เมื่อวานเป็นวันที่ฟ้าปิด และแสงตะวันดูอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆที่ปกติแล้วดวงตะวันจะส่องแสงราวกับจะเผาผลาญทุกสิ่งให้เป็นจุณได้ในพริบตา ยามที่ท้องฟ้าปิดแบบนี้ ทำให้ฉันกล้าที่จะเงยหน้ามองดูดวงตะวันได้อย่างเต็มตา และได้ทันมองเห็นเมฆสีดำรูปทรงแปลกๆลอยผ่านดวงตะวันไปอย่างช้าๆ ราวกับจงใจจะบดบังแสงสว่างที่เลือนลางให้มืดมิด ทำให้ชวนคิดว่า คงเหมือนมนุษย์เราที่ต้องพานพบกับอุปสรรค ไม่ว่าจะหนักหนาเพียงใด สักวันมันก็จะผ่านไป แค่หนักแน่น และอดทน ต้นไม้ที่เห็นในรูป ก็เปรียบเหมือน "กำลังใจ" ที่พร้อมอ้าแขนรับ เวลาที่ดวงตะวันรู้สึกอ่อนล้า
และพร้อมจะส่งกำลังใจให้ดวงตะวันเสมอ ขอเพียงแค่ดวงตะวันกลับมาส่องแสงสว่างอย่างสง่างามเหมือนที่เคยเป็น และ ฉันจะคอยอยู่ที่เดิมตลอดไป แม้วันนี้ท้องฟ้าจะกลับมาสดใส และไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับดวงตะวันเหมือนเดิมก็ตาม ***บางครั้งอุปสรรค และปัญหา ก็ช่วยทำให้คนที่แข็งแกร่งดูอ่อนโยนลงได้ในสายตาของคนรอบข้าง ไม่ผิดหรอก หากวันหนึ่งแสงในตัวคุณจะริบหรี่ลง แค่เพียงอย่าปล่อยให้มันดับ ไม่นานคุณก็จะกลับมาได้อย่างสง่างามเช่นเคย*** ***โชคดีนะดวงตะวัน*** (o*^_______________^*o)V
2 ตุลาคม 2552 15:43 น. - comment id 108611
ที่ 1 ก่อง เด่วกลับมาอ่าน
2 ตุลาคม 2552 15:45 น. - comment id 108612
จ้องตะวันมาก เด่วตาลายนะ ระวังหล่ะ คุงตากล้องสุดสวย
2 ตุลาคม 2552 15:51 น. - comment id 108614
ขอที่ 3 ตามตำรา ฝนขา...ภาพที่นำมาเล่าเรื่องสวยมากๆ อิอิ มาบ้านเค้าเราต้องสงบเสงี่ยมเจียมตัว...
2 ตุลาคม 2552 19:41 น. - comment id 108616
ฉันอยากส่งแสงทอประกาศ...ดุจดั่งตะวัน ที่ฉายแสงเจิดจ้า.... แต่ทว่า... ทำไม? จึงรู้หม่นหมองในหัวใจ การมองโลกก็พลัน มืดมนเช่นกัน... อ่อนล้า อ่อนแอ อ่อนไหว อยากหนักแน่น แล้วก้าวผ่านทุกอย่างไปอย่างสง่างาม.. แต่เมหือนอ่อนแรง ที่จะก้าวไป ช่วงขณะใน ในหัวใจรู้สึกท้อ รู้สึกไม่เหลือใคร... แต่นั้นเราอาจคิดไปเอง ทุกคนยังคงเห็นเราในแบบที่เป็นเรา ที่เข้มแข็ง แต่ทุกคราที่อยู่เพียงลำพัง มันวังเวง อ้างว้าง เดียวดายจัง แสงที่มีจวนจะมอดดับเสียแล้ว... มาซึมซับอารมณ์... มาซึมซับกำลังใจ เพื่อเปล่งประกาย ให้เจิดจ้า... ขอบคุณจากหัวใจดวงนี้...
