. ข้าพเจ้าในฐานะของลูกคนสุดท้อง คนที่หกของแม่ คนที่สิบของพ่อ ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ข้าพเจ้าเป็นลูกรักของพ่อ แต่กับแม่นี่สิ ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ .. สำหรับครอบครัวใหญ่ ที่อยู่ครบญาติตั้งแต่ปู่ย่าไล่เลียงมาถึงรุ่นหลาน มันจึงคล้ายกับว่า ครอบครัวของข้าพเจ้าเป็นผู้ทรงอิทธิพลในย่านนั้น ผู้คนในซอยบ้านจะเรียกพ่อของข้าพเจ้าว่า เถ้าแก่ ผิดกันตรงที่ข้าพเจ้าไม่เคยถูกเรียกว่า คุณหนู ทว่า ฉายาคือ ไอ้แสบเล็ก พี่ชายถัดขึ้นไปจากข้าพเจ้าเป็นนักสู้เต็มตัว ส่วนอีกคนที่แก่กว่ากลับเรียบร้อยเกินเหตุ ด้วยความที่เป็นสามหน่อเล็ก ความสนิทสนมจึงมีมากกว่าพี่คนอื่น ๆ ข้าพเจ้าจำได้มั่น ในวันนั้น วันที่เกิดเหตุ พี่ชายคนที่เรียบร้อยเดินเซกลับบ้านด้วยใบหน้าที่บวมปูด ริมฝีปากแตก พี่ชายคนเล็กจึงถามเขาถึงสาเหตุ จากนั้นไม่พูดร่ำทำเพลงใด สองคนเล็กของตระกูลก็พากันเดินออกไปเผชิญสถานการณ์ ที่กองทรายท้ายซอย พวกนั้นยืนรออยู่ก่อนแล้ว มีอยู่ 7 คน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้าและพี่ชายคนเล็กเกิดความหวั่นวิตกแต่อย่างใด มีเพียงแวปเดียวเท่านั้นที่พี่ชายคนเล็ก หันมามองข้าพเจ้าด้วยความเป็นห่วง ไม่ต้องมีปี่พากย์บรรเลงประกอบมวยหมู่ 7 ต่อ 2 เมื่อเทียบกันแล้ว ข้าพเจ้าตัวเล็กกว่าใครทั้งหมด แถมเป็นผู้หญิงคนเดียว ไม่มีการออมมือ ไม่มีการยั้งแรง การตะลุมบอนเกิดขึ้นไว และ เลิกไว สองคนพี่น้องต่างพยุงกันและกัน เดินกลับบ้าน แม่ยืนถือไม้เรียวรอรับตั้งแต่ประตูรั้วแล้ว หน้าตาถมึงทึง โกรธจัด โดยที่พ่อพยายามส่งซิกให้ข้าพเจ้าและพี่ชายคนเล็กหลบไปก่อน เหลือบมองด้านข้างประตูรั้ว ก็ดูเหมือนว่า งานนี้ แพ้ แล้ว ก็ แพ้ ก็แค่ข้าพเจ้าใช้หมัดไม่เป็น อย่างดีก็ได้แต่ข่วน กัด ถีบ ผลัก กระนั้นก็ทำให้คู่กรณีบาดเจ็บหูแหว่ง เลือดซิบจนได้ สำหรับสภาพของข้าพเจ้าเอง ก็ใช่ว่าจะดูดี สะบักสะบอมเต็มทนเหมือนกัน เจ็บกายไม่เท่าไหร่ แต่เจ็บใจนี่ ข้าพเจ้าไม่อาจลืมเลือนได้เลย แม่เฆี่ยนด้วยไม้เรียวจนแตกยับไปทั้งน่อง ต่อหน้าพวกนั้น ข้าพเจ้าแอบนับด้วยซ้ำไป และก็ยังสงสัยจนถึงทุกวันนี้ ข้าพเจ้าโดนตีมากกว่าที่พี่ชายคนเล็กโดนเสียอีก แม่ตีไปด่าไป ทำนองว่าถ้าไม่ไปหาเรื่องเขาก่อน คงไม่มีเรื่องขนาดนี้ ข้าพเจ้ารู้แก่ใจว่า แม่น่าจะรู้อยู่แล้วว่า ทำไม เพราะอะไรข้าพเจ้ากับพี่ชายคนเล็กจึงออกไปมีเรื่อง ข้าพเจ้าแต่ร้องโอ๊ย ทุกคราวที่ไม้เรียวกระทบเนื้อ ปากก็บอกว่า กลัวแล้ว เข็ดแล้ว ที่จริง กลัวน่ะ กลัวจริง ... แต่ที่บอกว่าเข็ดนั้น ไม่จริง แม่ไม่เปิดโอกาสให้ข้าพเจ้าและพี่ชายคนเล็กได้อธิบายถึงสาเหตุวีรกรรมใด ๆ มันไม่ยุติธรรม หัวใจของข้าพเจ้าบอกเช่นนั้น