19 ตุลาคม 2547 12:00 น.
extreme life
พ่อบอกว่าใบชาดีมีที่ยอด
โดดเกาะกอดหลังพ่อรอทางถึง
ที่จุดหมายปลายทางพลางตะลึง
ใยยอดจึงหายไปอะไรกัน
เหลือบไปเห็นคนเด่นเป็นชาวไร่
ถือยอดไปใจยินดีมีสุขสันต์
เจ้าหนอนน้อยท่องคาถาจ้าละหวั่น
ยกให้ชั้นเอามานี่อีเหม่โจด๊าย
ชาวไร่ชาตาลายคล้ายโดนของ
ยืนมึนมองสองหนอนน้อยคอยไม่หาย
อยากจะยกยอดชาให้ใจเสียดาย
จึงกลับกลายเก็บยอดชาเข้าเข่งคม
หนอนน้อยแค้นยิ่งนักปักใจเจ็บ
จึงได้เก็บความเครียดครึ้มที่ถาถม
เช้ามืดจึงหยิบไฟฉายกระบอกกลม
หลอกให้สมชาวไร่ใจร้ายแบร่ :P
18 ตุลาคม 2547 12:09 น.
extreme life
กลอนอ่อนอ่อนง่ายง่ายได้ใจความ
ไม่มองข้ามฉันทลักษณ์ประจักษ์เห็น
กลอนทำให้อารมณ์ร้อนนอนก้นเย็น
กลอนก็เป็นดั่งเพื่อนเอื้อนเอ่ยคำ
แต่งไปตามใจใฝ่ในครั้งแรก
ถึงแปลกแยกแตกต่างช่างน่าขำ
แต่งทุกวันเช้าเย็นเป็นประจำ
เหมือนทำยำถ้อยคำล้ำรสกลอน
ถึงหมดมุขยิ่งสนุกปลุกอารมณ์
ยิ่งเครียดถมยิ่งร้อนรนยิ่งทอดถอน
ให้จับเอาความเครียดเขียนเป็นตอน
เหมือนเราต้อนความทุกข์ใจให้ไกลตัว
คิดไม่ออกบอกใจไม่ต้องรีบ
อย่าได้ถีบถ้อยคำออกจากหัว
หาอย่างอื่นทำไปก่อนไม่ต้องกลัว
แล้วค่อยรัวออกเป็นชุดสุดสะใจ
16 ตุลาคม 2547 18:29 น.
extreme life
ความรักที่มีมั่นคงตรงต่อกัน
คือความฝันอันร้อนรนคนทั้งหลาย
อยากครองคู่อยู่ด้วยกันจนวันตาย
สุขสมหมายคล้ายถูกหวยด้วยโชคดี
ผ่านเดือนปีที่แสนดีมีแต่รัก
ไม่มีหักควักอกตรมระทมหนี
มีแต่หวงห่วงใยใจที่มี
ชีวิตนี้ยอมพลีที่หน้าเธอ
เติมความหวานสานใจกันวันละนิด
ใฝ่ใจจิตคิดถึงย้ำสม่ำเสมอ
แมงมุมรักถักใยเยื่อเมื่อพบเจอ
รักล้นเอ่อเหมือนเขื่อนเจอเฮอริเคน
แม้แก่เฒ่าเฝ้าดูแลแด่เราสอง
คอยประคองห้องหัวใจได้ยินเห็น
เป็นพลังยังคงอยู่คู่กรรมเวร
ยังชัดเจนในความรักประจักษ์ใจ
15 ตุลาคม 2547 10:36 น.
extreme life
เพราะหัวใจไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้าลองขุดมุดหาพาฉงน
ความต้องการยุ่งยากมากเหลือทน
วางปะปนคนอยากได้ใจต้องการ
ต้องคลาดแคล้วแน่แน่วแล้วบางสิ่ง
อันที่จริงมากยิ่งสิ่งสงสาร
สิ่งที่เลือกได้แต่เปลือกเหงือปลาวาฬ
โอ้สังขารมารผจญปล้นมันไป
จึงน้อยเนื้อเบื่อใจในดวงจิต
ต้องครุ่นคิดสนิทมืดจืดไม่ใส
ทั้งห่อเหี่ยวเกี่ยวปากซากหัวใจ
สุดท้ายไม่ให้คุณค่าด่าตัวเอง
เลยนั่งคิดชีวิตจิตผันผ่าน
ทำหนึ่งงานสานความคิดจิตข่มเหง
ควรคิดทำย้ำให้จิตติดวังเวง
เช่นครื้นเครงเพลงสนุกทุกข์ห้ามปน
14 ตุลาคม 2547 11:34 น.
extreme life
ฝนตกพรำฮัมกลอนนอนแต่งคำ
ลมเย็นล้ำยามค่ำดำมืดแสง
ถึงแม้ฟ้าจะคะนองร้องรุนแรง
ไม่ระแวงจับปากกามาจดกลอน
นอนซุกตัวและหัวใจในผ้าห่ม
หน้ามุดก้มบ่มคำคู่อยู่บนหมอน
อยากแต่งให้ละมุนละไมในทุกตอน
เพราะไม่ร้อนตอนนี้มีกะใจ
อยากใจเย็นเปรียบเป็นเช่นน้ำฝน
ไม่ร้อนรนคนใจเย็นเป็นน้ำใส
ไม่ประทุดุด่าว่ากล่าวใคร
เพราะว่าไม่อยากให้ใครได้หวาดกลัว
ง่วงแล้วนะจะบอกให้ไทยโพเอ็ม
ความล้าเล็มเต็มจังทั้งหางหัว
ขอไปนอนก่อนนะจะพักตัว
เพื่อความชัวร์วันต่อไปได้มีแรง