ชายวัยกลางคนรูปร่างผอมสูงใบหน้ารูปไข่ จมูกโด่ง ผิวขาวเหลือง ถ้ามองห่าง ๆ เหมือนว่ายิ้มอยู่ ตลอด แต่พอเข้าใกล้ที่แท้แกฟันเหยิน ซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ที่ไม่ต้องแสร้งยิ้มให้ใคร เพราะความเหยินช่วยให้ แกยิ้มอย่างธรรมชาติ ดีกว่าสังคมปัจจุบันที่เร่งรีบไปทุกอย่าง ไม่รีรอรับรอยยิ้มงาม ๆ จากใครทั้งนั้น กิจวัตรวันสำคัญเช่นนี้ เขาเตรียมความพร้อมกับการนั่งสมาธิในชุดเก่งเสื้อยืดแขนสั้นคอปกสีขาว ที่หน้าอกสกรีนธงชาติไทย ส่วนกางเกงสีขาวอมหมองไม่ถึงกับหม่นเพียงแต่ตะเข็บปริเป็นรอยยาวประมาณ 2 เซ็นต์ ฉันคิดว่าแกคงไม่สนใจในความอนิจจังของมัน หรือเพื่อให้ลมเย็น ๆ ช่วยปรับอุณหภูมิเนื้อชื้นจะได้ไม่ ขึ้นผื่นสังคัง ฉันได้แต่คิดแทนแกไปเสียหลายเรื่อง แม้กระทั่งชื่อของแกฉันก็สมาสคำให้ยาวขึ้น ซึ่งอันที่จริง เขาชื่อ สุภาพ แต่เมื่อสมาสกับคำว่าบุรุษจึงได้คำใหม่ว่า สุภาพบุรุษ แกเคยถามถึงความหมาย ฉันจึงได้อธิบายว่า สุภาพแปลว่า ภาวะความเป็นคนดี เมื่อสมาสกับบุรุษย่อมมีความหมายว่า บุรุษผู้มีภาวะแห่งความเป็นคนดี ซึ่งแกก็ชื่น ชอบกับนามใหม่นี้ ดังนั้นทุกครั้งที่เจอเขาฉันจะทักว่า คุณสุภาพบุรุษ เพื่อให้แกภาคภูมิใจกับฉายานามนี้ กระนั้นก็ตามฉันต้องสังเกตจังหวะอารมณ์ของแกด้วย เพราะแกมักมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นนิจศีล (ไม่ถึงกับขึ้นมากเหมือนน้ำเจ้าพระยาหน้าฝน) วันนี้พุทธศาสนิกชนที่มาทำบุญ แต่ละคนถือปัจจัยไทยธรรมรวมทั้งผ้าอาบน้ำฝน บ้างก็ถือต้นเทียนพรรษาแตกต่างตามขนาด บางคนถือหลอดไฟนีออน ส่วนผู้ที่อยู่ในวัยกลางคนขึ้นไปนุ่งขาวห่มขาวถือศีล 8 แต่คุณสุภาพบุรุษบอกว่าแกถือศีล 9 เหตุผลคือ อย่างไรแกก็ไม่ชอบนั่งหรือนอนบนที่สูงอยู่แล้ว เพราะแกเป็นโรคกลัวความสูงมาตั้งแต่เด็กที่มักนอนตกเตียงอยู่บ่อย ๆ การนอนที่ศาลาวัดก็นอนกับพื้นกระดานมีเพียงผ้าขาวผืนเล็ก ๆ ปูลาดรองแผ่นหลัง สำหรับหมอนแกใช้หนังสือพุทธธรรมหนุนศีรษะ ซึ่งแกให้เหตุผลว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเพชรน้ำ เอกในพุทธศาสนายุคปัจจุบัน แต่เล่มหนาเหลือเกินแกจึงคิดพิเรนทร์ว่าเอาหนุนศีรษะเผื่อธรรมะจะได้ซึมเข้าสมองบ้าง ส่วนศีล 10 แกไม่เอาเพราะจะไปเสมอกับศีลของสามเณร อีกทั้งถ้าขืนถือศีล 10 แล้วจะจับเงินทองติดกัณฑ์เทศน์ได้อย่างไร