นี่ก็ผ่านมาหลายปี ข้าพเจ้าก็ยังจำจดเหตุการณ์ในวันนั้นได้ และถึงแม้ว่า ข้าพเจ้าจะไม่เคยปริปากถามแม่เลยว่า.. ทำไมข้าพเจ้าจึงต้องถูกทำโทษ ข้าพเจ้าก็พอจะรู้คำตอบด้วยตัวเองแล้ว โดยที่ปลดเปลื้องความขุ่นข้องที่เคยค้างคาได้ 1. ข้าพเจ้าอาจผิดจริง ที่ออกไปกับพี่ชายคนเล็กไปเพื่อหาเรื่องพวกนั้นก่อน 2. ข้าพเจ้าอาจผิดจริง ตรงที่ไม่รู้จักอดกลั้น อดทน หุนหันพลันแล่น ไม่มีสติ ไม่ว่าจะเป็นข้อหนึ่งข้อใด มันก็สมควรให้ข้าพเจ้าได้รับบทเรียนนั้นด้วยไม้เรียว ................................................................. ตอนนี้แม่อายุมากแล้ว ไม่ได้จับไม้เรียวมานานพอสมควร แม่อาจจะจำไม่ได้ หรือไม่คิดจำ ซึ่งต่างกับข้าพเจ้าที่จดจำอย่างฝังลึก ถ้าเป็นไปได้ ข้าพเจ้าก็อยากให้แม่จำเหตุการณ์ตอนนั้นได้ เพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้บอกแม่ว่า ข้าพเจ้ารู้แล้วว่า.. ตอนนั้น ข้าพเจ้าผิดจริง ในข้อ 2.
24 พฤศจิกายน 2552 07:38 น. - comment id 95582
ไหนๆเตรียมจิ้มจุ่มแระ ส่งน้ำจิ้มมารอก่องแระกาน
16 พฤศจิกายน 2552 21:41 น. - comment id 109926
17 พฤศจิกายน 2552 01:39 น. - comment id 109930
จะหางานมาให้ดีไหมหนอ อิอิ
17 พฤศจิกายน 2552 09:24 น. - comment id 109934
ชื่นชมค่ะ เพราะตัวเองทำได้ยาก แต่ไม่เคยโกรธใครได้นาน เดี๋ยวก็ลืมแล้ว ถ้าหัวใจเราอ่อนโยน ให้อภัย ใครก็ทำอะไรเราไม่ได้ แต่ถ้าโมโหขึ้นมา ต้องขอโต้ตอบเหมือนกัน เพราะยังมีกิเลสอยู่
17 พฤศจิกายน 2552 09:35 น. - comment id 109935
คุณรัมณีย์ .. เป็นเรื่องเล่าในวัยเด็กน่ะ เนื่องจากเป็นคนที่ถูกทำโทษบ่อย โดนตีเป็นประจำ ก็คงจะสมกับฉายาว่าไอ้แสบเล็กนั่นแหล่ะ เผื่อว่า ใครที่มีคำถามในใจ จะได้พยายามเข้าใจบ้าง คุณยาแก้ปวด .. คำถามที่คนตั้งคำถามหวังให้คนอื่นตอบ โดยที่แขวนเติ่งอัลมิตราไว้บนราวเช่นนั้น อัลมิตราก็ได้แต่นั่งอ่านไปเรื่อย รับทราบในความคิดเห็นของแต่ละคน โดยพยายามทำตนให้นิ่งที่สุด (การนิ่งนั้นไม่ใช่หมายถึงนิ่งแบบเด็กประถม หากแต่เป็นการนิ่งโดยใช้สติปัญญาวิเคราะห์พิจารณา) และในการตัดสินใจของแต่ละคน ซึ่งสุดท้ายแล้วไม่ว่าผลออกมาจะเป็นผลบวก หรือ ผลลบ ก็ตามแต่ ก็ยังอาจชี้ชัดลงไปยังไม่ได้ว่า สิ่งใดคือที่ดีที่สุด หรือสิ่งใดมีความเหมาะสมมากที่สุด มีหลายเรื่องราวที่น่าสนใจ และนำพาความสุข ความรื่นรมย์ ความเพลิดเพลิน และประโยชน์แก่ตน และก็มีหลายเรื่องราวที่ไม่น่าสนใจ เปรียบเหมือนขยะปฏิกูลที่หากเลี่ยงได้ก็สมควรเลี่ยง ไม่รู้เหมือนกันว่า อัลมิตราตอบคุณยาแก้ปวดได้เข้าเป้าหรือเปล่า น่าจะถูกนะ หรือแค่เฉียดก็ยังดี สำหรับการตั้งกระทู้ล่อเป้า ภายใต้การใช้อักษรที่ดูดี มีภูมิ แต่ก็แฝงด้วยถ้อยคำหยามหยัน