงให้มันแล้ว ก็ต่างคนเข้านอน เพื่อรอวันใหม่ที่จะต้องรีบทำต่อไป ขออวสานเกล็ดย่อยๆเล็กๆน้อยๆ เพื่อที่จะไม่ลืมการเขียนไว้พอสังเขป หวังว่าอย่าไปจำคำนี้อีกนะจ๊ะ “บ๊อกโกโล่” ** แก้วประเสริฐ. **
25 มกราคม 2553 15:41 น. - comment id 113563
ตากับหลานน่ารักดีนะคะคุณลุง
25 มกราคม 2553 16:52 น. - comment id 113573
อิอิอิ บ๊อกกาโล่ บัฟฟาโล่
25 มกราคม 2553 18:26 น. - comment id 113583
25 มกราคม 2553 19:57 น. - comment id 113592
ตาเรียก "บ๊อกโกโล่" สงสัยว่ายายจะเรียกอะไรดีน๊า "บ๊อกเคอรี่" ค่ะ ผัดใส่กุ้งอร่อยเลยละคะครู วันนี้แก้วสองดวง ลงเรื่องสั้นติดกันเลยเจ้าค่ะ อิ
25 มกราคม 2553 20:33 น. - comment id 113597
อิอิ..แหมดีไม่เรียก อังกะโล่ อิอิ
25 มกราคม 2553 21:22 น. - comment id 113602
สอนภาษาอังกฤษมานาน... ตกม้าตายก็ตรงคำที่ว่า...บ๊อกโกโล่...ของลุงแล้วนี่แหละค่ะ
25 มกราคม 2553 22:07 น. - comment id 113605
คุณ เพียงพลิ้ว หลานรักเรา ชักเบื่องานทางโน้นว่าจะเลิก เขียนสักพัก แต่ก็อดที่จะลองฝีมือการเขียนทางนี้ ด้วยไม่ได้เขียนมานานแสนนานแล้ว คิดว่าจะ ลองเขียนแต่งเรื่องขำๆไว้หน่อยจ้า รักหลานเราเสมอ แก้วประเสริฐ.
25 มกราคม 2553 22:09 น. - comment id 113606
คุณ โคลอน นึกสนุกๆก็มาเขียนกันลืมบทบาทจ้าเลยคิด แต่งเรื่องให้ออกสบายอารมณ์หน่อยนะ เป็นไง การเขียนได้อารมณ์ไหมล่ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
25 มกราคม 2553 22:15 น. - comment id 113607
คุณ ฉางน้อย แหมหายไปนานเชียวนะนึกว่างานแยะอีก นะยายฉางนุ้ย...เอิ๊บๆ ไม่ช่ายฉางน้อยคนสวยเน๊อะ ลุงเห็นว่าห่างเหินกับงานเขียนมานานเลยเข้า มาทางนี้ทดสอบฝีมือว่าสมองยังแล่นอยู่หรือเปล่าจ๊ะ รักหลานเราเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
25 มกราคม 2553 22:17 น. - comment id 113608
คุณ แก้วประภัสสร ทางโน้นปล่อยให้ศิษย์เราเล่นนะ ด้วยครู เริ่มจะเบื่อๆเลยหันมาทางนี้ เพื่อทดสอบสมองครู ว่ายังสามารถแต่งเรื่องราวเขียนได้หรือเปล่าล่ะ รักศิษย์เราเสมอๆ แก้วประเสริฐ.
25 มกราคม 2553 22:20 น. - comment id 113609
คุณ กิ่งโศก เดี๋ยวยายแบมก็ควักนัยน์ตาหรอก ฮ่าๆๆ ครูเริ่มจะเบื่องานฝั่งโน้นแล้วล่ะ เลยหันกลับมา ด้านนี้เพื่อทดสอบสมองครูว่ายังพอจะไปไหวหรือ เปล่าเท่านั้นเองแหละจ้า ทิ้งงานเขียนไปเป็นปีๆ แล้วล่ะ รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.
25 มกราคม 2553 22:30 น. - comment id 113610
คุณ bananaleaf เรื่องแต่งนี้ผมเพียงแค่เข้ามาเพื่อฝึก สมองในการเขียนด้วยทิ้งไปนานแสนนานแล้ว ไม่รู้ว่าสมองยังทำงานได้ไหวไหมครับ เรื่องนี้ ก่อนเขียนผมมานั่งคิดว่า เราจะเขียนอะไรดีพอดี แว๊ปหนึ่งแล่นเข้ามา ให้นึกถึงวลีประโยคหนึ่งเมื่อ ครั้งไปพักผ่อนเที่ยวที่อิสาณมา ยังจดจำได้อยู่คือ ที่มาของเรื่องนี้ เรื่องที่ผมได้ยินคือ ชายคนหนึ่ง ด่าหลานชาย เอ๊ะอย่าหาว่าผมหยากโลนนะเป็น เรื่องจริง ผมเดินซื้อของในหมู่บ้านอยู่ถึงกับ ชะงักกึกเอาเลยล่ะ เมื่อได้ยินคำๆนี้ เขาว่า "ฮ่วยๆ ไปไสบ่ ไอ้บักหำน้อย มึ๊งเอาคว๊วย (เอ๊ะยากจริงๆคำนี้เขียนยากนะ)ไปเข้าเปล่าบ่ ชักจำไม่ค่อยได้ เพียงแค่นี้เองครับ เลยเป็น ที่มาของเรื่องนี้นอกนั้นผมแต่งเองหมดครับ คำว่า คว๊วย ไม่ใช่คำหยาบนะครับภาษาพื้น บ้านเขาเรียก แปลว่า " ควาย " ครับ แหม๋เล่นเอาครูภาษาประกิตตกม้าตายเลย หรือครับ ผมเองนึกถึงคำๆนี้ก็แทบสำลักน้ำลาย ตายเหมือนกันครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
26 มกราคม 2553 13:34 น. - comment id 113637
บ๊อกโกโล่ เจอกับบล๊อกเคอรี่
26 มกราคม 2553 15:47 น. - comment id 113642
คุณ เฌอมาลย์ เจ้าหญิงครับผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เจ้าควาย มันจะกิน บล๊อกเคอรี่เป็นหรือเปล่า ไหมหนอ มันคงไม่กล้ามั๊งเพราะเป็นผักเมืองนอก คงได้แต่จ้องมองเฉลยๆ ฮ่าๆๆๆ แก้วประเสริฐ.
26 มกราคม 2553 22:58 น. - comment id 113662
หลานกะตา..ชวนกันฮาจริงๆค่ะครู
27 มกราคม 2553 11:38 น. - comment id 113734
คุณ เทียนหยด อ๋อยเอ๋ยครูเริ่มงานเขียนใหม่ๆด้วยทิ้ง ไปแรมปีแล้วล่ะไม่ได้จับมาเขียนเลย นอกจาก เขาโพสส์เมล์มาให้เห็นว่าน่าเผยแพร่ก็นำมาให้ พวกเราอ่าน แต่งานเขียนจริงๆไม่ได้จับอีกเลย ระยะนี้สายตาไม่ค่อยจะดี ก็หันมาทางนี้ปล่อย อารมณ์ได้เต็มทีจ้า รักศิษย์เราเสมอ แก้วประเสริฐ.