2 ตุลาคม 2552 20:09 น. - comment id 108618
อยากมีเพื่อนเป็นดวงตะวัน ที่โอนโยนบ้างจังเลย โคลอนเป็นดวงตจะวันได้ป่ะ เป็นบทความที่ดีนะ เยี่ยมครับ
2 ตุลาคม 2552 21:22 น. - comment id 108620
ถ่ายภาพเก่งจังเลยค่ะฝน กระซิบๆ นั่งรอนานมั้ย กว่าจะได้ภาพสวยๆแบบนี้ เค้าจะได้ไปถ่ายมาบ้าง อิ
3 ตุลาคม 2552 00:43 น. - comment id 108622
ท้องฟ้า ให้ความหมายมากกว่า ภาพที่เราเห็นนะคะ บางครั้งแต่ฟ้าเดียวกัน ที่เดียวกัน เวลาเดียวกัน แต่เรากลับได้ความ หมายที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับอารมณ์เรา ธรรมชาติก็เช่นกันค่ะ ให้เราเรียนรู้ได้ ไม่รู้จบเลย ภาพสวยมาก ๆ ค่ะ
3 ตุลาคม 2552 08:59 น. - comment id 108624
***ยาแก้ปวด1*** ช่วงนี้มือขึ้นน๊อ...อิอิ ***ยาแก้ปวด2*** แฮ่....ตากล้องสวยตามลำพังล่ะสิไม่ว่า ปล.นานๆจะได้เก็บภาพตะวันแบบเน้นๆสักที....ยอม...อิอิ ***เทียนหยดติ๋งๆ*** ขอบคุณมากค่า....ดีใจจัง เวลามีคนชมหน้าจะบานเป็นกระด้งเลย...อิอิ ***แมงกุ๊ดจี่*** บางครั้งความแข็งแกร่งที่เราแสดงออกมาภายนอก ก็ไม่สามารถเป็นเกราะป้องกันความอ่อนแอได้เสมอไป ลองยอมรับอารมณ์ที่เกิดขึ้น และหยุดเมื่อถึงเวลา แล้วเราจะสัมผัสได้ว่า "ความอ่อนแอ" ไม่ใช่สิ่งน่าอายเลย ถ้าเรารู้จักถ่ายเทและสร้างสมดุลย์ ขนาดดวงตะวันยังมีวันอ่อนแรงได้เลยจริงมัย เวลาที่ดวงตะวันอ่อนแรง หรือ คนที่แข็งแกร่งหมดกำลังใจ วันนั้นเราอาจจะเห็นใครบางคนชัดขึ้น..... คนที่เฝ้าดูอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆไง สดใสๆไว้นะ..... ***ไร้อันดับฯ*** แฮ่.......ฝนคงไม่แกร่งดั่งดวงตะวัน และก็มิบังอาจเทียบกับดวงจันทร์แสนสวย ขอเป็นแค่ดวงดาวดวงเล็กๆที่กระพริบลงมาทักทายก็พอ นักสืบฯอยากเป็นเพื่อนกับดวงดาวมั๊ยคะ แม้บางครั้งอาจมองไม่เห็น....แต่ดวงดาวก็ยังอยู่ที่เดิม(มาโหมดซึ้ง...อิอิ) ***แก้วประภัสสร*** ขอบคุณจ้า...แบม กระซิบๆตอบ....ทุกครั้งที่ถ่ายภาพไม่เคยนั่งรอเลยอ่ะจ๊ะ มันจะเป็นช่วงที่เราบังเอิญเห็นพอดี แล้วกล้องก็ไม่ได้อยู่ติดตัวตลอดเวลา ส่วนใหญ่จะวิ่ง 4*100 ทุกทีเลยอ่ะ กลัวจะไม่ทัน555 แล้วฝนก็กดชัตเตอร์ไม่ยั้งเลยอ่ะ แล้วค่อยมาเลือกภาพจากในคอมฯเอา แบม จะเห็นว่ามีภาพที่ดูเหมือนๆกันหลายภาพ....แบบว่าฝนเลือกไม่ถูกว่าจะลบภาพไหน ก็เลยเก็บไว้ พอนั่งมองไปสักพักสมองมันก็จะแล่นและอยากเขียนอะไรขึ้นมา ช่วงนี้จินตนาการด้านกลอนฝนไม่ทำงานอ่ะ เลยมองหาด้านอื่นดู...