14 ธันวาคม 2547 14:54 น.
extreme life
เมื่อผิดหวังไม่เป็นดั่งที่ใจคิด
รู้สึกผิดรู้สึกแย่แพ้พ่ายผล
รับไม่ได้อยู่ต่อไปใครจะทน
เจ็บจนล้นเกินคนจะทนทาน
อยากร้องไห้ไม่หยุดเหมือนหลุดโลก
ความเศร้าโศกยังยืนยงคงสืบสาน
เจ็บครั้งนี้คงฝังใจไปอีกนาน
หนาวสะท้านคลานหลบกลบผืนดิน
จะขอโทษอย่างไรคงไม่กลับ
ความสมหวังลาลับขับโผผิน
ความยินดีไม่มีมาแย้มยลยิน
ความสุขสิ้นกลิ่นไอใจเศร้าเป็น
แต่ก็ดีคนคนนี้ได้เรียนรู้
หนึ่งชีวิตที่มีอยู่ดูให้เห็น
จะรับมันให้ได้ใจเลือดเย็น
คงต้องเน้นเปิดใจกว้างทางชีวี
13 ธันวาคม 2547 16:24 น.
extreme life
อยากจีบสาวตาลุกวาวเป็นแมงมุม
มันร้อนรุ่มกลุ้มกริ่มทิ่มแทงหัว
มีโอกาสคาดว่าตัวต่อตัว
คารมรัวตัวสั่นมันไม่ชิน
เคยจีบอยู่หนึ่งทีมีหนึ่งแห้ว
จากนั้นแล้วเข็ดขยาดขลาดโผผิน
แต่ถึงแห้วแว่วอารมณ์ไม่จมดิน
ใจยังดิ้นยังดูรู้สึกดี
นานแสนนานไม่หาญกล้าหาคนจีบ
ไม่ต้องรีบบอกตัวเองเกรงขี้หลี
ได้แต่รอให้เวลามาเสียที
เวลานี้ขี้เกียจรอขอบอกกัน
ก็คงหาประสบการณ์วันละนิด
ใช้ชีวิตเปลี่ยนไปให้สุขสันต์
อยากจะเก็บประสบการณ์ผ่านคืนวัน
เพื่อใช้กับเธอคนนั้นที่ฉันรอ
12 ธันวาคม 2547 15:14 น.
extreme life
โอ้พระเจ้าจอรอชมันยอดมาก
พูดเต็มปากเห็นจากตาว่าสุดเจ๋ง
ใครพบพานงานนี้มีหายเซ็ง
ไม่ว่าเอ็งหรือข้าหาเปรียบเปรย
เยี่ยมเช่นนี้มีน้อยคอยนับอยู่
แลตาดูรู้อยากทักทายเฉย
ช่างไม่มีที่ติเอาเสียเลย
ยากเฉยเมยต้องเชยชมคารมคน
อะดีนาลีนเอ็นโดรฟินที่รินหลั่ง
เหมือนพลังบังเกิดกำเนิดผล
น้ำตาไหลใจโลดเต้นเป็นซุกซน
สุขล้นพ้นคนจุดฝันอันร้อนแรง
เป็นความบ้าหาใครเหมือนรางเลือนยิ่ง
เก่งจริงจริงมีใจใฝ่แสวง
เหมือนรถเบ็นซ์คันนี้ที่วิ่งแซง
บนทรายแห้งตะบองเพชรเล็ดรอดเอย
11 ธันวาคม 2547 17:49 น.