แต่ถ้ามองอีกแง่หนึ่งมันเป็นนิสัยถาวรของแกที่ชอบทำอะไรแผลง ๆ ไปจากมนุษย์นุ่งขาวคนอื่น ๆ อาชีพประจำของแกไม่ต้องพรรณนาให้ละเอียด เอาเป็นว่าทุกวันพระ คุณสุภาพบุรุษชอบไปนั่งสมาธิที่วัด ขณะที่นั่งสมาธิฉันไม่ทราบว่าแกใช้ทฤษฎีภาวนายุบหนอ พองหนอแบบวัด มหาธาตุท่าพระจันทร์ หรือว่าภาวนาพุทธะ พุทโธ แบบธรรมยุตนิกาย ทั้งนี้แกชอบทำอะไรนอกกรอบ ชนิดอภิสมัยไม่ธรรมดา ใครคุยเรื่องอะไรในโลกนี้ แกก็รู้กับเขาไปด้วยแทบทุกเรื่อง ซึ่งฉันได้พิสูจน์มาแล้ว บางครั้งขณะที่แกนั่งสมาธิอยู่นิ่ง ๆ พอได้ยินใครพูดเรื่องการเมืองเท่านั้นแหละ สมาธิก็กลายเป็นสมาเทอะทันที คือเลอะเทอะไปด้วยการร่วมวงไพรีพินาศวิพากษ์วิจารณ์เหตุบ้านการเมืองสารพัด ไม่รู้ว่าคลังสมองส่วนไหนของ เขาบรรจุการเมืองไว้เต็มอัตรา จึงทำให้ความจำเรื่องการเมืองของเขาแม่นมาก อาทิ วันที่ 24 มิถุนายน 2475 สยามประเทศเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นระบอบประชาธิปไตยฯ และเมื่อ พูดถึงชื่อเสียงเรียงนามของนักการเมือง คุณสุภาพบุรุษแสดงพลังทั้งถ่ายและทอดออกมาเป็นชุด ๆ (คงไม่เหม็น เพราะทอดแล้ว) หากพูดถึงนักการเมืองยุคเก่าและใหม่ ขอให้เอ่ยชื่อมาเถอะเขารู้ทั้งชื่อและทฤษฎีแนวคิดของ บุคคลเหล่านั้นเป็นอย่างดี เช่นโสเกรตีส ผู้มีฉายานามว่าเป็นศาสดาของผู้สอน เพลโต เป็นศาสดาของผู้คิด อริสโตเติล เป็นศาสดาของผู้เรียน สำหรับนักปรัชญาการเมืองสมัยใหม่ เขาจะพูดถึงแมคเคียเวลลี ที่สอนเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างโชคชะตากับคุณธรรมความสามารถของมนุษย์ ถ้าพูดถึงองค์อธิปัตย์กับสังคมการเมือง เขาก็จะเอ่ย ถึงโธมัสฮอบส์ แต่หากกล่าวถึงลัทธิเสรีนิยมประชาธิปไตยสมัยใหม่ เขาจะกล่าวถึงผลงานของล็อค ถ้าคราใดเขาได้ยินนักการเมืองไปสัญญาอะไรไว้กับประชาชน คุณสุภาพบุรุษก็จะเอ่ยถึงทฤษฎีเสรีภาพกับสัญญาประชาคมของ ฌอง ฌาค รุสโซ แต่ถ้าใครคิดพลิกแพลงปล่อยทฤษฎีประชานิยมออกมา เขาจะอารมณ์บ่จอยแบบบูดบึ้งบอกนิยมห่าอะไรกูยังจน อยู่เหมือนเดิม นอกจากนี้แกมักจะพูดถึงนักการเมืองไทยที่เป็นขวัญใจของแกคือลูกชาวนาอยุธยา ดร.