อิอิ ก็เพลินดีเหมือนกันนะ ยิ่งมีเพื่อนๆเข้ามาดูและชมด้วยนะ....หน้าเป็นอย่างงี้เลย (o*^___________________^*o) เป็นโรคบ้ายอ....อิอิอิ ***ปรางทิพย์*** จริงด้วยค่ะ ท้องฟ้าให้ความหมายหลากหลายเลยเนาะ บางวันที่เมฆไม่รวมตัวกัน ท้องฟ้าจะเป็นลักษณะเหมือนแนวคลื่น เวลามองแล้ว คิดถึงทะเลมากเลยค่ะ "ทะเลสีคราม" และบางวันที่เมฆเกาะกลุ่มกันเป็นก้อน หลายๆก้อน ฝนจะชอบมองเวลาที่สายลมพัดมาแล้วพาก้อนเมฆแต่ละก้อนค่อยๆเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ.....อยากรู้ว่าสายลมจะพาก้อนเมฆไปไหน...อิอิ.... ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมและพูดคุยกันนะคะ
3 ตุลาคม 2552 10:43 น. - comment id 108627
เมื่อวันก่อนขับรถผ่านทางไปเชียงราย แถวม.แม่ฟ้าหลวง..ถ่ายรูปไม่ทันยามพระอาทิตย์โดนเมฆบังแต่แสงของตะวันก็หาได้จางลง..ทำให้พิมมองด้วยตาเปล่าได้..สวยจริงๆคะ..
3 ตุลาคม 2552 10:52 น. - comment id 108628
วันนี้ลองจ้องตะวันใหม่สิป้า ตาพร่าเลยง่ะ เป็นบทความซาบซึ้งดีจัง อบอุ่น งดงามในความรู้สึก
3 ตุลาคม 2552 13:41 น. - comment id 108630
มีตะวันที่ทะเลมาฝากค่ะ
3 ตุลาคม 2552 15:40 น. - comment id 108631
ฝน อืม..เดี่ยวนี้นั่งมองฟ้า มองเมฆ แล้วตีความ ดีครับ ที่ตีความเป็นบวก แปลว่าจิตใจยังงดงามอยู่ และแน่นอนว่าบ่งบอกถึงความอ่อนไหว และขี้เหงาเล็กๆ แต่เอาเถอะ ถ้ามีความสุขก็ขอให้เป็นสุขที่ยั่งยืนครับ ปล.เมื่อไหร่ เชียงใหม่จะหนาวครับ
3 ตุลาคม 2552 17:13 น. - comment id 108632
***พิมญดา*** โหย...ได้ไปเที่ยวเชียงรายด้วยอ่ะ พิมฯ......อยากกลับบ้านจัง เวลาเดินทางนี่แหละเนาะ เรามักได้เห็นภาพสวยๆ แต่บางทีก็อยู่ในภาวะที่ไม่อาจเก็บภาพได้.....เสียดายจังเนาะ ***เฌอมาลย์*** วันนี้ฟ้าเปิด ตะวันกลับมาส่องแสงสว่างเหมือนเดิมแล้ว เราก็คงมองด้วยตาเปล่าไม่ได้แล้วล่ะ แต่แค่แอบมองอยู่ในที่ของเราไง ร่มๆเย็นๆ...อิอิ ขอบคุณนะจ๊ะ สำหรับคำชมตอนท้าย....ดีใจมากเลย ***เพียงพลิ้ว*** โห....สวยๆ บรรยากาศริมทะเล ยามตะวันตกดินสวยมากๆ ดูไปก็เหมือนตะวันกำลังเอ่ยคำลาเราเลยนะ แต่ประมาณว่า " ซี ยู ทู มอโร่" ***ฤทธิ์ ศรีดวง** อิอิ...ฝนชอบมองฟ้าไงคะ....ถ้าคนเราได้ทำในสิ่งที่ชอบจิตใจก็สดชื่นว่ามั๊ยคะ อาจจะมีบางแว๊บเหงาบ้างแต่ก็ไม่นานค่ะมาเยี่ยมแป๊บๆแล้วก็หายไป นี่กระมังคะที่เค้าเรียก "ความอ่อนไหว" ฤทธิ์ ศรีดวง ไม่มีเหรอ มุมที่มองธรรมชาติแล้วคิดไปเรื่อยเปื่อยอ่ะ...