29 กันยายน 2547 15:21 น.
Evil_Dark
Chapter 1 Murk Wing (เมิร์ควิง)
แผงปีกสีหมอกหม่น
หลายครั้งที่ในหัวยังคงจดจำภาพชีวิตอิสระ การสามารถเดินไปไหนต่อไหนโดยไม่ได้ถูกกักอยู่สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ราวกับบีบร่างกายให้เล็กลง นั้นช่างเป็นความรู้สึกที่โหยหา บัดนี้แผงปีกที่เคยมีได้ถูกมัจจุราชในคราบมนุษย์พรากไป สิ่งที่จะนำมาสู่ความอิสระที่ต้องการได้หายไปอย่างถาวร
พวกมัน! พวกมัน! ที่ลงมือพรากไปอย่างไม่ปราณี มันกักขังให้ข้าต้องอยู่ในหลอดแก้วที่ไม่สามารถแม้แต่ขยับตัว เจ้านักบุญคนบาป ภายนอกสวมชุดขาวราวกับนักบุญผู้เมตตา หากแต่ภายในมันโสมมเน่าแฟะยิ่งกว่าพญามัจจุราช บัดนี้ข้าผู้เคยมีอิสระเยี่ยงพวกมันกลับต้องมาถูกกักอยู่ในหลอดแก้ว ข้าไม่เหลืออะไรแล้วเพราะพวกมันทำให้ข้าเหลือเพียง แผงปีกสีหมอกหม่น ที่หลงเหลืออยู่ในความทรงจำ ข้าจึงสัญญากับตัวเองว่า หากข้ามีโอกาสจะต้องทำลายพวกมันให้สิ้นซาก พวกมันที่ทำให้มนุษย์อย่างข้าต้องกลายเป็นตัวประหลาด
ภาพกลุ่มคนชุดขาวเดินผ่านไปมาอย่างขวักไขว่ แผงควบคุมและจอมอนิเตอร์ยังคงทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน ฟองอากาศภายในหลอดแก้วยังคงโผล่ให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ร่างที่ลอยคว้างอย่างสงบนิ่งถูกต่อเข้ากับวงจรชีวิตไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ด้านข้างของหลอดแก้ว
สิ่งมีชีวิตในหลอดแก้วยังคงสั่งสมความทรงจำที่เจ็บปวดไว้อย่างเต็มเปี่ยม กายเนื้อที่เคยมีผิวหนังห่อหุ้มบัดนี้มันไม่มีอีกแล้ว มันเหลือเพียงก้ามเนื้อไร้สิ่งปกป้อง ของเหลวที่ไหลวนภายนอกมันทำให้ความปวดแปลบพุ่งสู่ร่างกายอย่างไม่หยุดหย่อน กระแสความทรงจำหวนคืนสู่สติที่ปวดแปลบ
หากวันนั้นเขาไม่เข้ามาทำงานเป็นนักวิจัยของที่นี่ ตอนนี้เขาคงยังมีชีวิตปกติเยี่ยงเช่นคนทั่วไป มีครอบครัวที่สงบสุข มีบ้านหลังเล็กที่มีสนามหญ้าตรงหน้าบ้าน มีลูกเล็กๆวิ่งวุ่นไปมา มีภรรยาที่น่ารักเป็นที่พึ่งให้ซบนอน แต่มันถูกพรากไปแล้วตั้งแต่ที่เขาเข้ารับเป็นลูกมือของนักวิจัยคนหนึ่ง ทั้งๆที่เขาเทิดทูนคนๆนี้มากแต่เขากลับถูกใช้เป็นเครื่องมือ เขาถูกพรากชีวิตไปอย่างไม่เต็มใจ ไอ้ปีศาจนั่นแอบฉีดเชื้อไวรัสให้เขาเพื่อใช้ทดลอง ขณะที่เขาป่วยเป็นไข้นอนซมอยู่บนเตียง มันเลวยากใครเทียมเพราะมันเพียงคนเดียวทำให้เขาต้องอยู่ในคราบตัวประหลาด