extreme life
หัวใสปิ๊งกิ่งไร้ใบไข่ไร้เปลือก
หมดทางเลือกเยือกเย็นเป็นลมหนาว
บนท้องฟ้ามิอาจหาดาราพราว
ไม่ปวดร้าวว่าวน้อยลอยตามลม
บนผืนน้ำตามกระแสแพไม้ไผ่
ป่าผืนใหญ่ไร้สัตว์ตัดสาสม
ไม่เดือดร้อนไม่อ่อนแอไม่เศร้าตรม
แค่ขื่นขมระทมจี๊ดเพียงนิดเดียว
อยู่กันไปวันวันมันเข้าที
ว่างแบบนี้ดีจังสันหลังเสียว
ว่างใช่ไหมไปเกี่ยวข้าวเอานี่เคียว
เที่ยวเลาะเลี้ยวเบี้ยวงานการต้องทำ
วินาทีที่แล้วแจวจ้ำห่าง
ใจรกร้างว่างเปล่าเรานั่งขำ
ทำเข้าไปในงานนี้ที่ประจำ
เป้าหมายย้ำตำจิตกรีดขั้วใจ
7 ธันวาคม 2547 17:43 น.
extreme life
ได้ยินเสียงคลื่นกระทบกลบชายหาด
มองออกไปเหมือนภาพวาดสะอาดสวย
ปลุกพลังดั่งชีวิตกระชุ่มกระชวย
มีสนามบอลเสียด้วยอำนวยจริง
ควักกุ้งหอยปูปลาออกมาล้าง
จัดแจงย่างบ้างต้มบ่มเตาผิง
ขึ้นมะพร้าวเขย่าลงเหมือนดงลิง
ทั้งเหล้ายาปลาปิ้งวางพิงกัน
พออิ่มหนำขยำบอลร่อนผืนทราย
ใจแทบวายคล้ายเหนื่อยแต่สุขสันต์
ถ้ามีแรงคงวิ่งแย่งกันทั้งวัน
เกิดความมันส์สวรรค์สร้างทางชีวี
พอหมดแรงนั่งตะแคงมองดูหญิง
ขาวจริงจริงทูพีสจี๊ดหลายสี
ช่างกล้าหาญชาญชัยไม่ใยดี
ใครคนนี้ที่เหม่อมองสองตาแล
หักห้ามใจไปเล่นน้ำลอยตามคลื่น
บางคนกลืนสะอื้นเค็มเต็มกระแส
บ้างก็ก่อกองทรายไม่วอแว
บ้างไม่แคร์เอาแต่แช่สุรา
พอตกเย็นเป็นตั้งวงชงแต่เหล้า
ไหลรินเข้าลงคอขอหรรษา
บรรยากาศเป็นใจใช้เวลา
ก็แค่พากันกินให้สิ้นเปลือง
ก่อนเข้านอนร้อนรุ่มกลุ้มกระเพาะ
อ้วกก็เหาะออกจากปากฝากรสเหลือง
ในลำคอพออ้วกเสร็จเข็ดเคืองเคือง
ตาชำเลืองมองดาวเราเข้านอน
ตื่นขึ้นมาแขนขาดูล้าเปรี้ย
ใจละเหี่ยเพลียกายคล้ายอยากหอน
ในแววตาแชเชือนเหมือนเว้าวอน
อยากจะกินข้าวต้มร้อนก่อนอื่นใด
กินเข้าไปไม่ดีขึ้นขมขื่นจิต
ใจก็คิดอยากอ้วกพวกสงสัย
น้องน้องชวนไปเล่นน้ำเดี๋ยวตามไป
อ้วกเป็นไฟไปอีกรอบอยากขอบคุณ
น้าลงมาเมื่อเช้าหนาข้าก็แฮ้งค์
แค่เพียงแบ่งเวลานอนพักผ่อนหนุน
ตื่นขึ้นมาจะหายล้าพาเท่าทุน
น้ากระตุ้นหลานกระโดดโลดขึ้นเตียง
พอหายแฮ้งค์ก็แต่งข้าวมานั่งกิน
เก็บจนสิ้นเสื้อผ้าน้าส่งเสียง
ผ้าเช็ดตัวริมรั้วมาพับเรียง
ไม่หลบเลี่ยงล้างจานงานประจำ
เที่ยวครั้งนี้มีคติให้ขบคิด
กินเพียงนิดเหล้ายาแค่พาขำ
อย่ากินจนอ้วกพุ่งทั่วหัวคมำ
แถมแฮ้งค์ซ้ำกล้ำกลืนไม่ชื่นเอย