ฝนว่าเหมือนเราได้ถ่ายเทความรู้สึกต่างๆส่งผ่านไปให้ธรรมชาติช่วยเยียวยาเลยนะคะ ปล.ถ้าอากาศเชียงใหม่ต้องถาม พิมฯค่ะ ถ้าอากาศเชียงราย ฝนถึงจะตอบได้...อิอิอิ แม่โทรมาบอกว่าที่บ้านฝนตกหนัก เช้าๆหนาวแล้ว ทั้งหนาวทั้งฝนกลัวไม่สบายกันจัง สงสัยปีนี้จะหนาวมากๆค่ะ คนโบราณบอกว่าถ้าปีไหนฝนเยอะปีนั้นก็จะหนาวสุดๆเลยค่ะ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยือนโลกใบเล็กของฝนนะคะ ดีใจทื่มาค่ะ
3 ตุลาคม 2552 19:51 น. - comment id 108636
ฝน อารมณ์อ่อนไหว จำเป็นต้องมีครับ เพราะต้องใช้ในการจินตนาการและสร้างแรงบันดาลใจ และช่วยผ่อนคลายความกระด้างของจิตใจ บางทีผมก็คิดว่างานเขียนก็เหมือนตาบอดคลำช้าง เราเล่าเรื่องเดียวกันในมุมมองที่ต่างกัน ผลที่ได้ก็คือเราจะเห็นสิ่งนั้นครบทุกด้าน เป็นมุมมองสามมิติ หรือฝนคิดว่าไง ปล.ผมต้องเกิบ no.1 ใช่ไหม
3 ตุลาคม 2552 20:21 น. - comment id 108637
เห็นด้วยค่ะ บางครั้งเราเล่าเรื่องเดียวกันในมุมมองที่ต่างกัน เวลาไปอ่านงานเขียนของเพื่อนๆเราก็เลยจะได้เห็นหลายมุมมองไงเนาะ ปล.555 ไฟต์บังคับค่ะ ต้อง no.1 เท่านั้น ขอบคุณที่ให้เกียรติมาเป็นหัวหน้าแก๊งแกว่งเท้าหาเกิบนะคะ ดูแก๊งเราน่าเชื่อถือขึ้นเยอะ 555 ปล.สุดท้าย ฝนกำลังจะชัทดาวแล้วนะคะเนี่ย โชคดีจังที่เข้ามาเช๊คอีกที มีความสุขกับวันหยุดนะคะ
3 ตุลาคม 2552 20:26 น. - comment id 108638
ลืมบอกหมายเลขสมาชิก ฝน เกิบno.5 นะคะ...อิอิ ปล.ฉางน้อย ปูนนี้ เอ๊ยป่านนี้ยังไม่รู้เบอร์เกิบตัวเองเลยค่ะ555(นินๆๆๆ) ปล.สุดท้าย เมื่อคืนฝนเปิดไปดูละครเรื่องนางกรี๊ดโดยบังเอิญอ่ะค่ะ ดูแล้วขำดี รับจ้างกริ๊ดทุกงาน555 น่าสนนะคะอาชีพนี้
4 ตุลาคม 2552 09:43 น. - comment id 108640
แวะมาเยี่ยมครับ...
4 ตุลาคม 2552 20:15 น. - comment id 108642
ช่วงนี้ก้อระวังป้าหม่า ด้วยนะคุณฝน
5 ตุลาคม 2552 11:50 น. - comment id 108644
***เทียนหยดติ๋งๆ*** 555 เล่นงี้เลยนะ ถ้ามาดูตอนกลางคืนอาจมี หวีด ...อิอิ ***ก่องกิก*** ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยือนนะคะพี่ฯ ***กิ่งโศก*** ภัยธรรมชาติเดี๋ยวนี้ น่ากลัวกว่าแต่ก่อนเยอะเลยนะคะ ประเทศเราจากไม่เคยมีก็มี อย่าง สึนามิ เป็นต้น นกลัวจะเกิดรอบ2จัง ช่วยกันรักษ์ธรรมชาติดีกว่าเนาะ ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านอีกครั้งค่ะ ที่ให้เกียรติมาเยือนโลกใบเล็กใบนี้