ปรีดี พนมยงค์ (ผู้ใหญ่ที่มีคุณธรรมกว้างมหาศาล) ถัดมาคือศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ (ผู้ไม่โลภและไม่ลัก) และแกมัก จะพูดเชิงทีจริงทีเล่นว่า เวลาไหว้พระพุทธรูปคล้ายว่าได้อยู่ใกล้อาจารย์สัญญา เพราะท่านมีใบหน้าอิ่มบุญงดงาม คล้ายพระพุทธรูป ส่วนนักการเมืองนอกนั้น คุณสุภาพบุรุษมักจะบ่นว่าเป็นนักการเมืองสะเทินน้ำสะเทินบก กบก็ไม่ใช่ปลาไหลก็ไม่เชิง แต่ก็พอทนถูไถประชาธิปไตยไปได้ดีกว่าอยู่ภายใต้รองเท้าบู๊ทของพวกปฏิวัติ เพราะการปฏิวัติคือบ่อเกิดของอำนาจเผด็จการ ดังนั้นแกจึงเกลียดเข้ากระดูกดำ (สันหลังทับเส้นประสาท) เป็นที่สุด สิ่งหนึ่งที่ทำให้แกคลายอารมณ์ได้ดีคือ ฮัมเพลงส้มตำให้ฟังเพราะเป็นเพลงที่แก่โปรดมาก นอกจากนั้นนานๆ ที ฉันเจอแกที่ร้านเน็ต แกจะชวนคุยถึงพฤติกรรมของเยาวชนที่มาเล่นเน็ตว่า พวกเขารู้จักแหล่งเว็บ XXX ยิ่งกว่าแกเสียอีก แกพูดแดกดันว่าน่าจะบรรจุเด็กพวกนี้ให้สังกัดกระทรวง ICT เพราะรู้ ข้อมูลการท่องเว็บ XXX ได้ทุกแง่ทุกมุมทุกหลืบเร้นเห็นจะๆ อล่างฉ่างฉวัดข้างพลิกไปมาส่งผลให้เศรษฐกิจเน็ตคึกคัก วันนี้เป็นวันอาสาฬหบูชา คือวันที่เกิดพระรัตนตรัยครบองค์สามได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน (ป่าที่มีกวางแต่ไม่มีเก้ง) คุณสุภาพบุรุษจึงเอาใจจดจ่ออยู่กับโพชฌงค์ธรรม ซึ่งนักนิยมธรรมะไฮโซทั้งหลายกำลังฮิตฮอสอยู่ในขณะนี้ (อีกไม่นานคงพากันบรรลุถึงกลีบเมฆล่ะมั้ง) ที่บนศาลาการเปรียญหลังใหญ่ ซี่งเป็นศาลาเก่าแก่อายุการก่อสร้างสลักไว้ที่ด้านข้างธรรมาสน์เทศน์ พ.ศ. 2453 ปลายรัชสมัยแผ่นดินสมเด็จพระปิยมหาราช อย่างไรก็ดีวันนี้ฉันสังเกตเห็นความแปลกประหลาด การนั่งสมาธิของคุณสุภาพบุรุษ ซึ่งแตกต่างไปจากครั้งก่อน ๆ เพราะปกติแกจะนั่งหลับตาเจริญมหาสติปัฏฐานสี่ มาวันนี้แกกลับนั่งขัดสมาธิโดยเปิดตาเพ่งมองเทียนเล่มใหญ่เล่มนั้น จึงทำให้ฉันยิ่งสงสัยมากกว่าที่นั่งพรรณนาชีวิตของแกจนเกือบลืมสนทนาพาที (ตามระเบียบของเรื่องสั้นแบบไซซ์คนไทยไม่ใช่ไซซ์ฝรั่ง) สวัสดีครับ คุณสุภาพบุรุษ ฉันกระเถิบเข้าหาห่างประมาณ 1 ศอก ปล่อยเสียงทักทายเบา ๆ อย่างระมัดระวัง เหมือนการค่อย ๆ ขมิบปล่อยแก๊สในช่องแคบท่ามกลางคนรอบข้างอย่างไรอย่างนั้น (หรือใครไม่เคยทำยกมือขึ้น) เพราะเกรงว่าแกจะเกิดอารมณ์แปรปรวนถ้าส่งเสียงดัง (ส่วนกลิ่นเป็นอีกเรื่องหนึ่งเพราะไม่มีเสียง) แหม! น้องชายไม่เจอกันหลายอาทิตย์ สบายดีใช่ไหม วันนี้มาเวียนเทียนแต่วันเชียวนะ เขาทักฉันเบา ๆ เหมือนกัน