ผู้ตั้งกระทู้เองก็ไม่น่าจะลืมในข้อที่ว่า จุดมุ่งหมายในการตั้งกระทู้คืออะไร - ตั้งกระทู้เพื่อหวังได้รับการยอมรับ และเสียงสนับสนุนในทิศทางเดียวกันเท่านั้น - ตั้งกระทู้เพื่อหวังจะได้ในทุก ๆ ความคิดเห็น ซึ่งมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เมื่อเทียบกับคำที่สำรากออกมาตรง ๆ เถื่อน ๆ ถ่อย ๆ ก็คงเหมือนมวยสากลที่สวมนวมกับมวยวัดคาดเชือก ใครจะโหดเหี้ยมกว่ากัน ต้องตัดสินกันที่ยกสุดท้ายหรือไม่ก็น็อคกันไปเสียก่อน เขียนเหมือนน้ำท่วมทุ่งเลยแฮะ ฮา .. แก้ง่วงน่ะ เมื่อคืนหลับไปแล้วโดนปลุกกลางดึกเพื่อแก้ไขปัญหางานในบริษัท เช้านี้ตื่นขึ้นมาจึงอยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่า ไม่ค่อยเต็มร้อยสักเท่าใด เอาเป็นว่า อัลมิตรารับทราบเรื่องบางอย่าง และพอใจที่จะเลือกไม่รับทราบบางอย่างนะจ๊ะ คุณอนงค์นาง .. อัลมิตราก่อวีรกรรมไว้แยะ ยังมีร่องรอยของแผลให้พอคิดถึงเมื่อยามเห็นอยู่บ้าง แต่เมื่อเติบโตขึ้น ความคิดบางอย่างก็ถูกปรับเปลี่ยนไป อัลมิตราไม่อยากเสียเวลากับสิ่งที่เปล่าประโยชน์ การที่จะเกลียดใคร โกรธใคร มันเป็นเรื่องเปลืองเนื้อที่ในหัวใจชะมัด จึงเลือกที่จะละลายความคิดนั้น ทว่า ก็ยังไม่ชอบที่จะให้ใครมาล้ำเส้นก่อน ค่ะ
17 พฤศจิกายน 2552 12:45 น. - comment id 109937
บ่อยครั้งเหมือนกันตอนที่อ้อยเป็นเด็ก มักจะตั้งคำถามกะตัวเองว่า เอ้ แม่ตีเรา ทำไม..แค่ทำอะไรไม่เข้าท่าแค่นี้..ทำไมต้องตี คำว่า ทำไมๆๆๆๆๆ....ใช้เปลืองมากที่สุด แต่ก็ไม่ได้พูดออกมาแม้แต่ครั้งเดียว..คง เก็บเอาไว้ในใจอย่างนั้น... แต่พอโตเป็นผู้ใหญ่..เริ่มเข้าใจและก็หา คำตอบได้ด้วยตัวเอง... แล้วก็เลยคิด ต่อไปอีกว่า..ถ้าเราคิดแต่ว่า "ทำไม" เรา ก็ต้องการคำตอบอยู่เรื่อยไปไม่มีวันจบสิ้น ทุกวันนี้ พยายามใช้คำๆนี้ให้น้อยที่สุด เท่าที่จะทำได้..เพื่อตัวเองจะได้ไม่ต้องมีอะไร ค้างคาอยู่ในใจอีกโดยไม่จำเป็น
17 พฤศจิกายน 2552 13:03 น. - comment id 109938
ขออนุญาติเมนต์ว่า เรื่องนี้จริงๆ ลึกๆในใจของคุณอิมก็น่าจะ เข้าใจ.......วิธีการอบรมลูกของคุณแม่สมัยก่อนอาจต้องลงไม้เรียว....เป็นเพราะคนรุ่นพ่อแม่เราการศึกษายังไม่เหมือนในปัจจุบัน เป็นเพราะความรักลูก.....แสดงออกแบบไม่ได้ปรุงแต่งและเสมอภาคทั้งลูกชายลูกสาว และเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ที่รุนแรงกว่านี้.............. ขอเพียงความเข้าใจ....ความรักความหวังดี ของพ่อและแม่ในการสั่งสอนอบรมแม้จะแตกต่างกันในแต่ละครอบครัว แต่เนื้อแท้ก็เพราะ รักลูกกันทั้งนั้น
17 พฤศจิกายน 2552 15:26 น. - comment id 109941
