14 มกราคม 2548 19:00 น.
extreme life
นั่งคิดถึงซึ่งชีวิตที่ผ่านพ้น
ในบางหนชั่วล้นมิอาจฝืน
บ้างสุขใจในความดีที่หยัดยืน
ผ่านวันคืนตื่นหลับซับน้ำตา
ตอนเป็นเด็กเล็กอยู่ดูเรียบร้อย
เจ้าพูดน้อยคอยเรียนตามประสา
พอเติบใหญ่หลายสิ่งวิ่งเข้ามา
ก็รู้ว่าความชั่วมีตัวตน
ศาสนาที่นับถือคือความดี
หลายครั้งที่มีใจไม่สับสน
แต่หลายครั้งพลั้งพลาดขาดอดทน
เกิดเป็นคนมันอ่อนแอแพ้หัวใจ
ลองชั่งดูก็จะรู้ในความจริง
เคยทำสิ่งชั่วช้ามามากไหม
เคยทำดีกี่ครั้งนั่งนับไป
ไม่เป็นไรหากดีน้อยคอยเพิ่มเอย
12 มกราคม 2548 18:43 น.
extreme life
เหนื่อยล้าในหัวใจแต่เปลวไฟยังไม่ดับลง
ความมั่นใจลดลง
สับสน
นั่งคิด
ยังพอมีทาง
ความมั่นใจในวันนี้มีลดลง
มันก็คงต้องยอมรับกับตัวหนา
เมื่อประสบพบความกลัวทั่วดวงตา
ก็รู้ว่าไม่เหมือนเดิมเริ่มอ่อนแอ
นั่งทำงานสับสนจนอยากเลิก
อยากจะเบิกใบลาออกตอกกระแส
มันอยากตายคล้ายหนอนในดอกแค
ขอพ่ายแพ้แค่นี้ไม่มีใจ
กลับถึงบ้านสานสมองกรองความคิด
ลองสะกิดรอยหยักถักทอไหล
เดินเข้าปากลากถึงปอดสอดถึงไต
มุดลำไส้ไล่เรื่องราวสาวความจริง
ทันใดนั้นฉันนี้ก็มีทาง
แม้เลือนลางจางสลัวมัวมืดสิง
จะขอลองเดินไปไม่ประวิง
ไม่ขอทิ้งกองไฟให้ดับเอย
ความเซ็ง
อย่ายอมแพ้นะ
11 มกราคม 2548 20:39 น.
extreme life
น้อยเกินไปไม่พอขอเพิ่มหน่อย
เพราะมันกร่อยถอยตรงลงคลองหลวง
ต้องเต็มที่ชี้ขึ้นยืนทักทวง
กาลเลยล่วงห่วงเป้าหมายย้ายยืดพลัน
ต้องซาดิสคิดใหม่ให้หนักแน่น
แล้วจึงแอ่นแผ่นอกตามล่ามความฝัน
เร่งความเร็วเปลวลุกคลุกคลีกัน
เพื่อวันนั้นฉันอยู่คู่เส้นชัย
ที่ผ่านมาล้าแค่ไหนไม่เพียงพอ
กี่ความท้อรออยู่กู่สงสัย
ต้องฟันฝ่าถ้าอยากถึงซึ้งฤทัย
วินิจฉัยนัยตาท้าทายตัว
โอ้เพื่อนเอยเคยไหมไม่สำเร็จ
น้ำตาเล็ดเม็ดพราววาวแววหัว
ขอจงเพิ่มเสริมใจให้เต้นรัว
ปลดความกลัวทั่วหน้ากล้าแกร่งเอย
11 มกราคม 2548 20:39 น.
extreme life
กาลเวลาเลยผ่านสะท้านจิต
หนึ่งชีวิตสู้ทนคนมีฝัน
กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนคืนวัน
หนึ่งขีวิตแสนสั้นบั่นทอนใจ
กาลเวลาเหมือนวารีมิคอยท่า
หนึ่งชีวิตอ่อนล้าน้ำตาไหล
กาลเวลาท้าทายตลอดไป
หนึ่งชีวิตร่ำไห้ไม่ทันกาล
กาลเวลาคลุ้มคลั่งยั้งไม่อยู่
หนึ่งชีวิตคิดสู้ผู้กล้าหาญ
กาลเวลาบ้าเลือดเดือดยาวนาน
หนึ่งชีวิตแผ่ซ่านต้านเวลา
กาลเวลาเป็นสิ่งวิ่งเร็วรี่
หนึ่งชีวิตตามจี้มิผ่อนขา
กาลเวลาแสนใกล้ในแววตา
หนึ่งชีวิตแซงหน้าเวลาเอย
11 มกราคม 2548 20:38 น.
extreme life
อิสรเสรีที่เคารพ
คงได้พบสักวันอันแสนใกล้
เสียงกระหน่ำร่ำร้องของหัวใจ
อยากจากไปไกลห่างร้างคนเดิม
คิดถึงเพื่อนมากมายคล้ายสนิท
ปล่อยชีวิตเงียบเหงาเศร้าซึมเสริม
ก็ไม่อยากมากมิตรไม่คิดเติม
ใจไม่เริ่มกายไม่รับหลับนัยตา
ไม่มีเงินเหลือใช้ให้เที่ยวเล่น
ทุกเช้าเย็นเห็นบ้านงานหนักหนา
จึงไม่ค่อยมีโอกาสขาดเวลา
เลยอ่อนล้าจิตใจเหมือนในกรง
โอ้วัยเรียนพากเพียรมาตลอด
สะพานทอดยาวสู่ประตูหงษ์
วัยทำงานตั้งตระหง่านดูมั่นคง
สมประสงค์ตรงใจใช้ชีพเอย