HE NOT IT...........

แก้วประภัสสร


"สวัสดีค่ะพี่กุ๊กไก่" เราเงยหน้าขึ้นมอง พร้อมรับไหว้เด็กมาจากบังคลาเทศ
เขาเอาก๊อปปี้พาสพอตมาเพื่อจะให้เช็คก่อนออกตั๋วค่ะ
"หวัดดีจ้า คนสวย " ผิวน้องคนสวย ดำมากๆๆ ตัวเล็กๆ หากผิวหล่อนขาว คนไทยชิดซ้าย ตกเวทีเลยละคะ
"อ้าว ทำไม วันนี้มาเองละคะ คุณดีน หายไปไหน ไม่เอามาให้เอง"เราหยิบพาสพอตขึ้นมาดูพร้อมเอ่ยปากถามไป
"ไอ้ดีนมันไม่ว่างมาค่ะ" เธอเอ่ยปากตอบเรา
"หนุคะ ทำไมเรียกคุณดีนว่า"มัน" และ "ไอ้"ละคะ ไม่เพราะนะคะ 
เราพูดภาษาปะกิดไปว่า "มัน" ไม่เพราะให้เปลี่ยนจาก"ไอ้"เป็น"คุณ"
เธอเลยตอบเราอีกครั้งว่า
"ไอ้คุณดีนมันไม่ว่างมาค่ะ เลยให้หนูมาแทนมันค่ะ"
555555555
จบแล่ว 
เรื่องจริงจ้า 
บ๊ายยยย บาย
  

เพลงค่าน้ำนม 
http://www.naronk.org/smf/song/t/sndT764.wma
 เสียงของสุนารี
 http://www.naronk.org/smf/song/t/sndT762.wma
 เสียง Ising
 http://www.naronk.org/smf/song/t/sndT763.wma
 สไปซี่
    test now
สุ 
 
 
48563_1.gif
 
----------------------------
08e48ee2.jpg?t=1284282329

-------------------------------------------------
เพลง แล้วจะรู้ว่าพี่รัก : ทูล ทองใจ
คำร้อง/ทำนอง : ไพบูลย์ บุตรขัน 
http://www.sk-hospital.com/skmessage/files/___________________102.wma
พี่นี้อุตส่าห์ถนอมดวงใจ ไว้ให้นวลนาง
ไม่เคยจืดจาง ร้าง ลา 
...รักเดียวใจเดียวเกี่ยวข้องไม่ขาด
ด้วยปรารถนา แต่น้องไม่มาเห็นดวงใจพี่
...ถ้าแม้พี่ผ่าใจได้ในทรวง ล้วงให้เธอดู
ก็คงจะรู้ เสีย ที 
...หรือมีทางใดที่น้องรู้เด่น เพื่อเป็นสักขี 
จะเอาใจนี้วางเป็นเดิมพัน
...ไม่อยากสาบานต่อศาลใดใด ให้น่าอดสู
พระเจ้าจงรู้เบื้องบนสวรรค์
พี่ มีใจมั่นปอง ต่อน้องแล้วกัน
นานไปสวรรค์คงเมต ตา
...ถึงแม้คืนเปลี่ยนเวียนผันวันกลาย
ไม่หน่ายจืดจาง พี่คอยเฝ้านาง น้อง มา
...เหมือนมวลมาลีที่เฉาใบห่อ เฝ้ารออุษา
ส่องจากฟากฟ้าลงมาโลมดิน
...ถึงแม้คืนเปลี่ยนเวียนผันวันกลาย
ไม่หน่ายจืดจาง พี่คอยเฝ้านาง น้อง มา
...เหมือนมวลมาลีที่เฉาใบห่อ เฝ้ารออุษา
ส่องจากฟากฟ้าลงมาโลมดิน
-------------------------------------------------------
เพลง อันเป็นดวงใจ  :  ทูล ทองใจ
คำร้อง/ทำนอง :   ครูไพบูลย์ บุตรขัน 
http://www.sk-hospital.com/skmessage/files/_____________183.wma
ฉันมีเธอนั้นอันเป็นดวงใจ
โอ้เป็นความรักยิ่งใหญ่ เหมือนดาวรักใคร่ฟากฟ้า
เหมือนดังแสงสุริยา สาดแสงทองส่องพื้นภพหล้า ลงมาจูบทานตะวัน
เห็นใจเถิดฉันนั้นยังดำรง
เทิดทูนความรักสูงส่ง ซื่อตรงไม่เปลี่ยนแปรผัน
หวังใจได้คู่เคียงกัน ตราบนิรันดร์มั่นหมายสวาท เป็นทาสความรักเสมอ
อันเป็นดวงใจมานานแรมปี เป็นราชินีแห่งตัวฉันนี้คือเธอ
ทุก ๆ ค่ำเช้าเฝ้าละเมอ จิตใจพร่ำแต่เพ้อ ว่ารัก รักเธอรักเธอ รักจริง
ฉันรักเธอเหมือนดังดวงชีวา
ไม่เคยจะคิดเลยว่าสัญญาแล้วจะทอดทิ้ง
เห็นใจฉันบ้างยอดหญิง มอบหัวใจให้แล้วทุกสิ่ง
ด้วยความสัตย์จริงเสมอ........ แด่เธอผู้เป็นดวงใจ 
-----------------------------------------------------
1.คู่แท้ - เบิร์ด ธงไชย
http://www.freewebs.com/blueberrycpie/k_000666.wma
-----------------------------------
เสียงของหัวใจ - แอน ธิติมา
http://www.geocities.com/p1nkmd/Th_Songs1-update/Seang-kong-hui-jai_Ann-thitima.wma
-------------------------
 แพ้ใจ : ใหม่
  
http://www.geocities.com/p1nkmd/Th_Songs1-update/Phae-jai_Mai.wma
------------------------------
ขอเป็นคนของเธอ:โบ สุนิตา
http://www.geocities.com/p1nkmd/Th_Songs1-update/KhorPenKonKhongTur_BO.wma
---------------------------
รักเธอ: ฟอร์ด 
http://www.geocities.com/p1nkmd/Th_Songs1-update/RukTur_Ford.wma
-----------------------
ขอใครสักคน - Leo Put 
http://www.geocities.com/p1nkmd/Th_Songs1-update/Kai-suk-kon_Leo-Put.wma
-------------------------
เรื่องมหัศจรรย์ - Sofa
http://www.stjohn.ac.th/Department/technology/music_station/mahatsajan.wma
---------------------------
หนึ่งในไม่กี่คน-โบว์ สุนิตา
http://pirun.ku.ac.th/~b4654029/OnlyOne.wma
--------------------------
เพลง ภูเขาหรือทะเล - ศุ บุญเลี้ยง
http://www.geocities.com/vecchio717/Songs2/mt_or_sea.wma
-----------------------
4.เพลง เก็บไว้ให้เธอ - วรรธนา วีรยวรรธน   
  http://www.myfirstsight.com/music/wma-files/KebWaiHaiTer-Jeab.wma
---------------------------
1.The Cascades 
http://www.pantown.com/data/783/board9/37-20050618051533.wma
2. John Gummoe & The Cascades 
http://www.pantown.com/data/783/board9/37-20050618054324.wma
3.Johnny Tillotson 
http://www.pantown.com/data/783/board9/37-20050618055240.wma
4.Jason Donovan
http://www.pantown.com/data/783/board9/37-20050618060203.wma
5.Johnny Rivers 
http://www.pantown.com/data/783/board9/37-20050618060721.wma
6.Stephen Bishop 
http://www.pantown.com/data/783/board9/37-20050618061301.wma
7.Neil Sedaka 
http://www.pantown.com/data/783/board9/37-20050618061847.wma
8.Dan Fogelberg
http://www.pantown.com/data/783/board9/37-20050618062402.wma
---------------------
ชู้ทางใจ : วินัย พันธุรักษ์ 
คำร้อง/ทำนอง  : นริศ อารีย์
http://media.twango.com/m1/original/0063/8546871f98134135bc1069d98de716ee.wma
------------------
เพลง แล้วจะรู้ว่าพี่รัก : ทูล ทองใจ
คำร้อง/ทำนอง : ไพบูลย์ บุตรขัน 
http://www.sk-hospital.com/skmessage/files/___________________102.wma
-------------------
เพลง คนเบื้องหลัง เอ็ม-อรรถพล
mms://203.121.145.89/hitz/hitz40/380.wma
เพลง แพ้กลางคืน ปั๊บ
mms://203.121.145.89/hitz/hitz40/366.wma
เพลง ผู้ชายไม่เป็นเพื่อนกับผู้หญิง G-jr
http://www.filelodge.com/files/room29/799437/Song/05-10club.wma
เพลง Happy Birthday G-jr
mms://streaming.gmember.com/wma/01642401.wma
เพลง ฤดูที่แตกต่าง Ost. Seasons Change
http://www.icygang.com/jukebox/media_file/Nopporn-ngue_doo_tee_tak_tang.wma
เพลง เรื่องบังเอิญ Basher 
mms://203.121.145.89/hitz/hitz40/374.wma
เพลง จีบฉันที Black Vanila 
mms://music-station.sanook.com/home/contentlibrary/musicdb/wm_0/36653.wma
เพลง ตกหลุมรัก Am-Fine
mms://202.80.231.62/we/0044111671.wma
เพลง 14 อีกครั้ง เสก-โลโซ
mms://203.121.145.89/hitz/hitz40/361.wma
เพลง คำถามโง่ๆ บอย-โกสิยพงษ์
mms://203.121.145.89/hitz/hitz40/345.wma
เพลง หวงเพราะห่วง ไอซ์-ศรัณยู
mms://203.121.145.89/hitz/hitz40/317.wma
เพลง ใจเย็น  Pancake
mms://203.121.145.89/hitz/hitz40/316.wma
เพลง ไม่มีตัวตน - JNE 
mms://203.121.145.89/hitz/hitz40/333.wma
เพลง เพื่อนกับแฟนแทนกันไม่ได้  เล้าโลม
mms://203.121.145.89/hitz/hitz40/353.wma
เพลง เธอน่ารำคาญ แบล็ก-วานิลลา
mms://music-station.sanook.com/home/contentlibrary/musicdb/wm_0/36654.wma
เพลง ข้อความ แอม-ไฟล์
mms://music-station.sanook.com/home/contentlibrary/musicdb/wm_0/35737.wma
เพลง ผู้ชายไม่เป็นเพื่อนกับผู้หญิง G-jr
http://www.filelodge.com/files/room29/799437/Song/05-10club.wma 
เพลงเจ้าหญิงวุ่นวาย กะ เจ้าชายเย็นชา ค่ะ
เราชอบมากๆ ^^
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/01.wma 
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/02.wma
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/03.wma 
เคยฟังเป่า .. ฮิบฮอปเกาหลี ^^"
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/04.wma
เพลงช้าแสนซึ้ง ....
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/05.wma
อันนี้เหมือนเพลงที่ 1 จ้ะ แต่เป็นแบบเร็วๆ มาก โย่วๆ มันค่ะ
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/06.wma
อันนี้เพลงบรรเลง ไวโอลิน ฟังแร้วมันช่างเศ้าดั้ยจัย จิงๆ .... "-"
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/07.wma
เพลงบรรเลง เพราะอีก ออกแนว.. ฟังเองละกัน
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/08.wma
คล้ายๆ กะข้างเพลงม่ะกี้น่านแหละ
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/09.wma
อันนนี้ ก้อดี ค่า คล้ายข้างบนอีก
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/10.wma
อันนี้ น่ารัก ดี
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/11.wma
ส่วนเพลงนี้เป็นตอนที่เปิดตอนหลังจากมีโฆษณาอ่ะ
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/12.wma
เพลงนี้ก้อ ดีอีกค่ะ
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/13.wma
เพลงนี้ฟังแร้ว อยากเต้นรำ 55+ เป็นบรรเลง ไวโอลิน
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/14.wma
คล้ายๆ กันไป
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/15.wma
ฟังแร้วอยากเต้น จังหวะสนุกดี ^^
http://pingbook.com/stream2/music/ost/OST%20-%20Goong/16.wma
การลงโค้ดเพลงที่เป็นนามสกุล .WMA 

http://anna.blog.mthai.com/2006/12/27/public-1  เอามาจากลิงค์นี้				
comments powered by Disqus
  • แก้วประภัสสร

    21 เมษายน 2554 15:59 น. - comment id 74711

    ทุกข์เราท่านกระติ๋วเพียวนิ้วก้อย
    มากกว่าร้อยทุกข์กว่าที่ตาเห็น
    ทุกข์ทั้งภัยธรรมชาติสาดกระเด็น
    น้ำท่วมอยู่มิเว้นทั้งเป็นตาย
    
    ทั้งอีสานเหนือใต้หรือออกตก
    ต้องระหกระเหินเกินเสียหาย
    ไร้ข้าวปลาอาหารพาลวอดวาย
    เดินย่างกรายพึ่งพาอาศัยวัด
    
    นอนบนเสื่อไร้ฟูกมาผูกเห่
    บ้างร่อนเร่ฟั่นเพือนเลือนเป๋ปัด
    นั่งจ่อมจมอมทุกข์จุกพรากพลัด
    แสนสาหัสกว่าเราเศร้าอาดูร
    
    ข้าวในนาต้องล่มจมกับน้ำ
    ทุกข์ยิ่งย้ำยอกจิตจนติดศูนย์
    กว่าจะฟื้นตั้งหลักปักจำรูญ
    ก็ต้องสูญเสียทรัพย์กันเงินตรา
    
    ทุกข์นั้นเกิดทุกผู้ทุกหมู่เหล่า
    ทุกข์ที่เจ้าที่นายไม่เลือกหน้า
    ทุกทุกสิ่งอิงทุกข์ลุกขึ้นมา
    เถิดประชาหยุดทุกข์ร่วมสุขกัน
  • ครูกระดาษทราย