แสดงว่ากระแสจิตของเราทั้งสองปล่อยแก๊สความคิดเชื่อมโยงถึงกันได้โดยอัตโนมัติ โดยการขมิบมันสมองแล้วเอียง ตัวเล็กน้อยก็สำเร็จกิจพิสดารแบบธรรมารมณ์ไร้เสียง คุณสุภาพบุรุษครับ 3 อาทิตย์แล้วสิ ที่เราไม่ได้เจอกัน ผมไม่ลืมที่จะนำของทานที่คุณชอบมาฝาก ของทานอะไรเหรอ ไอ้น้องชาย อ๋อ! ผัดคะน้าหมูกรอบ แล้วตามด้วยขนมที่คุณชอบเป็นที่สุด ขนมอะไรกันวะ ที่ข้าชอบที่สุด กะหรี่ปั๊บ ไงครับ นี่เป็นกะหรี่ชั้นแนวหน้าสระบุรี ทั้งนุ่มและมันรับรองอร่อยหยดหยาดเยิ้มจนลืมเข้าฌานเลยล่ะ น้องชายก็พูดเกินไป ทำไงได้ล่ะคุณสุภาพบุรุษ ของมันเคยกิน ครั้นจะเข้าฌานบรรลุมรรคผลให้หลุดพ้นก็ยังไม่แก่ใกล้อายุขัย เวลานี้เคี้ยวอะไรได้สบาย ๆ อยู่ ทั้งเตะปี๊บปึ๋งปั๋งดังได้ไม่เบา ใช่ไหมครับคุณ ไอ้น้องชายนี่มันช่างรู้ใจเราดีเหลือเกิน วันนี้เป็นวันสำคัญที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมเป็นครั้งแรกชื่อธัมมจัก กัปปวัตนสูตร ซึ่งกล่าวถึงการไม่หมกมุ่นในกามสุข ดังนั้นอย่าเพ้อเจ้อเดี๋ยวศีลจะหลุดลุ่ยเป็นบาปวะ เอาล่ะขอบใจมากที่นำกับข้าวมาฝาก ขณะที่คุณสุภาพบุรุษกำลังอยู่ในมาดเคร่งขรึมอธิษฐานจิตแผ่เมตตาเพ่งเทียนให้บรรดามวล สรรพสัตว์อยู่นั้น ฉันก็ลองนั่งสมาธิดูมั่ง โดยการเพ่งมองเปลวเทียนสีเหลืองอ่อน ปลายเปลวเปล่งประกายแสง วิบวับ เรื่อ ๆ เมื่อลมพัดมาเบา ๆ พอเพ่งไปได้ประมาณ 3 นาที รู้สึกปวดขมับจับจี๊ดเข้าถึงเป้าตาทั้งสองข้าง ฉันทนไม่ไหวจึงหยุดเพ่งทันที ทันใดนั้นคุณสุภาพบุรุษก็กระซิบที่ปลายใบหูว่า อย่าฝืนสังขารเดี๋ยวตาจะบอด ทำไมผมเพ่งไม่ได้อย่างคุณล่ะครับ ฉันถามทั้งสงสัยที่เห็นเขาเพ่งได้เป็นเวลานาน ก็บอกแล้วไง ข้าคือมนุษย์ศีล 9 ข้อ ถึงใครจะมองว่าข้าติ๊งต๊อง แต่ข้ามีเทคนิคเว้ย ข้าไม่โง่เพ่งตาเปล่าหรอก ไอ้ที่ทำมันตกกระไดพลอยโจนกับพวกเคร่งสมาธิพวกนั้น และอยากให้แปลกกว่าพวกก็เลยเปิดตาเพ่งเทียน พวกนั้นเขาไม่รู้นึกว่าข้าเป็นบุคคลพิเศษ ทำไมเป็นงั้นไปล่ะคุณ เอ็งไม่รู้อะไร สังคมทุกวันนี้ล้วนแต่สวมหน้ากากใส่กันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักวิชาเกิน เอ๊ย!วิชาการ นักแสดง นักดูโชคชะตาราศีผ่านโทรศัพท์มือถือที่เมทเส็จรบกวนเราวันละ 3 เวลาหลังอาหาร (ไม่เว้นเวลาที่กำลัง งมหอยนางรม) บางครั้งขณะนั่งปล่อยวัตถุอึอยู่ดี ๆ ก็มีเมทเส็จโผล่มาคุณคือผู้โชคดีท่านแรกว้าว...