อ่า...อ่านแล้วนึกถึงตอนที่ตัวเองถูกพ่อตีครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตเลย ตอนนั้นอยู่ ป.4 เอง สอบเสร็จวันสุดท้ายอีกวันก็ปิดเทอมแล้ว...เพื่อนๆในห้องก็ชวนกันไปเที่ยวต่อ...แต่ละคนมีจักรยานคนละคัน ปั่นตั้งแต่โรงเรียนติดกันเป็นสายเลาะเลียบไปตามถนนใหญ่ที่มีรถวิ่งไปมา....เลยสบคำไปอีกไกลหลายกิโล แต่ไม่ยักกลัวกันแฮะ กลับถึงบ้านค่ำเลย เพราะใช้เวลาปั่นนานชั่วกัปชั่วกัลป์แต่มันสนุกอ่ะตอนนั้น มาถึงบ้านพ่อถือไม้มะยมรอเลย....(แอบเคืองต้นมะยมหน้าบ้าน) พอดีเป็นคราวเคราะห์มีเพื่อนพ่อเห็น เลยมาบอกว่า"ลูกสาวเอ็งปั่นจักรยานไปไหนไม่รู้เป็นขบวนพาเหรดเลย"...เอิ๊กส์ๆ โดนไป 5 ครั้ง...แต่ปวดมากๆเลยอ่ะ เจ็บตัวอ่ะทนได้ แต่อาการน้อยใจสิหนักเอาการอยู่...ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร มาคิดถึงตอนนี้ก็สมควรแล้วที่จะโดน เด็ก10ขวบปั่นจักรยานไป 9 กิโล จักรยานสิบกว่าคัน......ไปถึงบ้านเพื่อนที่ชวนไปเที่ยว....ไม่ได้กินน้ำ กินหนม อะไรซักอย่าง เพราะไม่มีใครอยู่บ้าน สรุปก็นั่งท้องร้องกันสักพักก็ปั่นกลับมารับการโบย....เหอๆ เล่าสู่กันฟัง มีหลายเรื่องในวัยเด็กที่เราไม่เข้าใจ แต่พอเติบใหญ่ก็ได้คำตอบ แต่หลายเรื่องเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ทั้งๆที่พยายามเข้าใจ.....แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรที่แท้จริง
17 พฤศจิกายน 2552 16:12 น. - comment id 109944
เรื่องราวของพี่อิมคล้ายฉางน้อยคะ แต่ไม่เคยได้โดนตีสักแอะ .............................. แอบขำสหายโค ที่มาเล่าเรื่องราว ขำ หรือ สมน้ำหน้าดี อิอิ .....
17 พฤศจิกายน 2552 16:31 น. - comment id 109945
^ ^ ^ สมน้ำหน้าตอนนี้ก็ช้าไปยี่สิบกว่าปีแระ555....เป็นอะไรเผาตัวเองจริงวุ๊ยช่วงนี้
17 พฤศจิกายน 2552 16:48 น. - comment id 109946
"....เลิก...เลิกได้แล้ว..เล่นกันก็ทะเลาะกัน.......ไม่เลิกเดี๋ยวเห็นดีแน่ๆ............"ไม่รู้ว่าพ่อของข้าพเจ้าดุให้ใครระหว่างข้าพเจ้ากับเพื่อนที่กำลังวางมวยกันกันอุดตลุดด้วยเหตุที่มันแกล้งน้องของข้าพเจ้าก่อน...." เลิกเล่น..เลิกทะเลาะกัน..แล้วกลับบ้านไปอาบน้ำ " ...เสียงสำทับอีกรอบของพ่อ ทำให้ข้าพเจ้าและเพื่อนต้องหยุดวางมวยกันโดยที่ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ...เพียงแต่ปรากฏร่องรอยเขียวเป็นจ้ำรอบเบ้าตาและเลือดที่กลบปากของแต่ละฝ่าย.... " พี่กลับบ้านไปพี่ต้องโดนแม่หวดอีกรอบแน่แน่ "....น้องชายตัวดีของข้าพเจ้าพูดด้วยความเป็นห่วง... " แม่ไม่เท่าไหร่หรอก กลัวพ่อมากกว่า " พูดพลางพร้อมกับกอดคอน้องชายเดินกลับบ้าน..ในใจนึกถึงคำพูดของพ่อเสมอว่าหากเกเรจนมีเรื่องมีราวสอบสวนแล้วไม่มีเหตุผลเพียงพอต้องโดนฟาดเท่ากับอายุ...นึกแล้วข้าพเจ้าใจหายโดนพ่อสิบสองไม้ตายแน่ๆ...น้องชายอีกสิบไม้...