    27 พฤษภาคม 2552 17:30 น. - comment id 105201

    เวลาครูหลายๆ พูดถึงนักเรียน
    ใช้คำแทนนักเรียนว่า "มันอย่างนั้น มันอย่างนี้" รู้สึกไม่ดีนัก
    ถ้านักเรียน เรียกครูว่า "เขา" ยังโดนดุ
    วันไหนเกิดเรียกคำเดียวกับแฟนคุณดีน ล่ะ???????
  • ฉางน้อย

    27 พฤษภาคม 2552 18:32 น. - comment id 105202

    17.gif17.gif46.gif46.gif
  • เฌอมาลย์

    28 พฤษภาคม 2552 12:37 น. - comment id 105207

    อีนี่ แขกเพิ่งมาจากบังคลาเทศนะนายจ๋า
    
    ผิดพลาดไปบ้างก็ขออำภัย 20.gif20.gif20.gif
  • แก้วประภัสสร

    28 พฤษภาคม 2552 13:37 น. - comment id 105208

    136.gifคุณครูกระดาษทราย
    น้องคนนี้เขาน่ารักนะคะน้องทราย แต่เขายังไม่เข้าใจภาษาไทยสักเท่าไหร่ค่ะ
    แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว เราคนไทย ต้องพยายามสอนให้เขาเข้าใจ คำไหนที่เหมาะหรือไม่เหมาะ ค่อยๆให้เขาเรียนรู้
    แขกจะชอบพูดคำแปลกๆกับเราบ่อย เพราะว่าโดนเพิ่นแกล้ง สอนคำไทยผิดๆให้
    คิดถึงเสมอจ้าคนเก่ง
    
    36.gif36.gif11.gif
  • แก้วประภัสสร

    28 พฤษภาคม 2552 13:42 น. - comment id 105210

    236.gifฉางน้อย
    แหนะ ทำตาโต ยิ้มหวาน หลอกให้เรารัก
    แล้วก็ตีตัวออกห่าง อกหักรัดคุดตุ๊ดเมิน แงๆๆ อ้าวไม่ใช่ อิอิ
    "ไปทะเลกันดีกว่า ปล่อยใจให้สุขสันต์"
    ร้องเพลงให้น้องฟังครับผม
      
    
    36.gif36.gif11.gif
  • แก้วประภัสสร

    28 พฤษภาคม 2552 13:50 น. - comment id 105211

    3.36.gifคุณเฌอมาลย์
    "ไอ้ดีนมันไปอยู่กับลูกมัน อีกนานมันจะมา"
    และแล้ว เมื่อวานเจ้ ทนไม่ไหว ก็เลยเรียกเขามานั่ง อธิบายคำว่า "มัน" "ไอ้"
    ดูเหมือนเธอจะเข้าใจ สุดท้าย เธอก็เลยเข้าใจว่า จับ มัน  ไอ้ คุณ มารวมอยู่ในหมวดหมู่เดียวกันเลย 55555
    จบแระ รายงานจากแบ่มแบ้ม
      
    
    64.gif65.gif36.gif36.gif11.gif
  • เพียงพลิ้ว

    28 พฤษภาคม 2552 14:01 น. - comment id 105212

    คนน่ารักทำอะไรก็น่ารักไปหมดนะคะ อิอิ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • โคลอน

    29 พฤษภาคม 2552 08:36 น. - comment id 105219

    20.gif36.gif
  • เอื้องคำ

    29 พฤษภาคม 2552 10:12 น. - comment id 105224

    7.gif23.gif20.gif
    555+
    6.gif6.gif6.gif
  • แก้วประภัสสร

    31 พฤษภาคม 2552 21:03 น. - comment id 105241

    7 36.gif คุณเพียงพลิ้ว
    สวัสดีก่อนนอนค่ะคุณกานต์ 
    อิอิ แบมเขียนไปเรื่อยๆค่ะ 
    นึกอะไรได้ก็เขียนเล่นๆ
    ขอบคุณคุณกานต์ค่ะ หลับฝันดีนะคะ
    36.gif36.gif11.gif16.gif
  • แก้วประภัสสร

    31 พฤษภาคม 2552 21:04 น. - comment id 105243

    8 36.gifคุณโคลอน
    ขอบคุณป้าโคลอนค่ะ ที่แวะมาอ่านอะไรบ๊องสๆ ของแบม อิอิ
    หลับฝันดีนะคะ
    36.gif36.gif11.gif16.gif
  • แก้วประภัสสร

    31 พฤษภาคม 2552 21:05 น. - comment id 105244

    936.gif คุณเอื้องคำ
    ขอบคุณที่แวะมาส่งยิ้มหล่อๆให้จ้า อิอิ
    36.gif36.gif16.gif
  • แจ้นเอง

    6 มิถุนายน 2552 13:44 น. - comment id 105304

    36.gif
    
    อ้าวจบซะแล้ว
    
    สมกะเป็นเรื่องสั้นจริงๆ
    
    36.gif31.gif
  • แก้วประภัสสร

    16 กันยายน 2553 15:55 น. - comment id 118336

    ปลายต้นสักปักต้นส่ายป้ายต้องสึก
    จำใจนึกจึกใจนำจำใจหนอ
    ปลีกล้วยแยกแปลกกล้วยยีปีก่อนยอ
    คล้ายบ่นบอคอบ่นบี้คลี่บ่อนบาย
    
    ต้นผักกาดตาดผักต้นตนผักต่อ
    ผึ้งบินรอผอบินร่อนผ่อนบินร่าย
    ผีเสื้อเล่นเผ่นเสื้อลี้ผีสุดลาย
    กางปีกส่ายก่ายปีกสลับกลับไปกิน
    
    เห็นดอกไม้ให้ดอกเหม็นเห็นผึ้งหลีก
    แอบไปปลีกอีกไปแอบแปลบปวดสิ้น
    ดอกอะไรไรอะดอกยอกดวงจินต์
    สาต้องดิ้นสิ้นต้องดาพาตื่นตัว
    
    ลืมทุกคำลำทุกคู่อยู่หลัดหลัด
    เราเห็นชัดรัดเห็นช้อยคล้อยสลัว
    เมื่อต้นดีมีต้นหมายคล้ายเกรงกลัว
    จำต้องชั่วจั่วต้องจำทำนองตาม
    
    ทำเยี่ยงโจรโทนเยี่ยงจำคำบอกเล่า
    ย่องตัวเบาเยาว์ตัวบ๊องส์ต้องถูกหยาม
    เขียนกลบทขดกลเบียดละเมียดงาม
    ไม่เกรงขามมามเกรงขลักกลักกำกวม
    
    คุณว่าไหมใครว่าคุณการุณเถิด
    ปล่อยไปเกิดเปิดไปกล่อยพลอยถูกสวม
    เขาข่มขืนขื่นข่มเขาเอาไปรวม
    เตะจนน่วมต่วมจนนิ่มแม่อิ่มเอม
    
    เขียนเล่นลองของเล่นลิ้นไม่สิ้นซาก
    ให้หายอยากหากให้เห็นเป็นเกษม
    ก่อนจะบ้ากาจะบ้วนป่วนปรีเปรม
    หมึกมันเข้มเม้มมันขั้วกลัวจริงเรา
    
    หยุดแล้วน้องย่องแล้วหยุดมุดหน้าวิ่ง
    อันที่จริงอิงที่จำขำขันเขา
    เห็นเขียนเล่นเห็นเขียนหลอกหยอกเบาเบา
    กราบแล้วหนอกอแล้วเน่าเราบ๊ายบาย
  • แก้วประภัสสร

    23 สิงหาคม 2553 12:21 น. - comment id 118746

    รักที่เห็นเป็นเช่นดวงตะวัน
    แต่งแต้มฝันสาดแสงแห่งความหวัง
    เป็นประกายคลายทุกช์ปลุกพลัง
    จากฟากฝั่งแสนสวยด้วยอาทร
    
    รักไม่ใช่ทุกสิ่งของทั้งหมด
    แต่เป็นน้ำหนึ่งหยดจากสิงขร
    คอยรินรดจากใจไม่ขาดตอน
    ค่อยเซาะกร่อนความดีนี้ให้กัน
    
    รักคือหวังอนาคตอันงดงงาม
    เพราะเดินตามครรลองประคองฝัน
    ด้วยหัวใจแกร่งกล้าร่วมฝ่าฟัน
    ดีร้ายนั้นขวากหนามจะข้ามไป
    
    รักคือลมหายใจที่มีอยู่
    ทุกอนูเนื้อเยื่อเจือจานไว้
    คือมั่นคงมิเปลี่ยนและแปรไป
    ประสานใจไมตรีมิเดียวดาย
    
    รักคือรักรักษาสัญญามั่น
    ให้นิรันดร์ตราบดินสิ้นสลาย
    รักในสิทธิ์ศรัทธาค่ามากมาย
    รักอุ่นกายแนบชิดสนิทเนา
  • แก้วประภัสสร

    24 สิงหาคม 2553 11:53 น. - comment id 118801

    หากเห็นฉันนั้นเป็นเช่นคนอื่น
    โปรดอย่ายื่นไมตรีนี้ให้ฉัน
    ปล่อยให้เหงาเศร้าใจไปวันวัน
    ดีกว่ามาฆ่ากันด้วยเฉยชา
    
    --------------------
    โปรดเก็บมีดกรีดใจไว้ในฝัก
    อย่าเผลอชักออกไปให้ขื่นขม
    หลากร้อยหญิงนั่งเบียดเพราะเฉียดคม
    ต้องระทมน้ำนองจากสองตา
    
    คมปากากาพาซื่อเพราะถือสัตย์
    คมวาจาเร่งรัดเพราะเดียงสา
    อันคมมีดกรีดเฉือนเปื้อนกายา
    คมที่ว่าเพระปร่าในอารมณ์
    
    ------------
    
    หากรักใครหวังเพียงจะได้สิทธิ์
    เพื่อลิขิตบังคับและขู่เข็ญ
    คงจะได้แต่กายตายทั้งเป็น
    ไม่ต่างเช่นซากไม้ใกล้ผุพัง
    
    ------------------------
    
    ใช่ชีวิตขาดชายจะตายรุ่ง
    เชื่อเถอะพรุ่ง(นี้)ยังงามเดินตามฝัน
    คงเหมือนเดิมเพิ่มขึ้นทุกคืนวัน
    แต่งแต่มฝันด้วยตนบนความจริง
    
    -------------------
    
    ตั้งเป้าหมายอะไรอย่าให้โด่ง
    เหมือนไก่โก่งคอขันประชันแข่ง
    เมื่อเวลานานไปไร้เรี่ยวแรง
    ก็ชัดแจ้งพลังหมดลดน้อยลง
    
    จะทำการงานใดควรวิเคราะห์
    แยกจำเพาะเหมาะการชาญประสงค์
    ทำสิ่งเดียวเชี่ยวเหตุเจตจำนงค์
    เป็นหลักตรงคงมั่นไม่สั่นคลอน
    
    ----------------------------
  • แก้วประภัสสร

    24 สิงหาคม 2553 12:25 น. - comment id 118803

    เก็บหัวใจคนดีไว้ที่รัก
    อย่าหาญหักหวังครองทั้งสองหญิง
    เลือกคนเดียวเกี่ยวใจไม่ประวิง
    หากหวังอิงเคียงสองต้องระทม
    
    อันหญิงชายใกล้กันมักหวั่นจิต
    บ้างเผลอผิดพลั้งไปให้ขื่นขม
    เพราะความรักแจกจ่ายคล้ายลมลม
    ผ่านผสมกิเลสเป็นเหตุพา
    
    ก่อนมีใจให้กันเช่นฉันท์เพื่อน
    นานวันเลื่อนเลือนจิตปริศนา
    ลืมผิดถูกชั่วดีแค่พริบตา
    ครอบมายาครองใจให้มืดมน
    
    ลืมทิ้งเมียมิ้งลูกลืมทุกอย่าง
    ปล่อยเรือนร้างลาลับด้วยสับสน
    หากหญิงชายหมายมั่นนั้นสองคน
    จำหนึ่งคนตัดลาอย่าพะวง
    
    ก่อนจะทำการใดให้ยั้งคิด
    อย่าพลั้งผิดเผลอใจให้ลุ่มหลง
    เมื่อมีรักคู่กันควรมั่นคง
    แหละซื่อตรงนำทางระหว่างกัน
    
    เก็บหัวใจคนดีเถิดที่รัก
    ให้ตระหนักเวลาอย่าแปรผัน
    มอบสิ่งดีสดชื่นทุกคืนวัน
    เติมเชื้อรักปลอบขวัญนิรันดร
  • แก้วประภัสสร

    24 สิงหาคม 2553 14:20 น. - comment id 118805

    ภาพของชายวัยกลางคนถนนใหญ่
    สวมชุดไสตน์โบฮีเมียนเลียนแบบนั้น
    เป็นขอทานคุ้ยขยะไปวันวัน
    กลับพลิกผันเป็นนายแบบได้แยบยล
    
    เพราะตากล้องสมัครเล่นเห็นมาดเท่ห์
    เขาเดินเตร่ขอทานข้างถนน
    ขอเศษข้าวเอามาปะทังตน
    หยิบคาบก้นบุหรี่มิสนใคร
    
    ดูผมเผ้ารุงรังเหมือนรังนก
    หนวดเครารกคิ้วย่นบนหน้าใส
    ด้วยแมวมองมองเห็นเป็นถูกใจ
    เปลี่ยนขอทานนั้นไซร้ให้ได้ดี
    
