18 มกราคม 2548 14:09 น.
extreme life
กรุณาอย่ามองผมให้มากนัก
เพราะผมชักจะขวยเขินเกินทนไหว
เข้าใจครับว่าสะดุดสุดขั้วใจ
แต่ขอให้ช้าก่อนผ่อนสายตา
คุณเองก็น่ารักหักใจผม
มีความคมขาวสวยหมวยหนักหนา
ผมเห็นคุณก็อุ่นรอบขอบอุรา
รู้สึกว่าโดนใจในทันที
ตัวผมเองที่เกรงกลัวสายตาคุณ
เหมือนกระสุนที่พุ่งตรงคงวิถี
หวั่นใจครับกับขอบเขตเนตรนารี
รูสึกดีแต่อึดอัดมันขัดกัน
ความจริงนั้นอยากมองจ้องตาเธอ
อยากเสนอท่าทีที่สุขสันต์
อยากทักทายคล้ายสนิทชิดทั้งวัน
แต่ตัวฉันหวั่นใจไม่กล้าเอย
17 มกราคม 2548 19:37 น.
extreme life
ระลึกถึงซึ่งคุณครูที่เคารพ
ได้เคยพบเจอกันในวันเก่า
ท่านสั่งสอนป้อนความรู้สู่ตัวเรา
และยังเฝ้าอบรมบ่มความดี
วันเวลาพาผ่านสถานศึกษา
ทุกวิชาหมุนเวียนเปลี่ยนแสงสี
ผู้ถ่ายทอดหลายหลากและมากมี
เป็นหน้าที่ยิ่งใหญ่ในสังคม
เมื่อไม้อ่อนยังดัดง่ายคล้ายดัดลวด
จึงเข้มงวดมากหน่อยปล่อยรสขม
สร้างพื้นฐานให้มีค่าน่าชื่นชม
อันตัวผมซึ้งใจในพระคุณ
เนื่องในวันคุณครูผู้น่ารัก
ผมจึงถักบทกลอนสะท้อนหนุน
ให้พระเจ้าเมตตาและการุณ
ปกป้องอุ่นคุณครูตลอดไป
14 มกราคม 2548 19:00 น.
extreme life
นั่งคิดถึงซึ่งชีวิตที่ผ่านพ้น
ในบางหนชั่วล้นมิอาจฝืน
บ้างสุขใจในความดีที่หยัดยืน
ผ่านวันคืนตื่นหลับซับน้ำตา
ตอนเป็นเด็กเล็กอยู่ดูเรียบร้อย
เจ้าพูดน้อยคอยเรียนตามประสา
พอเติบใหญ่หลายสิ่งวิ่งเข้ามา
ก็รู้ว่าความชั่วมีตัวตน
ศาสนาที่นับถือคือความดี
หลายครั้งที่มีใจไม่สับสน
แต่หลายครั้งพลั้งพลาดขาดอดทน
เกิดเป็นคนมันอ่อนแอแพ้หัวใจ
ลองชั่งดูก็จะรู้ในความจริง
เคยทำสิ่งชั่วช้ามามากไหม
เคยทำดีกี่ครั้งนั่งนับไป
ไม่เป็นไรหากดีน้อยคอยเพิ่มเอย
12 มกราคม 2548 18:43 น.
extreme life
เหนื่อยล้าในหัวใจแต่เปลวไฟยังไม่ดับลง
ความมั่นใจลดลง
สับสน
นั่งคิด
ยังพอมีทาง
ความมั่นใจในวันนี้มีลดลง
มันก็คงต้องยอมรับกับตัวหนา
เมื่อประสบพบความกลัวทั่วดวงตา
ก็รู้ว่าไม่เหมือนเดิมเริ่มอ่อนแอ
นั่งทำงานสับสนจนอยากเลิก
อยากจะเบิกใบลาออกตอกกระแส
มันอยากตายคล้ายหนอนในดอกแค
ขอพ่ายแพ้แค่นี้ไม่มีใจ
กลับถึงบ้านสานสมองกรองความคิด
ลองสะกิดรอยหยักถักทอไหล
เดินเข้าปากลากถึงปอดสอดถึงไต
มุดลำไส้ไล่เรื่องราวสาวความจริง
ทันใดนั้นฉันนี้ก็มีทาง
แม้เลือนลางจางสลัวมัวมืดสิง
จะขอลองเดินไปไม่ประวิง
ไม่ขอทิ้งกองไฟให้ดับเอย
ความเซ็ง
อย่ายอมแพ้นะ
11 มกราคม 2548 20:39 น.
extreme life
น้อยเกินไปไม่พอขอเพิ่มหน่อย
เพราะมันกร่อยถอยตรงลงคลองหลวง
ต้องเต็มที่ชี้ขึ้นยืนทักทวง
กาลเลยล่วงห่วงเป้าหมายย้ายยืดพลัน
ต้องซาดิสคิดใหม่ให้หนักแน่น
แล้วจึงแอ่นแผ่นอกตามล่ามความฝัน
เร่งความเร็วเปลวลุกคลุกคลีกัน
เพื่อวันนั้นฉันอยู่คู่เส้นชัย
ที่ผ่านมาล้าแค่ไหนไม่เพียงพอ
กี่ความท้อรออยู่กู่สงสัย
ต้องฟันฝ่าถ้าอยากถึงซึ้งฤทัย
วินิจฉัยนัยตาท้าทายตัว
โอ้เพื่อนเอยเคยไหมไม่สำเร็จ
น้ำตาเล็ดเม็ดพราววาวแววหัว
ขอจงเพิ่มเสริมใจให้เต้นรัว
ปลดความกลัวทั่วหน้ากล้าแกร่งเอย