ยิ่งตัวเล็กอยู่คงเจ็บน่าดู........... ข้าพเจ้ากอดคอน้องชายกระชับขึ้นเหมือนเป็นการปลอบโดยที่น้องของข้าพเจ้าไม่รู้หรอกว่าข้าพเจ้าคิดอะไรอยู่...แต่ที่แน่ๆ...ต้องผ่านด่านแม่ให้ได้เสียก่อน....!!!!!! ...ตามคาด...โดนแม่หวดซะหลายไม้ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงสิบสองไม้เพราะไม่มีโอกาสได้นับและไม่มีการสวบสวนจากแม่....ข้าพเจ้าร้องไห้สองคนกับน้องตามประสาเด็ก...ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าโดนแม่ตีเลือดไม่ไหลซักหยดกลับร้องไห้....แล้วทีเลือดกลบปากจากการวางมวยกับเพื่อนกลับไม่ร้องไห้.!!!! ......แล้วพ่อหายไปไหน..???...ยังต้องผ่านด่านการสวบสวนของพ่ออีก...หรือพ่อลืมไปแล้ว ....ค่อนคืนก่อนเข้านอนข้าพเจ้าได้ยินเสียงใครค้นอะไรกุกกุกกักกักข้างนอกสักพักมีเสียงเปิดประตูห้องนอนเข้ามา...เป็นพ่อนั่นเอง...ในมือพ่อถือตลับอะไรไม่รู้สีเหลืองเหลืองเอามาวางตรงที่นอนแล้วเดินออกไป...ก่อนออกจากประตูห้องนอนพ่อหันกลับมาพูดว่า " ทาขี้ผึ้งซะ แผลที่ฟกช้ำจะได้ทุเลา...ที่หน้าทีหลังการ์ดมวยให้มันสูงกว่านี้หน่อย " พูดจบพ่อก็เดินออกห้องไป..ปล่อยให้ข้าพเจ้ากับน้องชายนั่งมองหน้ากันก่อนที่น้องชายข้าพเจ้าทาขี้ผึ้งตามรอยช้ำรอบ http://thaipoem.com/forever/ipage/story10033.html ไม้เรียวกับแม่เป็นของคู่กันนะ..ลิงว่ามะ
17 พฤศจิกายน 2552 16:50 น. - comment id 109947
เรียนท่านสมาชิก thaipoem.com ขณะนี้มีบางกระทู้ บางความคิดเห็น ที่แสดงบทบาททางตัวอักษรขัดแย้งในเรื่องของการเมือง ซึ่งเจตนารมย์ของข้าพเจ้าที่สร้างเวป www.thaipoem.com ก็เพื่อจรรโลงวรรณศิลป์เท่านั้น ดังนั้น หากพบว่ากระทู้ใด หรือ บทกลอนใด หรือ เรื่องสั้นใด ที่อาจจะก่อให้เกิดวิวาทะขัดแย้งการเมือง จะเรียนขอลบออกทุกกรณี ขอให้สมาชิกทุกท่านให้ความร่วมมือ และขอขอบคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ เวปมาสเตอร์,ผู้ดูแลระบบ
17 พฤศจิกายน 2552 17:11 น. - comment id 109948
รับแซ่บค่า ละเมอมาตอบ...งั่มๆๆ
17 พฤศจิกายน 2552 17:25 น. - comment id 109949
รับทราบ และเห็นด้วยกับคุณปีกฟ้าครับ และขออภัยที่เป็นหนึ่งในผู้ที่วิวาทะกัน
17 พฤศจิกายน 2552 19:18 น. - comment id 109952
น่าเจ้าอิม คิดเสียว่าเพราะไม้เรียวเราเงยได้ดีเนาะ
17 พฤศจิกายน 2552 20:21 น. - comment id 109953
เข้ามารับทราบ..กับท่านเจ้าของเวปครับ.. เห็นควรยิ่งแล้ว..มิฉะนั้นไม่รุ้จบแน่ครับ.. รอกรรมการตั้งนาน อิอิอิ
17 พฤศจิกายน 2552 20:23 น. - comment id 109954
ลืมทักทาย คุณอัลฯ..แหมทำให้ไปสู่วัยเยาว์อะ..กิ่งโศก แม้เป็นเด็กขรึม..แต่ดื้อเงียบอะครับ..ประเภท กระต่ายขาเดียวอีกต่างหาก..นึกๆไป ก้อขำตัวเอง..