    ก่อนหน้านี้ขอทานมีบ้านช่อง
    แต่เมียรักลูกสองไม่ต้องหนี
    เกิดขันสนเงินตรายากพาที
    จำใจต้องหาที่ที่มีเงิน
    
    ด้วยลูกสองต้องจรเหมือนหมอนหมิ่น
    ต้องย้ายถิ่นวนวกระหกระเหิน
    เมื่อเงินหมดอดข้าวปวดร้าวเกิน
    ต้องจำเดินอยู่กับที่มิกลับไป
    
    เมื่อสังคมเสนอข่าวเรื่องราวนี้
    หนุ่มขอทานเซ็กซี่มาดเก๋ไก๋
    ร่วมบริจาคเงินกันแบ่งปันไป
    พลิกชีวิตฟื้นใหม่ให้ครอบครัว
    
    เมื่อกลับบ้านหอห้องเขาต้องเศร้า
    อุบัติเหตุพรากเอาเงาสลัว
    พ่อและเมียลาไกลไปจากตัว
    ทิ้งครอบครัวขาดคู่อยู่เคียงกัน
    
    แต่เหมือนฟ้าลิขิตและกำหนด
    ให้พลิกผันเปลี่ยนบทชะตานั้น
    เป็นนายแบบถูกใจใครถ้วนกัน
    เก็บเรื่องราวขงตน"คนขอทาน"
  • แก้วประภัสสร

    24 สิงหาคม 2553 21:17 น. - comment id 118829

    ในห้วงของความรู้สึก
    ลึกลึกคือความห่วงหา
    อบอุ่นเมื่อมองจ้องตา
    ในช่วงเวลารักกัน
     
    
    สนิทชิดแนบแอบเพ้อ
    ละเมอปลุกปลอบใฝ่ฝัน
    รู้สึกดีดีให้กัน
    สิ่งนั้นคือความจริงใจ
    
     
    อยากฟังเรื่องราวทั้งหมด
    เป็นสื่อแทนความมั่นไว้
    แทนรักและความห่วงใย
    แทนใจทั้งหมดที่มี
    
    
    อุ่นรักในความเป็นอยู่
    ด้วยสองรับรู้สิ่งนี้
    รอยยิ้มให้กันด้วยดี
    เป็นสื่อแทนที่ตรงกัน
    
    
    เวลาอาจเคลื่อนตามกาล
    สองเราอย่าผ่านแปรผัน
    จงรักนานเนานิรันดร์
    สานฝันถักรักไม่คลาย
  • แก้วประภัสสร

    24 สิงหาคม 2553 21:21 น. - comment id 118830

    เพราะความจริงคือจริงไม่อิงเท็จ
    สูตรสำเร็จเรื่องงานผ่านฉลุย
    ไม่โอ้อวดนิ้วชี้หรือขี้คุย
    ต้องเดินลุยทุกที่ที่มีงาน
     
    ต้องกล้าเสียกล้าได้ในบางครั้ง
    เพื่อหยุดยั้งเหตุร้ายหลายสถาน
    ไม่จู้จี้ขี้บ่นคนรำคาญ
    ก่อนใช้งานควรคิดพิจารณา
     
    คำใดชอบไม่ชอบให้ตอบถ้อย
    เรื่องเล็กน้อยปล่อยไปไม่ถือสา
    จะเลี้ยงคนเลี้ยงใจใช้เวลา
    อย่าข่มเขาโคขืนหญ้าพากลืนกิน
     
    จะชื่นชมผู้ใดใช้ใจชั่ง
    ต้องระวังตำหนิคนติฉิน
    หญิงกับชายนายจ้างบ้างเคยชิน
    อาจถูกหมิ่นลักลอบเพราะชอบพอ 
     
    ยกตัวอย่างเลขานั่งหน้าห้อง
    วันหนึ่งท้องร้องไห้ไม่มีพ่อ
    เหตุเพราะคำสรรเสริญนายเยินยอ
    เขาพะนอจึงเพลินเกินห้ามใจ
     
    ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวสลัวหม่น
    ยอมทุกข์ทนจมปลักนายผลักใส
    ยื่นซองขาวใส่มือคือออกไป
    แลกความลับเก็บไว้มิให้เปรย
     
    อนาคตหมดค่าเลือนพร่าหยุด
    หากสมมุติเรื่องลูกถูกเปิดเผย
    จึงเขียนไว้ให้ตรองลองเปรียบเปรย
    ทำเกินเลยหน้าที่นี้ไม่ควร
     
    เมื่อได้ยินคนนี้มียักยอก
    อาจถูกหลอกอย่าไล่ให้ไต่สวน
    หาหลักฐานค้านขัดจัดสำนวน
    ตามกระบวนกฎหมายขยายความ
     
    หากคนใดทำดีมีผลงาน
    ด้วยเชี่ยวชาญขยันเก่งอย่าเกรงขาม
    ให้ประเมินผลลัพธ์กับติดตาม
    เลื่อนขั้นงามยื่นให้แลกใจมา
     
    เพราะความจริงคือจริงอย่าอิงเท็จ
    สูตรสำเร็จยืนยาวงานก้าวหน้า
    ทั้งนายจ้างลูกน้องต้องศรัทธา
    เหมือนสินค้าค่าล้นผลของงาน
  • แก้วประภัสสร

    25 สิงหาคม 2553 12:22 น. - comment id 118841

    วางใจในขลุ่ยนั้น.....บรรเลง
    มือจับประสานเพลง.....หลั่นล้า
    เสียงขลุ่ยเยือกวังเวง....โอแม่...งามเฮย
    หลงเสน่ห์เองอ้า.........แว่วครื้มอารมณ์ฯ 
    
    โอละพ่อหน่อเนื้อ.....กมล
    โอละแม่ขลุ่ยคน.......เปล่งไว้
    โอละพี่วังวน............แว่วแว่ว นาเฮย
    โอละน้องแต่งไซร้.....ซาบซึ้งตรึงทรวงฯ
    
    รำเพยเชยชื่นชู้.....ลอยลม
    จำกลิ่นประทุมพรม....พร่างน้อง
    หอมรินระทวยทม......หลงติด ใจนา
    ลืมหมดทุกสิ่งข้อง......ไป่สิ้นเสน่หาฯ
    
    
    ถอนพิษรักหักแล้ว....ยังคา
    พิศวาทไป่เลือนลา....จ่อมแค้น
    นองน้ำพรากจากตา......ขมขื่น จริงนอ
    อกระทมอีแป้น... .......แน่นล้นกมลทรวงฯ
    
    
    กว่าจะถอนรากรักที่ปักแน่น
    เจือรอยแค้นฝังผลึกลึกขื่นขม
    น้ำตาตกอกช้ำจำระทม
    ต้องนอนซมสะอื้นกล้ำกลืนกัน
    
    --------------------
  • แก้วประภัสสร

    12 กันยายน 2553 15:11 น. - comment id 119099

    ห่อนผูกซึ่งไมตรี           ร้อยความดีด้วยรักกัน
    เพื่อนบ้านสมานฉันท์      ขุ่นเคืองกันให้คลายคลา
    
    จับมือทั้งหญิงชาย             จิตคิดหมายสร้างหรรษา
    ปี่พาทย์บรรเลงมา             ทั้งปะทัดปะทุดัง
    
    เสียงพลุพลันกึกก้อง            ลั่นทั่วท้องพ้องความหวัง
    โชติช่วงดุจพลัง                   ระยิบยับวับแวววาม
    
    แม้แสงพลุแตกดับ                 แลเลือนลับจากสยาม
    เสียงแผ่วแว่วยังงาม              ทั่วเขตคามนามลือไทย
    
    ขอเพียงมีสำนึก                        ร่วมผนึกร่วมขานไข
    ร่วมรักร้อยดวงใจ                    อย่าได้แยกแตกเหล่ากัน
  • แก้วประภัสสร

    18 ตุลาคม 2553 14:12 น. - comment id 119287

    วันที่เดินทางสร้างฝาย    ฉันเหมือนคล้ายจะเป็นไข้
    กินยาน้ำตามเร็วไว    แล้วเดินทางไปพร้อมกัน
    
    เขาคอยเฝ้ามองด้วยห่วง  เหมือนบ่วงผูกมัดใจฉัน
    หวิวไหวร่างกายสะพรั่น    เนื้อตัวหนาวสั่นรุมรุม
    
    เขาเอ่ยถามว่ากลัวไหม         หากวันไปพบมรสุม
    ฉันแอบนั่งยิ้มกริ้มกรุ่ม       หากมีคนคุมคือเธอ
    
    ไม่กลัวไม่เกรงอันใด          มั่นใจในคุณเสมอ
    ผ่านวันเดือนปีที่เจอ          สม่ำเสมอมิคลาย
    
    เมื่อถึงวันสร้างบ้านดิน      ได้ยินแยกกลุ่มสลาย
    ต้องหมุนสับเปลี่ยนหญิงชาย  เราคล้ายต้องแยกจากกัน
    
    ฉันแอบมองไปที่เขา          ตาเราปะทะจนหวั่น
    เขาแอบส่งซิกให้ฉัน         มายืนข้างกันเร็วไว
    
    แต่ฉันก็เป็นห่วงเพื่อน      ใจเตือนว่าทำไม่ได้
    เพื่อนยืนตากแดดมากมาย  ร่ายกายก็ร้อนเหมือนกัน
    
    เมื่อถึงคราเวียนสลับ      เขากลับเปลี่ยนร้อนแทนฉัน                        เห็นมั้ยเราไม่ต่างกัน
    สำคัญคือความเข้าใจ
    
    เมื่องานสำเร็จเสร็จสิ้น    เราต่างได้ยินใช่ไหม
    จังหวะดนตรีที่ใจ            บอกใช่นี่แหละคือรัก
  • แก้วประภัสสร

    4 ตุลาคม 2553 16:55 น. - comment id 119293

    URL http://school.obec.go.th/somrongneur/song/k0012.wma 
    
    ^ ^ เพลงต้นไม้ของพ่อ 
     ขนุนอยู่ในถุงเดียวกันครับ
     อาจจะเห็นต้นที่สูงกว่าต้นอื่น
     http://www.icphysics.com/forums/viewtopic.php?t=1220  เพลงจากเปนี้ครับ
  • แม่แก้วแบม

    4 ตุลาคม 2553 12:35 น. - comment id 119311

    แล้วก้มลงกราบพิ้น    อธิษฐาน
    วอนเทพไท้บันดาล    ปกป้อง
    ผองชนหลากสถาน   ไหลหลั่ง   ร่วมนอ
    สานสืบร่วมพี่น้อง      ก่อสร้างฝายชลฯ
    
    ให้ลูกสมเสร็จสิ้น       ดั่งใจ
    แม้อุปสรรคใดใด       อย่ากล้ำ
    ศรัทธายึดโยงใย         ลุล่วง  
    เพื่อปกปักรักษ์น้ำ    เก็บไว้รุ่นชนฯ 
    
    โปรดเปิดทางส่องฟ้า      สว่างจินต์
  • แก้วประภัสสร

    4 ตุลาคม 2553 15:56 น. - comment id 119315

    ม่านหมอกเมฆผันผิน         ทั่วหล้า
    ลอยล่องเลื่อนด้วยยิน-       ดีร่วม 
    ช่วยเปิดทางสว่างจ้า          อย่าได้มืดมนฯ
  • แก้วประภัสสร

    6 ตุลาคม 2553 14:49 น. - comment id 119349

    ขอน้อมเกล้าอัญเชิญพระกระแส
    รับสั่งแก่ตุลาการศาลกฏหมาย
    ให้ทำงานอยุติธรรมอย่ากร้ำกราย
    ตามถวายคำสัตย์ปฏิญาณตน
    
    อย่าทรยศต่อชาติและบ้านเมือง
    เรื่องทุกเรื่องทำคดีชี้เหตุชี้ผล
    คำตัดสินเหมือนกันทุกชั้นชน
    อำนาจตนที่ทำต้องคำนึง
    
    พิพากษาว่าความไปตามจริง
    หลักฐานอิงไต่สวนให้ถ้วนถึง
    ถูกหรือผิดเป็นกลางนำทางตรึง
    ให้นึกถึงหน้าที่ยุติธรรม
  • แก้วประภัสสร

    6 ตุลาคม 2553 16:30 น. - comment id 119350

    เฉลิมชนม์เกียรติก้อง  พระภูบาล
    ดลสุขเกษมศานต์        จรัสหล้า
    พระยศยิ่งชัชวาลย์   แซ่ซร้อง พิพัฒน์เฮย 
    พระบารมีเกริกฟ้า      พสกน้อมถวายพรฯ
    
    
    -------------------------
  • แก้วประภัสสร

    6 ตุลาคม 2553 16:47 น. - comment id 119351

    วสันต์ผันผ่านคล้อย      มาคลุม
    มืดมิดคล้ายมรสุม          สะบัดเพี้ยน
    กระแสหลั่งโถมรุม       ล้นเอ่อ   จริงนา
    ตอกยิ่งตอกดั่งเสิ้ยน     ทิ่มเนื้อแปลบจินต์ฯ
    
    ชาวนาต้องเกี่ยวข้าว     ก่อนตาย
    พืชไร่นาเสียหาย         หมดสิ้น
    หมด
  • แก้วประภัสสร

    26 ตุลาคม 2553 22:09 น. - comment id 119425

    P2283429xxx.jpg?t=1288105720
  • แก้วประภัสสร

    18 ตุลาคม 2553 16:09 น. - comment id 119450

    เรียนนายกรัฐมนตรีที่เคารพ
    หนูจะครบหลักห้าไม่ช้าหนอ
    แต่เหมือนเกิดมีกรรมเกินข้ำรอ
    กำพร้าพ่อขาดคู่อยู่เคียงกัน
    