ติดต่อกลับด่วน ดูซิมันตามรังควานลำไส้ส่วนปลายจนขี้หด รวมทั้งนักการเมืองที่รวยเอารวยเอาขึ้นทุกวันต่อให้นำทฤษฎีการปกครองจากเทวดาที่ไหนมาใช้ก็ตามเล่ห์เหลี่ยมมันไม่ทันหรอก ขึ้นชื่อว่าถ้าได้ผลประโยชน์กับตนและพรรคพวก เป็นต้องลงทุนทำได้ทุกอย่างไม่ต้องอื่นไกล แม้กระทั่งการปฏิบัติกรรมฐานนั่งสมาธิ ยังต้องจ่ายค่าคุ้มครองสั่งจองเสาศาลาให้แก่แม่ชีบางคนเลยไม่งั้นถูกแย่งเสาศาลา เสาศาลามันสำคัญในการนั่งสมาธิด้วยหรือคุณ ฉันงุนงงจึงตัดบทขัดจังหวะถาม ไม่สำคัญได้ไง ก็หลวงพ่อท่านเจ้าอาวาสเวลาสอนกรรมฐานแต่ละครั้งนั่งนานเป็นชั่วโมง ๆ ไอ้พวกมนุษย์นุ่งขาว เหล่านั้นมันปวดหลังต้องการหาที่พิงหลัง จึงแย่งกันยึดครองเสาศาลา บางครั้งถึงกับขึ้นเสียงเถียงกันจนสมาธิแตกไปตาม ๆ กัน ก็เพราะเสาเจ้ากรรมนั่นประไร คนมีเป็นร้อย เสามีสิบกว่าต้นแย่งกันอยู่ได้ คุณสุภาพบุรุษครับ ขอโทษเถอะถ้างั้นจะพากันนั่งสมาธิไปทำหอกหาวิมานอะไรกัน ฉันระงับอารมณ์ไม่อยู่ จึงโพล่งตอกตำคำพูดกระแทกแดกดันออกไป ก็นั่งตามธรรมเนียมไงวะ เขายื่นฟันเหยินพูดสวนกลับทันที แล้วคุณเสียเวลานั่งเพ่งเทียนไปทำไมอีกเล่า ไปงมหอยกาบไม่ดีกว่าเหรอ คนเราขึ้นหลังเสือแล้วลงยาก ข้าคือผู้รู้ทั้งธรรมะ การเมือง การมุ้งคนหนึ่งในย่านนี้ ถ้าขืนข้าไม่เพ่งแบบพิสดาร ไอ้พวกนุ่งผ้าขาวบ้าหวยพวกนั้นมันจะทุบกบาลเอาล่ะสิ ท่ามกลางเวลาแห่งการสนทนากำลังดำเนินไป ที่โคนต้นเทียนพรรษาน้ำตาเทียนหยดลงเป็นกอง ฉันหยิบมาดู ขณะเดียวกันคุณสุภาพบุรุษก็กำลังเพ่งพินิจ ไอ้น้องชาย เอ็งดูน้ำตาเทียนนั่นสิ มันมีเลข 0-9 ครบหมด พวกนั้นเขาคิดว่าข้าเพ่งหวยแม่น ซึ่งอันที่จริงข้า ทดลองใส่คอนแทคเลนส์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ปรับแสงได้ เพ่งมองเปลวเทียนเห็นปลายเปลวแปลกสวยสลับสีส้ม-ขาว-เหลืองอ่อนวิบ ๆ วับ ๆ แต่คนเขาเข้าใจผิดคิดว่าข้าให้หวย งวดที่แล้วเผอิญน้ำตาเทียนหยดเป็นสายแล้วม้วนปลายคล้ายเลข 6 ขณะนั้นใครก็ไม่รู้เสือกถือแก้วน้ำดื่มมาสะกิดให้ข้าดื่มตอนที่สมาธิกำลังดิ่ง ข้าตกใจโดนแก้วน้ำหก จึงอุทานออกไปว่า 66 ข้าดังระเบิดตั้งแต่งวดนั้นแหละวะ ภายหลังที่พระสงฆ์ฉันภัตตาหารเพลเสร็จแล้ว ฉันกับคุณสุภาพบุรุษก็มัวแต่คุยกันเพลินเหลือบดูนาฬิกาอีก 15 นาทีจะเที่ยง ว่าแล้วเขาก็รีบพิจารณาอาหารก่อนที่จะเคี้ยวหมับ ๆ อย่างเป็นเอกลักษณ์ของคนฟังเหยิน เสียงกลองยาวแห่เทียนพรรษารอบอุโบสถกระหึ่มก้องกลบเสียงเคี้ยวผัดคะน้าหมูกรอบกรุบกรับ อีกไม่นานเทียนเล่มใหม่จะได้น้อมนำถวายพระสงฆ์ เพื่อจุดบูชาพระรัตนตรัยพร้อมทั้งส่องหนังสือสวดพระไตรปิฎก และคัมภีร์อรรถกถาจารย์ที่บรรจุไว้เต็มตู้ ถ้าเทียนเล่มใหม่ถูกจุดขึ้นเมื่อใด ภาพ 2 มิติจะเกิดขึ้นภายนอกสายตาของฉันคือ ภาพพระสงฆ์กระทำวัตรปฏิบัติศาสนกิจอันงดงาม และภาพมนุษย์นุ่งขาวห่มขาวเหล่านั้น ที่ยังมีกากกิเลสอันย่อยยากซ่อนอยู่ใต้กระเพาะส่วนล่าง และน้อยคนที่จะหลุดพ้นหวยล่าง-บน คละบุญ-บาปบนศาลาการเปรียญ ส่วนภาพมิติที่ 3 เกิดขึ้นภายในดวงใจฉันคือ ภาพคุณสุภาพบุรุษมนุษย์ศีล 9 กำลังเพ่งหาหวยงวดหน้าอย่างคร่ำเคร่งระหว่างน้ำตาเทียนกับน้ำตาของเขาคงเอ่อออกปรากฏตัวเลขเป็นพิเศษ กระนั้นทันใดอุบาสก-อุบาสิกาต่างรุมกระซาบข้างหูของเขาว่า 78 งวดหน้าน้ำตาเทียนหยดโย้ยตรงเผงแน่นะ สำหรับฉันก่อนจะก้มลงกราบเบญจางคประดิษฐ์ ต่อหน้าพระพักตร์องค์พระปฏิมา ฉันไม่ลืมที่จะขมิบมันขมองส่งซิกกระซิบกระแสใจถึงคุณสุภาพบุรุษ เพ่งเทียนว่า กะหรี่ปั๊บใหม่สด อร่อยรสมันหยด...เยิ้มอิ่มยาว เขาพยักหน้านั่งทอดสายตาไปที่ น้ำตาเทียนกองนั้น แล้วยักคิ้วส่งยิ้มฟันเหยินจนเหงือกแห้ง pphoovadol@yahoo.com เขียนโดย ภูวดล ภูภัทรโยธิน
8 กรกฎาคม 2552 17:53 น. - comment id 106163
8 กรกฎาคม 2552 18:10 น. - comment id 106164
ขอปรบมือให้ดังๆสำหรับคนเขียนเรื่องนี้ครับ ที่นำเรื่องราวจริงและประสบการณ์ต่างๆมาเล่าให้ฟัง ซึ่งผมเองก็เคยเจอครับที่คนทางภาคอีสาณนั้นมักจะ นิยมมากที่สุด คือ หวย ที่เล่นกันอย่างหัวปักหัวปำ แบบที่เรียกว่าดำน้ำไม่ยอมผุดโผล่เอาเสียเลยครับ ผมเคยไปร่วมทำบุญบนศาลาอย่าเอ่ยเลยนะครับ ที่ไหนจังหวัดไหน ผมเป็นคนกรุงเทพฯแต่ได้ยิน การสนทนาของพวกเขาหลังจากพระฉันท์ภัตราหาร เขาก็ทานกันไปด้วยระหว่างนั้นสนทนาธรรมเฮ้ย ไม่ไช่ครับสนทนาเรื่องหวยของอาจารย์ต่างๆกัน ครับ ขอบคุณที่นำเรื่องราวอันมีสาระมากมายมา เผยครับ แก้วประเสริฐ.
9 กรกฎาคม 2552 08:29 น. - comment id 106194
อรุณสวัสดิ์ คุณฉางน้อย คุณแก้วประเสริฐ
9 กรกฎาคม 2552 11:34 น. - comment id 106198
เขียนได้น่าอ่านมากๆค่ะ รออ่านเรื่องต่อไปนะคะ
9 กรกฎาคม 2552 12:13 น. - comment id 106199
ทิวาสวัสดิ์ คุณแก้วประภัสสร