17 พฤศจิกายน 2552 21:09 น. - comment id 109956
ตั้งแต่เข้ามาบ้านกลอน นี่เป้นครั้งแรก ที่ข้าพเจ้าได้เห็น คุณปีกฟ้า ดีใจและรู้สึกอุ่นใจขึ้นค่ะ จะอะไรก็ตาม รักบ้านนี้เสมอ ไม่เคยคิดที่จะไปที่อื่น แต่ว่าไป แก้วประภัสสรเองก็เถอะค่ะ ถ้าหากไม่ผิด ก็หัวชนกำแพงเหมือนกัน อิอิ ทักทายคุณอัลฯค่ะ เคยโดนแม่ตีหนึ่งครั้ง ขึ้นแนวเลย เพราะขว้างหยกพี่สาวแตกระจาย เจ็บมากๆๆขอบอกค่ะ อิ
17 พฤศจิกายน 2552 21:28 น. - comment id 109957
สวัสดีครับ ศิษย์พี่ อัลมิตรา ตอนที่เราเป็นเด็ก เราอาจจะไม่เข้าใจแม่ ตอนโตขึ้นเป็นแม่ อย่าตีลูกร่ะครับ อิอิ สวัสดีครับ ปีกฟ้า เวบมาสเตอร์ บ้านกลอนไทย เห็นด้วยครับ เพราะการเขียนเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้กับฝ่ายตัวเอง เพื่อหักล้างอีกฝ่าย ไม่ใช่แนวทางสันติวิธี ยิ่งเขียนเพื่อให้เกิดความเกลียดชังกับประเทศเพื่อนบ้าน ยิ่งควรลบครับ ควรจะเขียนไปในทำนอง ให้มนุษย์มีแต่ความรัก ความเมตตากัน ไม่มีความอาฆาต พยาบาทกัน เพื่อสันติภาพจะได้เกิดขึ้นบนประเทศของเรา และโลกใบนี้ด้วยครับ ควรจะใช้จิตวัญญาณ เขียนเพื่อกล่อมเกลาสรรพชีวิต ที่มีแต่ความงดงามที่มอบให้แด่กัน
18 พฤศจิกายน 2552 07:29 น. - comment id 109960
คุณเทียนหยด .. ไม้เรียวกับอัลมิตราเหมือนเกิดมาคู่กัน เรื่องโดนตีเป็นเรื่องธรรมชาติที่แทบทุกวันอัลมิตราจะต้องประสบ ไม่อย่างโน้น ก็อย่างนี้ โชคดีที่บ้านมีบริเวณกว้าง สามารถวิ่งหนีไม้ได้บ้าง บางคืนนะ แม่ปิดประตูไม่ให้เข้า ตกดึกพ่อแอบเปิดประตูให้ รุ่งขึ้นก็เผ่นแน่บไปโรงเรียนตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น สนุกสนานแท้ คุณวิทย์ .. ถึงยังไง อัลมิตราก็ไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี ไม้เรียวสร้างคน ไม้เรียวสร้างชาติ ก็ไม่อยากเจ็บเนื้อเจ็บตัวนี่นา บางทียังผูกใจเจ็บจนถึงทุกวันนี้ด้วย เหมือนผู้ใหญ่เป็นยักษ์เขี้ยวโง้งไล่จับกินเด็ก ฮา คุณโคลอน .. เหมือนกันตรงที่พ่อเคยตีครั้งเดียว แปะเดียวด้วยซ้ำไป ทำเอาอัลมิตราไม่สบาย ไม่ใช่ว่าเจ็บมากมายอะไรนักหนาหรอก ทว่าเหมือนเป็นไข้ใจมากกว่า ก็ไม่เคยโดนพ่อตีนี่นา งอน ไม่พูดด้วยไปหลายวัน ฮา ฮา .. แต่ก็ตามประสาเด็กอะนะ พ่อมีขนม มีตุ๊กตามาล่อ ก็หายโกรธแล้วล่ะ ( ปล. จำไม่ได้แฮะ ว่า .. โดนตีเรื่องอะไร ) คุณฉางน้อย .. ถ้าไม่เคยโดนตี ก็คงต่างกันลิบลับแล้วล่ะ คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. ตอนเด็ก ๆ แอบคิดว่าแม่คือนางพันธุรัต ยักษ์ใหญ่ถือไม้กระบองไล่ทุบเด็ก ก็เป็นความคิดในตอนเด็ก ผิดถูกไม่รู้ เพราะคือการเปรียบเทียบ ตอนนี้ ดูเหมือนแม่ตัวเล็กจัง ปีกฟ้า .. :) เริ่มปฏิบัติการล่ะ คุณโคลอน, คุณสายวารินทร์, คุณกิ่งโศก .. ข้ามไป เพราะตอบรับคำปีกฟ้า ลุงแทน .. อื้อ ตอนนี้ก็คิดอย่างนี้นะ แต่เมื่อตอนนั้นมันไม่ได้คิดแบบนี้นี่นา คุณกิ่งโศก .. เหรอ เงียบขรึมกระต่ายขาเดียว ขาอีกข้างไปไหนอ่ะ คุณแก้วประภัสสร .. โห ตั้งที แน่ะ ศิษย์น้อง .. แน่นอน บทเรียนและประสบการณ์ ทำให้เรารู้ว่า บางวิธีรุนแรงก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด
20 พฤศจิกายน 2552 22:37 น. - comment id 109975
มันต้องอย่างนั้นแหละน้องเอ๋ยพี่คนนี้ก็เหมือนกัน ต่างที่บินเดี่ยวซึ่งต้องมีเครื่องทุ่นแรงและพวกช่วยเยอะ ก้มีพี่ชายที่เรียบร้อยร้องไห้ เก่งมาฟ้องให้รำคาญประจำว่าเขารังแกก็ต้องออกแรงช่วยประจำ ทุกวันไม่แตกก็โน เป็นที่เอือมระอาของแม่ หนีไม้เรียวปีนต้นมะละกอก็ยังเคย น้องเอ๋ยถูกใจพี่จริงๆ
21 พฤศจิกายน 2552 20:16 น. - comment id 109987
คุณนรสิริ .. มีอยู่หนหนึ่งที่ตึกแถว แถวบ้านไฟไหม้ ตอนนั้นบ้านอยู่ท้ายซอย พี่ชายคนเล็กไม่อยู่ พี่ชายถัดไปก็ดันกลัวจนเกิดเหตุ เขากำลังลำเลียงน้ำเพื่อดับไฟกันโครม ๆ อัลมิตราเองก็เช่นกัน หลังจากเก็บเอกสารสำคัญ และให้หลาน ๆ จูงมือกันไว้ ให้พ่อกับแม่ยืนเฝ้าของที่ปากซอย อัลมิตราก็ช่วยเขาดับไฟ ห้องน้ำชั้นล่างมีแทงค์น้ำขนาดใหญ่ ก็กำลังตักส่ง ตักส่งอยู่ดี ๆ พี่ชายดันปวดท้องเสียนี่ แถมห้องน้ำชั้นบนก็ไม่ใช้ ดันมาใช้ชั้นล่าง จะบ้าตาย 5555 นึกทีไร ขำทุกที เจอหน้าพี่ชายคนนี้เอามาล้อบ่อย ๆ ค่ะ
21 พฤศจิกายน 2552 22:15 น. - comment id 109988
คุณอัล แจ้นเองคิดนะคะว่าที่แม่ตี เพราะไม่อยากให้เราตัดสินใจโดยไม่คิดให้รอบคอบ คิดดูซีคะ 7 ต่อ 2 ก็ยังจะสู้อีก อิอิ แล้วตีกันก็เจ็บทั้งสองฝ่าย ตีให้เข็ดหลาบต่อไปจะได้ไม่ออกไปเจ็บตัวกลับมา เพราะแม่มักจะเจ็บกว่าที่เห็นลูกเจ็บ ในที่สุดเจ้าของเว๊ปก็ปรากฎตัว ดีใจค่ะที่คุณปีกฟ้าออกมาชี้ขาด บ้านกลอนไทยจะได้อบอุ่นมากขึ้น
22 พฤศจิกายน 2552 11:10 น. - comment id 109991
ทิวาสวัสดิ์ค่ะ คุณแจ้น .. ถ้าย้อนเวลากลับไป อัลมิตราก็เชื่อว่า คงตัดสินใจอย่างเดิมค่ะ โดนตีก็ช่าง สงสัยจะเข็ดยากแฮะ แหะ แหะ
22 พฤศจิกายน 2552 14:15 น. - comment id 109992
เคยโดนนับครั้งไม่ถ้วนเลยแบบนี้น่ะ/สบายดีนะครับมาร์ตี้
22 พฤศจิกายน 2552 21:30 น. - comment id 109997
คุณไวท์โรด .. คนในครอบครัวเล่าสู่กันบ่อย ๆว่า ในกระบวนลูกที่ถูกตีมากที่สุด คือไอ้แสบเล็ก ไม่ชอบเลย ถูกตีนี่มันเจ็บนะ บางทีเจ็บข้ามวัน ไปโรงเรียนก็อายเพื่อนเพราะน่องลายพร้อยเชียว นี่ยังนับว่าน้อยนะ อาศัยหลบหลีกวิ่งหนีรอบบ้าน ที่บ้านเป็นโรงงานด้วย มีที่ให้วิ่งวนหลบตั้งหลายจุด ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็วิ่งไปหาปู่กับย่า ร้องให้ช่วยด้วย เขาน่าจะรู้นะ ที่จริงเด็กก็มีความคิดแล้ว คุยกันด้วยเหตุผลก็ได้ สอนกันดี ๆ ก็ได้ ไม่ต้องมาตี มันเหมือนทำร้ายร่างกายยังไงก็ไม่รู้สิ