    ต้องระหกระเหินเดินหางาน
    ตัดสินใจจากบ้านเพื่อสานฝัน
    หวังเรียนจบครบเทอมเจิมเร็ววัน
    ส่งเงินนั้นเลี้ยงแม่ที่แก่ชรา
    
    หนูยอมอดยอมทนเพราะจนยาก
    สู้ลำบากเพื่อท้องด้วยสองขา
    แม้บางครั้งหกล้มจมโคลนมา
    ต้องลุกยืนไม่ช้าเพื่อฝ่าฟัน
    
    อนาคตขึ้นกับเงินกี่หมื่นบาท
    หากประมาทอาจล้มจมความฝัน
    ต้องสิ้นไร้ไม้ตอกยอกชีวัน
    สำหรับฉันเปลี่ยนไปนั้นไม่กลัว
    
    แต่ห่วงแม่แก่เฒ่าเฝ้ารออยู่
    น่าอดสูโหดร้ายคล้ายเงาสลัว
    นึกนึกแล้วใจแป้วแก้วตามัว
    เหลือแต่ตัวหัวใจไว้นำทาง
    
    เรียนนายกรัฐมนตรีที่เคารพ
    หากว่าครบวาระช่วยสะสาง
    อย่าให้หนูอยู่คี่ที่ปลายทาง
    ช่วยหาทางก่อนแก่แย่ให้ที
    
    เห็นว่าท่านประกันมากพืชผล
    ทุกเกษตรตำบลบนทุกที่
    ขอให้เปรียบตัวหนูเป็นปุ๋ยดี
    รับประกันให้ทีมีออยอ
  • แก้วประภัสสร

    25 ตุลาคม 2553 16:07 น. - comment id 119593

    จะหาใดสุขเล่าเท่านกเถื่อน
    
    แม้ตัวเปื้อนฝุ่นโคลนกระโจนผา
    
    ยังสวยงามท่ามไพรในสายตา
    
    ต่างตัวข้าไร้สิทธิ์อิสระจร
    
     
    
    ช่างเหงาเหงอยพลอยโศกบนโลกเงียบ
    
    ร่างเย็นเฉียบกายเป็นเช่นสิงขร
    
    แตกต่างกับนกเถื่อนเพื่อนสัญจร
    
    ไร้ที่นอนแต่สุขไม่ทุกข์ตรม
  • แก้วประภัสสร

    26 ตุลาคม 2553 20:44 น. - comment id 119628

    เสียงพระธรรมลึกซึ้ง       ตรึงกมล
    ฆ้องลั่นกังวานดล           จิตแผ้ว
    ผ่านโสตประสาทยล        ทบอก นี่เเฮย
    พลันปลอดโปร่งโล่งแล้ว    เจิดแจ้งเห็นจริงฯ
    
    ทึ่งในรสกลิ่นน้อม          ธรรมมา
    องค์พระพุทธศาสนา     วัตรแท้
    ดึงหลักปักนำพา           พ้นหลุด ทุกข์นอ
    เห็นประจักษ์หลักแก้      ผ่านพ้นทางตันฯ
    
    โลกมนุษย์แปดเปื้อน      ปุ่มปม
    บางสุขบ้างโศกตรม       หม่นไหม้
    กิเลสคลอบคลุมจม         สติเลื่อน ลอยนา
    ลาภทรัพย์แทรกเสื่อมไขว้   ไขว่คว้าฤาหลงฯ
    
    สรรเสริญผันผ่านพ้น          เร็ววัน
    สรรพสิ่งย่อมแปรผัน           สลับได้
    เสริมส่งสร้างผลักดัน          รวมหนึ่ง ใจเฮย
    มีสติทุกข์ใกล้                    ยับยั้งโดยพลันฯ
    
    สวดมนต์ดับแผดร้อน           ผ่อนคลาย
    กาลผ่านวันเห็นหาย            ขื่นคล้อย
    วับพรากจากจอดวาย         สงบว่าง จิตนา
    เสียงเปล่งสวดคำร้อย        ผ่อนยั้งพลังผลาญฯ
    
    ทึ่งถ่องแท้รสล้ำ              ธรรมมา
    พ้นหลุดทุกข์ทุกครา       ชัดแจ้ง
    พันปีผ่านพ้นมา             หาเสื่อม คลายเอย
    คนเด่นไม่แห้งแล้ง         หากซึ้งถึงธรรมฯ
    
    แก้วประภัสสร
    15/10/2553
  • แก้วประภัสสร

    29 ตุลาคม 2553 11:24 น. - comment id 119685

    เพราะผิดพลาดคลาดเคลื่อนคืนเดือนดับ
    คืนลาลับบดเบียดเหมือนเดียจฉันท์
    เหมือนหน่ายแหนงแสร้งรักแล้วหักพลัน
    หักใจนั้นให้เจ็บหนาวเหน็บกาย
    
    หนาวสะพรั่นสั่นเทาเหมือนเจ้าเลื่อน
    เหมือนเจ้าเลือนอื่นแทรกให้แยกหาย
    ให้แยกทางย้อนกลับดินทับตาย
    ดินกลบคล้ายปิดซ่อนแอบซ้อนเงา
    
    
    แอบเย้ายวนชวนปลิ้มแล้วลืมใกล้
    แล้วไฉนไม่สนว่าคนเหงา
    ว่ามีหนึ่งนั่งจ้องจับจองเรา
    จับจองเขาเคยชิดเหมือนติดลม
    
    เหมือนเคยเดินเพลินเล่นด้วยเป็นสุข
    ด้วยไร้ทุกข์ดั่งทองมากองถม
    มากองใจให้ชื่นระรื่นลม
    ระขื่นขมจรจากมาพรากกัน
    
    มาพรากเราพรากเขาให้เศร้าโศก
    ให้ทั้งโลกร่วมทางแล้วห่างฉันท์
    แล้วลารักร้างใจให้จาบัลย์
    ให้มิ่งขวัญล้มครืนแล้วลื่นตาย
    
    แล้วล้มลุกคลุกคลานนับนานเนิ่น
    นับนานเกินแผกผันฝันสลาย
    ฝันข้ามคืนขื่นขมตรอมตรมกาย
    ตรอมวางวายผวาเพียงคว้าลม
  • แก้วประภัสสร

    30 ตุลาคม 2553 12:11 น. - comment id 119717

    แสงพร่างพราวพร่างแสงแห่งความหวัง
    ทอข้ามฝั่งข้ามทอพอเหลือบเห็น
    ทางข้างหน้าข้างทางระหว่างเป็น
    หวังหมายเช่นหมายหวังได้ดั่งใจ
    
    ยื่นมือหมายมือยื่นสุดฝืนสั่น
    หนาวอกหวั่นอกหนาวปวดร้าวไฉน
    ผ่านทางเปลี่ยนทางผ่านสะท้านใจ
    เนื้อนอกในนอกเนื้อหาเชื่อกัน
  • แก้วประภัสสร

    1 พฤศจิกายน 2553 14:13 น. - comment id 119779

    แม่น้ำเย็นฉ่ำใจ  ทะเลให้คลายเรื่องร้อน
    สายลมพัดอ่อนอ่อน      เหมือนอาทรกันทุกวัน
     
    ห่อนผูกซึ่งไมตรี           ร้อยความดีด้วยรักกัน
    เพื่อนบ้านสมานฉันท์      ขุ่นเคืองกันให้คลายคลา
    
    จับมือทั้งหญิงชาย             จิตคิดหมายสร้างหรรษา
    ปี่พาทย์บรรเลงมา             ทั้งปะทัดปะทุดัง
    
    เสียงพลุพลันกึกก้อง            ลั่นทั่วท้องพ้องความหวัง
    โชติช่วงดุจพลัง                   ระยิบยับวับแวววาม
    
    แม้แสงพลุแตกดับ                 แลเลือนลับจากสยาม
    เสียงแผ่วแว่วยังงาม              ทั่วเขตคามนามลือไทย
    
    ขอเพียงมีสำนึก                        ร่วมผนึกร่วมขานไข
    ร่วมรักร้อยดวงใจ                    อย่าได้แยกแตกเหล่ากัน
  • แก้วประภัสสร

    1 พฤศจิกายน 2553 14:18 น. - comment id 119780

    ร้อยทุกข์ทมระบมเพราะอมทุกข์
    ร้าวจนจุกอกช้ำจนกำสรวล
    ร้างฤดีหลงเล่ห์เสน่ครวญ
    รอนรานจวนจักเทียบคำเปรียบเปรย
     
    แม้ข่มใจสงบลบรอยทุกข์
    แต่ยังจุกพิโถโอ้อกเอ๋ย
    กระไรนี่ชีช้ำย้ำเหมือนเคย
    จะเอื้อนเอ่ยผู้ใดใคร่รับฟัง
     
    อยู่คนเดียวเปลี่ยวกายให้หวาดหวาด
    แอบนอนปาดน้ำตาล้าสิ้นหวัง
    แต่หัวใจส่งเสียงสำเนียงดัง
    เหมือนคำสั่งให้สู้อยู่ต่อไป
     
    นึกถึงครายามเจ็บและเหน็บหนาว
    หกล้มราวหมดแรงจะแข่งไหว
    ก้มหน้าซบซุกเข่าสุดเหงาใจ
    จะมีใครยื่นมือยื้อฉุดยืน
     
    ทนลำบากตรากตรำก็จำอด
    เหงื่อทุกหยดไหลรินจินต์ต้องฝืน
    ยอมตากแดดทำงานผ่านวันคืน
    อกสะอื้นกลัดหนองก็ต้องทน
     
    เอ่เอ่เอ้เห่ลูกผูกเปลกล่อม
    แม่ต้องยอมหยัดยืนฝืนอีกหน
    เจ้าขาดพ่อเหลือแม่แท้กมล
    จะเลี้ยงจนลูกรักจักได้ดี
    
    
    แม้ดวงตาจะฟ่าฟาง  แม้กลางคืนจะไร้ดาว
    แต่หัวใจของแม่    ยังคอยนำทางและเป็นแสงสว่างเพื่อลูกน้อยได้ แม้ชีวิตจะหาไม่
  • แก้วประภัสสร

    1 พฤศจิกายน 2553 15:22 น. - comment id 119785

    จิตรกรรมฝาผนัง
    วัดระฆังโฆสิตาราม
    วัดเก่ากรุงสยาม
    เลื่องลือนามแต่นานมา
    
    งดงามและชดช้อย
    สลักรอยชูช่อฟ้า
    ลวดลายใบระกา
    ดูปราณีตวิจิตรงาน
    
    หอพระไตรปิฏก
    สร้างยอยกประดิษฐาน
    ประตูอยู่นอกชาน
    วายุภักษ์สลักลาย
    
    งามเอยรามเกียรติ์
    งามภาพเขียนจำเรียงราย
    เนื้อซ้อนซ่อนความหมาย
    สร้างถวายองค์ราชัน
    
    งามสุดจะพรรณา
    เลิศเลขาคำเสกสรรค์
    ภูมิศิลป์ค่าอนันต์
    ประทีปธรรม์สว่างใจ
    
    อิ่มบุญและอิ่มตา
    ล้านศรัทธามนัสไซร้
    ระฆังกังวานไกล
    แสนไพเราะเสนาะจินต์
    
    
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 
    เคยตรัสไว้ว่า
     "ไปวัดไหนไม่เหมือนวัดระฆัง พอเข้าประตูโบสถ์ พระประธานยิ้มรับฟ้าทุกุที"
    เพราะพระพักตร์ของพระพุทธรูปอ่อนโยนและเมตตา
  • แม่แก้วแบม

    1 พฤศจิกายน 2553 16:19 น. - comment id 119786

    แวะไปกราบทาบลงตรงองค์พระ
    ตั้งสัจจะวาจาอธิษฐาน
    ลูกหมั่นสร้างกรรมดีนี้มานาน
    ขอเทวะประทานสะพานใจ
    
    พระนาคปรกปกปักโปรดรักษา
    ส่องดวงตาเติมธรรมนำสดใส
    ให้หลุดพ้นหม่นทุกข์ปลอบปลุกใจ
    ทั้งเภทภัยอย่ากล้ำให้ช้ำกัน
    
    มาถึงซึ่งภาพเลิศ..........ปฏิมา
    พลันก่อเกิดปัญญา........สว่างล้ำ
    พระพุทธเจ้าโปรดพา-....พ้นหลุด ทุกข์นอ
    สดับรับส่งค้ำ...............ก่อนร้างเรือนกายฯ
    
    จตุรมุขเลิศล้ำ.............          เรือนงาม
    ปราสาทสูงยอดคราม.......เสียดฟ้า
    หนึ่งในวัดสยาม............ ขานเล่า สืบนา
    ปางปฐมเอกอ้า...............วิจิตล้ำนำสมัยฯ
    
    บันใดนาคราช      สูงผงาดพาดปฐม
    ก้างย่างวางอารมณ์   ถึงยอดปลายหมายถึงบุญ
    
    เบื้องบนจุดธูปเทียน   ก้มกราบเวียนพุทธคุณ
    สวดมนต์บริบูรณ์        เพื่อเพิ่มพูนจำเริญใจ
    
    พระเนตรปกเกศป้อง    แผ่ทั่วพ้องให้ผ่องใส
    แม้ลูกทำการใด             ให้สำเร็จเสร็จตามความ
    
    ระฆังกังวานแว่ว         เสียงเพราะแพร้วทั่วสยาม
    โสตรรับสดับตาม         ดังกึกก้องท้องธานี
  • แก้วประภัสสร

    3 พฤศจิกายน 2553 12:25 น. - comment id 119851

    หากอ่อนไหวในอารมณ์จะขมขื่น
    
    อาจจะยืนเซซังพังเสียหาย
    
    ล้วนทุกคนที่เห็นต่างเป็นไป
    
    เพราะจุดหมายมีฝันนั้นต่างกัน
    
     
    
    จงแข้มแข็งอย่าท้อแลรันทด
    
    นี่คือบทท้าทายให้หมายมั่น
    
    ผ่านกี่หนาวร้าวแล้งเหือดแห้งพลัน
    
    ใจเรานั้นยังอยู่ไม่รู้คลืน
    
     
    
    หากได้พบแล้วพรากไม่อยากคิด
    
    เรามาเติมทีละนิดไม่คิดฝืน
    
    กำลังใจยังมีที่จุดยืน
    
    ยิ้มระรื่นต้อนรับกับลมเย็น
  • แก้วประภัสสร

    11 พฤศจิกายน 2553 12:56 น. - comment id 119948

    ยามหนาวยิ่งหนาวนัก ไร้คนรักมาอุ่นอิง
    ยามเจ็บก็เจ็บจริง        ไร้คนพิงแลทายา
    
    
    ยามล้มก็จมอยู่               ไร้คนดูแลรักษา
    ยามเหนื่อยก็สุดล้า        ไร้คนมาและเอาใจ
    
    ยามนี้ช่างหนาวสุด        เกินจะฉุดแลรั้งไหว
    หนาวเนื้อแลยอกใน     เกินจะต้านแลทานทน
    
    เหลียวหาผู้พาพบ         คอยลบกลบรอยแผลหม่น
    เหลียวมองไร้ผู้คน       จำใจจนบนเดียวดาย
    
    แลมองทั้งสองฝั่ง           แม่น้ำยังมีหลากสาย
    แลมองที่หัวใจ              หนึ่งเดียวนี้มีเพียงเธอ
    
    ไร้คนผู้ผ่านมา          เพียงเบิ่งฟ้ากดความเพ้อ
    เบิ่งดาวพราวแทนเธอ    ใจเกือบเผลอลอยล่องไป
    
    
    หนาวนี้ช่างหนาวนัก      ฤาจะรักมาหวั่นไหว
    ส่วนลึกของหัวใจ           ยังมีไว้เพียงให้เธอ
  • แก้วปรภัสสร

    11 พฤศจิกายน 2553 21:20 น. - comment id 119951

    คนใจร้อนค่อยนจิตรนจนใจแน่
    มาเปลี่ยนแปลแม่เปลี่ยนไปกระไรเอ๋ย
    คราวเคยอยู่คู่เคยยอพะนอเอย
    คงเปรียบเปรยเคยเปลี่ยนแปลกเพราะแยกกัน
    
    เมื่อไม่ชอบมอบไม่เชื่อเพราะเบื่อสิ้น
    มาแลบลิ้นหมิ่นหลักลอยพลอยโศกศัลย์
    จุกเพราะตรมจมเพราะตาพร่าเลือนกัน
    ห่างเหินนั้นหันห่างหนีมีร้าวราน
    
    อย่าหยามกันหยันเย้ยเกียรติจักเตรียดขึ้ง
    ถ้อยคำนึงถึงคำน้อยละห้อยหาญ
    หมองจิตคลายหมายจิตข้องต้องร้าวราน
    จึงซมซานจานซบเซาเศร้าเหลือดี
    
    เหมือนไร้ค่ามาไร้คู่ดูช้ำชอก
    เหมือนมัดตอกพอกมัดใจไม่สุขขี
    ย้ำต้องฝืนยืนต้องเฝื่อนเผื้อนชีวี
    รักครั้งนี้รี่ครั้งนั้นฝันมลาย
  • แม่แก้วแบม

    13 พฤศจิกายน 2553 12:20 น. - comment id 119968

    เมืองไทยอุดมสมบูรณ์
    เพิ่มพูนสินทรัพย์นับหลาย
    ป่าพลูป่าหมากมากมาย
    สบายเกิดถิ่นดินทอง
    
    ในน้ำหาปลามากิน
    บนดินหากบใส่ข้อง
    ต้นไม้ออกผลคนมอง
    เจ้าของคือเราชาวไทย
    
    อีกทั้งวัดวาอาราม
    งดงามธรรมทองผ่องใส
    เมตตาปราณีพี่ไทย
    เมืองใดหาเทียบเปรียบทัน
    
    หล่อหลอมวิถีชีวิต
    อุทิศใจกายหมายมั่น
    รู้รักสามัคคีกัน
    สร้างสรรสิ่งที่ดีงาม
    
    เพราะมีในหลวงห่วงราษฏร์
    ประพาสทั่วแคว้นแดนสยาม
    เหนือใต้ออกตกยกตาม
    ลือนามกษัตริย์ชาติไทย
    
    ดำรงคงมั่นขันติ
    ดำหริเที่ยงธรรมนำไซร้
    ก่อเกิดใต้ร่มพรมไทร
    ถวายทรงพระเจริญ
    
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
    
    ข้าพระพุทธเจ้า
    แก้วประภัสสร
  • แก้วประภัสสร

    15 พฤศจิกายน 2553 16:00 น. - comment id 120000

    ตะวันแยงแหล่วเด้อ        บักหล่า
    คือบ่ตื่นขึ้นมา                อาบน้ำ
    ฟ่าวไปเบิ่งเถียงนา        ซ่ำแม่
    จับกับแก้จากถ้ำ            ส่งเข้าไปขายฯ
    
    ราคาแพงเติบเด้อ           บักหำ
    เห็นเพิ่นบอกประจำ         หลักร้อย
    ตัวใหญ่เท่ามือกำ           เป็นหมื่น 
    กระตุกคอพอห้อย           อย่าให้ดิ้นตายฯ
    
    เห็นเจ้าว่าอยากได้          เงินล้าน
    หากแต่มัวเกียจคร้าน      อ่อนแฮ้ง
    ผู้ได๋สิเยือนชาน               เล่าหล่า 
    ขี้ตะวันแดงแจ้ง              บักน้อยบ่ตื่นฯ
    
    ลุกขึ้นมาแท่แม้               สอนยาก
    แก่เฒ่าสิลำบาก              เดือดฮ้อน
    บ่มีหมู่ฮวมฮาก               โอบเจ้า  
    แม่นสิเเอ่นปากอ้อน        อย่าเด้ออย่าหวังฯ
    
    เห็นบ่น้อโลกใกล้           ลับลา
    ฝนก็ตกลงมา                ฟ่าฮ้อง
    ท่วมนาเกือบมิดตา         กะฮู่ 
    ดินแยกลั่นดังก้อง          ถล่มพื้นเสียหายฯ
    
    พายุก็ซัดเลี้ยว                เฮือนพัง
    นั่นทะเลบ้าคลั่ง              กึกก้อง
    คนอื่นเบิ่งบ้าหลัง            เศร้าโศก
    ตื่นเถิดออกจากห้อง        ช่วยผู้หนีตายฯ
    
    ก่อนโลกกระแทกห้วง        ยุบลง
    หล่าอย่ามัวพะวง               เคลิบเคลิ้ม
    นอนหลายสิงวยงง             สมองฝ่อ 
    อย่าเฮ็ดตาหยาดเยิ้ม        จดจ้องแต่ฝันฯ
    
    มาฮวมหมู่อยู่เฝ้า             ก่อนตาย
    สิเลิศประเสริฐหลาย         ลูกเอ้ย
    ยกดีใส่เหนือกาย              นั่นแล่ว
    จึงสิน่าชมเช้ย                 รากเหง้าคนไทยฯ
  • แก้วประภัสสร

    16 พฤศจิกายน 2553 12:33 น. - comment id 120007

    ท่ามราตรีที่เมืองอันเรืองรุ่ง
    อยู่เมืองกรุงอุทิศพิชิตผล
    ต้องลำบากด้วยแรงลำแข้งตน
    ห่างผู้คนพ่อแม่ที่แก่ชรา
    
    ไม่เคยลืมบ้านเก่าถิ่นเนาอยู่
    ทุกอนูหัวใจยังใฝ่หา
    หวังเก็บเกี่ยวเติมทรัพย์เต็มอัตรา
    จะย้อนกลับบ้านนามิลาไกล
    
    ยังจำกลิ่นปลอกหมอนอันอ่อนนุ่ม
    สองมืออุ้มร้องกล่อมถนอมไฉน
    ยังจำรสนมแม่มิแปรไป
    อ้อมกอดใดหาอุ่นละมุนจริง
    
    ขอเวลาตั้งหลักสักพักหนึ่ง
    คงจะถึงเวลามีค่ายิ่ง
    พรุ่งนี้อาจได้เห็นฝันเป็นจริง
    พร้อมสร้างสิ่งมอบสุขแด่ทุกคน
    
    ผ่านร้อนหนาวมากพอแม้ท้อทด
    ยังจำบทถ้อยคำแม่พร่ำบ่น
    เมื่อลูกหวังสิ่งใดให้อดทน
    อย่ายอมจนปัญหาชะตากัน
    
    ฝากลมหนาวโลมไล้ไอแดดอุ่น
    ยามอรุณถึงแม่อย่าแปรผัน
    ฝากน้ำค้างพร่างพรายประกายจันทร์
    แทนตัวฉันลูกนี้รักนิรันดร์
  • แก้วประภัสสร

    25 พฤศจิกายน 2553 13:31 น. - comment id 120182

    เพราะเมืองไทยเลิศล้ำด้วยธรรมะ
    แหล่งอารยะแผ่นดินถิ่นสยาม
    ประเพณีเหนือจรดแสนงดงาม
    เลื่องลือนามวัฒนธรรมนำก้าวไกล
    
    เมืองโบราณนานเนากรุงเก่าถิ่น
    เล่าไขยินยลรับกับเคลื่อนไหว
    ผ่านสงครามสู้ศึกผนึกใจ
    กอบกู้ชาติเชื้อไทยได้อยู่กัน
    
    ชนรักษาเผ่าพันธุ์สันติสุข
    ไล่ศัตรูรานรุกปลอบปลุกขวัญ
    เพื่อปกป้องบ้านเมืองเรืองอนันต์
    แต่ปางบรรพ์สืบไว้ให้
  • แก้วประภัสสร

    2 ธันวาคม 2553 09:31 น. - comment id 120334

    เฉลิมชนม์บาทเบื้อง          พระภูมี
    องค์สยามจักรี                   อุ่นหล้า
    ทวยราษฏร์สดุดี                ถวายเกียรติ ก้องเฮย
    พระบารมีเกริกฟ้า            สง่าแคว้นแดนสยามฯ
    
    
    ทรงประดิษฐ์คิดค้น            กังหัน
    ไชยพัฒนาอนันต์              ยิ่งแล้ว
    บำบัดขจัดพลัน                  น้ำเน่า
    เปรียบประดุจรากแก้ว     ประจักษ์แจ้งทุกชนฯ
    
    ทรงอนุรักษ์ป่าน้ำ           ทำกิน
    หญ้าแฝกปลูกคลุมดิน       ชุ่มชื้น
    อุ้มน้ำซับร่วมยิน-             ดีครอบ คลุมนอ
    ทุกหย่อมหญ้าแผ่นพื้น     ร่วมน้อมเกิดผลฯ
    
    ทรงตะหนักลึกซึ้ง            พระหฤทัย
    ศูนย์ศึกษาของไทย        ค่าล้ำ
    พัฒนาส่งผลไกล             ต่อเนื่อง  จริงแฮ
    คุณประโยชน์คุณค้ำ    ทั่วหล้าสรรเสริญฯ
    
    คราวน้ำขาดเหือดแห้ง     เสียหาย
    ราษฏร์ประสบมากมาย    เดือดร้อน
    ฝนทิ้งช่วงพืชตาย            วิกฤติ ทั่วนอ
    ธ.คิดค้นฝนป้อน           เมฆคล้อยก่อฝนฯ
    
    ทรงเชื่อมใจปลุกสร้าง      ปลอบขวัญ
    เสริมส่งโยงสัมพันธ์           ปกป้อง
    เพียงพอทุกเขตขัณฑ์        เป็นอยู่  สบายแฮ
    แลกเปลี่ยนอย่าเพื่อนพ้อง  พี่น้องปรองสมานท์ฯ
    
    
    กาลนานผ่านล่วงแล้ว       ปกครอง
    ฝ่าพระบาททั้งสอง             เสด็จด้าว
    หนทางรุ่งเรืองรอง            ทั่วถิ่น จริงแฮ
    พระบารมีปกเกล้า            ไพร่ฟ้าสุขเกษมฯ
    
    ศิโรราบกราบก้ม             กษัตรา
    ดลทวยเทพเทวา             ลั่นฆ้อง
    พรประเสริฐพระชนมา-    ยืนยิ่ง นานเฮย
    พสกนิกรร่วมพ้อง             แซ่ซ้องสรรเสริญฯ
    
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
    
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมอขอเดชะ
    
    ข้าพระพุทธเจ้า
    
    นามปากกา   แก้วประภัสสร
    
    02/12/2553
  • แก้วประภัสสร

    2 ธันวาคม 2553 09:55 น. - comment id 120338

    ร้อยใจทุกดวงปวงราษฏร์
    รวมชาติเลือดเนื้อเชื้อไข
    ร้อยรักมอบจากดวงใจ
    ถวายแด่ไท้ราชันย์
    
    รู้รักสมัครพรรคพ้อง
    ปรองดองคล้องใจสุขสันต์
    ประหยัดอดออมพร้อมกัน
    จำเป็นเท่านั้นซื้อมา
    
    พอเพียงหากเพียรอดทน
    ยากจนย่อมหมดปัญหา
    เศรษฐกิจพลิกฟื้นคืนมา
    ปัญญาจะนำทางไกล
    