ไวรัสนั้นทำให้ผิวหนังของเขาเริ่มปริขาด เนื่องจากกล้ามเนื้อที่ขยายตัว ความเจ็บปวดที่สัมผัสได้ขณะผิวกายเริ่มลอกออกไปช้าๆ ถึงแม้จะไม่มีเลือดออกก็ตามหากแต่มันเจ็บแปลบอย่างทรมาน แต่แต่..เจ้าคนที่เคยเป็นหัวหน้าของเขา กลับมองดูเขาทรมานอย่างไม่ใยดี เขายังจำรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้านั้นได้ดี มันสะใจที่ได้เห็นเขาทรมาน มันพอใจที่ได้เห็นเขาดิ้นทุรนทุราย ริมฝีปากบางเฉียบน่าสะอิดสะเอียนนั้นกล่าวขึ้นขณะที่เขาร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดว่า
การทดลองประสบความสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งๆที่ไม่ได้ทดลองกับสัตว์อื่นมาก่อน ช่างประจวบเหมาะเหลือเกินที่เจ้าโง่นี่เข้ามาทำงาน มันเชื่อใจคนง่ายเกินไปว่าแล้วหมอนั่นก็หัวเราะขึ้นอย่างสาใจ แม้แต่เขาที่ความเจ็บปวดจับทั่วทุกประสาทสัมผัส ยังสามารถได้ยินเสียงหัวเราะที่น่ารังเกียจนั้นเสียงหัวเราะกรีดแทงให้ทุกส่วนของ ร่างกายปวดแปลบมากยิ่งขึ้นราวกับจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
บัดนั้นเขาทิ้งคาบความเป็นมนุษย์ไปหมดสิ้น ใจคิดอย่างอาฆาตว่าเข้าต้องฉีกหมอนั่นเป็นชิ้นๆให้สาสมกับสิ่งที่มันได้ทำให้กับเขา
ร่างกายของเขาปราศจากเลือดเนื้อที่เป็นสิ่งที่มนุษย์ควรมีอีกแล้ว ทั่วตัวมีเพียงกล้ามเนื้อ ไร้ซึ่งเส้นประสาทรับรู้ความรู้สึก เขาไม่เหลือความเป็นมนุษย์อีกแล้ว เจ้าไวรัสนั่นค่อยๆกัดกร่อนทุกส่วนของร่างกาย มันราวไปทั่วร่างกายและรวมตัวกันใหม่ กลายเป็นเส้นสายของกล้ามเนื้อที่เป็นเนื้องอกที่เกิดขึ้นมาแทนที่เส้นประสาทและกระแสเลือด มันรามทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว เนื่องจากไวรัสตัวนี้ถูกตัดแต่งพันธุ์กรรมของเซลล์มะเร็งที่ไม่มีวันตาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการทดลองที่นำไปสู่ชีวิตที่เป็นนิจนิรันด์ ในที่สุดโคลงการนรกนี่ก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เพียงแต่ยังสำเร็จไม่เต็มขั้น สิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นไม่ใช้มนุษย์อมตะ หากแต่เป็นเพียงปีศาจที่ไม่มีวันตาย