22 พฤศจิกายน 2552 23:57 น. - comment id 109999
ฮ่าๆๆๆน้อยไปจริงๆ หากผมกับคุณไม่รู้จัก กันโดยส่วนตัวและสังเกตุแล้วจะไม่รู้ และหาก ไม่ได้ทานข้าวร่วมกับคุณแม่คุณ และคุณพ่อคุณ ก็จะไม่รู้ เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากธุระกิจนั่นเอง คุณแม่คุณเป็นคนมีเหตุผลและนิสัยคล้ายๆคุณมาก เป็นนุ่มลึกแข็งใน ท่านตัดไฟแต่ต้นลมนั่นเอง มิให้ลามปามต่อไป เมื่อเป็นด้วยเหตุสองประการ หนึ่งคุณเป็นหญิงกำหราบให้รู้จักความเป็นหญิง บ้างไม่ตามใจเกินกว่าเหตุ สองเนื่องจากทำงาน ด้านธุระกิจการค้าย่อมต้องอาศัยความเป็น มนุษย์สัมพันธ์ที่ดี เรียกว่ารักลูกต้องตี ที่คุณ ว่าท่านจำไม่ได้ไม่จริงหรอก ท่านรักคุณมาก โบราณว่ารักมากให้ตีมากนั่นเองจ๊ะแม่ยอดหญิง เพราะนิสัยคุณจะออกค่อนข้างแก่นแก้วไม่กลัว คนเหมือนผู้ชาย แม้แต่ปัจจุบันนี้ก็เหมือนกัน นิสัยเดิมๆยังมีอยู่เสมอๆๆ จริงแม๊ะ อ่อนนอก แข็งในเหมือนคุณแม่คุณ ฮ่าๆๆๆ ยายแก่เอ๋ย รักเสมอ ฮ่าๆๆๆขอหัวร่อๆๆหน่อยน้อยไปเน้อ แก้วประเสริฐ.
23 พฤศจิกายน 2552 07:10 น. - comment id 110000
คุณแก้วประเสริฐ .. เรื่องไม้เรียวกับวงการค้า ไม่เกี่ยวกันเลยนะเนี่ย แบบเดียวกับแม่ของกูจุนเพียวหรือเปล่าก็ไม่รู้
23 พฤศจิกายน 2552 13:50 น. - comment id 110003
หกล้ม ตีพื้น นี่แน่ะทำน้อง เดินชนโต๊ะ ตีโต๊ะ นี่แน่ะทำน้อง โอ๋นิ่งนะอย่าร้องนะพ่อแม่ตีมันให้แล้ว นี่แน่ะ นินทาฉันเหรอ(ตบซะ) นี่แน่ะ ทำพี่ฉันเหรอ(ตืบซะ) นี่แน่ะ ทำฉันอกหักเหรอ(แล่ซะ) นี่แน่ะ ทำฉันเข้าใจผิดเหรอ(ด่าซะ) โดนตีดีกว่ามาร์ตี้เจ็บน้อยกว่ากันเยอะเลย
23 พฤศจิกายน 2552 19:14 น. - comment id 110006
โอ๊ย คุณไวท์โรด อย่างนี้ไผสิกล้าทำให้อกหักเนี่ย แล่ซะ .. แหมมม สงสัยจะเตรียมทำจิ้มจุ่ม
25 พฤศจิกายน 2552 19:37 น. - comment id 110037
คุณยาแก้ปวด .. โธ่ คิดเลี้ยงทั้งที เลี้ยงแต่น้ำจิ้มหรือนี่
5 กรกฎาคม 2553 11:59 น. - comment id 117852
มีลูกคนเดียว รักมาก ถ้าป็นลูกสาวก็คงหวง ห่วง แม่บางคนก้เลี้ยงลูกแบบนั้น แต่แม่เจ็บกว่าที่ต้องตีลูก แต่ถ้่ไม่ตี ลูกเราโดนคนอื่นทำร้าย อาจจะพิกลพิการไปก้ได้ วิธึปกป้องลูกของแต่ละคนก็แตกต่าง ลูกเราเข้มแข็งเหลือเกิน แค่ ป.4 บางทียังคอยปลอบใจแม่ เด็กแต่ละคนก็ต่างกัน รักแม่มากๆเถอะค่ะ ถ้าสงสัยก็ถาม อย่าเก็บไว้ แล้วจะแปลกใจที่จะได้รับคำตอบที่คุณคิดไม่ถึง ความรักของแม่ ทำให้ต้องคิดให้ลึก และละเอียด ถี่ถ้วน ก่อนที่แม่จะจากเราไป คุณยังมีโอกาสอยู่