    ชุมชนท้องถิ่นแข้มแข็ง
    ด้วยแรงทุกคนอาศัย
    เงินทุนหมุนเวียนเปลี่ยนไป
    คิดใช้สมเหตุและการ
    
    จัดแจงผืนดินถิ่นเกิด
    ก่อเลิศประโยชน์สืบสาน
    ปรับดินสิ้นเปรี้ยวเชี่ยวชาญ
    ปลูกแฝกเบ่งบานอุ้มชู
    
    ธ ทรงประดิษฐ์คิดค้น
    สร้างฝนเทียมเท่าเรารู้
    เก็บน้ำยามแล้งแห้งคู
    ทุกผู้ต่างสุขทุกข์คลาย
    
    พระทัยเปี่ยมล้นเมตตา
    นำพาปวงราษฏร์ทั้งหลาย
    อยู่ดีกินดีสบาย
    คลี่คลายปัญหามากมี
    
    พระคือแสงทองส่องไทย
    ชนอยู่ใต้ร่มสุขขี
    น้อมกายถวายภักดี
    ทรงมีชนม์ยิ่งยืนนาน 
    
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
    
    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมของเดชะ
    
    ข้าพพระพุทธเจ้า
    นามปากกา  แก้วประภัสสร
    
    02/12/2553
  • แก้วประภัสสร

    3 ธันวาคม 2553 15:21 น. - comment id 120359

    วันบุตรร้องอุแว้            ดีใจ
    พ่อตื่นเต้นกว่าใคร       ยิ่งแล้ว
    มารดาเจ็บเนื้อใน        กลับสุข    จริงเอย
    เพียงพิศแลลูกแก้ว     มาดแม้นสมประสงค์
    
    หยาดน้ำปิติล้น            จากตา
    แม่หลับเพราะแรงล้า   เบ่งเจ้า
    พ่ออุ้มเช็ดกายา          มือโอบ ลูกเอย
    เนื้อนุ่มนิ่มจับเคล้า     เกลือกแกล้มแลถนอมฯ
    
    ลูกเย็นดุจเช่นน้ำ          หลายสาย
    รวมก่อตัวผิวกาย          โอบห้อม     
    ดั่งเทพเปร่งเพริศพราย พิศพร่าง งามนอ
    นาม"นิยม"ห่มอ้อม     เปล่งร้องประคองขวัญฯ
    
    * * * * * * * * * *
    สุขใจสว่างล้ำ            ธันวา
    ยี่สิบเวียนครบครา      ครึกครื้น
    เชิญเหล่าเทพเรขา    ขานรับ
    ประสาทพรโลมพื้น   แผ่คุ้มชุ่มไสวฯ
    
    รังสรรค์คำเสกถ้อย       โคลงกานท์    
    ขอกิ่งโศกสำราญ          สุขล้น
    ร้อนดับกลับเบิกบาน     เริงรื่น จริงเฮย
    สุขภาพดีทุกข์พ้น         พรั่งพร้อมสุขเกษมฯ
  • แก้วประภัสสร

    6 ธันวาคม 2553 12:14 น. - comment id 120401

    หากสบสิ่งใดชั่ว  หลงเกลือกกลั้วจะหมองมอม
    จิตเจ้าจะตรมตรอม   แลวงพักตร์บ่น่าชม
    
    หากสบเสียงไพเราะ   แสนเสนาะหวานภิรมย์
    เสียงยินอาจเพียงลม   ควรเพ่งคิดพิจารณา
    
    หากสบสุคนธ์ปรุง        กลิ่นจรุงหอมนาสา
    ควรเสพพอเป็นยา     ให้บรรเทาเพียงผ่อนคลาย
    
    หากสบสิ่งใดรัก         ควรตระหนักอย่ามากมาย
    จงคิดตามจิตหมาย     ให้พอควรและพอดี
    
    หากสบผู้โทสะ             อย่าโมหะควรเลี่ยงหนี
    ปะทะย่อมบ่ดี              ผิแต่เสียบ่สำราญ
    
    หากสบผู้เป็นมิตร       สมานสนิทอย่ารำคาญ
    กมลสุจริตกาล             ย่อมเกษมเปรมปรีดา
  • แก้วประภัสสร

    6 ธันวาคม 2553 13:56 น. - comment id 120415

    meritsbirthday-cake.jpg956cd9b6.jpg?t=1291617247attachment.php?attachmentid=418722&stc=13-4.jpg?t=1291618484
  • แก้วประภัสสร

    11 ธันวาคม 2553 20:06 น. - comment id 120506

    น้องบ่มักผู้ชายอวดคุยโม้
    ชอบเลี้ยงโคโยตี้เป็นนิสัย
    แถมปากหวานสิฮากข้อยอยากตาย
    คนจั่งซี่อย่าหมายมาคู่กัน
    
    น้องบ่มักหลายเด้อคนเพ้อพก
    ทำเป็นจกนับตังค์นั่งมองฉัน
    อย่านะอย่าบังอาจเงินฟาดกัน
    คนอีสานอย่างฉันบ่เคยมัก  (แก้วประภัสสร)
  • แก้วประภัสสร

    11 ธันวาคม 2553 20:18 น. - comment id 120507

    พึงเตือนตนก่อนพลั้ง          พลาดไป
    
    หากแต่หลงดงไพร            ทึบตื้อ
    
    ใจวนวกทางไกล              ลางเลื่อน 
    
    เสมือนดักดานดื้อ             ย่อมร้างทางไสวฯ
    
     
    
    อักษรแลชัดแจ้ง               คือจริง
    
    หากแต่วาจาสิง                หว่านล้ำ
    
    ยากจะแยกเท็จจริง         แดงสาด   เทนอ
    
    แท้สุดมนุษย์ย้ำ             วกว้างวงเวียนฯ
    
     
    
    เพียรพึงหยุดยับยั้ง                 ชั่งใจ
    
    ข้องขัดบ่มีใคร                       โอบเอื้อ
    
    ขุ่นเคืองยิ่งห่างไฉน              ติส่ง    ไปนา
    
    นับเนื่องถอยหมดเชื้อ           ศรัทธาร้างห่างถวิลฯ
  • แก้วประภัสสร

    12 ธันวาคม 2553 21:02 น. - comment id 120525

    พระอาทิตย์มีงอนทำค่อนแคะ
    บอกพระจันทร์เตาะแตะกระแจะจ๋า
    วันวันเจ้าทำอะไรไหนบอกมา
    แสงน้อยนิดบนฟ้ามีค่าใด
    
    ต่างตัวเราเฝ้าดูหมู่มนุษย์
    ส่องแสงสุดทั่วโลกโยกสุกใส
    ตั้งแต่เช้าจนเย็น
  • แก้วประภัสสร

    13 ธันวาคม 2553 12:04 น. - comment id 120535

    ทำแกงไก่ใส่อะไรไหนบอกหน่อย
    ถึงอร่อยถูกคอพอทราบไหม
    ทำกี่ครั้งรสเฝื่อนไม่เหมือนใคร
    ทั้งเทใจลงหม้อมากพอดี
    
    เหยาะน้ำปลาน้ำตาลผสานกะทิ
    คนยังติรสชาติเหมือนขาดสี
    เติมแดงเขียวพริกเคล้าหวังเข้าที
    มะเขือสี่ผ่าลงยังคงเดิม
  • แก้วประภัสสร

    30 ธันวาคม 2553 12:12 น. - comment id 120866

    คมเคียวเกี่ยวลงลึก
    ในสำนึกสู่มวลชน
    รวงข้าวที่แตกตน
    รอผู้หว่านมาเก็บไป
     
     ทุ่งนาในหน้าหนาว
    รุ้งรวงข้าวปลิวไสว
    ระริกระรี้ใบ
    เปรียบประดุจยวงเงินตรา
    
     มนุษย์ผู้หว่านพืช
    ชีวียืดยาวหนักหนา
    แต่รวงโน้มร่วงลา
    ผลิแล้วจากตามรูปรอย
    
    กิ่งโศก says:
     เพราะครับ
     เขียนได้เร็วมาก
      Merry X'mas & Happy New Year 2011 says:
     จงดึงจิตสำนึก
    ส่งรู้สึกอย่าร่วงผลอย
    เม็ดข้าวมากค่าคอย
    ให้ชนอิ่มเติมแต่งกัน
    กิ่งโศก says:
     ..หนัหนา..หรือนั้นหนา...อย่าพยายามใช้ครับ
  • แก้วประภัสสร

    3 มกราคม 2554 11:48 น. - comment id 121042

    ปีกระต่ายหมายให้ไทยทั่วหล้า
    รู้รักษากายจิตพิศมัย
    รักสะอาดปราศจากหลากโรคภัย
    เพิ่มนิสัยยิ้มแย้มบนแก้มตน
    
    จะทำการกิจใดให้สะดวก
    มีพรรคพวกเป่าปัดมิขัดสน
    ทั้ตำแหน่งหน้าที่ดีทุกคน
    ตั้งอยู่บนซื่อสัตย์ประหยัดกัน
    
    เมื่อเราอยู่ในโลกมีเน็ตเวิร์ก
    เป็นใบเบิกเครือข่ายไร้เขตขัณฑ์
    การสื่อสารเชื่อมต่อก่อสัมพันธ์
    มากคุณค่าอนันต์ก้าวทันไกล
    
    เมื่อยินดียอมรับกับคอมพิวเตอร์
    ไม่ควรเผลอเล่นเพลินเกินแก้ไข
    จงกอบเกี่ยวศึกษาหากำไร
    นำความรู้ที่ได้มาใช้งาน
    
    หวังอยู่ดีมีเงินอย่าเพลินจ่าย
    ปีกระต่ายตื่นเต้นอย่าเล่นผลาญ
    หากตื่นตูมขาดสติมิช้านาน
    คงถึงการย่อยยับและอับจน
    
    ปีกระต่ายหมายให้ไทยทั่วหล้า
    สุขหรรษาตั้งจิตสัมฤทธิ์ผล
    อาราธนาพระศรีรัตน์พิพัฒน์ดล
    ให้ทุกข์พ้นเป็นเกษมเปรมทั่วไทย
  • แก้วประภัสสร

    3 มกราคม 2554 15:23 น. - comment id 121050

    วิจิตรด้วยคุณงาม   ค่าสยามแม่คงคา
    สายน้ำแห่งศรัทธา  ชโลมราษฎร์ให้ร่มเย็น
    
    มั่นสุขเพราะรสธรรม   เหมือนหยดน้ำดับทุกข์เข็ญ
    หลอมจิตไม่วายเว้น   รู้ดีชั่วที่ตัวตน
    
    สำนึกพระคุณครู      กตัญญูบรรพชน
    เปล่งเสียงแต่มงคล    ท่วงเสนาะไพเราะไกล
    
    ลมโชยให้โปรยกลิ่น  เกสรศิลป์สว่างไสว
    กำจรขจายไป            บรรจงลักษณ์ปักงดงาม
    
    สร้อยแสงแห่งกวี      เหมือนมาลีแห่งสยาม
    ชูดอกออกผลตาม      หอมแผ่นฟ้าทั่วธานี
    
    ขับเคลื่อนพุทธคุณ    แผ่ค้ำจุนนำวิถี
    ยึดมั่นในความดี     ยึดเหนี่ยวไว้ใจเบิกบาน
  • test

    7 มกราคม 2554 14:58 น. - comment id 121146

    
    							
    							
  • t

    7 มกราคม 2554 15:13 น. - comment id 121147

    
    							
    							
  • แก้วประภัสสร

    10 มกราคม 2554 16:07 น. - comment id 121221

    เป็นคำถามจากคนที่เพ้อเจ้อ
    ที่รักเธอด้วยใจไร้แอบแฝง
    หากวันหนึ่งทุกอย่างนั้นเปลี่ยนแปลง
    โลกอับแสงดาวดับลาลับไป
    
    ฉันอาจหลงท่ามกลางทางมืดมิด
    ไร้เข็มทิศชี้ทางสว่างไสว
    เดินวกวนคนเดียวเกี่ยวหนามไพร
    นั่งร้องไห้เคว้งคว้างระหว่างคืน
    
    ร่างอาจหนาวจนเหน็บเจ็บเข้าขั้ว
    ท่ามความกลัวสับสนจนสุดฝืน
    คงเหนื่อยล้านั่งรอท้อทั้งยืน
    รอคนยื่นมือรับเพื่อกลับไป
    
    ตั้งคำถามแต่งความตามรู้สึก
    เธอจะนึกห่วงกันวันนั้นไหม
    เธอจะออกตามหาหรือลาไกล
    ทิ้งฉันไว้ทนสู้อยู่ลำพัง
    
    จากคำถามของคนบ่นเพ้อเจ้อ
    โปรดอย่าเผลอตอบไปให้ความหวัง
    ที่ผ่านมายืนสู้อยู่ลำพัง
    กับความหวังลมแล้งแสร้งหลอกตัว
  • แก้วประภัสสร

    12 มกราคม 2554 16:32 น. - comment id 121277

    ถ้อยคำเกริ่น..
    บางครั้งเพลินเหมือนเที่ยวไพร
    บางครั้งทำหวั่นไหว
    เพราะหัวใจไม่เย็นชา
    
    บทกวีแห่งชีวิต..
    บ้างอุทิศวันเวลา
    โถมหลั่งดั่งน้ำตา
    พรั่งพรูซ่อนในกลอนกานท์
    
    แต่งเติมโลก..
    บ้างดอกโศกกำลังบาน
    เจือถ้อยร้อยโวหาร
    เกินสลดปลดอารมณ์
    
    
    สีสันสวย
    รินระรวยลดรสขม
    ตามแต่ความนิยม
    พอหายหนาวกับคราวล้า
    
    เถอะมวลมิตร
    จงใช้จิตเปลื้องปัญหา
    จากสมองแลสองตา
    นั่นคือผู้หยั่งรู้ตน
  • แก้วประภัสสร

    15 มกราคม 2554 09:55 น. - comment id 121407

    
    
            สามีชื่อหมาย
     
            ภรรยาชื่อรอด
    
            วันหนึ่งสามีพยายามต้อนวัว ควายเข้าครอก
    
    ทำยังไงก็ไม่ยอมเข้า ด้วยนิสัยขี้เล่นของเจ้าลูกวัว ลูกควายทั้งหลาย
    
    มันวิ่ง ซ้ายที ขวาที จนทำให้ตาหมายเหนื่อยใจ
    
    มิกาก็กระซิบบอกไปว่า 
    
    "  พี่หมาย หากอยากให้มันเข้าครอก พี่หมายก็เหวี่ยงแหใส่มันสิ"
    
    "  เออๆ แกนี่ฉลาดจริงๆอีหนู ขอบใจๆ"
    
           พี่หมายเดินไปหยิบแหมา และเหวี่ยงคลุมวัว ควาย
    
       สุดท้ายแกก็ยืนหัวเราะร่า 
    
          " ดูสิว่าแกจะไปไหนรอด..ไอ้วัว...โง่ "
    
           ขณะนั้น ภรรยาแกเดินผ่านมาพอดี
    
           " ขรา....พี่หมาย..เรียกรอดเหรอคะ..รอดกำลังจะไปตลาดค๊า....
    