ข้ายังจำได้ตอนที่เขายังเป็นผู้ช่วยให้กับเจ้าปีศาจนั่น พวกเราเฝ้าปฏิกิริยายาต่อสารที่อยู่ในถาดเพาะเชื้อด้วยกัน บางครั้งถึงกับอดหลับอดนอนเพื่อเฝ้ามองเชื้อไวรัสที่ค่อยงอกงามในจานเพาะเชื้อ นั่นทำให้ข้าเชื่อเสมอมาว่าเขาสามารถเป็นผู้ช่วยคนสำคัญให้แก่ปีศาจนักบุญนั่น แล้วสุดท้ายข้ากลับถูกใช้เป็นเครื่องมือที่จะสนองตัณหาของมนุษย์ทรามคนหนึ่ง แต่แล้วในที่สุดความพยาบาทที่สั่งสมมานับปีก็ได้รับการตอบสนอง แผงวงจรชีวิตไฟฟ้าที่กักขังให้ข้าต้องอยู่ในหลอดแก้วเกิดขัดข้อง มันเป็นโอกาสที่ข้าจะได้แก้แค้น
เมิร์ควิง เริ่มต้นรัวต้นแขนทรงพลังใส่เครื่องกักขังอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่วงจรไฟฟ้าที่กักไม่ให้เขาขยับเขยื้อนแล่นสู่ประสาทสัมผัสจนปวดแปลบ เขากล้ำกลืนฝืนทนความเจ็บโดยเอาความแค้นที่มีเป็นแรงผลักดัน สายไฟสารพัดที่ทิ่มแทงผิวกาย เริ่มอ่อนกำลังลงมันเป็นโอกาสดีที่เขาจะได้แก้แค้น หลอดแก้วเริ่มปริออกสารใสๆที่รายรอบอยู่ทั่วร่างกายเริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ
ข้าต้องขยุ้มพวกมันให้สาสมกับความแค้นที่อัดอั้นอยู่ในอก ตลอดเวลาที่ข้าถูกกักขังอยู่ในนี้ข้ามักเฝ้าคิดถึงภาพไอ้มนุษย์โสมมพวกนี้ตายตกไปตามกัน แต่ตั้งแต่นี้ไปภาพๆนั้นที่เฝ้าฝันมันกำลังจะเกิดขึ้นจริง ข้ารอมานานแสนนานที่จะฉีกพวกมันออกเป็นชิ้นด้วยร่างกายและพละกำลังที่มันมอบให้ข้า ตั้งแต่วันนี้ไปเจ้าไม่ใช่ผู้ล่าที่ฉลาดที่สุดอีกแล้ว ข้าผู้นี้ที่เจ้าลงทุนระดมแรงสมองสร้างขึ้นมา ขอขึ้นครองบัลลังก์ผู้ล่ารับช่วงต่อจากเจ้า มนุษย์ผู้โง่เขลา
ภาพห้องแล็ปเจื่องนองด้วยสีแดงเถือและทั่วบริเวณมีเพียงเศษซากความเป็นมนุษย์ เมิร์ควิงผู้มีความทรงจำที่เจ็บปวกกำลังลงมือฆ่ามนุษย์ซึ่งอดีเขาเองเขาก็เคยเป็น ใบหน้าที่มีเพียงรายเส้นกล้ามเนื้อและดวงตาปูดโปน ทั่วร่าถูกฉาบด้วยเลือดสีแดงฉานที่เขาเฝ้าโหยหา ก้อนเนื้อที่เขาเคยมี สัญลักษณ์ของความเป็นมนุษย์ที่เขาเฝ้าคิดถึง บัดนี้มันเป็นเพียงเศษซากด้วยน้ำมือของเขาเอง ในหัวเฝ้าแต่คิดว่า
เอาก้อนเนื้อ เอาหยาดเลือด เอาทุกๆสิ่งที่เคยเป็นของข้าคืนมาเมิร์ควิงมีเพียงความคิดนี้ไหลวนอยู่ในหัว ขณะที่ลงมือฉีกมนุษย์ผู้พรากทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเขา
เหตุใดกันมนุษย์ผู้มีปัญญาถึงกระทำการที่ต่ำทรามได้ง่ายๆถึงเพียงนี้ เข้าลงมือพรากชีวิตที่มีค่าของคนอื่นได้อย่างไม่ใยดี หรือสิ่งนี้กันที่เราจะเรียกว่า ความฉลาดเป็นหนทางแห่งหายนะ หากการมีปัญญาทำให้มนุษย์หยิ่งผยอง เราขอเตือนท่านว่าอีกไม่ช้าท่านจะไม่ต่างอะไรกับเศษซากมนุษย์พวกนี้เลย ลาก่อน เจ้ามนุษย์ผู้โง่เขลา เราขอเตือนท่านด้วยความหวังดี