       
  • แก้วประภัสสร

    19 มกราคม 2554 12:59 น. - comment id 121513

    ลำเดิน
    
    http://h1.ripway.com/ppinter/000.lamdern-chocho Super Hit.wma 
    
    ---------------------------
    เธอคือดวงใจของฉัน
    
    http://h1.ripway.com/ppinter/003. turkueduangjaikongchan.wma 
    
    -------------------
    ฤดูที่แตกต่าง
    
     http://h1.ripway.com/ppinter/133. rueduteetaktang(Season Change)-Room 39.wma 
    
    ---------------------
  • แก้วประภัสสร

    25 มกราคม 2554 13:22 น. - comment id 121545

    1-10.jpg
  • แก้วประภัสสร

    18 กุมภาพันธ์ 2554 14:54 น. - comment id 121940

    ครั้นลืมตานั่งจ้องมองความคิด
    มันหงุดหงิดงุ่นง่านฟุ้งซ่านหนอ
    จึงหลับตาพลิกค้นหาต้นตอ
    ถึงบางอ้อสติมิติดตัว
    
    เคยแคล่วคล่องว่องไวไม่เหนื่อยหน่าย
    แต่ร่างกายถอยถดลดแรงหัว
    เพราะทำงานเกินสมองรองรับตัว
    ใจเต้นรัวคล้ายกลองต้องหยุดมัน
    
    ท่องพุทโธข่มจิตพิจารณา
    พระธรรมพาสงบพบทางฝัน
    ใจสว่างทางโล่งปรอดโปร่งพลัน
    ที่อัดอั้นค่อยคลายสลายไป
  • แก้วประภัสสร

    28 มกราคม 2554 21:12 น. - comment id 121961

    ถึงเธอ..
    
    เกสรดอกไม้ปลิวมาจากทิศทางใด
    
    ฉันไม่ปรารถนาที่จะรู้ที่มา..
    
    ฉันรู้เพียงแต่ว่า ..บัดนี้เกสรและกลีบดอกไม้
    
    ที่ถูกบ่มด้วยกาลเวลาได้พัดพามาสู่อ้อมใจของฉัน
    
    ฉันยิ้มให้มัน..
    
    สินะ...เขาเรียกว่าความสุข
    
    สายลมพัดพลิ้วผ่านไป กระทบผิวสัมผัส
    
    มันเยือกเย็น ..
    
    ฉันยืนอยู่คนเดียว...ท่ามกลาง สายลม 
    
    ดอกหญ้าที่ยังไม่ร่วงหล่น ก็ชูช่อ พลิ้วไหว
    
    เล่นลมไปตามประสามัน
    
    ไม่ต่างกับฉัน ในวันนี้...
    
    แม้ดูจะแข้มแข็ง แต่ภายใน เมื่อมีอะไร
    
    มากระทบความรู้สึกลึกลึกที่อยู่ข้างใน
    
    ใจฉันมันก็อ่อนไหว พลิ้วไปตามอารมณ์ 
    
    ไม่ต่างกับดอกหญ้าที่พลิ้วไปตามลม
    
    แต่เมื่อทุกอย่างนิ่ง สงบ ก็เป็นฉันคนเดิม
    
    คนที่หัวใจแข็งแกร่ง ดั่งหินผา
  • แก้วประภัสสร

    18 กุมภาพันธ์ 2554 16:09 น. - comment id 122035

    แม้มากเกียรติมีศักดิ์รักถ้วนทั่ว
    แต่หากมัวหลงมันอาจบั่นศรี
    แม้มีกินอิ่มหนำสำราญมี
    แต่หากเกินพอดีย่อมเสียดาย
    
    เมื่อมากกามเมามัวสลัวสลด
    ดูรันทดมองเห็นเช่นเสียหาย
    ก่อกิเลสครอบจิตคิดวุ่นวาย
    หลงเวียนว่ายราคะอเวจี
    
    บ้างอ้างตัวขื่นขมมีปมด้อย
    ด้วยบุญน้อยมากทุกข์ไร้สุขขี
    จึงดึงปมด้อยซ้ำย้ำชีวี
    ประดามีปิดปมถมปัญญา
    
    หน้าตาเด่นงานดีมียศศักดิ์
    หากมากรักไม่พ้นคนครหา
    ควรมีรักหนึ่งเดียวเกี่ยวกายา
    ย่อมมีค่ากว่าสองต้องทุกข์ใจ
  • แก้วประภัสสร

    18 กุมภาพันธ์ 2554 16:56 น. - comment id 122037

    แม้มากเกียรติมีศักดิ์รักถ้วนทั่ว
    แต่หากมัวหลงมันอาจบั่นศรี
    แม้มีกินอิ่มหนำสำราญมี
    แต่หากเกินพอดีย่อมเสียดาย
    
    เมื่อมากกามเมามัวสลัวสลด
    ดูรันทดมองเห็นเช่นเสียหาย
    ก่อกิเลสครอบจิตคิดวุ่นวาย
    หลงเวียนว่ายราคะอเวจี
    
    บ้างอ้างตัวขื่นขมมีปมด้อย
    ด้วยบุญน้อยมากทุกข์ไร้สุขขี
    จึงดึงปมด้อยซ้ำย้ำชีวี
    ประดามีปิดปมถมปัญญา
    
    หน้าตาเด่นงานดีมียศศักดิ์
    หากมากรักไม่พ้นคนครหา
    ควรมีรักหนึ่งเดียวเกี่ยวกายา
    ย่อมมีค่ากว่าสองต้องทุกข์ตรม
    
    ปรับความคิดชวนเชิญจำเริญสติ
    ท่องพุทโธสมาธิจิตผลิเข้าข่ม
    เอาปัญญาปิดกลบลบด้อยปม
    ฝึกอารมณ์ให้เย็นย่อมเห็นงาม
  • แก้วประภัสสร

    5 กุมภาพันธ์ 2554 16:27 น. - comment id 122066

    ร้องเหมียวเหมียวหง่าวนั้น       ขอปราม
    ฉันมักงอนไม่งาม                     บอกไว้
    เห็นซื่ออย่าตีความ                  ว่าเซ่อ  กันนา
    อาจซ่อนกรงเล็บไซร้              ควักใส้มากินฯ
    
    ร้องอู๊ดอู๊ดอย่าได้                    ว่าหมู
    ฉันอาจเปลี่ยนเป็นงู               สะบัดห้อย
    จำศีลอยู่ในรู                          อย่าแหย่ คนเฮย
    พิษซ่านวานอย่าสร้อย            โศกเศร้าเสียขวัญฯ
    
    เห็นล้านขาว่าแท้                กิ้งกือ
    โปรดอย่าแหย่สะดือ            เล่นด้วย
    เธออาจจะลุกฮือ                  โกยแนบ
    กลายตะขาบมอดม้วย         โอดร้องครวนครางฯ
    
    จากหนึ่งเพียงเศษเสี้ยว     ความคิด
    ถูกมิแปรเป็นผิด               อวดอ้าง
    ตรองเอาเถิดผองมิตร        ปราชญ์เปรื่อง
    กาลผ่านมาหาสร้าง            เจ็บช้ำนำเสนอฯ
    
    ดีกลบลบชั่วสิ้น                    ทุกชน
    ซื่อดั่งสันดานกมล               แต่อ้อน
    แม้โลกอาจปลอมปน            ดีชั่ว  
    หาเล่นลิ้นปลิ้นปล้อน           ยกฟ้ามาขยายฯ
    
    ชนใดยึดมั่นแท้                  แต่ตัว
    หลงทิฐิเมามัว                      ชัดชี้
    เงาดำครอบใจสลัว              ยากบอก  
    เป็นเศษเสี้ยวกระพี้          เลิศแล้วฤาไฉนฯ
  • แก้วประภัสสร

    18 กุมภาพันธ์ 2554 13:44 น. - comment id 122182

    ฤาอาจเป็นเช่นอาหารที่ทานอยู่
    ลิ้นรับรู้แต่ใจไม่กังขา
    เพียงถูกปากอิ่มท้องต้องอุรา
    แต่โภชนาวิตามินสิ้นสมดุลย์
    
    ฤาเพราะนมข้นหวานเด็กทานได้
    หากลั่นออกจากใจคล้ายเสียศูนย์
    จะหาใดเหมือนนมแม่แท้การุณ
    เลือดอุ่นอุ่นย่อมดีมีปัญญา
    
    จึงว่ากันอาจสิ้นผันผินลบ
    ฝัง แล กลบ การเมืองเรื่องล้ำหน้า
    ต่างกอบโกยโกงกันพรั่นอุรา
    แล้วจะหาธิปไตยที่ใดฤา
  • แก้วประภัสสร

    22 มีนาคม 2554 20:39 น. - comment id 123070

    ที่กบร้องทักทายคล้ายสนิท
    
    กบคงคิดอยากอยู่เคียงคู่ฝน
    
    จึงกระโดดโลดเต้นเหมือนเช่นคน
    
    สัญจรบนวิถีที่คนทำ
    
     
    
    แต่หากคนใช้เส้นเต้นเหมือนกบ
    
    เท้าหลังกลบสิ่งร้ายกลายน่าขำ
    
    แม้ตำแหน่งสูงส่งคงไม่จำ
    
    คนอย่าทำเยี่ยงกบ...อ๊บอ๊บเลย
    
     
    
    กบมาร้องทักมนุษย์
  • แก้วประภัสสร

    22 มีนาคม 2554 20:42 น. - comment id 123071

    หนึ่งมิตรคิดดีมีใจ     ทุกอย่างเป็นไป
    ธรรมชาติสอนเราทุกคน
    
    บางครั้งอาจดูสับสน      เส้นทางวกวน
    ต้องหลงพะวงเรื่องราว
    
    แต่หากเมื่อมองถึงคราว    จากเด็กสู่สาว
    จวบถึงย่างวัยชรา
    
    ทุกคนเรียนรู้ทุกครา     จากในตำรา
    อีกทั้งเพื่อนพบคบเจอ 
    
    หากใจเราหลงเผลอเลอ    ด้วยความเลินล่อ
    ประมาทขาดความพิจารณา
    
    หลายสิ่งอาจนำปัญหา  เหมือนผงเข้าตา
    ยากจักเขี่ยทิ้งจริงกัน
    
    แต่หากมีเพื่อนมองนั้น    มันง่ายกว่ากัน
    เพราะต่างมองเห็นหนทาง
    
    คอยชี้แนะนำหลายอย่าง  บางครั้งอ้างว้าง
    กอดเพื่อนยังอุ่นละมัย
    
    มือจับเมื่อยามมีภัย       จะหามิตรใด
    เทียมเทียบแท้เท่าเพื่อนเรา
    
    แม้ยกเรื่องเปรียบขุนเขา  ป่าไม้ลำเนา
    ไม่เท่ามิ่งมิตรชิดใจ
    
    นั่นคือแสงทองผ่องใส   ก่อเกิดที่ใจ
    และด้วยพลังแรงศรัทธา
    
    มาเถิดทุกท่านเชิญมา    ปลูกจิตเมตตา
    กรุณาด้วยกันทุกคน
    
    ทุกอย่างจะเกิดเป็นผล  มีความสุขล้น
    บนผืนแผ่นดินถิ่นไทย
  • แก้วประภัสสร

    29 มีนาคม 2554 21:22 น. - comment id 123133

    ยิ่งพัฒนาเร่งร่างก่อสร้างตึก
    ก่นเจาะลึกพื้นแยกแตกเสียหาย
    แต่ละชั้นดินถล่มถมมากมาย
    โลกยิ่งคล้ายบ้าคลั่งไม่ฟังคน
    
    ทั้งรบราฆ่าฟันห้ำหั่นมนุษย์
    ชนวนจุดกลียุคทุกแห่งหน
    เสียงปืนลั่นสนั่นทางทั้งล่างบน
    ประชาชนล้มตายคล้ายผักปลา
    
    ไฟไหม้โหมโรมรันกระชั้นชิด
    ป่าพงปิดสัตว์ตายดูไร้ค่า
    กว่าจะฟื้นงอกเงยเช่นเคยมา
    ต้องอาศัยเวลาชั่วตาปี
    
    ความเจริญสร้างสบายคล้ายคมดาบ
    ย้อนแทงอาบเลือดหลั่งพังป่นปี้
    ฟ้าครืนครืนคลื่นซัดพัดธรณี
    มากเกินที่คาดเดาแสนเศร้าใจ
    
    หยุดทำลายหยุดพัฒนาหยุดฆ่ามนุษย์
    ก่อนสิ้นสุดศาลาให้อาศัย
    หยุดความหลงอัตตามายาใจ
    หยุดโลกไว้ก่อนคลั่งพีงสังวรณ์
  • แก้วประภัสสร

    6 เมษายน 2554 20:35 น. - comment id 123271

    จากดินสู่บนฟ้า 
    ต่างค้นหาความเป็นคน
    บ้างดีและมีจน
    ล้วนแตกต่างระหว่างกัน
    
    อีกฟากฝั่งแม่น้ำ
    ตกยามค่ำเย็นสุขสันต์
    อีกฟากห่างไกลกัน
    คนละโลกโศกย้ำใจ
    
    แท้สุดอนิจจัง
    บ้างทุกข์ขังครอบคลุมไว้
    แท้จริงเหนือสิ่งใด
    พบจุดจบกลบด้วยดิน
    
    ฟากฟ้าในวันนี้
    รอหวังที่มิหมดสิ้น
    รอหวังจากต่างดิน
    ให้เย็นเนื้อเอื้อโอบกัน
  • แก้วประภัสสร

    9 เมษายน 2554 11:13 น. - comment id 123312

    
    คนมักมองท้องฟ้าในหน้าฝน
    หยดน้ำหล่นฉ่ำจินต์ทุกถิ่นฐาน
    ปลาใหญ่น้อยโลดเต้นเป็นสำราญ
    กบกบดานใต้กะลามารวมกัน
    
    ทั้งอึ่งอ่างคางคกยกคอรับ
    ร้องสลับขับถ้อยร้อยสุขสันต์
    แม่จิ้งหรีดกรีดเสียงสำเนียงพลัน
    ร่วมประชันไพเราะเพราะจับใจ
    
    แม่กางงอบเดินไปที่ชายทุ่ง
    เก็บผักบุ้งริมคลองอวบปล้องใส
    ผักได้น้ำงามยิ่งเหนือสิ่งใด
    แผ่กิ่งใบล้อฝนบนท้องนา
    
    เปิดฝาโอ่งรองรับกับน้ำฝน
    ยามขัดสนขาดน้ำนำหุงหา
    ได้อาศัยในตุ่มชุ่มชีวา
    ปราศจากกังขาสายวารี
    
    สุขอื่นใดไหนเล่าเท่าฝนหลั่ง
    เป็นความหวังแด่ชนบนวิถี
    ปรารถนาเพียงขอฝนพอดี
    อย่าล้นปรี่น้ำท่วมอ่วมทั้งบาง
  • แก้วประภัสสร

    12 เมษายน 2554 15:41 น. - comment id 123357

    นิยามแห่งความรู้สึก
    ลึกลึกคือความอ่อนไหว
    จินตนาจึงพาก้าวไป
    แผ่กิ่งก้านใบปกคลุม
    
    ชุ่มน้ำฉ่ำบานสะท้านภพ
    สยบหยุดมรสุม
    ด้วยเที่ยงแท้ธรรมนำคลุม
    เป็นพุ่มขจรกำจาย
    
    มาเถิดเหล่าปัญญาชน
    ตั้งจิต
    อุทิศผลผ่านร้าย
    แสวงหาค่าอื่นมากมาย
    ลืมค้นความหมายค่าคน
    
    กิเลสไหลนองล่องลุ
    ปะปุสลับสับสน
    ซับซ้อนซ่อนเงื่อนเปื้อนปม
    ทับถมจมหนองพองใน
  • แก้วประภัสสร

    16 เมษายน 2554 16:01 น. - comment id 123502

    710957cb.jpg
  • แก้วประภัสสร

    20 เมษายน 2554 21:41 น. - comment id 123542

    อยากแต่งกลอนอ้อนแฟนก็แค้นจิต
    คำถูกผิด ตัดต่อไร้ข้อสาน
    ด้วยปัญญาเล็กน้อยคอยดูงาน
    หวังชำนาญเช่นปราญช์ชาติกวี
    
     แต่ดูเหมือนยิ่งเค้นเฟ้นหาหลัก
    ก็งอหักขาดวิ่นหมดสิ้นศรี
    เก็บรู้สึกลึกล้นท้นทวี
    มันยากที่จะเอ่ยเปรยกับใคร
     
     แม้บางคราเงียบหงอยนั่งทอยเหรียญ
    น้ำตาเทียนหยดน้อยค่อยรินไหล
    มีน้ำตาของฉันกลั่นจากใจ
    ไม่มีใครได้เห็นเป็นทุกวัน  
    
     นอนสะอื้นคืนนี้ฤดีหม่น
    ไร้แม้คนห่วงใยจนไหวหวั่น
    ก่อนรุ่งเช้าอาจฝันร้ายคล้ายทุกวัน
    จะข่มขวัญลำบากแสนยากเย็น
    
     เธอจะมองลึกซึ้งถึงความหมาย
    รักมากมายหรือไม่ ไม่อาจเห็น
    ไม่อาจล่วงรู้จิตเพ่งพิศประเด็น
    ยามทุกข์เข็ญช่างท้อทรมา
    
      
     ต่อ ๆ
  • แก้วประภัสสร

    20 เมษายน 2554 22:09 น. - comment id 123543

    เธอยังไม่เห็นฝัน
    จงมุ่งมั่นอย่าท้อถอย
    นับเดือนเป็นเพื่อนคอย
    แสงแดดอ่อนพาผ่อนคลาย
    
    เหนื่อยนักพักสักครู่
    หยุดมองดูหาความหมาย
    เท้าย่ำกรำแดดกราย
    เก็บรู้สึกอย่านึกกลัว
    
    ฟ้ามืดหมอกคลุมมิด
    ฝนหลงทิศปิดสลัว
  • แก้วประภัสสร

    28 พฤษภาคม 2554 12:49 น. - comment id 124078

    บนโลกนี้หลายสิ่งที่อิงแอบ
    คละเคล้าแบบหลายหลากมากค้นหา
    แต่ละมุมอาจแปลกแตกต่างตา
    บ้างมีค่าน่าถนอมสู่อ้อมใจ
    
    หรืออาจอยู่เวียนวนบนวิถี
    ตามแต่มีดำรงค์คงชีพไว้
    รอถึงวันจบจุดหยุดหายใจ
    ความหลงไหลก็หมดลดตามลม
    
    เพราะตั้งอยู่ดับไปไม่จีรัง
    แท้ทุกข์ขังพอกทวีที่ทับขม
    เป็นเพียงฉากบางเสี้ยวเกี่ยวอารมณ์
    ขมวดปมก่อกั้นนั้นที่ใจ
    
    เหตุเกิดด้วยเพราะร้อนมันกร่อนกรุ
    ไฟระอุระคนจนหวั่นไหว
    จิตจึงดิ่งห้วงเหวดุจเปลวไฟ
  • แก้วประภัสสร

    29 มิถุนายน 2554 16:41 น. - comment id 124675

    กักเก็บความรู้สึกแสวงหา
    เพียงหวังมิตรามอบรักให้
    ทั้งทั้งที่รู้ความเป็นไป
    เป็นเพียงน้ำใสแค่ครั้งคราว
    
    ที่หยดลงตรงกลางใจฉัน
    ทุกวันน่านเนินเกินสืบสาว
    คอยถามทุกข์สุขปลุกจากร้าว
    ให้ตื่นตาราวพบมณี
    
    รู้ค่าคำว่าเพื่อนเสมอ
    ไม่เคยเผลอลบจากใจนี้
    แม้รู้เริ่มต้นคงต้องมี
    วันจบด้วยดีตามหลังมา
    
    ทุกเช้าฉันยังคงนั่งมอง
    นั่งจ้องเส้นสายที่ปลายฟ้า
    ยามเย็นยังตรึงถึงเวลา
    หวังเพียงปรารถนาพูดกัน
    
    เสมือนหนึ่งมิตราผู้หายาก
    มอบฝากวจีส่งถึงฉัน
    จงเก็บความงามแต่ละวัน
    เหมือนเส้นรุ่งนั้นสวยนาน
    
    จงโค้งน้อมกายดั่งสายรุ้ง
    ผดุงกายจิตมิตรสมานท์
    ลดคมวาจาผ่าดวงมาลย์
    มากเหมือนประหารเพื่อนตน
    
    วันนี้รู้ซึ้งถึงความรัก
    ตะหนักค่าเพื่อนเหมือนท่วมท้น
    ไม่อาจจักฝืนเต้องยืนทน
    น้ำใสไหลล้นปนเปลือกตา
    
    ขอกลับมายืนตรงที่เดิม
    เพื่อเสริมพลังแรงให้แกร่งกล้า
    ถึงแม้หัวใจจะโหยหา
    จากคำที่ว่า"เพื่อนเอย"
  • แก้วประภัสสร

    5 สิงหาคม 2554 21:42 น. - comment id 125460

    เมื่อรู้สึกหดหู่ อ้างว้าง เงียงเหงา
    
    เกิดขึ้นในใจ
    
    ทุกสิ่งก็ดูเหมือนไม่น่ามอง 
    
    พลังเริ่มลดน้อย ถอยลง
    
    บางวันไม่อยากพูดจากับใคร
    
    บางวันเห็นดอกไม้บาน ก็พาลอิจฉามัน ว่า ไฉน เจ้าช่างสวย งามยิ่งนัก
    
    บางวันเห็นนกบินมาเป็นคู่ ยิ่งทำให้รู้สึกปวดร้าวลึกๆในใจ คนรักที่เคยยืนอยู่เคียงข้าง ..หายไปไหน
    
    หลากหลายความรู้สึก ลึกๆ ที่เกิดขึ้นมา
    
    ขณะที่เราอยู่คนเดียว
    
    เถอะนะ...เมื่อหมดพลัง...
    
    จงเดินออกมา ..หาเพื่อนสักคน...ที่คุณไว้ใจ 
    
    ระบายความรู้สึก หรือพูดคุย 
    
    ชวนไปหนัง ฟังเพลง ชมวิว ทิวทัศน์
    
    ความรู้สึกที่เป็นอยู่ มันจะค่อยๆ หายๆไป 
    
    คยทำมาแล้วนี่นา ชิมะๆๆ น้องสาวคนเก่ง
    
    อิ....ว่าแต่ วันนี้ ทำไมฉันถึงเหงาจัง 
    
    เพื่อนหายไปไหนหมดว้า....
  • แก้วประภัสสร

    25 สิงหาคม 2554 17:07 น. - comment id 126009

    คำโบร่ำำโบราณท่านขานกล่าว
    ยามหนุ่มสาวต้องตาพาหวั่นไหว
    ย่อมมอบรักแบ่งปันกันด้วยใจ
    ขวากหนามใหญ่ผ่านพ้นบนความจริง
    
    แต่ถึงคราเลิกรักหักสวาท
    ก็เหมือนคราดลากลบกลบทุกสิ่ง
    เมื่อคราหมดวาสนามาแอบอิง
    ต้องพึ่งพิงอาศัยในหลักธรรม
    
    เป็นสิ่งเดียวเกี่ยวใจไม่ให้เจ็บ
    แม้หนาวเหน็บเพียงใดไม่ถลำ
    จะค่อยคลายหายโศกลดโลกกรรม
    ลดรอยช้ำบาดแผลที่แผ่ทรวง
    
    แหละลุกขึ้นยืนสู้อย่างผู้กล้า
    ใช้ปัญญาแก้ไขให้ลุล่วง
    ใช้สติเตือนตนบนความลวง
    ค่อยคลายบ่วงปมมัดที่ขัดใจ
    
    เมื่อก้าวผ่านความทุกข์พบสุขสันต์
    รู้เท่าทันความคิดจิตสดใส
    ย่อมมองเห็นรอยยิ้มอิ่มเอมใจ
    เริ่มต้นใหม่มีค่ามากกว่าเ้ดิม
  • แก้วประภัสสร

    27 กันยายน 2554 21:09 น. - comment id 126606

    เจ้ากวาดเอาทุกสิ่ง ไหลแรงยิ่งคนโศกสันต์
    ลงโทษเหตุใดกัน หรือพิโรทโกรธใครมี
    
    ขอวอนและกราบไหว้ ให้ทั่วไทยเย็นสุขขี
    ใต่ร่มพระบารมี แห่งสยามลทอนามกัน
  • แก้วประภัสสร

    27 กันยายน 2554 21:10 น. - comment id 126607

    น้ำมามากหลากล้น..........เกินพอ
    ลำบากเหนือใต้หนอ.........ชัดร้าย
    ธรรมชาติไม่รีรอ..............ซัดกระน่ำ จริงนา
    เหลือจักยับยั้งย้าย.............เก็บข้าวหนีกันฯ
    
    น้ำมาเห็นหลากล้น เริ่มสับสนกันเกินพอ
    ลาบากกันแล้วหนอ ทั้งเหนือใต้อีสานตาม
    
    ธรรมชาติไม่ปราณี กระหน่ำตีทั่วสยาม
    ทำนบพังลงตาม ได้แต่มองแสนตรองตรม
    
    เถิดหนอธรรมชาติ เจ้าเคยวาภาพสวยสม
    สายน้ำและสายลม เคยพลิ้วไหวหายหมดกัน
    
    เจ้ากวาดเอาทุกสิ่ง ไหลแรงยิ่งคนโศกสันต์
    ลงโทษเหตุใดกัน หรือพิโรทโกรธใครมี
    
    ขอวอนและกราบไหว้ ให้ทั่วไทยเย็นสุขขี
    ใต่ร่มพระบารมี แห่งสยามลทอนามกัน

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน